เช่ามอเตอร์ไซด์เที่ยวเชียงใหม่กันเถอะ 10 (ถึงเชียงใหม่ซะทีหลังจากไปลุยมา 3 วัน)

กลับมาอีกครั้งหลังจากหายไป 2-3 วัน แฮะๆ

เอาหละครับ วันสุดท้ายของการเที่ยวครั้งนี้แล้วครับ ตามแผนที่วางไว้เบื้องต้น

ออกจากอุทยานฯ - น้ำตกบัวตอง - ตัวเมืองเชียงใหม่(กินข้าวเที่ยง) - เดินห้าง/ซื้อของ/ชอปปิ้ง - เดินทางกลับ กทม.

เอาหละครับ วันนี้ตื่นเช้าหน่อย(ตีห้าครึ่ง) เพื่อที่จะไปถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้นกันที่สันเขื่อนแม่งัดครับ ไหนๆก็มาเที่ยวทั้งที่ ถ่ายไปเถอะ สวย/ไม่สวยเอาไว้ทีหลัง

เอาตั้งแต่ก่อนพระอาทิตย์ขึ้นก็แล้วกันครับ ท้องฟ้าแดงๆ(ช้ำเลือดช้ำหนองหน่อย)







ตกลงมันก็ยังไม่ขึ้นซะทีวุ๊ย



เรือน้อยล่องไป.......ในเวิ้งความฝัน......ฝ่าเกลียวคืน..ฝืนลมแรง...แฝงความต้องการ...

ฝากความฝัน..กับเรือน้อย ..ลอยตามทาง................

เรือศรัทธา.........บรรทุกใจ.........(แฮะๆๆๆจำเนื้อไม่ได้แล้วครับ เพลงเรือ ของฤทธิพร อินทร์สว่าง หนะครับ ลองหาฟังดูก็แล้วกัน)

เอาหละครับไปกันครับที่ สันเขื่อนครับ



แฮะๆ รูปนี้ ใช้ white balance เป็น shade ครับ



ส่วนรูปนี้ใช้ White Balance เป็น daylight fluorescent ครับ สีต่างกัน ได้อารมต่างกันครับ รูปแรกหนาวหน่อย รูปหลัง อุ่นกว่า(มั้ยครับ ???)

ส่วนรูปนี้ก็เหมือนกันครับ ใช้ white balance ช่วยให้สีของภาพมันออกโทนแปลกๆ ซะ



รูปแรกใช้ white balance เป็น Shade



ส่วนรูปนี้ White Balance เป็น Daylight Fluourescent ครับ

ผมเดินตามสันเขื่อนไปเรื่อยๆ หายใจลึกๆ อากาศเย็นๆ สบายๆ

แสงเงินแสงทอง ส่องฟ้า กับคนหาปลา



หมอกบางๆกับแสงตอนเช้าอุ่นๆ



เอาหละครับ หมดแล้วครับเช้านี้ ไม่น่าเชื่อว่าผมจะถ่ายได้น้อยจัง(จริงๆไม่น้อยหรอกครับ แต่ว่ารูปที่สวยๆไม่ค่อยมี แฮะๆๆๆ ที่เอามาลงเนี่ยคัดมาอย่างดีที่สุดแล้วครับ)

ช่วงที่ผมเดินอยู่บนสันเขื่อน พอดีเจอกับลุงคนึง แกยิ้มๆ แล้วก็ทักผมมาครับ

"นอนอยู่นี้หลายคืน อากาศดีมั้ย ???"

"อ๋อป่าวครับ เพิ่งกลับมานอนอีกเมื่อคืนนี้ครับ คืนก่อนผมนอนที่นาหวาย แถวๆเชียงดาวนู่นครับ ไม่ได้นอนที่นี่" ผมตอบกลับไป

คิดในใจ "(เอ่อลุงแกยังอุตส่าจำผมได้อีกเนอะ สงสัยบ้าๆแบบนี้คงมีแค่คนเดียวหละมั้งเนี่ย)"

สุดท้าย ท้ายสุด ผมเดินกลับไปที่เตนท์เตรียมเก็บข้าวของต่างๆเตรียมพร้อมสำหรับเดินทางต่อครับ

กลับไปอาบน้ำแปรงฟันประมาณเกือบ 8 โมงครับ แล้วก็ขึ้นไปที่ร้านสวัสดิการของอุทยานฯ สั่งข้าวผัดหมูไข่ดาว มากินหละครับ หลังจากนั้นก็จ่ายค่าธรรมเนียมการพักค้าง

ผมเริ่มออกเดินทางออกจากที่ทำการอุทยานฯประมาณ 9โมงครับ จุดหมายต่อไปก็คือ น้ำตกบัวตองกับ น้ำพุ 7 สีครับ(จริงๆวันก่อนที่รีบๆขับรถกลับมาก็ผ่านทางเข้าแล้วครับแต่ว่าไม่ได้แวะเข้าไป แล้วก็แอบเห็นว่า มีทางลัดไปที่เขื่อนแม่กวงที่อยู่ที่ อำเภอดอยสะเก็ดด้วย)

ในใจผมก็คิดหละครับ ว่าเอ่อ น่าจะลองไปดูนะ เขื่อนแม่กวง(ครั้งล่าสุดที่ผมไปเขื่อนแม่กวงก็เมื่อประมาณ 9 ปีมาแล้วช่วงที่ขึ้นมาทำงานที่เชียงใหม่บ่อยๆ)

เส้นสีแดงในภาพหละครับที่กะว่าจะลุยเข้าไป



คิดได้อย่างงั้นก็เดินทางย้อนกลับไปทางเก่าครับ ขับย้อนกลับไปทาง อ.พร้าว สายตาก็มองหาป้ายบอกไปเขื่อนแม่กวงครับ มองหาไปเรื่อยๆ............

มองไปมองมาหายังไงก็ไม่เจอ..........เอาหละซิ เอาไงดี ถึงเวลาต้องตัดสินใจอีกแล้วครับ !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

เอาไงดี ลุยไปเรื่อยๆ หาทางเข้าให้เจอแล้วก็เข้าไป หรือว่าจะถอยทัพกลับดีหว่า ???? เอาไงดีๆ ในใจก็คิดครับ

สรุป ตัดสินใจกลับครับ ไม่เสียเวลาหาดีกว่าครับเดี๋ยวพอดีจะอดเดินห้าง/ดูหนังดีกว่า งั้นก็ไปเที่ยวน้ำตกบัวตองกับ น้ำพุ 7 สี ดีกว่า

สรุปได้อย่างงั้นก็เดินทางกลับไปทางเดิมครับ

เส้นทางหมายเลข 1001 เชียงใหม่ - พร้าว พาผมมุ่งหน้ากลับเชียงใหม่ครับ ขับกลับย้อนมาเรื่อยๆ กลับทางเก่าครับ ทางด้านซ้ายมือครับ แยกเข้าไป น้ำตกบัวตอง น้ำพุ 7 สี

(ถ้าเลี้ยวขวาก็กลับไปที่ทำการอุทยานฯส่วนตรงไปก็ไปเชียงใหม่)

เอาหละครับ ทางเข้าวนอุทยานน้ำตกบัวตอง/น้ำพุ 7 สีครับ(ปล.รูปนี้คือทางหลวงหมายเลข 1001 สาย พร้าว - เชียงใหม่ครับ โดยรูปที่ถ่าย มุ่งหน้าไปทางพร้าวครับ ส่วนทางกลับกันก็ไปเชียงใหม่ครับ)



ส่วนสภาพทางเข้าเป็นป่าสักปลูกครับ ของ ออป.(องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้)ต้นใหญ่ขนาด 1 คนโอบได้สงสัยคงปลูกมาซัก 20 ปีแล้วมั้งครับ



เอาหละครับเข้าไปเที่ยวน้ำตก/น้ำพุ กัน

ระยะทางจากทางหลวง 1001 เข้าไปก็ประมาณ 3 กิโลเมตรได้ครับ

เมื่อขับเข้าไปถึงก็จะเป็นลานกว้างๆครับ ถึงแล้วครับ



สำหรับท่านที่คิดว่าปีใหม่จะไปเที่ยวทางเหนือ หากคิดจะมากางเตนท์นอนที่นี่ก็เหมาะดีนะครับ ไม่ใช่ สถานที่ท่องเที่ยวหลักที่คนจะแห่ไปแย่งกันกิน แย่งกันขี้ แย่งกัน... แย่งกันนอน !!!!!!



เนี่ยครับลานเกงเตนท์

ปล.ช่วงที่ผมไปร้านอาหารไม่เปิดครับ แต่มีที่เห็นอยู่ 3 ร้าน คิดว่าช่วงปีใหม่อาจจะมีเปิดบริการ(แต่ก็อาจจะหมดได้เหมือนกัน ปีใหม่อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอครับ ขนาดบนดอยอินทนนท์ยังรถติดได้เลย !!!!!!)

ยังไงก็คงต้องเผื่อกันไว้บ้างหละครับ

มาดูรายละเอียดของพื้นที่หน่อยนะครับ

ที่ตรงนี้เป็นวนอุทยานครับ พื้นที่เท่าที่ผมจำได้ก็ประมาณ 30,000 ไร่ได้มั้ง

จุดที่น่าสนใจของวนอุทยานก็คือ น้ำตก บัวตองครับ เป็นน้ำตกหินปูนครับ ต้นน้ำเป็น้ำพุ ก็คือน้ำพุ 7 สีนั่นแหละครับ สรุปก็คือ น้ำพุไหลออกมากลายเป็นต้นน้ำของน้ำตกครับ

ฉะนั้นเวลาเราเข้าไปในวนอุทยาน เราก็จะเจอ น้ำตกก่อนครับ แล้วถ้าเราเดินย้อนต้นน้ำตกขึ้นไปก็จะเจอตาน้ำครับ

เอาหละครับ

เริ่มต้นที่น้ำพุ 7 สีครับ





ดูแล้วเป็นยังไงครับ สวยมั้ย ผมชอบมากเลยครับ สีฟ้าใสๆ น้ำใสมากครับ นึกถึง จิ่วไจ้โกว ครับ ถึงแม้ว่าขนาดมันจะต่างกันมากก็เถอะ ถ้าน้ำเยอะเป็นแอ่งใหญ่กว่านี้ คนคงจะมาเที่ยวกันตรึมแหงๆ

น้ำใสมากๆ มีปลาด้วยครับ(แฮะๆ ผมถ่ายไม่ได้เองครับ กล้อง มัน focus ไม่ได้ครับ)

เอาหละครับ จากต้นทางที่น้ำพุก็กลายเป็นต้นน้ำไหลไปลงหน้าผากลายเป็นน้ำตกบัวตองครับ



จากต้นน้ำกลายเป็นลำธารแล้วก็ไหลลงไปสู่พื้นที่ด้านล่างกลายเป็นน้ำตก(จุดที่ตั้งของวนอุทยานฯเป็นด้านบนของน้ำตกครับ ฉะนั้นเวลาที่เราอยากจะดูตัวน้ำตกแต่ละชั้นจะต้องเดินลงไปครับ)

ไปครับ..ลงไปดูกัน



นี่ก็คือทั้งหมดของน้ำตกครับ ค่อนข้างรกแล้วก็ครึ้มครับ สุดๆแล้วกับ เลน 28 มม.เก็บมาได้มากที่สุดก็อย่างที่เห็นครับ

ช่วงที่ผมไปน้ำน่าจะไม่เยอะแล้วหละครับ สภาพก็เป็นอย่างที่เห็นครับ น้ำที่ไหลลงมาเป็น้ำตกแบ่งเป็น 2 สายครับ

เวลาไหลตกลงมาก็เลยเป็นคราบหินปูนครับ สีขาวนวลดีมาก



ส่วนนี่เป็นอีกแขนงนึงของน้ำตกครับ สีขาวๆนวลๆ



ภาพข้างบนทั้งสองภาพเป็นชั้นแรกครับ(ไม่รู้เรียกถูกหรือเปล่านะครับ เพราะปกติน้ำตกเราจะเดินเข้าถึงชั้นล่างสุด แต่ที่นี่เดินไปถึงชั้นบนสุดก่อน)

ส่วนนี่เป็นชั้นที่ 2 ครับ



น้ำตกก็ยังเป็นหินปูนครับ แต่แหม ดันมีคนอุตริเดินลงมาอีก

ปล.ตอนดูน้ำตกนี่เดินลงก็สบายมากครับ ลงไปแค่ 2 ชั้น เอง แต่ตอนเดินขึ้นนี่อย่างเหนื่อยเลยครับ

หลังจากลงไปที่น้ำตกชั้นล่างแล้วผมก็กลับขึ้นมาครับ ดูเวลาแล้วก็คงต้องไปแล้วแหละ 11 โมงกว่าแล้วครับ เดี๋ยวพอดี ไม่ได้เดินห้างดมกลิ่นแอร์ห้างซะหน่อย

ผมเดินทางออกจาก น้ำตกบัวตอง/น้ำพุเจ็ด สีตอนประมาณ 11 โมงครับ เป้าหมายก็คือ เชียงใหม่ครับ มื้อเที่ยงหน้าจะเป็นอาหารเหนือซะหน่อย ไม่ได้กินนานแล้วครับ

ผมขับรถตามเส้นทางสาย 1001 ผ่าน หมู่บ้านต่างๆ ครับ (แต่ไม่ได้ถ่ายครับ ต้องทำเวลา)เป้าหมายก็คือร้านข้าวซอยแถววัดฟ่าฮ่าม





ไปถึงก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงครับ สั่งมาเลย

รายการที่ 1 ข้าวซอย







เวลาผ่านไป 20 นาทีก็



หลังจากเสร็จ ผมก็ขับมอเตอร์ไซด์ไปที่อาเขตครับ จองตั๋วกลับเที่ยว ทุ่มครึ่งเพื่อให้มาถึง กทม.ซักตี 4 เพื่อที่จะเดินทางกลับที่ทำงานให้ทันก่อน 8 โมงเช้าครับ

จองตั๋วรถเสร็จยังมีเวลา ไปเที่ยวดูหนังเดินตากแอร์ที่เซ็นทรัลแอร์พอร์ตพลาซ่าซะหน่อย(อย่าหาว่าอะไรเลยครับ ที่ที่ผมอยู่ตอนนี้ ห้างที่ใกล้ที่สุดก็คือ Lotus หนะ ห่างไปตั้ง 31 กิโลเมตรแหนะ) ไว้ได้เวลาใกล้ๆ 6 โมงเย็นค่อยเอารถไปคืนที่ร้าน(ร้านปิด 6 โมงครับ)

หลังจากดูหนังเสร็จก็ประมาณ 4โมง ครึ่ง ผมก็ขับมอเตอร์ไซด์ออกมาแล้วก็มุ่งหน้าไป กาดต้นพยอม หาแค๊บหมูกับน้ำพริกหนุ่มกลับไปฝากน้องๆที่ office ซะหน่อย แล้วก็เอารถไปคืนที่ ร้านเช่า แถวๆประตูท่าแพรครับ เสร็จแล้วก็เรียกสองแถวแดง(จริงๆไม่อยากเรียกหรอกแต่ไม่มีทางเลือก)ให้ไปส่งที่อาเขตคครับ เพื่อรอขึ้นรถกลับ

รถนครชัยออก ตรงเวลาตามกำหนดครับ ผมขึ้นไปก็ จัดการกับมื้อเย็นที่บนรถแจกครับ รถออกไม่นานผมก็หลับตาลง.................รอลุ้นว่าจะไปถึง หมอชิตใหม่ตามเวลาหรือเปล่า เอาหละครับ ผมขอนอนบนรถนครชัยกับกรุงเทพก่อนนะครับ

Create Date : 15 พฤศจิกายน 2550 Last Update : 15 พฤศจิกายน 2550 18:02:02 น. Counter : 4453 Pageviews.		4 comments
Share Tweet

	กงสุลใหญ่สมใจ ตะเภาพงษ์“ร่วมฉลองสงกรานต์ปีใหม่ไทยในไทม์สแควร์” newyorknurse (17 เม.ย. 2567 02:18:24 น.)		พาเที่ยววัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ขอพรวัดเก่าใจกลางเมืองรับปีใหม่ไทย นายแว่นขยันเที่ยว (15 เม.ย. 2567 13:57:04 น.)
	Day 7 เที่ยววันสุดท้าย Arashiyama กลางสายฝน khimyo (10 เม.ย. 2567 12:51:53 น.)		แชร์ประสบการณ์... ตามรอยสแลมดังก์ ที่คามาคุระ-โตเกียว imuya (10 เม.ย. 2567 00:13:46 น.)