ความรู้สึกที่โดนไล่ออกงานเป็นครั้งแรกในชีวิต #3
lozocatlozocat

กลับมาอัพบล๊อคสักที หลังจากหายไปเกือบอาทิตย์ อากาศก็ย่ำแย่เหลือเกินค่ะ หน้าหนาวปี้นี้ เอาหล่ะ จะเล่าต่อแล้วกันนะคะ ไม่อยากให้รอนาน

ก็หลังจากที่ฝากข้อความเสียงไว้ หัวหน้าใหญ่ก็ไม่ได้โทรกลับมาในเย็นวันนั้น และวันรุ่งขึ้น ก็เราก็ไปทำงานตามปกติ ซึ่งเช้าวันนั้นเราน่ำลำบากใจเหลือเกิน เพราะไม่รู้จะทำหน้าและพูดคุยอะไรกับหัวหน้าทีทำงาน เพราะเราเริ่มงาน 7 โมงเช้า ก็มีแต่เรากับหัวหน้าทำงานด้วยกัน พอไปถึงเราก็ไม่ค่อยได้คุยอะไรกับเค้ามาก ทำงานไปเงียบ ๆ ไม่รู้อะไรก็ถามตามประสา ธรรมดาไป อึดอัดใจมากเลย พอสายมานิดหนึ่งก็มีเด็กอีกคนมาทำงาน บรรยากาศก็เริ่มดีขึ้น หัวหน้าก็คุย คุย ๆ กับเด็ก พอประมาณสิบโมงเช้า ห้างเปิด ลูกค้าเริ่มเข้ามา งานก็มีให้ทำบ้าง เราก็ทำงานไปเรื่อย ๆ หัวหน้ากลับบ้านก่อน สักพักก็มีโทรศัพท์มาหาเราที่ร้าน ก็ปรากฏว่าเป็นหัวหน้าใหญ่จะคุยกับเรา ตอนนั้นเราดีใจมาก เค้าบอกว่าเค้าโทรฯคุยกับหัวหน้าเราแล้ว และเค้าก็รู้ว่ามันมีปัญหาระหว่างเรากับหัวหน้า แต่เค้าจะให้โอกาสเราได้เริ่มฝึกงานในสาขาอื่น เป็นเวลาสามเดือน ให้เริ่มงานในวันจันทร์นี้เลย เราก็ดีใจและขอบคุณเค้าเป็นอย่างมาก ก็เลยขอร้องให้เค้าช่วยส่งที่อยู่ในเมสเสทเข้ามือถือเรา เพราะถ้าฟังเค้า เราก็ไม่ค่อยจะเข้าใจ เลยอยากได้ที่อยู่ให้แน่นอน เค้าก็ส่งให้ ตอนนั้นเราดีใจเป็นอย่างมาก เพราะอย่างน้อยก็รู้ว่า ความยุติธรรมมันก็ยังมีอยู่บ้าง

เราก็ทำงานเป็นวันสุดท้ายในวันนั้น จากนั้นก็โบกมือบ๊าย บาย ทุกคนในตอนเย็น

อ่อ เผอิญวันนั้นเป็นวัน กินเลี้ยงประจำปีของบริษัท เราเองได้รับปากไว้ตั้งแต่ตอนแรก ก็เลยตั้งใจว่าจะไป เผื่อจะได้ไปเจอกลุ่มเพื่อนร่วมงานในสาขาที่เราจะเริ่มงานในวันจันทร์ วันนั้นกลับมาบ้านก็อาบน้ำ เปลียนชุด เรียกแท๊กซี่ นัด Doni ไว้หน้างาน ทุ่มหนึ่ง จากนั้นเราก็เข้าไปในงานด้วยกัน หัวหน้าใหญ่ก็ยืนอยู่ตรงหน้าประตูอยู่พอดี เค้าก็เข้ามากอด และบอกยินดีต้อนรับเข้างาน งานก็ใหญ่ดี อาหารเพียบ คิคิคิคิ แต่ไฟมืดไปไหน มองไม่ค่อยเห็นอันไหนเป็นอันไหน มีซูชิด้วย ขนมเค้ก เพียบ เคอะๆๆๆ เครื่องดื่มฟรี ได้รู้จักคนเพิ่มขึ้น บางคนเค้าก็ถามว่าเธอทำงานอยู่สาขาไหน (อ่อ งานนี้พนักงานและเจ้าของทุกสาขามารวมกัน เรามีด้วยกันทั้งหมด 27 สาขา ในออสโลและรอบนอก) เราก็บอกว่าเคยทำที่ Sandvika storsenter แต่ตอนนี้โดนไล่ออกและจะเริ่มฝึกงานในสาขาใหม่ที่ Hasle torg เค้าก็ถามว่า อ้าว.... ทำไมถึงโดนไล่ออกหล่ะ เราก็บอกว่าเหตุผลเพราะว่าเรื่องภาษา หัวหน้าเก่าว่าเราภาษานอร์สกไม่เก่ง เค้าก็ว่า เหตุผลแค่นี้ไม่เพียงพอหรอกที่จะไล่พนักงานออก อีกอย่างเธอไม่ได้ฝึกงานครบสามเดือนเลยนิ หัวหน้าเก่าเธอนี่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย พอเราได้ฟังอย่างนั้นก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมาหน่อย เพราะอย่างน้อยช่วยทำให้รู้สึกกับตัวเองดีขึ้น ว่าเราก็ไม่ได้แย่มากอย่างที่หัวหน้าเก่าว่าเราขนาดนั้น เพราะยังมีหลายคนที่คิดว่าเรามีความสามารถที่จะทำงานนี้ได้ เพียงแต่ขาดโอกาสไปเท่านั้นเอง

เราอยู่ที่งานก็เกือบเที่ยงคืน Doni กับ Kine ก็ชวนเราไปในเมือง เย็นวันนั้นแฟนก็ไปนั่งดื่มเบียร์กับเพื่อนเค้าในเมืองเหมือนกัน เราก็โทรหาแฟนกะว่าจะไปเจอเค้าในเมือง กลับบ้านด้วยกัน ประหยัดค่าแท๊กซี่ สรุปแล้วคืนนั้นเรา hang on กับ Doni ในบาร์เกย์ (อ่อ Doni เค้าเป็นเกย์) สักประมาณ ครึ่งชั่วโมงได้ จากนั้นก็ไปหาแฟนที่ผับ ก็สนุกดีคืนนั้น กลับบ้านกันก็เกือบตีสาม หนาวก็หนาว เพราะเราใส่รองเท้าส้นสูง เปิด กว่าจะเดินหาแท๊กซี่กลับบ้านได้ก็เกือบตั้งนาน


พอวันจันทร์เราก็ไปที่ทำงานใหม่ ไปทำ สัญญากับหัวหน้าใหญ่ และเริ่มงานวันนั้นเลย เค้าก็บอกว่าที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับเธอ ถ้าไม่เข้าใจอะไรให้ถาม อย่าตอบค่ะ ถ้าไม่เข้าใจ ฉันเชื่อว่าเธอทำได้ หัวหน้าที่เธอจะร่วมงานด้วยนี้ เค้าใจดี แต่อาทิตย์นี้เค้าป่วย เนื่องจากเป็นโรคหัวใจ เธอจะต้องฝึกงานกับพนักงานคนหนึ่ง เธอจะช่วยสอนเธอได้ เราตอบว่าเราจะตั้งใจทำให้เต็มที่ อาทิตย์แรกที่เราฝึกงาน ในวันศุกร์ เราก็ถามคนที่เราฝึกงานด้วยว่า เธอคิดว่าฉันขาดตกบกพร่องอะไรหรือเปล่า เค้าก็ตอบว่า เธอทำงานดี เธอช่วยฉันได้เยอะ เพียงแต่อาศัยประสบการณ์มากกว่านี้เท่านั้นเอง แต่ฉันเชื่อว่าเธอจะทำได้ในภายหลัง อาทิตย์ต่อมา เราก็เริ่มทำงานกับหัวหน้าจริง ๆ เพราะเค้ากลับมาทำงานแล้ว เค้าเป็นคนใจดี สอนงานดี

ระบบที่ร้านค่อนข้างแตกต่างจากเราเคยทำเมื่อก่อน แต่รู้สึกว่าเข้าใจง่ายกว่า รู้สึกว่าอยากไปทำงานทุกวัน สนุกกับงานมาก มันหนื่อยแต่ก็สนุก

ตอนนี้ก็ไปทำงานเกือบทุกวัน พออาทิตย์ที่สาม หลังจากได้เริ่มทำงาน หัวหน้าก็เริ่มปล่อยให้เรา เปิดร้านคนเดียวฅ(ร้านเปิดเจ็ดโมงเช้า) เค้าจะเข้างานประมาณ สาย ๆ สี่ ห้า โมงเช้า ได้ เราก็อยู่ของเราคนเดียวได้ พอหัวหน้าเห็นว่าเราทำได้ จากนั้นเค้าก็ฝึกให้เราปิดร้านตอนเย็น ฝึกอยู่สองวัน วันที่สามเค้าก็ให้เราลุยเดี่ยวเองเลย รู้สึกว่าหัวหน้าคนนี้เค้าให้โอกาสเราได้ทำเยอะมาก ซึ่งเป็นโอกาสดีที่เราได้เรียนรู้งาน และประสบการณ์ เอง เพื่อนร่วมงานก็ขยัน ไม่มีใครขี้เกียจซักคน ทำให้ทำงานยิ่งสนุกไปมากกว่าเดิม

ตอนนี้เรารู้สึกว่าเราดีกว่าเมื่อก่อนเยอะ ฟังลูกค้ารู้เรื่อง ทำทุกอย่างได้เกือบ เก้าสิบเปอร์เซ็นต์ ตัดสินใจเอง รับผิดชอบร้านเองได้ แต่ก็อย่างว่านั่นแหละ ช่วงนี้เป็นช่วงฝึกงาน เรายังไว้วางใจอะไรแน่นอนไม่ได้ คิดว่า วันศุกร์หน้าที่จะถึงนี้ เราจะถามหัวหน้าหล่ะ ว่า.. ที่ผ่านมา เราทำงานเป็นยังไงบ้าง บกพร่องตรงไหน มีอะไรที่จะต้องให้แก้ไข ซึ่งเราคิดว่าสิ่งนี้จะทำให้เราได้รู้และจะได้พยายามแก้ไข ตรงนั้น

ขอบคุณทุกกำลังใจนะคะ อยากบอกให้รู้ค่ะ ว่างานแบบนี้มันไม่ได้ง่ายเหมือนอย่างที่คิดเลยค่ะ ความรับผิดชอบเยอะ เรื่องภาษาใช้เยอะมาก ถ้าใครอยู่ที่นอร์เวย์แล้วได้อ่านนะ อยากบอกว่าให้เอาดีทางด้านภาษาให้ได้เยอะๆๆ แล้วงานดี ๆ จะมีรออยู่ข้างหน้า กำลังใจน่ะสำคัญ ที่เราลุกขึ้นได้ครั้งนี้ก็มีหลายคนคอยให้กำลังใจอยู่เสมอ อย่าเพิ่งท้อแท้นะคะ ถ้าใครกำลังล้มตอนนี้ เพราะอย่างน้อยวันพรุ่งนี้มันจะมีอะไรที่ดีขึ้นสำหรับเรา

lozocatlozocat




Create Date : 10 กุมภาพันธ์ 2551
Last Update : 10 กุมภาพันธ์ 2551 5:01:35 น.
Counter : 517 Pageviews.

13 comments
คุณปู่ผู้อยู่นิ่งไม่เป็น สวยสุดซอย
(11 เม.ย. 2567 15:42:02 น.)
ร้านขายยา Apotek สวยสุดซอย
(9 เม.ย. 2567 20:13:40 น.)
Tobu Zoo (東武動物公園)ในวันที่ค่าเข้าแล้วแต่จะบริจาคตั้งแต่ 1 เยนขึ้นไป SN_monchan
(6 เม.ย. 2567 20:15:04 น.)
ภาพเก่า เล่าใหม่ ผลไม้และเบอร์รี่ชนิดต่างๆ ที่มีในสวน สวยสุดซอย
(27 มี.ค. 2567 14:20:01 น.)
  
Don't ever give up....
โดย: The Zephyr วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:6:27:36 น.
  
สู้ สู้ ก้าบบบบบบบบบบบ
โดย: dogamania วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:7:28:08 น.
  
เป็นกำลังใจให้จ้า Bye
โดย: wiwan (wiwan K ) วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:21:28 น.
  
ยากเหมือนกันน่ะกับภาษาที่สาม แค่ภาษาปะกิต ก้อก็เวียนหัวแล้ว สู้ๆ ต่อไปค่ะ ถูกต้องแล้ว เราต้องทบทวนค่ะ ว่าทำงานแล้วเป็นอย่างไรบ้าง มีอะไรที่เขาจะชี้แนะมั้ย
โดย: คุณนายก้อ วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:26:33 น.
  
สู้ๆครับ
โดย: กระต่ายไม่ขูดมะพร้าว วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:59:04 น.
  
ภาษาเป็นเรื่องที่ทำให้ท้อได้เสมอ แต่อย่าถอยนะคะ
โดย: ลูกแม่ดอกบัว วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:58:11 น.
  
สู้ๆค่ะ
โดย: กิ่งไม้ไทย วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:59:49 น.
  
สู้ค่ะ
โดย: ออย (Borken ) วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:21:05:26 น.
  
เก่งจังเลยค่ะ รักษ์แค่ภาษาอังกฤษก็แย่แล้วค่ะ
สู้ สู้นะค่ะ
โดย: รักษ์ (RakKoksawang ) วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:21:23:12 น.
  
เข้ามาเป็นกำลังใจให้ค่ะ อยู่นอร์เวย์เหมือนกัน ตอนนี้ก็กำลังเรียนภาษาอยู่ ยังไม่ไปถึงไหนเลย ฟังไม่รู้เรื่องพูดไม่เป็น แต่ละท้องถิ่นก็พูดไม่เหมือนกันอีก
โดย: Deedy79 วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:4:51:38 น.
  
เป็นกำลังใจให้ค่ะ สู้สู้จ้า ชอบจังเลยความรู้สึกที่ว่าอยากไปทำงานทุกวันเลย ตอนนี้เราก็เป็นเหมือนกันค่ะ
โดย: sawadeeuk วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:5:32:23 น.
  
ก่อนอื่นต้องขออนุญาติ Add ไว้ที่บล๊อคบิวน่ะค่ะ บิวก็เป็นคนหนึ่งกำลังจะเดินทางไปอยู่นอร์เวย์ อยู่ oslo ค่ะ

บล๊อคคุณน่าสนใจมาก และดีใจที่ได้อ่านเพื่อเป็นการเรียนรู้ประสบการณ์ ของผู้ที่ผ่านมาก่อน

หลังจากที่บิวได้อ่าน ทำให้บิวจะต้อง ตั้งใจ และเริ่มจิงจังกับการ เรียนรู้ภาษาของที่นั่นให้มาก ตอนนี้ตัวเองมีแต่หนังสือเรียนภาษาค่อ ตอนซื้อมาก็อยากได้ อยากได้ พอได้เค้ามาก็วางเค้าไว้เฉยๆ

บิวคงต้องกลับมานั่งทบทวน และจิงจังกับมันแล้วหล่ะค่ะ

ขอบคุณค่ะน่ะ แล้วบิวจะแวะมาเยี่ยมเรื่อย ๆ ค่ะ
โดย: บิว (pussadorn ) วันที่: 10 มีนาคม 2551 เวลา:10:37:00 น.
  
เฮ้อ..โล่งอก..อ้าวแล้วชั้นไปเกี่ยวอะไรกับเค้าด้วยเนี่ย...ดีใจด้วยค่ะ ...ร้านเบเกอรี่ หน้าบ้านไม่เห็นมันจะพูดอะไรกับลูกค้ามากเร้ย...ถามว่า"เอาไร" อ่ะบอกไป...กี่ชิ้น..จากนั้นก็ "ราคาทั้งหมดเท่าไหร่..บอกมา" จากนั้นก็ชู้ดดดโลด..พูดเป็นไดอะล๊อกเหมือนกะลอกกันมาน่ะค่ะ เรื่องจะยิ้ม..แถมๆให้มะมีหรอกค่ะ หล่อนไม่ได้ถูกจ้างให้มายิ้มให้ลูกค้า...เวรกำ...
โดย: Patarawan H วันที่: 4 เมษายน 2551 เวลา:15:53:14 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Piyapornchatha.BlogGang.com

Dikie
Location :
Oslo  Norway

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด