~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ เวียดนามเหนือ ตอนที่ ๑ ไนท์มาร์เก็ต อ่าวฮาลองเบย์ และนั่งรถซิคโล่ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ อย่างที่เคยบอกไว้นะคะว่าเมื่อปลายกรกฎาคมที่ผ่านมาเราได้มีโอกาสไปเวียดนามเหนือ (ซึ่งคงต้องแจ้งแก่บรรดาแมวๆ และหมีๆ ว่าแผนการเดินทางไปเวียดนามกลาง เว้-ดานัง-ฮอยอัน ยังไม่เปลี่ยนแปลงนะจ๊ะ (ยกเว้นจะเผลอใช้ตังค์ไปกับงานอื่นซะหมด กร๊ากกกกก) อย่าเพิ่งน้อยอกน้อยใจไปเน้อ) นอกจากนั้น ทริปนี้ทางบริษัทที่ให้เราไป ไม่ซีเรียสเรื่องเอากล้องไป เราก็เลยสามารถที่จะมีรูปมารีวิวให้เพื่อนๆ บล็อกแกงค์ดูได้ค่ะ (แต่รูปบางช่วงก็ไม่มี เพราะอย่างไรก็ต้องบริการลูกทัวร์เป็นหลักไว้ก่อนน่ะนะคะ) สำหรับการท่องเที่ยวเวียดนามนั้น ที่ประทับใจสาวไกด์ฯ จะมีอยู่ทริปหนึ่งที่ได้ไปท่องเที่ยวทั้งเวียดนามเหนือ-กลาง (เฉพาะเว้ค่ะ) ใต้ ซึ่งทำให้เห็นข้อแตกต่างระหว่างแต่ละภาค รวมทั้งครั้งหลังๆ ที่เทียวไประหว่างเวียดนามเหนือกับใต้ก็ทำให้เห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจนขึ้นค่ะ ๑. เวียดนามเหนือ ที่เที่ยว - จุดเด่นก็คือ อ่าวฮาลองเบย์ (คล้ายๆ อ่าวพังงาบ้านเรา) มีถ้ำที่สวย สำหรับฮานอย ก็มีวัดที่น่าสนใจเยอะ รวมทั้งเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับลุงโฮฯ และที่เราชอบที่สุดคือหุ่นกระบอกน้ำ ซึ่งที่นี่..ไกด์ท้องถิ่นบอกว่าเป็นต้นกำเนิดค่ะ (ตอนครั้งแรกที่เราไปเวียดนามเหนือ ตอนนั้นที่โฮจิมินห์ยังไม่มีหุ่นกระบอกน้ำให้ดูเลยค่ะ) อาหาร ถ้าเทียบกับอีกสองภาค รสชาติของอาหารเวียดนามเหนือจะค่อนข้างจืดมากสุด (คล้ายกับอาหารเหนือของไทยเมื่อเทียบกับอาหารภาคอื่นแหละค่ะ) ซึ่งเท่าที่สำรวจจากคนที่เคยไปทั้งสามภาค ลงความเห็นว่า อาหารภาคนี้ถูกปากน้อยที่สุดค่ะ ช้อปปิ้ง ถ้าได้ไปอ่าวฮาลองแบบค้างคืนและได้ที่พักไม่ไกลจากไนท์มาร์เก็ต การช็อปปิ้งที่ไนท์มาร์เก็ตก็น่าสนใจ เพราะจะมีสินค้าหลายตัวที่ถูกกว่าถนน ๑๖ สาย (ซึ่งจะกล่าวต่อไป) และจะมีที่ถนน ๑๖ สายด้วย แต่สำหรับการช้อปปิ้ง เรายังชอบที่เวียดนามใต้มากกว่านะคะ ๒. เวียดนามกลาง ที่เที่ยว จะเหมาะกับคนที่ชอบประวัติศาสตร์ หรือดูวิถีชีวิต งานฝีมือ เพราะมีทั้งเว้ซึ่งเป็นเมืองหลวงที่บรรดากษัตริย์เคยอยู่กันเป็นระยะเวลานาน (คล้ายๆ อยุธยาบ้านเราค่ะ) ซึ่งก็จะมีทั้งสุสาน วังเก่าๆ วัด แล้วก็สำหรับดานัง ฮอยอัน (ซึ่งจขบ.ยังไม่เคยไป แหะๆ) ก็จะเน้นพวกการเดินดูบ้านเมือง งานฝีมือต่างๆ นานามากกว่า อาหาร เป็นจุดเด่นที่สุด (สำหรับสาวไกด์ฯ) เพราะที่นี่จะทานรสชาติค่อนข้างเผ็ดกว่าภาคอื่นๆ อันสืบเนื่องมาจากเคยมีกษัตริย์เวียดนามได้มาพึ่งพระบรมโพธิสมภารกษัตริย์ไทยในสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชและพระบาทสมเด็จพระพุทยอดฟ้าจุฬาโลก และก็ได้กลับไปกู้เวียดนามพร้อมกับตั้งเมืองขึ้นเป็นราชธานี ก็คือ องเชียงสือ หรือเมื่อสถาปนาแล้วก็คือ กษัตริย์ยาลองนั่นเองค่ะ ขนมก็มีขนมหลากหลายชนิดแล้วก็ออกแนวชาววังๆ หน่อยๆ ด้วย (เสียดาย ร้านที่เคยได้ไปกิน น่าจะไปได้ค่อนข้างยากพอควร เพราะห่างตัวเมืองเว้ ไม่งั้นจะไปกินที่นั่นอีกรอบ) แล้วก็ที่ประทับใจมาไม่ลืม ซึ่งไกด์บอกว่ามีเฉพาะที่ภาคกลางคือ เค้ามีปูไข่ แบบ..ปูไข่จริงๆ น่ะค่ะ แทบไม่มีเนื้อเลย ตัวกระดองนี่ปูดออกมาเพราะไข่น่ะ เวลาเปิดกระดองมานี่ จะมีแต่ไข่เต็มกระดอง แล้วถ้ากินกับน้ำจิ้มซีฟู้ดของไทยด้วยแล้ว โอ้..สวรรค์มากๆ ค่ะ นึกแล้วก็น้ำลายไหล เอื๊อกกกกก ช้อปปิ้ง ที่นี่จะไม่ได้มีตลาดช้อปปิ้งใหญ่ๆ เหมือนอีกสองภาคนะคะ ส่วนใหญ่จะเป็นร้านๆ ทั่วๆ ไปมากกว่า (แต่อย่างที่บอก ไม่รวมดานังกับฮอยอันซึ่งข้าพเจ้ายังไม่เคยไปนะคะ) ๓. เวียดนามใต้ ที่เที่ยว มีสถานที่สวยๆ อย่างทำเนียบรัฐบาล ความโหดร้ายของสงครามอย่างพิพิธภัณฑ์สงคราม และสุดยอดของการแสดงให้เห็นถึงความมานะพยายามและหัวสมองอันชาญฉลาดของคนเวียดนาม คือ อุโมงค์กู๋จีค่ะ แล้วก็ไนท์ไลฟ์ถือว่ามีสีสันที่สุดแล้วของเวียดนาม อาหาร อยู่ในระดับโอเค คือไม่จืดชืดเกินไป แต่ก็ไม่ได้จัดจ้านเหมือนภาคกลาง ผักเยอะค่ะ ถ้าใครชอบกินผักน่าจะชอบ เพราะภูมิอากาศของเขาเหมาะสำหรับการปลูกผักมากกว่าภาคเหนือ ช้อปปิ้ง เป็นภาคที่เราชอบเรื่องการช้อปปิ้งมากที่สุดแล้วค่ะ เพราะที่นี่มีตลาดเบนถัน ที่เหมือนๆ กับจตุจักรบ้านเรา แต่เค้ามีหลังคานะคะ เป็นตลาดในร่มน่ะค่ะ สินค้ามากมายหลากหลายมาก อยู่ ๔ ชั่วโมงก็เหมือนแป๊บเดียวค่ะ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสาวๆ ทั้งหลาย) ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็เป็นข้อมูลการท่องเที่ยวเวียดนามแบบคร่าวๆ นะคะ ต่อไปก็เชิญเข้าสู่ทริปการเดินทางของสาวไกด์ได้เลยค่ะ สำหรับการเดินทางไปในครั้งนี้ สาวไกด์ฯ ใช้บริการของการบินไทยค่ะ ซึ่งบินไปถึงที่โน่นก็ราวๆ เกือบๆ สิบเอ็ดโมงแล้ว (สิบโมงหน่อยๆ) แต่ถ้าเป็นแอร์เอเชียจะบินเช้ากว่าค่ะ ถึงเร็วกว่า ดังนั้นเมื่อไปถึงก็ไปรับประทานอาหารกลางวันเลย ซึ่งร้านนี้ก็อยู่ระหว่างทางของการเดินทางจากสนามบินไปก่อนเข้าตัวเมือง (แต่โปรแกรมเราจะแว้บออกไปที่ฮานอยก่อนเลย เพราะฉะนั้นก็เป็นร้านอาหารที่เหมาะสำหรับการทำโปรแกรมเช่นนี้นะคะ) ก็คือร้าน Sen นั่นเอง ซึ่งมีสัญลักษณ์เป็นรูปดอกบัวค่ะ เป็นลักษณะของบุฟเฟท์นะคะ มีทั้งอาหารทะเล อาหารพื้นเมืองเวียดนาม มีทั้งเป็นไลน์อาหารหลักและซุ้มอาหารพื้นเมืองต่างๆ ค่ะ  ตัวร้านอาหารที่นี่มีหลายบริเวณด้วยกันค่ะ ปกติเราจะได้กินอาคารแรกๆ แต่วันนี้ได้กินที่อาคารในสุด บรรยากาศดีมากค่ะ เพราะได้เห็นบึงบัวด้วยหละ   ส่วนอันนี้คือที่จขบ.รับประทานในมื้อนั้น  ตัวก๋วยเตี๋ยวหมูย่าง (จานที่อยู่ไกล) นี่อร่อยมากค่ะ กินเพลินดี ตัวที่อยู่ในถ้วยนี่เหมือนโยเกิร์ตน่ะค่ะ แล้วก็เอาข้าวแดงหมัก (เหมือนข้าวหมากบ้านเรา) โปะมา จากนั้นก็ผสม คนคลุกเคล้าให้เข้ากัน อร่อยโลดค่ะ   หลังจากอิ่มหนำสำราญเรียบร้อยแล้ว ก็เดินทางต่อไปยังอ่าวฮาลองเบย์ ซึ่งอยู่ห่างจากฮานอยไปราวๆ สามชั่วโมงหน่อยๆ แต่รวมแวะที่จุดแวะพักแล้วก็ราวๆ ๔ ชั่วโมงค่ะ ซึ่งจุดแวะพักส่วนใหญ่ก็เป็นร้านค้าน่ะนะคะ ไม่ว่าจะเป็นร้านขายยาจีน ร้านขายงานฝีมือของคนพิการ ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่ก็บอกลูกค้าว่าแค่ๆ ไปชมค่ะ เพราะราคาค่อนข้างสูงอยู่เหมือนกัน (ยกเว้นร้านยาจีน ที่นี่เค้าผลิตบัวหิมะได้ถูกกว่าที่จีนค่ะ) ระหว่างทางก็จะเห็นนาข้าวเขียวชอุ่มเป็นระยะค่ะ เวียดนามสามารถทำนาได้ถึง ๔ ครั้งต่อปีนะคะ เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวมากๆ ของไทยในตลาดข้าวของโลกค่ะ   ถึงฮานอยก็เย็นย่ำ ก็เลยไปรับประทานอาหารกันก่อนค่ะ มื้อนี้เป็นซีฟู้ด จากนั้นก็เดินทางเข้าสู่โรงแรม Heritage Halong ซึ่งเป็นโรงแรมระดับ ๔ ดาวค่ะ ข้อดีของโรงแรมนี้คือ ทำเลค่ะ เพราะเข้าซอยจากถนนใหญ่ซึ่งเลียบอ่าวไปนิดเดียว หากเดินมาที่ถนนใหญ่ข้ามถนนไปก็เจอกับไนท์มาร์เก็ตแล้ว (รายละเอียดโรงแรม จะแยกรีวิวอีกอันนะคะ จะเอาไว้ในกรุ๊ปบล็อกค่ำไหนนอนนั่นค่ะ)  สำหรับตลาดไนท์มาร์เก็ตที่นี่ ของที่ถูกกว่าที่ขายที่ตลาด ๑๖ สายในฮานอยคือบรรดาของก็อปปี้ค่ะ (อันนี้ลูกทัวร์คอนเฟิร์มมานะคะ เพราะข้าพเจ้าไม่เคยซื้อของที่นี่ง่ะ) อาจเป็นเพราะใกล้จีน (ซึ่งเป็นแหล่งผลิตหลัก) มากกว่าฮานอยก็เป็นได้ค่ะ แต่นอกจากของก็อปปี้แล้วก็มีสินค้าต่างๆ ที่น่าเดินดูหรือซื้อเมื่อถูกใจไม่น้อยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นของที่ระลึกหรือเสื้อค่ะ (แต่ที่ฮานอย ทั้งที่ ๑๖ สายและตามสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งจะมีชาวบ้านถือของมาขายเองนั้น เสื้อจะถูกกว่าค่ะ) เสื้อที่นี่จะขายราวๆ ตัวละ ๖๐ บาท แต่ถ้าไปซื้อที่ร้านขายของที่ระลึกช่วงเดินจากบ้านลุงโฮฯ ไปเจดีย์เสาเดียว ลูกค้าต่อได้ตัวละ ๔๐ บาทค่ะ (ประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมา ลูกทัวร์มักได้ของราคาถูกกว่าไกด์อยู่บ่อยๆ ค่ะ ลูกทัวร์กล้าต่อกว่าเราเยอะ หรือจะเป็นเราคนเดียวก็ไม่รู้)  แต่คนจะเที่ยวไนท์มาร์เก็ตได้ ต้องเลือกที่จะค้างที่ฮาลอง ๑ คืนนะคะ เพราะคนที่ไปเที่ยวเองส่วนใหญ่ มักเลือกพักที่ฮานอย แล้วนั่งรถมาเที่ยวฮาลองแบบไป-กลับเท่านั้น ซึ่งในความเห็นส่วนตัวของเรา เราว่ามันเหนื่อยไปน่ะค่ะ จากนั้นก็พักผ่อนก่อนจะเที่ยวชมอ่าวฮาลองในวันรุ่งขึ้นค่ะ วันรุ่งขึ้นเราก็เดินทางไปยังท่าเรือ คนมากมายมหาศาลจริงๆ ค่ะ ถ้าท่านใดจะไปห้องน้ำ หันหน้าเข้าหาท่าเรือ (อ่าว) ห้องน้ำจะอยู่ทางขวามือสุดๆ ของลานจอดรถนะคะ จากนั้นก็ลงเรือล่องอ่าว ซึ่งมีหลายเจ้าอยู่ค่ะ ส่วนใหญ่ก็ไม่ต่างกันมาก (ถ้าไม่ใช่เรือแบบค้างคืนน่ะนะคะ) คือ มีทั้งชั้นล่างซึ่งมีที่นั่งมีโต๊ะ สามารถรับประทานอาหารในเรือได้ ชั้นบนเป็นดาดฟ้า ให้ขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ได้ค่ะ สำหรับอ่าวฮาลองนั้นแปลว่า อ่าวที่มังกรร่อนลงค่ะ มีตำนานเล่าว่า มีคนเคยเห็นมังกรสองแม่ลูกร่อนลงที่อ่าวแห่งนี้ ซึ่งก็เชื่อกันว่า เมื่อไหร่ที่เกิดอันตรายใหญ่หลวงขึ้นกับคนแถวนี้ มังกรสองแม่ลูกก็จะออกมาช่วยเหลือค่ะ นอกจากนั้นอ่าวฮาลองยังเกี่ยวพันกับการต่อสู้กับชนชาวจีน ที่ยกทัพเรือมา แล้วก็โดนล่อหลอกให้เข้าไปยังแม่น้ำ โดยมีขวากปักอยู่ใต้แม่น้ำ ทำให้เรือของจีนแตกและพ่ายแพ้ไปในที่สุด และยังเคยมีคนพบขวาก (ทำด้วยไม้ เหลาปลายแหลมค่ะ) ในถ้ำบางถ้ำของอ่าวฮาลองด้วยค่ะ จุดหมายแรก (ซึ่งเป็นจุดหมายเดียวที่ลงเดินเที่ยวได้สำหรับการเที่ยวแบบไม่ค้างคืนและไม่ได้อยู่เต็มวัน) ก็คือถ้ำค่ะ วันนี้คนเยอะสุดๆ ปากทางขึ้นถ้ำก็ต้องไต่บันไดขึ้นไปพอสมควร แต่ภายในก็มีการประดับไฟ และมีเรื่องราวเล่ามากมายค่ะ (แนะนำว่าให้ตามติดไกด์ท้องถิ่นไปให้ดีค่ะ แต่ต้องขอบอกก่อนว่า ไกด์ท้องถิ่นเองก็เล่าเรื่องไม่เหมือนกันในหลายๆ ข้อมูลนะคะ เหอๆ) แต่ที่นี่หินงอกหินย้อยสวยงามจริงๆ ค่ะ   หลังจากล่องเรือเสร็จ ก็ไปแวะที่กระชังเพื่อเลือกซื้ออาหารทะเลเพิ่มเติมค่ะ ซึ่งกรุ๊ปนี้ก็ซื้อเพิ่ม (พอดีเซลส์เค้าให้งบมาซื้ออาหารเพิ่มค่ะ) เป็นกั้งกับกุ้ง ก่อนจะรับประทานกัน ซึ่งกรุ๊ปนี้ วิวทิวทัศน์แทบไม่ได้ดูค่ะ เห็นแต่ปู กุ้ง ฯลฯ ที่อยู่บนโต๊ะ จากนั้นเราก็กลับมาถึงที่ท่าเรือตั้งแต่ก่อนเที่ยง แล้วก็รีบตีกลับไปยังฮานอยค่ะ แวะระหว่างทางหนึ่งจุดเหมือนเดิม โดยวิ่งผ่านโรงแรมที่จะพักคืนนี้ (Vesna Hotel แยกรีวิวเช่นกันค่ะ) เข้าสู่ฮานอย ไปยังบริเวณใกล้ๆ กับโรงแรมฮิลตัน ซึ่งก็อยู่ใกล้ๆ กับ Opera House ของเขาอีกทีค่ะ เพื่อจะให้ทุกคนได้นั่งรถซิคโล่ Cyclo ชมเมืองกันค่ะ นั่งกันแค่ประมาณ ๓๐ นาทีเท่านั้นนะคะ (ที่จริงจะเอานานกว่านั้นก็ได้ แต่เนื่องจากกรุ๊ปนี้ต้องดูหุ่นกระบอกตอนรอบสองทุ่ม (รอบสามทุ่มเต็ม) จึงต้องทำเวลาค่ะ)    ตอนนี้ที่เวียดนามบังคับให้ใส่หมวกกันน็อกกันแล้วค่ะ แล้วก็สำหรับท่านใดที่ยังไม่เคยไปเวียดนาม ขอบอกว่าให้ทำใจเรื่องรถมอเตอร์ไซค์อันมีจำนวนมหาศาล เสียงแตรที่เขากดกันกระหน่ำ (แต่ก็น้อยลงเรื่อยๆ นะคะ) และการเดินข้ามถนนที่ต้องตัดสินใจข้ามไปเลย อย่าหยุดชะงัก อย่าวิ่ง ให้เดินเรื่อยๆ แล้วเค้าจะหลบเราเองค่ะ  รถมอเตอร์ไซค์ที่นี่แพงมากนะคะ ถ้าเป็นของญี่ปุ่น ราคาคันละ ๒-๓ แสนค่ะ (ไกด์บอกตรงกันหมดนะคะ) มีอยู่ช่วงหนึ่ง รถมอเตอร์ไซค์ของจีนเข้ามาขาย ซึ่งคนเวียดนามก็เปลี่ยนไปซื้อกันเยอะเหมือนกัน แต่ปรากฏว่าเสียง่าย พังเร็ว ถูกกว่าก็ไม่คุ้มค่าค่ะ ไปๆ มาๆ ก็เลยกลับมาซื้อรถญี่ปุ่นอยู่ดี จากนั้นก็จะเป็นการเที่ยววัดหงอกเซิน และดูหุ่นกระบอกน้ำค่ะ แต่ขอยกยอดไว้ที่คราวหน้านะคะ 231709/3550/274
ตามมาเที่ยวค่า รูปตรงทุ่งน่าบรรยากาศชุ่มฉ่ำ เขียวขจีดีจิงๆ เลย
 โดย: i_nookae
 วันที่: 25 สิงหาคม 2551 เวลา:9:15:00 น.ไปเที่ยวด้วยคนค่ะ เคยไปแต่ฮานอย และได้นั่งซิคโคล่ครั้งนึง โอ้ เสียวดีค่ะ คนนั่งอยู่ข้างหน้า แถมการจราจรของเค้าเด็ดจริงๆ คิคิ
โดย: วิสกี้โซดา
วันที่: 25 สิงหาคม 2551 เวลา:9:43:11 น....
เป็นเพราะไปช่วงฝนตกป่าวครับ? ดูเปียกๆทุกภาพเลย อิอิ  ป.ล. ขอบคุณที่ไปอวยพรวันเกิดกันครับผม  ป.ล. 2 แล้วหนังสือ...ยังคงหมดสต๊อกอยู่เหรอครับ? (ถามดูเฉยๆนะพี่) โดย: The Legendary Midfielder
วันที่: 25 สิงหาคม 2551 เวลา:9:44:29 น.อู้วู๊....สนใจก๋วยเตี๋ยวหมูย่างที่สุดอ่ะค่า หิวๆๆๆๆ
อยากไปๆๆๆ ตัวไม่ได้ไป แต่ฝากใจไปด้วยคนนะคะ คริ คริ โดย: โมกสีเงิน
วันที่: 25 สิงหาคม 2551 เวลา:9:49:12 น.โดย: katoy
วันที่: 25 สิงหาคม 2551 เวลา:9:54:02 น.ไปเวียดนามเหนือมาเมื่อตอนต้นปีก็รู้สึกว่าจะไปที่เดียวกันเนี่ยแหละค่ะ
ตอนที่ไป ZEN เป็นตอนค่ำค่ะ แต่ตอนไปซวยมากเจอทัวร์จีนไร้มารยาท ทำเอาเซ็งอาหารหมดอร่อยไปเยอะ เบาะรถลายนี้เห็นบ่อยเหมือนกัน ที่เปรี้ยวคือ คนขับเป็นผู้หญิงใส่ส้นสูงปรี๊ดขี่มอร์ไซค์ เก๋กู้ดมาก ๆ เลย ตอนข้ามถนน ไกด์เขาก็บอกอย่างนี้แหละ ว่าให้เดินไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวเขาหลบเราเอง ที่ยากคือ ก้าวแรกที่เอาเท้าลงไปบนถนนนี่สิ ใจไม่กล้าพอ โดย: กระปุกกลิ้ง IP: 203.150.232.78 วันที่: 25 สิงหาคม 2551 เวลา:10:01:57 น.
ตั้งหน้าตั้งตารอชมบล็อคเวียดนาม ในที่สุดก็สมใจเสียที
 โดย: ตะไคร้หอม
วันที่: 25 สิงหาคม 2551 เวลา:10:06:03 น.เป็นอีกประเทศนึงที่อยากไปค่ะ โดยเฉพาะฮาลองเบย์นี่ อยากไปยลมากๆ
ป.ล. ชอบตุ๊กตาไม้จังเลย แพงมั้ยคะ โดย: เบบูญ่า
วันที่: 25 สิงหาคม 2551 เวลา:10:07:47 น.อยากจะไปเที่ยวบ้างจังเลยค่ะ
อยากไปอ่าวฮาลองเบย์อ่ะ โดย: หัวใจสีชมพู
วันที่: 25 สิงหาคม 2551 เวลา:12:30:27 น.แวะมาทักทายครับ ช่วงนี้ก็ทำงานกับเลี้ยงลูกเป็นหลักครับ เลยไม่ได้เข้าบล๊อกเลย
 ผมไปโฮจิมินห์มาสองครั้งแล้ว และคงจะไปอยู่เรื่อยๆ เพราะมีงานที่ไปช่วยเขาดูอยู่ที่นั่นจนถึงสิ้นปี พอไม่ได้ชอบช้อปปิ้ง ตลาดเบี๋ยนถ่านก็เลยไม่มีความหมายสำหรับผมไปเลย (ของคุณสาวไกด์ฯ ใช้เวลา 4 ชั่วโมง ของผมเดินผ่านอย่างเดียวใช้เวลา 4 นาที  )ไปดูพิพิธภัณฑ์สงครามมาแล้ว ก็หดหู่ดีครับ เหลือแต่ถ้ำกู๋จีที่ว่าจะหาจังหวะไปดู เรื่องการจราจรและมอร์เตอร์ไซค์ที่นี่เขาเวียนหัวจริงๆ ครับ ที่สุดของที่เคยพบเห็นแล้ว... โดย: คนทับแก้ว
วันที่: 25 สิงหาคม 2551 เวลา:13:00:02 น. เวียดนามตุ๊กชอบ Hue กับ Mui Ne คะคุณไกด์ หากได้กลับไปอีกก็จะไปอีก บล็อกคุณไกด์ทำให้อยากเที่ยวอีกแล้วละคะ อยากกินก๋วยเตี๋ยวหมูย่างด้วย ง่ำๆๆ โดย: marinesnow
วันที่: 25 สิงหาคม 2551 เวลา:14:01:24 น.น่าไปดีครับ เวียดนามผมเคยได้ยินเพื่อนมันเล่าให้ฟังว่า คนชอบโกงชาวต่างชาติ ขนาดซื้ออาหาร มันยังคิดราคาไม่เท่ากันเลย แถมเพื่อนผมมันจับได้ว่าโดนโกง เลยถามแม่ค้าว่า "ทำไมราคาไม่เท่ากัน" แม่ค้าบอกเท่ากันก็ได้ ยังดีที่ประเทศไทยไม่ค่อยมีชื่อเสียทางด้านนั้น
ถ้าไม่พูดถึงข้อเสียผมว่าน่าเที่ยวเลยหละ โดย: นายต่อ Ver.ต่างแดน (toor36
) วันที่: 25 สิงหาคม 2551 เวลา:15:17:49 น.+ กี๊ซซซ ครูเต้ยอัพบล็อกเวียดนามเหนือแล้ว ... เห็นแบบนี้แล้ว สงสัยพี่ต้องอัพตามบ้างอ่ะครับ อุตส่าห์ไปมาก่อนตั้งหลายเดือนแต๊ๆ อุๆ
 + ข้อสรุปเวียดนาม 3 โซนของครูเต้ย ได้ประโยชน์มากๆ เลยครับ (เพราะคงมีคนจำนวนไม่มากนัก ที่ได้ไปเยือนครบทั้ง 3 โซนเยี่ยงนี้)  + ของพี่เคยไปแค่เวียดนามเหนือ (ครั้งที่แล้ว) ... แต่ถ้าจากบรรยากาศที่อ่านมา พี่ว่าอย่างพี่น่าจะชอบเวียดนามกลาง แถบเว้ - ฮอยอัน - ดานัง มากที่สุดอ่ะครับ  + เอ๋! เง็งนิดๆ ครูเต้ยยังเป็นครูสอนเดะๆ อยู่มิใช่หรือครับ? แล้วอุตส่าห์มีเวลาแว้บรับจ๊อบไปเป็นไกด์เที่ยว ตปท. ได้อีกด้วยเหรอเนี่ย  + เรื่องรสชาติอาหาร พี่ว่าพี่โอเชนะครับ (อาจเป็นเพราะพี่ทานจืดอยู่แล้ว) แต่คนร่วมทริปส่วนใหญ่จะบ่นว่าจืดไปจริงๆ แหละอ่า  + ของพี่ก็ได้ทานบุฟเฟ่ต์ชานเมืองฮานอยร้านนึงครับ (จำชื่อไม่ได้แล้ว ต้องไปเปิดบันทึก) แต่รู้สึกว่าจะไม่ใช่ร้าน sen อ่า  + ตอนพี่ไป ได้พักค้างที่ฮาลองเบย์คืนนึงเหมือนกันครับ ก็เลยมีโอกาสได้ไปเดินตอนค่ำๆ ด้วย (แต่ตลกดี ไปกลางเดือนกุมภา อากาศยังหนาวเยือก 10 องศาอยู่เลย แต่เมืองไทยตอนนั้นร้อนแล้ว ... เหมือนตอนไปเมกาปีที่แล้ว เกือบจับไข้ เจอฤดูใบไม้ผลิ 5 องศาเข้าไปอ่า  )+ ถ้ำนั้น พี่ก็ได้ไปเดินเหมือนกัน (ก็มันมีถ้ำเดียวนี่เนอะ อุๆ) สวยดีเนอะครับ  + หุ่นกระบอกน้ำก็ได้ดู แต่ไม่ได้นั่งสามล้อชมเมืองแฮะ  + พี่ออกจะไม่ชอบฮานอย ส่วนนึงเพราะเรื่องการจราจรนี่แหละครับ นอกจากไร้ระเบียบโดยสิ้นเชิง (กรุงเทพฯ ดูดีขึ้นมาทันตา) แล้วยังทำไมต้องบีบแตรกันสนั่นหวั่นไหวขนาดนั้นด้วย อยู่แล้วอกสั่นขวัญแขวนอ่า  + ครูเต้ยรีวิวแนวนี้ก็ดีครับ (ข้อมูลเยอะๆ) เพราะของพี่คงออกมาไม่คล้ายกันเท่าไหร่ ... ถ้าจะเอาทริปเวียดลงจริงๆ พี่คงทำเสร็จได้โพสต์ซักกลางๆ อาทิตย์ ตามไปชมได้นะคร้าบ โดย: บลูยอชท์
วันที่: 25 สิงหาคม 2551 เวลา:16:46:54 น.แวะไปทริปนี้ด้วยคนนะคะ อ่านเพลินเลย
และก็เลยได้หวังไว้ว่าสักวันอาจจะได้ไปบ้างค่ะ ภาพรวมของการท่องเที่ยวเวียดนามแบบ บอกส่วนดี เสีย ของแต่ละส่วนเอาไว้ มองเห็นภาพเลยคะ .. แบบว่าเห็นภาพแบบนี้แล้ว อยากไปก็จะได้ตัดสินใจง่ายเลยว่า น่าจะใช้เวลาส่วนไหนมากน้อยยังไงนะคะ ^^ โดย: JewNid
 วันที่: 25 สิงหาคม 2551 เวลา:22:19:55 น.เวียดนาม เป็นประเทศที่เกือบได้ไป แต่ดันชวดซะก่อน
แต่ยังไงก็จะไปให้ได้ละนะ โดย: ratta
วันที่: 26 สิงหาคม 2551 เวลา:0:40:10 น.
หวัดดีค่ะ กาแฟเข้มๆ หน่อยมั๊ยคะครูเต้ย โดย: หอมกร
วันที่: 26 สิงหาคม 2551 เวลา:9:19:27 น.หวัดดีคับ
เข้ามาตอบว่า โปรแกรม Photo Scape ใช้ดี ใช้ง่ายจิงๆ ลองโหลดไปเล่นดูนะคับ โดย: chalawanman
วันที่: 26 สิงหาคม 2551 เวลา:11:53:51 น.ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณก่อนเลยที่แวะไปเจิม เป็นท่านแรกครับ..
ผมเคยมีโอกาสได้ไปฮานอย 2 รอบ (รอบหลังนี่หนักครับ ตกเครื่องเคว้งอยู่คนเดียว) ชอบหลายอย่างครับ ฝูงจักรยาน(ทั้งยนตร์ และไม่ยนตร์) อาหาร และที่ขาดไม่ได้คือ สาวเวียตนามครับ น่ารัก..อิอิ  โดย: Tentty
วันที่: 26 สิงหาคม 2551 เวลา:13:36:45 น.ตามไปเที่ยวเวียตนามเหนือด้วยคน อยากไปมาก ๆ เพราะชอบกินแหนมเนืองกับเฝอเป็นชีวิตจิตใจอิอิ...
อ้อ...แอบเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ติชนัทฮันห์ด้วย ทำให้สนใจบ้านนี้เมืองนี้เป็นพิเศษ(เคยไปกราบท่านที่หมู่บ้านพลัมด้วยแหละ) โดย: แม่ไก่
วันที่: 26 สิงหาคม 2551 เวลา:17:20:12 น.ดีใจค่ะที่ได้แวะมาอ่าน
ได้เห็นเวียดนามอีกหนึ่งมุมมองผ่านกล้องบ้านนี้ไงคะ .... ไม่รู้จะมีโอกาสบ้างรึเปล่า?  ....  โดย: MeMoM
วันที่: 26 สิงหาคม 2551 เวลา:18:46:06 น.อยากไปบ้าง...
(ยังไม่ได้อัพบล็อก แต่แวะเข้ามาในบล็อกแกงค์เพราะเบื่อๆ กับเหตุการณ์บ้านเมืองวันนี้) โดย: ปรีดา (Aka Prita
) วันที่: 26 สิงหาคม 2551 เวลา:22:34:42 น.รู้สึกแผนเที่ยวเยอะจัง 55
เนื่องจากการไปอยุธยา เลยคุยๆ กันไว้ ว่าคราวหน้าจะไปสุโขทัยอ่ะ แต่ยังไม่รู้เมื่อไหร่ ปล. //www.pantip.com/cafe/food/topic/D6913672/D6913672.html โดย: rebel
วันที่: 27 สิงหาคม 2551 เวลา:7:27:28 น.สวัสดีจ้าคุณสาวไกด์
ไม่ได้คุยกันนานมากมาย ตามไปเที่ยวเวียดนามเหนือด้วยคน อยากไปมากเลยอ่า  เรื่องหนังสือ ที่ต้องรอ 6 ปี เป็นเพราะมันเป็นภาคต่อของรักเธอเสมอใจ ซึ่งเรื่องนั้นติดสัญญากับอีกค่าย อยากพิมพ์ให้เป็นชุดเดียวกัน ก็เลยรอให้เล่มแรกหมดสัญญาก่อนค่ะ รอจนเหนื่อย กร๊ากกกก โดย: วลีวิไล
วันที่: 27 สิงหาคม 2551 เวลา:9:05:55 น.หวัดดีค่ะ ไม่ได้แวะมานาน คิดถึงจังเลยค่ะ
เก๋เป็นอีกคนที่ไปเที่ยว ฮาลองเบย์แบบไปกลับค่ะ เหนื่อยจริงๆค่ะ กลับมาถึงโรงแรมค่ำๆ นอนยาวเลยค่ะ อิอิ โดย: asariss
วันที่: 27 สิงหาคม 2551 เวลา:11:32:42 น.ไม่เคยไปอ่าวฮาลองเบย์
เที่ยวอ่าวพังงาก่อนแระกันนะ =) โดย: hunjang
วันที่: 27 สิงหาคม 2551 เวลา:12:32:44 น.ไปรับหนังสือมาเรียบร้อยแล้วเน้อ
ทั้งหมด 252 เล่ม โดย: rebel IP: 125.24.118.41 วันที่: 27 สิงหาคม 2551 เวลา:12:54:01 น.
Mui Ne อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือ
ขึ้นไป ห่างจาก Ho Chi Minh City ประมาณ 200 กม. ได้มั้งคะคุณไกด์ อยู่ติดทะเล ส่วนมากนักท่องเที่ยวจะไปเล่น windsurfing ,kitesurfing แต่ที่ตุ๊กชอบมาก คือ sand dunes และสามารถเช่ารถไปเที่ยวเองได้ ไม่แพงและ ไม่ต้องเพิ่งSinhcafe ฮา  โดย: marinesnow
วันที่: 27 สิงหาคม 2551 เวลา:13:52:04 น.อ่อ มันเกินนี่เอง
ตอนแรกก็สงสัยว่าทำไมมันพอดี๊พอดี คือมันเป็นห่อ ห่อละ 12 เล่มน่ะ 12 * 21 = 252 พอดีอ่ะ คิดว่าเขาคงไม่แยกเล่มออกมามั้ง ปล. ใครสั่งกี่เล่มมั่งอ่ะ จะได้แยกกองไว้เลย โดย: rebel IP: 125.24.118.41 วันที่: 27 สิงหาคม 2551 เวลา:15:20:25 น.
สวัสดีค่ะ ..
กรี๊ดดดดดดด .. เวียดนามเหนือน่าไปมากกก .. แต่อ่ะ .. อาหารจืดเหรอ .. เซ็งเลย เบาะน้องหลุยติต๊องกิ๊ปเก๋มากค่ะ โดย: บ้านอุ่นรัก
วันที่: 28 สิงหาคม 2551 เวลา:0:58:53 น.ฉันนั้นอยู่ผู้เดียว ฉันเปล่าเปลี่ยวหัวใจ
ฉันคิดถึงคนไกล ไม่มีใครดูแล แต่ฉันต้องอยู่ให้ได้ ฉันต้องไม่ร้องไห้ ต้องเข้มแข็ง ไม่หวั่นไหว  โดย: เจ้าชายไร้เงา
วันที่: 28 สิงหาคม 2551 เวลา:2:39:13 น.แก้ไขเพลงให้ฟังได้แล้วนะครับ เข้าไปฟังเพลงเพราะ ๆ อีกรอบนะ
ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับ วันนี้หายดีแล้ว  โดย: เจ้าชายไร้เงา
วันที่: 28 สิงหาคม 2551 เวลา:10:37:30 น.อยากไปเที่ยวเวียดนามเหลือเกิน ใกล้เท่านี้แต่ยังไม่ได้ไปเลย
โดย: vanillahome
วันที่: 28 สิงหาคม 2551 เวลา:15:12:47 น.กำลังจะไปเที่ยววันพรุ่งนี้แล้ว
นั่งหาข้อมูลแทบแย่ ขอบคุณสำหรับบล็อกนี้นะค่ะ จะเอาไปอ่านระหว่างเที่ยว เผื่อหลับลืมฟังไกด์ที่ไปด้วยกันอธิบาย 555 โดย: หมู IP: 124.120.117.208 วันที่: 31 ธันวาคม 2551 เวลา:21:06:02 น.
ผมไปเพิ่งกับมากับบริษัทอัสจรรย์ทัวบริการการประทับใจสุดๆๆ(ฮ่วยแตกเลยอะตั้งแต่เที่ยวทัวมา)
โดย: new IP: 202.28.78.126 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2554 เวลา:7:16:45 น.
ใครที่ไม่เคยไปพักโรงแรมก็ระวังกันบ้างนะคับอย่าเผลอลืมของไว้เขาจะบอกว่าไม่มีทันทีแล้วยิ่งไปกับทัวย์ที่บริการฮ่วยแตกเหมือนทัวบริษัทอัศจรรย์ทัวด้วยแล้วเสียความรู้สึกมากๆๆเลยคับ
โดย: new IP: 202.28.78.126 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2554 เวลา:7:21:01 น.
|
บทความทั้งหมด
|
||||||||||||||||||||
 |
|
ผู้ติดตามบล็อก : 203 คน [
เคยไปเวียดนามเมื่อสองสามปีมาแล้ว แต่ไม่ได้เที่ยวไหนเลยค่ะ เพราะไปทำงาน