~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ซินจ่าวเวียดนามเหนือ ตอนจบ - วิหารวรรณกรรม ซุปเปอร์เวียดนาม ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ พาเที่ยว ฮาลองเบย์และนั่งรถซิคโล่ (คลิกเพื่ออ่าน) พาไปเที่ยว เที่ยววัดหง็อกเซิน+ดูหุ่นกระบอกน้ำ (คลิกเพื่ออ่าน) และ ร้านอาหารเซ็น และไนท์มาร์เก็ต (คลิกเพื่ออ่าน) แล้ว วันนี้มาต่อเป็นตอนจบแล้วค่ะ สำหรับวิหารวรรณกรรมและจะพาไปช้อปปิ้งที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตของเวียดนามค่ะ วิหารวรรณกรรม หรือ วัดวันเหมียว สร้างโดยพระเจ้าหลีไทโตง อุทิศแก่ขงจื๊อซึ่งอยู่ติดกับกว็อกตื่อยาม โรงเรียนของพวกขุนนางและเป็นมหาวิทยาลัยแห่งชาติแห่งแรกของเวียดนาม การที่เวียดนามเลือกที่จะเอาลัทธิขงจื๊อมาเป็นการเรียนการสอนหลักก็เพราะคำสอนของขงจื๊อมีแนวโน้มที่จะ "จัดระเบียบ" ให้กับสังคมเวียดนามซึ่งตอนนั้นก็ยังแบ่งเป็นภาคๆ อยู่ได้ง่ายค่ะ ที่นี่ต่อมาในสมัยราชวงศ์ตรัน เปลี่ยนเป็น กว็อกช็อกเวียน วิทยาลัยแห่งชาตินะคะ สำหรับรูปแรกนี้เป็นปากทางเข้าประตูที่สองค่ะ (ก่อนหน้ามีซุ้มเข้า แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา ไม่แน่ใจว่าประตูไหนที่มีข้อความว่า"ขอให้ผู้มาเยือนลงจากหลังม้าก่อนที่จะเข้าไปข้างใน" นะคะ) ผ่านประตูข้างบนมาปุ๊บก็จะเจอบู๊ทขายตั๋วค่ะ จากนั้นก็จะถึงก็จะผ่านบ่อ 2 บ่อ ลาน 2 แห่ง ก็จะถึงอาคารดาวลูกไก่ (เคววันกั๊ก) เป็นที่ที่นักอักษรศาสตร์มาท่องบทกวี มีประตูกำแพงใหญ่ ได๋แถงห์โมน (Dai Thanh Mon) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองฮานอยด้วยค่ะ ลอดใต้ประตูไปปุ๊บจะเจอสระน้ำที่กลางลานค่ะ ชื่อ สระแสงงาม เทียน กวาง ติงห์ (Thien Quang Tinh) สร้างตามหลักฮวงจุ้ยนะคะ เวลาแสงอาทิตย์ส่อง จะสะท้อนถึงประตูใหญ่ ทำให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองค่ะ ข้างๆ สระจะเป็นศาลานะคะ มีแผ่นหินจารึกบรรดาบัณฑิตที่สอบได้อยู่บนหลังเต่าค่ะ มีทั้งหมด 82 แผ่น (แต่เดิมเลยมี 117 แผ่น) จารึกชื่อ ผลงานและประวัติทางวิชาการของผู้ที่สอบผ่านการศึกษาหลักสูตร 3 ปีระหว่างปีพ.ศ. 1985-2322 ค่ะ จากนั้นก็จะเป็นประตูอัจฉริยะ (หรือเปล่าหว่า แหะๆ) สาวที่ใส่หมวกนั่น ไกด์ของเราเองค่ะ ประตูใหญ่ตรงนี้ จะมีประตูสองประตูเล็กๆ ด้านข้างด้วย (แนวกำแพงเดียวกัน) บางไกด์บอกว่า เป็นประตูรูปมังกร+เสือ คือ สติปัญญา+กล้าหาญ แต่ไกด์คนนี้บอกว่า เป็นประตูสติปัญญากับความดีค่ะ (ไม่ได้บอกว่าเป็นมังกรกับเสือ) เค้าบอกว่า เก่งอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีคุณธรรมด้วย (บอกแล้วว่าไกด์เวียดนามเองก็พูดข้อมูลไม่เหมือนกันค่ะ) จากนั้นก็จะเริ่มเดินไปสู่อาคารซึ่งมีรูปเคารพของขงจื๊อนะคะ คำว่า วัน (ว่าน,เหวิน) แปลว่า วรรณคดีหรือวรรณกรรม ส่วนคำว่า เหมียว (มิว) แปลว่า วัดค่ะ ตรงนี้คือตัวอาคารแรกค่ะ เมื่อเข้าไปในอาคารก็จะเจอป้ายอักษรสี่ตัวนี้ แปลได้ประมาณว่า ครูผู้ยิ่งใหญ่หมื่นภพค่ะ (เครดิตจากแพนด้าฯ) จากรูปบนจะเห็นรูปนกกระเรียนนะคะ จะเห็นว่าเค้ายืนบนหลังเต่า มีตำนานประมาณว่า มีน้ำท่วมหนักแล้วเต่าเค้าให้นกกระเรียนยืนบนหลังเขา เพื่อจะได้ไม่จมน้ำตายค่ะ ไกด์บอกว่า เป็นสัตว์ที่พึ่งพากันและกัน เหมือนมนุษย์เราก็ต้องช่วยเหลือกัน พึ่งพากันค่ะ จากนั้นก็เข้าไปสู่อาคารที่มีรูปเคารพของท่านขงจื๊อแล้วหละค่ะ แต่ต่อมาเมื่อพ.ศ. 2345 องเชียงสือ (ที่เล่าไปแล้ว) ก็ย้ายเมืองหลวงไปเว้ มหาวิทยาลัยก็เลยถูกย้ายไปด้วยนะคะ จากนั้นข้างๆ อาคารของท่านขงจื๊อ ก็จะมีทางเดินเลียบข้างตึก ไปยังตึกด้านหลังน่ะค่ะ เดินตามทางเลียบข้างตึกไปพ้นจากอาคารขงจื๊อปุ๊บ ก็จะเจอลานกว้างอย่างนี้เลยค่ะ ต่อจากลานก็จะเป็นอาคารสองชั้น ซึ่งถูกสร้างมาในภายหลัง (จะกล่าวในรายละเอียดต่อไปค่ะ) เข้าไปในอาคารก็จะเจอกับรูปเคารพนี้นะคะ ไกด์ท้องถิ่นบอกว่าเป็นอธิการบดีคนแรกของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ แต่เราไม่คอนเฟิร์มนะคะ เง่อ.. ด้านข้างๆ รูปเคารพนี้ ก็จะเป็นบันไดสำหรับเดินขึ้น-ลงชั้นบนค่ะ มีทั้งสองข้างเลยซ้าย-ขวา หันหน้าเข้ารูปเคารพ ทั้งซ้ายและขวาก็จะมีโมเดลจำลองของวิหารวรรณกรรมค่ะ ฝั่งซ้ายจะเป็นแบบดั้งเดิม ฝั่งขวาจะเป็นเมื่อมีการก่อสร้างเพิ่มเติมแล้ว จะเห็นว่า อาคารดาวลูกไก่ยังไม่ได้สร้าง (ที่มีช่องวงกลมด้านบนน่ะค่ะ) แล้วอาคารสองชั้นด้านหลังสุดก็ยังไม่มี แต่เป็นอาคารเรือนยาว ซึ่งไกด์บอกว่าเป็นหอพักชายของนักเรียนที่นี่ค่ะ หอพักมีหกหลัง หลังละกี่ห้องหว่า จำไม่ได้ แต่อยู่ห้องละ 2 คนอะค่ะ ส่วนฝั่งขวาจะเป็นโมเดลใหม่นะคะ จะเห็นว่า หอพักกลายเป็นอาคารสองชั้นแล้ว แล้วประตูดาวลูกไก่ก็สร้างแล้วค่ะ จากนั้นพอขึ้นบันไดด้านขวาขึ้นไป ก็จะมีภาพนูนต่ำค่ะ เป็นรูปปลา เค้าเปรียบเทียบกับบัณฑิตหละค่ะ แต่จำรายละเอียดไม่ได้ หลังจากขึ้นไปด้านบน (หันหน้าเข้าอาคารขึ้นบันไดขวา) ก็จะมีป้ายภาษาเวียดนามให้อ่านค่ะ แต่ไม่ตัองกลัวค่ะ อีกฝั่งจะมีภาษาอังกฤษให้อ่าน ด้านบนมีรูปเคารพสามท่านนี้อยู่นะคะ ป้ายบอกว่าใครเป็นใครค่ะ อ้อ...ลืมไป ก่อนถึงอาคารสองชั้น อาคารใหญ่ๆ ด้านหน้านี่มีดนตรีเล่นด้วยนะคะ เล่นเป็นพักๆ ค่ะ แต่ไม่ได้ฟังฟรีอะค่ะ (ไกด์บอกว่าต้องเสียเงินง่ะ) เล่นกันตรงนี้ค่ะ ตรงข้างๆ ก็มีคนมาขายพวกอุปกรณ์ดนตรีด้วยค่ะราคาแล้วแต่ต่อรองค่ะ (ลืมบอกไป ตรงหน้าอาคารขงจื๊อมีโปสการ์ด หนังสือขายด้วยค่ะ สแตมป์ถูกกว่าที่เราซื้อที่เจดีย์เสาเดียวเขาบอกว่า 7000 ด่องก็ส่งได้แล้วค่ะ หนังสือไม่แพงด้วยค่ะ ถ้าใครชอบซื้อหนังสือจะไปซื้อที่นั่นก็ได้นะคะ) เอาหละค่ะ ลำดับต่อไปหลังจากเที่ยวชมเรียบร้อยแล้วก็พากันไปแถวทะเลสาปตะวันตก ไปวัด..เอ่อ..จำชื่อไม่ได้ง่ะ เง่อ.. ที่มีเจดีย์พระองค์สูงๆ แล้วก็มีพระศพของพระสังฆราชเวียดนามด้วยค่ะ เป็นร้านฝั่งตรงกันข้ามจะมีร้านอาหารริมทะเลสาปเล็กๆ อีกที่ ซึ่งเค้าดังเรื่องกุ้งทอดค่ะ อร่อยดีเหมือนกันค่ะ กินกับน้ำจิ้มคล้ายๆ อาจาดค่ะ แต่รสชาติไม่เข้มข้นขนาดนั้นนะคะ จากนั้นเนื่องจากเวลาเหลือ ไกด์ก็เลยพาไปห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งของเวียดนามค่ะ ซึ่งห้างนี้ถ้าขึ้นไปชั้นสี่จะเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตค่ะ มาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง หน้าตาซุปเปอร์ก็ประมาณนี้นะคะ ส่วนใหญ่ของฝากเวียดนามก็จะเป็นกาแฟแหละค่ะ นอกจากนั้นก็มีพวกผลไม้อบแห้งอย่างขนุนที่เราคุ้นหน้ากันบ่อยๆ หลังๆ นี่ผลไม้อะไรก็อบหมดแหละค่ะ อันนี้เผือกกะสับปะรดค่ะ เผือก 22,000 ด่อง (ประมาณยี่สิบกว่าบาท) ส่วนสับปะรด 30000 ด่องกว่าๆ (คิดอัตราแลกเปลี่ยนที่ 400 ด่องเท่ากับ 1 บาทนะคะ) ส่วนนี่คือสิ่งที่เราซื้อมาลองกินค่ะ รังนกเวียดนาม รูปบนยี่ห้อนี้ถูกกว่าแค่ 5,000 ด่อง สิบบาทนิดๆ แต่ก็เนื้อน้อยกว่าอีกยี่ห้อ(รูปล่าง) อร่อยน้อยกว่าด้วยค่ะ (กระซิบ- แต่รังนกไทยอร่อยกว่าค่ะ แต่ก็แพงยิ่งกว่าไปอีก กร๊ากกกกก) รูปล่างนี่กระป๋องละ 10,000 ด่องค่ะ มีทั้งสีทองและสีเงิน แต่สีทองอร่อยกว่า รังนกเค้าใช้น้ำตาลกรวดนะคะ กินแล้วรู้สึกถึงรสชาติน้ำตาลกรวดได้เลย นอกนั้นก็มีชาอู่หลงของเวียดนาม แพ็คเก็จสวยงามค่ะ ราคาอยู่ใต้ฝากล่อง 62,000 ด่องค่ะ ประมาณ 130 บาทค่ะ กับชาน้ำหนัก 100 กรัม ปิดท้ายการรีวิวเวียดนามเหนือด้วยรูปชาอีกแพ็คเก็จหนึ่ง ซึ่งราคาถูกกว่านะคะ สีแดง 11,500 ด่อง สีม่วง 13,000 ด่องค่ะ (เกือบสามสิบบาทกับสามสิบกว่าบาทค่ะ) โดยรวมแล้ว ถ้ามีเวลาได้แวะไปเที่ยวซุปเปอร์ฯ ก็มีอะไรน่าชมน่าซื้ออยู่ไม่น้อยค่ะ เพียงแต่..เวลาจะมีมากพอจะไปแวะเวียนหรือเปล่าเท่านั้น แหะๆ สำหรับเรา ก็ยังคงชอบเวียดนามใต้มากที่สุดนะคะ(แต่อย่างที่บอก เวียดนามกลางเคยไปเว้อย่างเดียวค่ะ) ถ้าท่านใดมีโอกาสได้ไปแล้วก็มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะคะ ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาดูรีวิวและคอมเม้นท์ให้นะคะ (รวมทั้งท่านที่มาดู แต่ไม่ได้คอมเม้นท์ก็ไม่เป็นไรค่ะ แหะๆ) 240987/3586/280 HAVE A NICE DAY KA
โดย: NathalieNoelle วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:8:42:41 น.
จริงด้วย เห็นรังนกครั้งแรกก็นึกว่าเบียร์เหมือนกัน
โดย: ตะไคร้หอม วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:9:53:02 น.
อยากไปจังใช้ทัวร์ไหนอะบอกหน่อยซิ hnun5206@hotmail.comจักขอบคุณยิ่งจ้า
โดย: hnun IP: 58.10.87.96 วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:10:03:15 น.
ตามไปเที่ยวค่ะ...
มีเพื่อน - กัลยาณมิตรเป็นเวียตนามมีสหลายคนค่ะ ชอบปรัชญาชีวิต หลักคิดของพวกเขามาก ๆ ทริปนี้จุใจจริง ๆ ค่ะคุณสาวไกด์ ขอบคุณนะคะ โดย: แม่ไก่ วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:10:15:22 น.
...
มาบอกว่า พี่เต้ย เหมาะกะ ความจริงปรมัตถ์ แหละครับ อยู่ที่ว่าจะเอาหรือไม่เอามันเท่านั้น อิอิ ป.ล. เดี๋ยวแวะมาอ่านอีกทีเน้อ โดย: The Legendary Midfielder วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:10:29:48 น.
แล้วคุณสาวไกด์ฯ ซื้ออะไรกลับมาบ้างล่ะคะเนี่ย
หรือซื้อตามข้างบนนั้นแหละ โดย: หัวใจสีชมพู วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:11:13:32 น.
ชอบที่บอกว่าเก่งอย่างเดียวไม่ได้
ต้องมีคุณธรรมด้วย นี่ล่ะเจ๋งค่ะ ปล.กระเรียนตัวใหญ่มากเต่าตัวนิดเดียว เหยียบบนหลังแล้วเต่าจะจมน้ำไหมเนี่ย โดย: ณ มน วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:12:08:54 น.
...
เก่งอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีคุณธรรมด้วย เป็นสัตว์ที่พึ่งพากันและกัน เหมือนมนุษย์เราก็ต้องช่วยเหลือกัน พึ่งพากันค่ะ ชอบจังครับ โดย: The Legendary Midfielder วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:14:34:41 น.
1. ?ผลงานบัณฑิตอยู่หลังเต่า
2.มังกร-เสือ 3.นกกะเรียน กะ เต่า 4.รังนกไทยอร่อยกว่าเวียดนาม อิ อิ โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:14:48:49 น.
+ หุๆ อ่านแล้วก็สะท้อนใจอีกแล้ว (ขอบ่นเหมือนเดิม - แต่ครูเต้ยไม่ต้องเครียดนะครับ พี่ไม่ได้รู้สึกแย่อะไร) ... ว่าไปที่เดียวกันก็จริง แต่ของพี่ มีแต่รูปถ่ายกลับมา รายละเอียดอะไรแทบไม่มีเหลือติดหัวให้อัพบล็อกได้เลย ชื่อบางสถานที่ก็ยังเรียกไม่ถูกด้วยซ้ำอ่า แหะๆ
+ หอวรรณกรรม พี่ก็ไปมาเหมือนกันครับ แต่เดินตามไกด์บรรยายไม่ค่อยทัน เลยจำอะไรแทบไม่ได้เลย ได้แต่ถ่ายรูปอย่างเดียว เหอะๆ + อืม ... นกกระเรียนกับเต่า เหรอ? ไม่แน่ใจว่าตัวเองสังเกตเห็นรึเปล่าแฮะ แล้วก็ไม่รู้ว่าได้ถ่ายรูปมาด้วยรึเปล่าง่า + แต่ชอบตรงที่ครูเต้ยแทรกข้อคิด และคุณธรรมเข้ามาเช่นกันขอรับ + สงสัยนิดนุง ตรงรูปร้านอาหาร ทำไมคนขวาสุดถึงไม่มีหัวใจครอบหน้าอ่ะครับ จะว่าลืมก็ไม่น่าจะใช่ ออกจะเด่นสุดนี่นา กิๆ + ซุปเปอร์ใหญ่ คณะพี่ไม่ได้เข้าแฮะ เข้าแต่ร้านเล็กๆ เป็นห้องเดียวเหมือนเซเว่นอ่ะครับผม โดย: บลูยอชท์ วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:18:21:42 น.
ผมเคยได้ของฝากเป็นชุดหมากรุกหินจากเวียดนาม สวยมากเลยครับ
หนังสือของแทนไท สนพ Open Books นะครับ โดย: ศล วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:19:11:46 น.
ท่าทางมาบล็อกนี้บ่อย ๆ
จะไม่ต้องเสียตังค์เยอะ ๆ ไปเที่ยวเมืองนอกค่ะ ได้เที่ยวแบบไม่เหนื่อย ไม่เพลีย แถม... ไม่เสียตังค์ด้วย ช๊อบ ชอบ โดย: โสดในซอย วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:20:47:03 น.
ชอบๆ นกกระเรียนบนหลังเต่า สวยดีค่ะ
เห็นด้วยกับคุณหมี ว่ารังนก เหมือนเบียร์เลยพี่เต้ย ถ้าไม่บอกอาจซื้อผิดได้ โดย: BeCoffee วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:22:02:38 น.
ขอบคุณข้อมูลคุณสาวไกด์จ๊ะ ... เพราะข้อมูลของคุณทำให้เราเดินตามได้ ไม่โดนโกง มากไปจ๊ะ
โดย: Geerorogunso วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:22:31:00 น.
ขอบคุณข้อมูลดีๆ นะค่ะ แหม่เห็นสถานที่แล้ว ก็อยากไปเที่ยวบ้างจังเลยค่ะ บ้านใกล้เรือนเคียง
โดย: greentea_lemon วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:23:47:56 น.
เห็นบอกว่ากาแฟเวียดนามอร่อยมาก ยี่ห้ออะไรแดงๆ สักอย่าง อร่อยจริงๆ ไหมค่ะ เคยได้ยินลูกค้าพูดถึง
แต่ชาเขาก็น่าซื้อนะคะ ร้อยกว่าบาทเอง โดย: CooKiiE วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:1:00:46 น.
ตอนที่ไปเวียดนามเหนือ ก็ชอบวัดวั่นเหมียวที่สุดเลยค่ะ ให้อารมณ์ขลัง ๆ ดี แต่ประวัติที่ฟังจากไกด์ท้องถิ่นก็ไม่เหมือนกับพี่เต้ยสักเท่าไรค่ะ
โดย: กระปุกกลิ้ง IP: 203.150.232.78 วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:9:52:32 น.
หวัดดีค่า ... วันนี้ไม่เบลอว่าเม้นท์คนแรกแล้วเน้อ อิอิ ^^"
โดย: :D keigo :D วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:17:03:26 น.
สำหรับ ' ปีเตอร์แพน ' สนใจซื้อเก็บไว้เป็นเจ้าของหรือว่าแค่อยากอ่านค่ะ ถ้าแค่อยากอ่าน หวานเย็นให้ยืมได้นะคะ
โดย: หวานเย็นผสมโซดา วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:19:42:10 น.
ยิ่งมองก็ยิ่งคิดว่าการก่อสร้างเขาเหมือนจีนมากค่ะ ถ้าดูรูปข้างใน อาจนึกว่าเป็นพวกหอโน่นวัดนี่ที่เราเคยไปมาเลยนะ
(โดนแม่จับลากไปไหว้พระในจีนบ่อย) เวลาไปต่างประเทศ ระยะหลังชอบไปซูเปอร์มาร์เก็ตเหมือนกันค่ะ บางทีเจอขนมหรือของกินแปลกๆ อร่อยดีนะ โดย: ยาคูลท์ วันที่: 20 กันยายน 2551 เวลา:3:40:12 น.
แผ่นดินบนหลังเต่า ของ โกมลคีมทองครับ
ผมซื้อมาในงานอะไรสักงานต้นเดือนที่เมืองทอง พอไปงาน ITU แล้วเห็นมีงานหนังสือจึงแวะไปนะครับ 20 บาทเอง โดย: ศล วันที่: 20 กันยายน 2551 เวลา:23:39:58 น.
|
บทความทั้งหมด
|