ASSIGNMENT #1

ASSIGNMENT #1

นายนันทพงศ์ จงประทีป 53040719 เทคโนโลยีการจัดการ 1 

ใช้อินเทอร์เน็ตอย่างไรให้ปลอดภัย ?

  • กำหนดแนวทางการใช้อินเทอร์เน็ตร่วมอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะเนื้อหาคอนเทนท์ต่างๆ ที่เหมาะ / ไม่เหมาะกับอายุ เกี่ยวกับเพศ อบายมุข ฯลฯ
  • ก่อนที่จะแชร์ข้อมูลส่วนตัวใดๆ ให้ตรวจสอบให้ดีว่าเป็นบุคคล / องค์กรที่น่าไว้ใจหรือไม่
  • ตรวจสอบชื่อ URL ให้แน่ใจเสียก่อนที่จะกดคีย์บอร์ดพิมพ์ตัวสะกดให้ถูกต้องเพื่อให้มั่นใจว่าจะเข้าไปยังเว็บไซต์ที่ต้องการ ป้องกันเว็บไซต์หลอกลวง (Phishing)
  • ถ้าสิ่งที่พบเห็นหรือได้รับก่อให้เกิดความรู้สึกอึดอัดไม่สบายใจ ให้เลิกใช้บริการนั้นๆ โดยเด็ดขาด
  • ถ้าได้รับอีเมล์ข่มขู่ หยาบคาย ก่อกวนหรืออะไรก็ตาม ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องทันที
  • จงจำไว้ว่าเรื่องที่ได้อ่านบนอินเทอร์เน็ตไม่ใช่เรื่องจริงเสมอไป (SPAM)
  • อย่าบอกอายุจริงจนกว่าจะได้รับอนุญาตจากพ่อแม่ผู้ปกครองเสียก่อน
  • อย่าใช้ชื่อ-นามสกุลจริงจนกว่าจะได้รับอนุญาตจากพ่อแม่ผู้ปกครองเสียก่อน
  • อย่าบอกที่อยู่ที่บ้านให้ใครบนอินเทอร์เน็ตทราบ
  • ตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ให้ดีก่อนลงชื่อในสัญญา หรือรับข้อเสนออะไรก็ตามบนอินเทอร์เน็ต อาจมีผลในเชิงกฎหมาย หรือโดนหลอกโดยไม่รู้ตัว
  • อย่าให้หมายเลขบัตรเครดิตของผู้ปกครองหรือของคนอื่นก่อนที่จะได้รับอนุญาต
  • จงจำไว้ว่าเมื่อออนไลน์ทุกสิ่งที่ทำขึ้นอยู่กับตัวเราเองอย่าทำอะไรที่ไม่ต้องการจะทำ
  • อย่าเปิดไฟล์หรืออีเมล์ที่มาจากคนที่ไม่รู้จักเนื่องจากไม่ทราบว่ามีอะไรอยู่ภายในอาจเป็นไวรัสคอมพิวเตอร์หรือข้อมูลที่ไม่เหมาะสมก็ได้
  • ตั้งคอมพิวเตอร์ในห้องนั่งเล่นห้องรวมของครอบครัวอย่าตั้งในห้องส่วนตัว
  • อย่านัดพบกับคนแปลกหน้าที่รู้จักกันบนอินเทอร์เน็ต โดยไม่ขออนุญาตจากผู้ปกครองถ้าจำเป็นต้องนัดพบก็ให้นัดพบในที่สาธารณะ และไปพร้อมกับพ่อแม่ผู้ปกครอง
  • จำไว้ว่าข้อมูลข่าวสารส่วนตัวที่แชร์กับคนบนอินเทอร์เน็ตอาจถูกคนอื่นล่วงรู้ได้จงระมัดระวังให้มาก
  • อย่าให้หมายเลขโทรศัพท์กับคนบนอินเตอร์เน็ต
  • พูดคุยกับพ่อแม่ผู้ปกครองหรือครูอย่างสม่ำเสมอถึงสถานที่ที่ไปตลอดจนกิจกรรมที่ทและสิ่งที่พบเห็นในระหว่างการออนไลน์
  • เลือกใช้ชื่อปลอมหรือนามแฝงที่แตกต่างจากชื่อจริงในการออนไลน์
  • ก่อนที่จะเข้าไปยังพื้นที่สาธารณะบนอินเทอร์เน็ต เช่น ร่วมห้องสนทนาหรือการอภิปรายโต้ตอบ ควรตัดสินใจร่วมกับพ่อแม่ผู้ปกครองเสียก่อนว่าจะให้ใช้อีเมล์แอดเดรสในการติดต่อร่วมกิจกรรมหรือไม่
  • ถ้าคนที่ออนไลน์ด้วยกันซักถามคำถามส่วนตัวมากๆให้สงสัยในแง่ร้ายเอาไว้ก่อนและให้หยุดการสนทนานั้นเสีย
  • ระมัดระวังอย่าให้ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ของโรงเรียน กับคนบนอินเทอร์เน็ต
  • จงจำไว้ว่า คนที่ออนไลน์อาจไม่เป็นอย่างที่เขากล่าวอ้าง เนื่องจากการปลอมเป็นใครสักคนหนึ่งบนอินเทอร์เน็ตนั้นทำได้ง่ายมาก
  • ในการออนไลน์อย่าทำอะไรที่เราคิดว่าจะไม่ทำในชีวิตจริง
  • จงระมัดระวังเรื่องข้อเสนอฟรี เช่น ของขวัญหรือเงิน เพราะไม่มีทางทราบได้ว่าสิ่งจูงใจคืออะไร จงปฏิเสธ
  • จงปฏิบัติต่อคนอื่นในสิ่งที่ตัวเองอยากให้คนอื่นปฏิบัติตอบ อย่าใช้ภาษาแย่ๆ หรือส่งอะไรที่ไม่เหมาะสมออกไปในการออนไลน์
Social Media

  เป็นการสื่อสารส่งข้อมูลข่าวสารในรูปแบบใหม่ที่มีการสื่อสารผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ซึ่งสามารถสื่อสารได้ 2 ทาง (Two-way Communication) สามารถกระจายผู้รับสื่อได้อย่างรวดเร็วจึงประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย มีข้อจำกัดในเรื่องของเครื่องรับสาร เช่น คอมพิวเตอร์ โดยต้องมีความรู้ในการใช้ด้วยเข้าถึงเป้าหมายเฉพาะกลุ่ม เช่น Facebook, Twitter, Email ฯลฯ ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากในอัจจุบัน แต่ก็มีทั้งข้อดี และข้อเสียในตัว หากใช้ไม่ถูกวิธีอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์องค์กรได้

Traditional media

  เป็นการสื่อสารส่งข้อมูลในรูปแบบเดิมที่ไม่ผ่านระบบอินเตอร์เน็ท ซึ่งเป็นการสื่อสารทางเดียว (One-way Communication)สามารถกระจายข้อมูลในกลุ่มเป้าหมายในวงกว้างและสะดวกต่อการเข้าถึงในพื้นที่ทีมีข้อจำกัดในการรับสื่อรูปแบบใหม่ มีต้นทุนสูง ล้าสมัย ล่าช้าและผู้รับสื่อไม่สามารถโต้ตอบกลับได้ เช่น สิ่งตีพิมพ์, โฆษณา, โทรทัศน์ ฯลฯ

Blog

ปัจจุบันนี้ บริษัทชั้นนำต่าง ๆ ของโลก ได้หันมาจับตามอง Blog ซึ่งเป็นรูปแบบของการ Marketing แบบใหม่ เนื่องจาก Blogger จะมีความใกล้ชิดสนิทสนมกับผู้อ่าน Blog สูงมาก เนื่องจากทั้งสองฝ่าย สามารถโต้ตอบกันได้โดยตรง ปัจจุบัน บางบริษัทอาจเลือกเจ้าของ Blog ให้เป็น presenter ให้กับผลิตภัณฑ์ของตนเอง เช่นเสนอสินค้า ให้เจ้าของ Blog นำไปเขียนวิจารณ์หรือเขียนถึงใน Blog ของตน หรืออาจใช้เป็นเครื่องมือสื่อสาร หรือ PR ข่าวสารขององค์กร โดยการใช้ Blog เพื่อประกาศข่าวสารนั้น จะดูมีความเป็นกันเอง และเข้าถึงลูกค้าได้อย่างเป็นมิตร เพราะเนื่องจากลูกค้าสามารถฝาก comment หรือสื่อสารกับเจ้าของ Blog ได้ทันที ทำให้บริษัทเอง จะได้ประโยชน์จากคำแนะนำ ที่ตรงไปตรงมาของลูกค้าอีกด้วย บริษัทชั้นนำต่างเลือกที่จะใช้ Blog มาเป็นเครื่องมือทางการตลาดกันแล้ว โดยบางแห่งใช้ทั้ง Blog อย่างเป็นทางการของบริษัท แถมยังเปิดให้พนักงานได้เขียน Blog ของตนเองอีกด้วย โดยวิธีการนี้นับเป็นการทำการตลาด โดยการสร้างการรับรู้ตราสินค้า (Brand) โดยทางอ้อมอีกด้วยนอกเหนือจากองค์กรธุรกิจแล้ว บุคคลที่ทำงานคนเดียวหรือเป็นกลุ่ม สามารถใช้ Blog เพื่อเป็นการเผยแพร่ผลงาน หรือขายสินค้าของตนได้อีกด้วยเช่น ช่างภาพ, ศิลปิน, นักออกแบบ, นักเขียน, นักวาดการ์ตูน , ร้านค้า , ฯลฯ

Google Apps

  คือ แอปพลิเคชันที่ถูกพัฒนาขึ้นมาโดย Google เพื่อให้บริการทางด้านการจัดการ / เอกสาร / โปรแกรมอัตถประโยชน์ต่างๆ เพื่อตอบสนองผู้ใช้บริการได้ครบวงจร นอกจาก Search Engine ซึ่งเป็นบริการหลักอยู่แล้ว ปัจจุบัน Google พัฒนา Apps ให้อยู่ในรูปของ Web-Based สามารถใช้งานได้เลยบนเบราเซอร์ และยังใช้งานบนสมาร์ทโฟน - แท็ปเล็ตได้ดีอีกด้วย ปัจจุบันบริการของ Google มีมากมายครับเช่น
  • Gmail
  • Google Talk + Google Plus
  • Google Calendar
  • Google Drive
  • Google Translate
  • Google Goggle
  • Google Maps
  • ฯลฯ
   ทั้งนี้เราสามารถใช้บริการดังกล่าวได้ฟรีในระดับพื้นฐาน หากต้องการฟีเจอร์ภายในที่ Advanced มากขึ้น (เช่น เพิ่มขนาด Storage บน Google Drive) ก็ต้องจ่ายค่าบริการเพิ่ม แต่โดยรวมแล้ว Google Apps ค่อนข้างมีบทบาทมากในปัจจุบัน ที่หลายๆ คนหันมาใช้อินเตอร์เน็ตทำงานกันมากขึ้น
   ส่วนประโยชน์ของบริการ Google Apps หลักๆ เลยก็คือ สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การทำงานของคนยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะคนทำงานด้าน Online ที่ต้องออนไลน์ตลอดเวลา โซลูชั่นของ Google จะเป็นการ Link ทุกบริการใน Account เดียว ดังนั้นคุณแทบไม่ต้องจัดการอะไรมากมาย แถมยัง Sync ข้ามแพลตฟอร์มได้ด้วย ทำงานเอกสารรอบเดียวบน Google Drive สามารถเปิดได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์ - แท็ปเล็ต - มือถือได้เลย ช่วยประหยัดเวลา เพิ่มประสิทธิภาพได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีความปลอดภัยสูง เสถียร สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง ไม่ต้องกลัวล่มครับ

Cloud Computing

คือ วิธีการประมวลผลที่อิงกับความต้องการของผู้ใช้ โดยผู้ใช้สามารถระบุความต้องการไปยังซอฟต์แวร์ของระบบCloud Computing จากนั้นซอฟต์แวร์จะร้องขอให้ระบบจัดสรรทรัพยากรและบริการให้ตรงกับความต้อง การผู้ใช้ ทั้งนี้ระบบสามารถเพิ่มและลดจำนวนของทรัพยากร รวมถึงเสนอบริการให้พอเหมาะกับความต้องการของผู้ใช้ได้ตลอดเวลา โดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องทราบเลยว่าการทำงานหรือเหตุการณ์เบื้องหลังเป็น เช่นไร
ประโยชน์ของ Cloud Computing ในเชิงธุรกิจ
  •  ลด ต้นทุนค่าดูแลบำรุงรักษาเนื่องจากค่าบริการได้รวมค่าใช้จ่ายตามที่ใช้งานจริง เช่น ค่าจ้าง พนักงาน ค่าซ่อมแซม ค่าลิขสิทธิ์ ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าอัพเกรด และค่าเช่าคู่สาย เป็นต้น
  •  ลดความเสี่ยงจากการเริ่มต้นหรือทดลองโครงการ
  •  มีความยืดหยุ่นในการเพิ่มหรือลดระบบตามความต้องการ
  •  ได้เครื่องแม่ข่ายที่มีประสิทธิภาพมีระบบสำรองข้อมูลที่ดีมีเครือข่ายความเร็วสูง
  •  มีผู้เชี่ยวชาญดูแลระบบและพร้อมให้บริการช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง

เทคนิคที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานอินเตอร์เน็ต

  1. ทำความรู้จักโปรแกรมในการท่องโลกอินเตอร์เน็ต
    • เริ่มต้นต้องรู้จักโปรแกรมที่ใช้ในการท่องโลกอินเตอร์เน็ตกันก่อน โดยเฉพาะกับโปรแกรม Windows Internet Explorer มีสัญลักษณ์โลโก้เป็นตัวอักษร "e"?ซึ่ง เป็นโปรแกรมพื้นฐานในการใช้งาน และโปรแกรมนี้มีมาพร้อมกับ Windows อยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องไป download มาจากที่ไหน ยกเว้นแต่ต้องการทดลองใช้โปรแกรมอื่นๆ หรือ upgrade เท่านั้น
    • Mozilla FireFox อีกหนึ่งโปรแกรมสำหรับท่องอินเตอร์เน็ต สามารถ download และใช้งานได้ฟรี เช่นเดียวกันกับ Windows Internet Explorer จุดเด่นของโปรแกรมนี้อยู่ที่ความเร็วในการใช้งาน หรือเข้าเว็บไซต์?แถมมีระบบรักษาความปลอดภัยที่สูงมากด้วย
    • โปรแกรมอื่นๆ ได้แก่ Opera, Google Chrome, Safari, Plawan (ของคนไทย) เป็นต้น
  2. ทำความรู้จัก "ลิงค์"?
    • ลิงค์ ก็คือการเชื่อมโยงข้อความจากหน้าหนึ่งไปยังอีกหน้าหนึ่ง (หรืออาจเป็นหน้าเดียวกันก็ได้)? จะสังเกตได้ว่ามีลิงค์ตรงไหน ให้ลองเลื่อนเม้าส์ไปวางใกล้ๆ ข้อความ ถ้าสัญลักษณ์ของเม้าส์ เปลี่ยนจาก "ลูกศร" เป็น "รูปมือ" แสดงว่าเป็นลิงค์ ให้คลิกได้เลย? บางเว็บก็แสดงขีดเส้นใต้ให้ด้วย
    • ลิงค์สามารถใช้รูปภาพแทนได้ ลองวางเม้าส์เหนือรูปภาพ ถ้าสัญลักษณ์ของเม้าส์ เปลี่ยนจาก "ลูกศร" เป็น "รูปมือ"? ก็แสดงว่าเป็นลิงค์เหมือนกัน
    • ลิงค์สามารถใช้รูปภาพเคลื่อนไหว (เช่น Flash Animation เป็นต้น) แทนได้ ลองวางเม้าส์เหนือรูปภาพ ถ้าสัญลักษณ์ของเม้าส์ เปลี่ยนจาก "ลูกศร" เป็น "รูปมือ"? ก็แสดงว่าเป็นลิงค์เหมือนกัน
  3. บันทึกรูปภาพบนอินเตอร์เน็ต
    • ถ้า ต้องการรูปภาพบนอินเตอร์เน็ต บางเว็บไซต์ก็อนุญาตให้บันทึก หรือ Save ได้ แต่บางเว็บก็ไม่อนุญาต? โดยทั่วไปเราสามารถบันทึกภาพจากอินเตอร์เน็ตได้ง่ายๆ เพียงคลิกขวาเหนือรูปภาพ จากนั้นคลิกเลือก Save As หรือ Save Picture As จากนั้นก็เลือกโฟลเดอร์ที่ต้องการจัดเก็บรูปภาพ
    • รูปภาพเคลื่อนไหว มีได้หลายประเภท?ตัวอย่างเช่น
      • GIF สามารถบันทึกภาพได้เช่นเดียวกับรูปภาพปกติ
      • Flash Animation ไม่สามารถบันทึกได้ด้วยวิธีปกติ ต้องเข้าไปดูทีโฟลเดอร์ Temporary Internet Files และเลือกไฟล์ที่เราต้องการ ไฟล์จะมีนามสกุล .SWF
      • ไฟล์ วีดีโอ เช่น FLV เป็นต้น โดยเฉพาะกับเว็บไซต์ YouTube.com ที่ให้บริการข้อมูลภาพวีดีโอ ถ้าต้องการบันทึก ต้องใช้โปรแกรมพิเศษช่วย อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก? เทคนิคการ save ไฟล์วีดีโอจาก YouTube
    • รูป ภาพ?Lock ปกติหลายๆ เว็บมีการเขียนโปรแกรมป้องกันการคลิกขวา แต่ความเป็นจริงแล้ว เราสามารคลิกปุ่ม PrtScr (Print Screen) จากแป้นพิมพืได้ ดังนั้น lock ไม่อยู่แน่นอน
  4. เปิดเว็บมากกว่าหนึ่งเว็บพร้อมกัน
    • เรา สามารถเปิดเว็บมากกว่าหนึ่งเว็บพร้อมๆ กันได้ เพราะบางครั้งเว็บที่เราเข้าไป ยังโหลดข้อมูลไม่เสร็จ ดังนั้น เพื่อไม่เสียเวลา ลองเข้าไปดูอีกเว็บหนึ่งได้ สำหรับผู้ใช้งาน Windows Internet Explorer เวอร์ชั่นใหม่ จะมีความสามารถในการแสดงเว็บมากกว่าหนึ่งเว็บที่แสดงบนแท็ป ลองทดสอบโดยการคลิกเมนู File เลือก New Tab (ถ้ามี) จากนั้นให้พิมพ์ชื่อเว็บใหม่ที่ต้องการ
  5. ค้นหาเว็บทั่วโลก
    • เราสามารถใช้เว็บที่ให้บริการค้นหาเว็บทั่วโลกได้หลายรูปแบบ ทั้งนี้ขึ้นกับความต้องการค้นหาข้อมูลของเราว่า ต้องการแบบไหน
      • Web Search Engine เว็บที่ให้บริการค้นหาโดยเฉพาะ เพียงแค่พิมพ์ข้อความที่ต้องการในช่องค้นหา เช่น คำว่า "ไอที", "ฟรีแวร์" เป็นต้น คำเหล่านี้เราเรียกว่า Keyword และคลิกค้นหา แค่นี้เว็บนั้นๆ ก็จะแสดงรายชื่อของเว็บที่มีความเกี่ยวข้องกับ keyword ที่เราค้นหาให้? ตัวอย่างเว็บ Web Search Engine ระดับโลกได้แก่ www.google.comwww.bing.comwww.yahoo.com เป็นต้น
      • Web Directory หมายถึงเว็บที่มีจัดข้อมูลเป็นหมวดหมู่ไว้แล้ว เช่น หมวดคอมพิวเตอร์ หมวดท่องเที่ยว หมวดการศึกษา เป็นต้น ทำให้เราสามารถค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้อย่างรวดเร็ว เพียงแค่คลิกเลือกเว็บที่ต้องการเท่านั้น? ตัวอย่างเว็บ ได้แก่ www.sanook.comwww.kapook.com เป็นต้น
  6. Download โปรแกรมและข้อมูล
    • อีก หนึ่งบริการจากเว็บไซต์ที่เราเข้าถึง บางเว็บไซต์อาจมีบริการแจกฟรีโปรแกรม แจกรูปภาพ หรือจากวีดีโอ ซึ่งเราสามารถคลิกไฟล์เหล่านั้นได้ทันที ปกติ จะมี หน้าต่างแสดงรายละเอียดให้เรา download และคลิกและรอให้ download ข้อมูลจนเสร็จก่อนใช้งาน
    • ถ้าต้องการให้ download ได้เร็วสุดๆ นอกเหนือจากการซื้อ Internet Speed สูงๆ แล้ว เราจำเป็นต้องใช้โปรแกรมช่วยประเภท Download Manager สนใจอ่านรายละเอียดได้ที่ รวมมิตรโปรแกรมช่วย download ให้เร็วขึ้น
  7. ดูหนัง ฟังเพลง
    • ไม่ พูดไม่ได้เลย เพราะเป็นอีกหนึ่งวิธีการพักผ่อนโดยใช้อินเตอร์เน็ตเป็นตัวช่วย เราสามารถเข้าเว็บไซต์ที่ให้บริการดูหนัง ฟังเพลงออนไลน์ ได้ ไม่ว่าจะเป็น www.SiamTv.infowww.Youtube.com หรือ ค่ายเพลงดังๆ ของไทย เช่น GMM www.gmember.com เป็นต้น

จงบอกความหมายของคำต่อไปนี้

 1.) Browser หมายถึง เครื่องมือที่ช่วยให้คุณสามารถท่องเที่ยวไปในโลกอินเตอร์เน็ตได้อย่างไร้ขีดกั้นทางด้านพรมแดน นอกจากนี้ Browser ยังช่วยอำนวยความสะดวกในการเยี่ยมชมเว็บไซต์ต่างๆ ซึ่งในขณะนี้บริษัทผลิตซอฟแวร์ค่ายต่างๆ นับวันจะทวีการแข่งขันกันในการผลิต Browser เพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่นักท่องเว็บให้มากที่สุด หน้าตาของ browser แตกต่างกันไปตามแต่การออกแบบการใช้งานของแต่ละค่ายโปรแกรม

2.) Client หมายถึง  เครื่องที่ไปขอใช้บริการอย่างใดอย่างหนึ่งจาก Server เป็นระบบที่ทำงานในรูปแบบของความสัมพันธ์ของ Process ที่อยู่บนต่างเครื่องกันมีขอบข่ายการทำงานที่แบ่งแยกกันอย่างชัดเจน คือ process ที่ใช้เป้นตัวให้บริการอยู่ในเครื่องหนึ่ง ในคณะที่ Client Process เป็นตัวใช้บริการจะอยู่อีกเครื่องหนึ่ง

3.)  DNS ( Domain Name Server ) หมายถึง สิ่งที่นำมาอ้างถึงหมายเลขเครื่อง หรือ หมายเลข IP Address เพื่อให้ง่ายต่อการจดจำ DNS จะทำหน้าที่คล้ายกับสมุดโทรศัพท์ คือ เมื่อมีคนต้องการจะโทรศัพท์หาใคร คน ๆ นั้นก็จะต้องเปิดสมุดโทรศัพท์เพื่อค้นหาเบอร์โทรศัพท์ของคนที่ต้องการจะติดต่อคอมพิวเตอร์ก็เช่นกัน เมื่อต้องการจะสื่อสารกับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น เครื่องนั้นก็จะทำการสอบถามหมายเลข IP ของเครื่องที่ต้องการจะสื่อสาร กับ DNS server ซึ่งจะทำการค้นหาหมายเลขดังกล่าว ในฐานข้อมูลแล้วแจ้งให้ Host ดังกล่าวทราบ


4.) Download หมายถึง การโอนย้ายไฟล์หรือข้อมูลจากที่หนึ่งไปอีกทีหนึ่ง เช่น การโอนไฟล์หรือว่าข้อมูลมาจาก อินเตอร์เนต หรือว่า จากคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ เข้ามาบันทึกเอาไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา

5.) E-Mail ( Electronic Mail ) หมายถึง วิธีการติดต่อสื่อสารด้วยตัวหนังสือ แทนการส่งจดหมายแบบกระดาษ โดยใช้การส่งข้อมูลในรูปของสัญญาณข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ จากเครื่องหนึ่งไปยังผู้รับอีกเครื่องหนึ่ง

6.) Freeware หมายถึง ซอฟต์แวร์ที่สร้างขึ้นและสามารถนำไปใช้ได้ในทุกจุดประสงค์โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เช่นราคาขายหรือค่าลิขสิทธิ์ ฟรีแวร์เป็นลักษณะก้ำกึ่งระหว่างซอฟต์แวร์พาณิชย์และซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ซ คืออนุญาตให้กลุ่มผู้พัฒนามีส่วนร่วมในการสร้างซอฟต์แวร์ แต่ก็ไม่เผยแพร่รหัสต้นฉบับสู่สาธารณชนเพื่อรักษาความลับทางการค้า

7.) Homepage หมายถึง หน้าแรกที่แสดงข้อมูลของเว็บไซต์ หรือ //www.(World Wide Web) เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ หรือ เป็นการดึงดูด ให้เข้าไปชมข้อมูลภายใน  ซึ่งภายในโฮมเพจอาจมีเอกสารข้อความอื่นๆที่เรียกว่า เว็บเพจ (web page) เชื่อมโยงต่อจากโฮมเพจนั้นได้อีกเป็นจำนวนมาก

8.) Internet หมายถึง เครือข่ายคอมพิวเตอร์นานาชาติ ที่มีสายตรงเชื่อมต่อไปยังสถาบันหรือหน่วยงานต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้ทั่วโลก. ผู้ใช้เครือข่ายนี้สามารถสื่อสารถึงกันได้ทางอีเมล์ สามารถสืบค้นข้อมูลและสารสนเทศ รวมทั้งคัดลอกแฟ้มข้อมูลและโปรแกรมมาใช้ได้. อย่างไรก็ตาม มีผู้เปรียบเทียบว่า อินเทอร์เน็ตเป็นเหมือนทางหลวงระหว่างประเทศ แต่ละประเทศจะต้องมีถนนเข้ามาเชื่อมต่อเข้าไปในประเทศ กล่าวคือ จะต้องมีเครือข่ายภายในรับช่วงต่ออีกทอดหนึ่ง


9.) Server หมายถึง เครื่องคอมพิวเตอร์หรือระบบปฏิบัติการหรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่ทำหน้าที่ให้บริการอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง แก่เครื่องคอมพิวเตอร์หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เป็นลูกข่าย ในระบบเครื่อข่าย

10.) World Wide Web หมายถึง บริการค้นหรือเรียกดู ข้อมูลแบบหนึ่ง ในอินเทอร์เน็ต ข้อมูลในเวิลด์ไวด์เว็บ จะอยู่ในแบบสื่อผสม หรือมัลติมีเดีย (multimedia) ที่มีทั้งตัวอักษร รูปภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหวแบบวิดีโอ ข้อมูลจะถูกแบ่งเป็นหน้า ๆ แต่ละหน้าสามารถ เชื่อมโยงถึงกันได้เป็นแบบเครือข่ายคล้ายใยแมงมุม จากแหล่งต่าง ๆ ที่กระจายอยู่ทั่วโลก

11.) Web Site หรือ Web Server หมายถึง หน้าเว็บเพจหลายหน้า ซึ่งเชื่อมโยงกันผ่านทางไฮเปอร์ลิงก์ ส่วนใหญ่จัดทำขึ้นเพื่อนำเสนอข้อมูลผ่านคอมพิวเตอร์ โดยถูกจัดเก็บไว้ในเวิลด์ไวด์เว็บ หน้าแรกของเว็บไซต์ที่เก็บไว้ที่ชื่อหลักจะเรียกว่า โฮมเพจ เว็บไซต์โดยทั่วไปจะให้บริการต่อผู้ใช้ฟรี แต่ในขณะเดียวกันบางเว็บไซต์จำเป็นต้องมีการสมัครสมาชิกและเสียค่าบริการเพื่อที่จะดูข้อมูล ในเว็บไซต์นั้น ซึ่งได้แก่ข้อมูลทางวิชาการ ข้อมูลตลาดหลักทรัพย์ หรือข้อมูลสื่อต่างๆ ผู้ทำเว็บไซต์มีหลากหลายระดับ ตั้งแต่สร้างเว็บไซต์ส่วนตัว จนถึงระดับเว็บไซต์สำหรับธุรกิจหรือองค์กรต่างๆ การเรียกดูเว็บไซต์โดยทั่วไปนิยมเรียกดูผ่านซอฟต์แวร์ในลักษณะของ เว็บเบราว์เซอร์

12.) Web Browser หมายถึง โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่ผู้ใช้สามารถดูข้อมูลและโต้ตอบกับข้อมูลสารสนเทศที่จัดเก็บในหน้าเวบที่สร้างด้วยภาษาเฉพาะ เช่น ภาษาเอชทีเอ็มแอล (html) ที่จัดเก็บไว้ที่ระบบบริการเว็บหรือเว็บเซิร์ฟเวอร์ หรือระบบคลังข้อมูลอื่น ๆ โดยโปรแกรมค้นดูเว็บเปรียบเสมือนเครื่องมือในการติดต่อกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เรียกว่าเวิลด์ไวด์เว็บ

13.) Hypertext หมายถึง ข้อความ หรือกลุ่มของข้อความที่ถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน โดยมีการนำเสนอแบบปฏิสัมพันธ์ (Interaction) ด้วยการนำข้อความที่ใช้มาเป็นจุดเชื่อมโยง ซึ่งจะปรากฏในลักษณะที่เด่นกว่าข้อความอื่น เช่น การขีดเส้นใต้ การเน้นด้วยสี ตัวหนา หรือตัวเลือก เป็นต้นในยุกแรกที่มีการนำไฮเปอร์ลิ้งค์เข้ามาใช้ในคอมพิวเตอร์ ที่เห็นได้เด่นชัด ได้แก่ ข้อความในระบบช่วยเหลือของโปรแกรมต่างๆ



Create Date : 18 มิถุนายน 2555
Last Update : 18 มิถุนายน 2555 2:50:21 น.
Counter : 1403 Pageviews.

0 comments
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๗ มาช้ายังดีกว่าไม่มา
(2 ม.ค. 2567 07:30:30 น.)
๏ ... รามคำแหง แรงคำหาม ... ๏ นกโก๊ก
(2 ม.ค. 2567 14:22:51 น.)
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๗ มาช้ายังดีกว่าไม่มา
(2 ม.ค. 2567 07:30:30 น.)
พบเจอภาพอะไร? ส่วนหนึ่งของภาพน่าสนใจจึงตัดมาใช้ คุกกี้คามุอิ
(1 ม.ค. 2567 03:56:23 น.)
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Papayatop.BlogGang.com

papayatop
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]