ถึงจะไม่ใช่รุ่นที่(จะวาง)ขายในไทย (ขายผ่าน AT&T อเมริกา) แต่ก็น่าสนใจครับ สำหรับ "Samsung Infuse 4G" พระเอกรุ่นน้องสเปครอง Galaxy S II ที่คาดว่าจะเปิดตัวปลายเดือนนี้ ชูจุดเด่นด้านหน้าจอ AMOLED Plus 4.5 นิ้ว, รองรับการเชื่อมต่อ 4G และความบางสุดขั้วที่ 8.9 มิลลิเมตร และนี่คือคุณสมบัติเต็มๆ ของรุ่นนี้ ...

คุณสมบัติเด่น

- รองรับคลื่นความถี่ GSM Quadband , 3G HSDPA, HSPA+ (850/900/2100 MHz)

- บางเฉียบเพียง 8.9 มิลลิเมตร , น้ำหนัก 139 กรัม

- หน้าจอ Super-AMOLED Plus 4.5 นิ้ว ความละเอียด 800x480 พิคเซล

- ระบบปฏิบัติการ Android 2.2.1 , อินเตอร์เฟส TouchWiz 3.0

- ชิปซีพียู Hummingbird 1.2GHz , แรม 512MB

- เมมโมรี่ภายใน 16GB (เหลือใช้จริง 14GB) , เพิ่มเมมการ์ดได้อีก 32GB

- รองรับการเชื่อมต่อ WiFi 802.11 b/g/n , บลูทูธ 3.0

- กล้องความละเอียด 8 ล้านพิคเซล (+AF, แฟลช LED), บันทึกวิดิโอ HD720p

- แบตเตอรี่ Li-ion 1750 mAh

Hardware

Infuse 4G มีความบางเพียง 8.9 มิลลิเมตร เรียบไปเกือบตลอดทั้งเครื่อง ทำให้ตัวเครื่องดูไม่ใหญ่มาก (ทั้งๆ ที่โคตรบาน) , หน้าจอขนาด 4.5 นิ้ว (S-AMOLED Plus) ขอบหน้าจอบางใช้ได้ น้ำหนักตัวราวๆ 131 กรัม ถือว่าไม่หนักมาก สามารถพกพาใส่กระเป๋าได้สะดวก , ดีไซน์ตัวเครื่องเป็นทรงเหลี่ยมธรรมดา วัสดุตัวเครื่องส่วนใหญ่เป็นพลาสติก แต่ก็เป็นพลาสติกเนื้อดี จับถือกระชับมือ เพราะฝาหลังเป็นลายลูกฝูกนั่นเองครับ

ด้านหลังมีเพียงกล้อง แฟลช ลำโพงหลัก (ให้เสียงที่ดัง + ค่อนข้างดี) และเมื่อเปิดฝาหลัง (ที่บางมาก !) ออกมา จะพบกับช่องใส่ซิม, เมมโมรี่การ์ด และแบต 1,750 mAh สำหรับเมมภายในมีมาให้อยู่แล้ว 16GB ผมเชื่อว่าหลายท่านใช้ไม่ถึงครึ่งแน่นอน หากไม่ดูหนัง ฟังเพลง ถ่ายรูป หรือลงเกมมากเกินไป

Display

เป็นรุ่นแรกของโลกที่เปิดตัวมาพร้อมกับหน้าจอ "Super AMOLED Plus" (เปิดตัวก่อน Galaxy S II เดือนนึง) 4.5 นิ้ว ความละเอียด 800x480 พิคเซล ถือว่าน้อยไปหน่อย เมื่อเทียบกับขนาดหน้าจอ แต่ก็ยังคงแสดงผลได้ดีเยี่ยมอยู่ ทั้งสีสัน ความคม คอนทราสต์ และความสว่าง แถมยังคงจุดเด่นด้าน View Angles ที่แทบจะมองได้ทุกระดับไว้อีกด้วย

Battery

จากที่ Infuse 4G อัดแบตมาให้ 1,750 mAh ทำให้มันสามารถใช้งานได้นานขึ้น เพียงพอสำหรับ 1 วัน หากคุณใช้งานเล่นเน็ต ฟังเพลง โทรออก แต่ถ้าหากใช้งานโหดมาก หรือใช้เป็น WiFi hot-Spot ควรหาแบตเสริมมาเพิ่มจะดีกว่า

Connectivity

4G คือจุดขายของ "Infuse 4G" และเครือข่าย AT&T ที่ช่วงนี้กำลังแข่งขันกันดุเดือด จากสเปค สามารถรองรับสปีดได้สูงสุดถึง 21 Mbps อย่างไรก็ดี หากคุณอยู่ในเมืองใหญ่อย่าง New Yorks ส่วนมากสปีดจะวิ่งไม่ถึงครึ่งครับ เฉลี่ยอยู่ที่ราวๆ 2-4 Mbps เท่านั้น และความเร็วอัพโหลดไม่เกิน 1 Mbps ถือว่าค่อนข้างต่ำอยู่เหมือนกัน ส่วนการใช้งาน GPS จับสัญญาณได้เร็วพอใช้ครับ

Camera

กล้องรุ่นนี้ติดมาให้ 8 ล้านพิคเซล พร้อมออโต้โฟกัส, แฟลช LED คุณภาพรูปถ่ายทำได้ค่อนข้างดี ส่วน Video อัดได้ HD720p คุณภาพพอๆ กับ Galaxy S ตัวแรก โดยรวมแล้ว สามารถนำมาใช้งานแทนกล้องคอมแพคได้อยู่เหมือนกัน

ตัวอย่างวิดิโอ - รูปถ่าย

Wrap-Up

Samsung Infuse 4G เป็นสมาร์ทโฟนอีกรุ่นที่มาแรง คุณสมบัติค่อนข้างดี ทั้งหน้าจอ, แบตเตอรี่ ดีไซน์ แต่ตัวเครื่องใหญ่เกิน (คนไทยอาจถือมือเดียวไม่อยู่) ความสามารถยังเทียบกับ "Atrix 4G" ที่ขายผ่าน AT&T ไม่ได้ และมันยังไม่ใช่สมาร์ทโฟน 4G ที่ดีที่สุดในตอนนี้ครับ สำหรับราคาเปิดตัวอยู่ที่ 199.99 เหรียญ พร้อมติดสัญญา 2 ปี เริ่มขายตั้งแต่ 15 พฤษภาคมเป็นต้นไป อ่อ .. หิ้วมาใช้บ้านเราได้นะครับ รองรับ 3G True, Dtac, TOT ขอแค่ปลดล็อคให้ผ่านก็จัดมาได้เลย : )

ที่มา & เรียบเรียงใหม่จาก : Engadget