~* ~* ~* ~* ~* ~* คนเล็กๆ (ที่มีหัวใจซึ่งใหญ่ยิ่ง) ~* ~* ~* ~* ~* ~*






เช่นเคยค่ะ เป็นหนึ่งเล่มที่ได้อ่านตามโครงการ RRR (Rainy Read Rally) นะคะ









คนเล็กๆ
ผู้เขียน ขวัญใจ เอมใจ (คนเดียวกับดาราราย และดวงตะวัน)
สำนักพิมพ์ สารคดี
จำนวนหน้า 244 หน้า
ราคา 190 บาท




หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่มีปกสองด้านค่ะ


ด้านฝั่งโทนสีเหลือง จะเป็นการรวมสารคดีบุคคลทั้งหมด 4 ท่านคือ ลุงคำป่วน ก๋งหมอ อาจารย์ปู่ และหลวงตาไสว ส่วนฝั่งโทนสีชมพู เป็นเรื่องขององค์กรและกลุ่มคน 3 กลุ่ม คือ บ้านสายสัมพันธ์ ครอบครัวอุปการะ เด็กพิเศษ






เราอ่านจากฝั่งสีเหลืองก่อนค่ะ

แค่เรื่องแรก "ลุงคำป่วน" ก็ทำเอาน้ำตาคลอ+ไหล หลายรอบกันเลยทีเดียว(ไม่ใช่มาตรฐานนะคะ เราเป็นคน sensitive เกินเหตุในบางทีน่ะ แหะๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับเรื่องของคนดีๆ ที่ใช้ความพยายามมากๆ สามารถรักษาความดีของตนเองไว้ได้อย่างเข้มแข็ง และได้รับผลตอบแทนจากความดีนั้นด้วยแล้วนี่..เรียกน้ำตาเราได้เยอะเลยแหละค่ะ เง่อ..)


เป็นเรื่องราวของลุงคำป่วน สุธงษา เจ้าของสวนดอกไม้ ชื่อ "สวนน้ำฝน" ที่ภูเรือ จ.เลย ลุงคำป่วน ผู้จบแค่ปอสี่ ผ่านการทำนา ทำไร่ ที่ขาดทุน ยากจนขนาดแทบไม่มีข้าวกิน แต่ลุงยังสู้ ยังยึดธรรมะ (ที่บวชเรียนอยู่ 9 ปี) และเชื่อว่า ทำดีย่อมได้ดี


ลุงไม่เคยคิดที่จะหาลู่ทางวิธีการอื่นที่จะไปคดโกงเพื่อให้ชีวิตตัวเองดีขึ้น

ไม่คิดเข้าหาอบายมุขใดๆ เพื่อดับ "ทุกข์" ที่เกิดขึ้น







"คนเราถ้าไม่ยอมแพ้ต่อความยากลำบาก วันหนึ่งต้องได้ในสิ่งที่หวัง"









"เมื่อเราออกเดิน ถ้าเราเดินไม่หยุด จะช้าหรือเร็ว ก็ต้องถึงจุดหมายปลายทาง..."








พยายามที่จะเรียนรู้ เข้าอบรม ลองไปศึกษาตลาด เพื่อพัฒนาการปลูกดอกไม้เมืองหนาว แม้ว่าในครั้งแรกที่เอาดอกไฮเดรนเยียมาขายที่สวนจตุจักร ที่ลุงเคยมาดูแล้วเห็นว่าขายกันง่ายดาย


กลับไม่มีใครซื้อไฮเดรนเยียที่ลุงขนมาเป็นพันต้นเลยแม้แต่ต้นเดียว!!



แต่ลุงเลือกที่จะนำไฮเดรนเยียไปแจกตามร้านฟรีๆ ซึ่งมีทั้งคนรับแบบงงๆ และไม่รับ มีเพียงร้านเดียวที่ตามมาขอชื่อที่อยู่ลุง แต่ลุงก็ยังกลับไป เพื่อพัฒนาการปลูก คิดว่า อาจเป็นเพราะดอกไม้ของตัวเองยังไม่ดีพอ


ไม่นานนัก เพียง 5 วัน เจ้าของร้านเดินทางมาที่สวนด้วยตนเอง และขอซื้อ 3000 ต้น เมื่อได้พบว่า ต้นไฮเดรนเยียของลุงนั้น แข็งแรงไม่แพ้จากแหล่งทางเหนือที่เคยซื้อหามา




นับแต่นั้น ชีวิตลุงก็ดีขึ้นเรื่อยๆ

และลุงก็ยังพยายามเผยแพร่สิ่งที่ลุงได้เจอ ได้รู้ ให้กับคนอื่น






"ลุงไม่กลัวคนเขาเอาสายพันธุ์ไปทำแล้วขายได้ดีกว่าหรือแข่งกันหรอก กลัวอย่างเดียว กลัวเขาไม่ทำ ลุงอยากจะให้สิ่งที่เรารู้ คิดและทำนั้นเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ บ้านเมืองได้เจริญขึ้น ให้คนมีอาชีพ ไม่ยากจน ลุงก็ภูมิใจแล้ว"








เป็นตอนที่เราอ่านแล้วเกิดความรู้สึก "เต็มตื้น" เป็นระยะๆ มันเป็นอาการที่ได้รับรู้ เรื่องดีๆ คนดีๆ ที่ยังเชื่อมั่นในความดี และได้รับผลดีจากการทำดีของตนเอง





อ่านแล้ว เฉพาะเรื่องนี้ สำหรับเรา - ก็ควรค่าเพียงพอที่จะซื้อหนังสือเล่มนี้ค่ะ




อ่านแล้ว น่าจะมีแรงใจ แรงฮึดและกำลังที่จะพยายามยึดมั่นในความดีและการทำดีก็ได้








ส่วนเรื่องราวคนอื่นๆ ก็มีแง่มุมในเรื่องราวที่น่าสนใจค่ะ อย่างก๋งหมอ หมอยาพื้นบ้านแห่งเกาะช้าง ผู้ซึ่งได้รับการสืบทอดเรื่องตำรายาพื้นบ้านมาจากตระกูล และยังเอาตำรานั้นไว้ที่วัดสลักคอกแม้จะรู้ดีว่า..จะหาคนที่จะศึกษาได้อย่างจริงๆ จังๆ นั้น ยากเต็มที




เรื่องราวของอาจารย์ปู่ คนซึ่งเข้ามารับการดูแลป่าอภัยทาน สร้างป่า สร้างอาชีพ เพื่อจะทำให้ป่ากลายเป็นป่าเช่นเดิม






"โลกสำหรับผมเป็นโลกที่รื่นรมย์และกว้างขวางมาก และถ้าเราไม่กลัวอะไรเสียอย่าง โลกนี้ก็จะยิ่งกว้างใหญ่ขึ้นไปอีก"








"เกษตรผสมผสานก็เพื่อความอยู่รอดของคน ปลูกป่าผสมผสานก็เพื่อความอยู่รอดของป่า"








"คนเราเกิดมาแล้วก็มีชีวิตอยู่ในโลกนี้ช่วงสั้นๆ น่าจะทำอะไรที่เรามีความสุข...ไม่ใช่ความสุขที่เราได้ 'เป็น' แต่คือความสุขที่เราได้ 'ทำ'"







เรื่องของหลวงตาไสวแห่งสวนโมกข์ พระที่พยายามหาวิธีการที่จะสั่งสอนธรรมด้วยวิธีการของตนเอง วิธีการเข้าหา โดยดึงให้เด็กมาสนใจธรรมะจากตุ๊กตาปูนปลาสเตอร์


ล้วนแล้วแต่เป็นคนที่ทำดี ในวิถีทางของตนเอง ซึ่งน่ายกย่องและชมเชยค่ะ










ส่วนทางด้านสีชมพู

บ้านสายสัมพันธ์ บ้านที่นำพาเอาแม่ที่ท้องโดยมีปัญหา ได้เข้าไปเลี้ยงลูกสักพัก พอที่จะให้เวลาในการตัดสินใจว่า จะ "ทิ้ง" ลูกจริงๆ หรือ


เด็กพิเศษ ที่ทำให้เรารู้จักพวกเขามากขึ้น ความแตกต่างในการดูแลแต่ละคน


และครอบครัวอุปการะ ที่ทำให้เราอดเต็มตื้นไม่ได้ กับคนดีๆ ความสัมพันธ์ดีๆ การทำสิ่งดีๆ ของคนตัวเล็กๆ









เป็นหนังสือสารคดีที่อยากให้ได้อ่านค่ะ

สำหรับเราที่ชอบที่สุดคือ ลุงคำป่วนกับครอบครัวอุปการะค่ะ

อยากให้อ่านกันนะคะ









แล้วเราก็ขอบอกว่า

เราชอบทั้งงานวรรณกรรมเยาวชนและสารคดีของนักเขียนคนนี้

มากยิ่งกว่านิยายของเจ้าตัวค่ะ ^^












ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านนะคะ

403685/4258/374






Create Date : 17 กันยายน 2552
Last Update : 17 กันยายน 2552 8:25:22 น.
Counter : 2477 Pageviews.

37 comments
  
...



+ ขอบคุณสำหรับหนังสือดีๆที่แนะนำครับ

คนดี นี่มันช่างเท่ห์เสียนี่กระไรเนอะพี่?

ฉะนั้น มาเป็นคนดีกันเถอะ อิอิ



+ เราเป็นคน sensitive เกินเหตุในบางทีน่ะ แหะๆ

เหมาะเลยครับ ต้องเคยร้องไห้ในโรงหนังแน่ๆ

พี่เต้ย ถูกผมแตะมือทำ tag เน้อ



โดย: The Legendary Midfielder วันที่: 17 กันยายน 2552 เวลา:9:01:34 น.
  
อ่านจากแค่ตัวอย่างก็รู้เลยว่าต้องเป็นหนังสือที่สร้างแรงบันดาลใจได้ดีมากๆ น่าเก็บเอาไว้อ่านตอนจิตตกเนอะ
โดย: เบบูญ่า วันที่: 17 กันยายน 2552 เวลา:9:42:04 น.
  
โดย: wbj วันที่: 17 กันยายน 2552 เวลา:9:56:40 น.
  
เป็นหนังสือที่สร้างแรงบันดาลใจและกำลังใจได้ดีมากๆ ต้องซื้อมาไว้ที่บ้านสักเล่มแล้วค่ะ เพราะหนังสือแบบนี้สามารถอ่านกันได้ทั้งบ้าน
โดย: กล้ายางสีขาว วันที่: 17 กันยายน 2552 เวลา:11:18:47 น.
  
ขอบคุณสำหรับหนังสือดีๆที่แนะนำค่ะ
น่าอ่านทุกเล่มเลย
โดยเฉพาะลุงคำป่วน
อ่านแล้วเป็นกำลังใจดีจังค่ะ



โดย: vanilla_ole วันที่: 17 กันยายน 2552 เวลา:12:22:47 น.
  

แต่เรื่องที่ยกมาของลุงคำป่วน น่าตื้นตันใจจนน้ำตาซึมนะ ไม่ได้sensitive เกินเหตุหรอก *ตบบ่า อย่าไปกลั้นน้ำตาไว้ เดี๋ยวจะปวดหัว
โดย: อั๊งอังอา วันที่: 17 กันยายน 2552 เวลา:13:01:55 น.
  
มีโครงการ Rainy Read Rally ด้วยเหรอคะ ไม่รู้จัก


แต่เวลาอ่านหนังสือก็ชอบนะคะหยิบยกประโยคดี ๆ เอามาสอนตัวเองเช่นกันค่ะ
โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 17 กันยายน 2552 เวลา:13:03:29 น.
  
มันบ้าบอที่สละหญิงคนรักให้ สมบัติตัวซะเมื่อไหร่ที่เที่ยวยกให้ใครต่อใคร แต่เจ้าตัวคู่หมั้นก็บอกตอนจบเองเหมือนกันว่าไม่ยอมก็ได้ แต่ไม่ทันได้คิด มัวแต่กัดฟันอดทน แต่คนเขียนไม่ยุติธรรม เขียนให้คนสละเป็นข้อดี แต่คนที่ยินยอมทำตามการสละเป็นการอดทนที่มาเสียใจทีหลัง
โดย: อั๊งอังอา วันที่: 17 กันยายน 2552 เวลา:13:50:11 น.
  


สวัสดีครับ

พี่สาวไกด์ใจซื่อ

ที่ไปเยี่ยมนะครับ

กำลังดีวันดีคืนคับ ..

กำลังใจดีแบบนี้ไม่นานวิ่งได้ เลยครับผม

ปล. เดียวไปอ่านเรื่องคนยเล็กก่อนนะครับ






โดย: ใบไม้ (benjarong9 ) วันที่: 17 กันยายน 2552 เวลา:14:06:12 น.
  
จดลงลิสต์ไว้แล้วค่ะ ต้องหามาอ่านให้ได้
โดย: แม่ไก่ วันที่: 17 กันยายน 2552 เวลา:14:36:07 น.
  
หนังสือน่าสนใจอีกแล้ว แต่ช่วงนี้ม่ะมีเวลาเลยอ่า
เทคแคร์นะค๊า
โดย: คุณย่า วันที่: 17 กันยายน 2552 เวลา:14:42:44 น.
  
Ciao, สวัสดีค่ะ น่าอ่านนะคะ ความจริงแล้วไม่เคยอ่านหนังสือแนวนี้เลย ปิดตัวเองอยู่กับแนวเดิมๆ คงต้องลองหาอะไรใหม่ๆมาอ่านบ้างแล้ว ไปละ สวัสดีค่ะ
โดย: settembre วันที่: 17 กันยายน 2552 เวลา:17:03:34 น.
  

มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

เป็นหนังสือที่น่าอ่านมาก ๆ เลยครับ โดยเฉพาะเรื่องราวของลุงคำป่วนครับ น่าสนใจ น่าหามาอ่านมาก ๆ เลยครับ

แล้วผมอยากจะทราบว่าโครงการ RRR คืออะไร? แล้วเข้าไปดูรายละเอียดจากตรงไหนได้บ้างครับ?

อิอิ
โดย: อาคุงกล่อง (อาคุงกล่อง ) วันที่: 17 กันยายน 2552 เวลา:17:31:01 น.
  
"เรื่องดีๆ คนดีๆ ที่ยังเชื่อมั่นในความดี และได้รับผลดีจากการทำดีของตนเอง"

หาได้ยากนะครับ ทุกวันนี้ผมเห็นแต่คนดีลำบาก ไอ้ที่จนก็ยังจนอยู่ แถมสังคมรอบข้างก็ไม่ค่อยจะเชิดชูอุ้มชู ได้แต่ก้มหน้าก้มตาทำดีต่อไป บางคนทำจนตายก็ไม่ได้ดี

ทำดีมันทำยากจริงๆครับ ต้องมีหัวใจที่มุ่งมั่น และรังเกียจการทำชั่วมากๆ ถึงจะทำดีได้ตลอดชีวิต

แต่เห็นด้วยกับนัท-คุงนะครับ คนดีนี่มันเท่ห์จริงๆ
โดย: แฟนผมฯ IP: 142.103.23.32, 202.134.119.218 วันที่: 17 กันยายน 2552 เวลา:17:35:50 น.
  
ช่วงนี้อบรมต้นกล้าอาชีพอยู่อ่ะค่ะ
เวลาว่างที่เหลือก็เป็นเวลาของเจ้าเก็ต และการหม่ำ
นอนหลับฝันดีค่ะ
โดย: คุณย่า วันที่: 17 กันยายน 2552 เวลา:21:20:06 น.
  
ขอบคุณสำหรับหนังสือที่แนะนำนะคะ

ช่วงนี้อ่านหนังสือน้อยค่ะ
มัวแต่ยุ่งอยู่กับชีวิตประจำวัน
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 17 กันยายน 2552 เวลา:22:56:45 น.
  
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

น่าสนใจจริงๆ ค่ะ
โดย: อุ้มสี วันที่: 17 กันยายน 2552 เวลา:23:27:19 น.
  
แหมมีหนังสือดีๆมาแนะนำอีกแล้วนะค่ะ
โดย: Roseshadow วันที่: 18 กันยายน 2552 เวลา:0:52:59 น.
  
นักเขียนคนนี้เค้าเริ่มต้นงานการเขียนหนังสือมาจากทางด้านสารคดีนะ

ต้องลองอ่านที่เค้าเขียนถึงบ้านพักคนชราที่เชียงใหม่ อันนั้นดีมากกกก เคยลงในนิตยสารสารคดี แต่เล่มนั้นนานมากแล้วล่ะ
โดย: grappa วันที่: 18 กันยายน 2552 เวลา:8:30:44 น.
  
นักเขียนคนนี้เค้าเริ่มต้นงานการเขียนหนังสือมาจากทางด้านสารคดีนะ

ต้องลองอ่านที่เค้าเขียนถึงบ้านพักคนชราที่เชียงใหม่ อันนั้นดีมากกกก เคยลงในนิตยสารสารคดี แต่เล่มนั้นนานมากแล้วล่ะ
โดย: grappa วันที่: 18 กันยายน 2552 เวลา:8:30:44 น.
  
เป็นหนังสือที่สร้างแรงบันดาลใจและกำลังใจได้ดีมากๆเลยค่ะ
โดย: somphoenix วันที่: 18 กันยายน 2552 เวลา:10:34:47 น.
  
"ลุงเลือกที่จะนำไฮเดรนเยียไปแจกตามร้านฟรีๆ ซึ่งมีทั้งคนรับแบบงงๆ และไม่รับ มีเพียงร้านเดียวที่ตามมาขอชื่อที่อยู่ลุง แต่ลุงก็ยังกลับไป เพื่อพัฒนาการปลูก คิดว่า อาจเป็นเพราะดอกไม้ของตัวเองยังไม่ดีพอ"
^
^
อ่านตรงนี้แล้วน้ำตาแทบร่วงเลยค่ะ หายากจริง ๆ นะคะ คนที่พิจารณาหาจุดบกพร่องของตัวเองก่อนจะโทษคนอื่นอะ อ่านแล้วก็อยากอุดหนุนคุณลุงเลยค่ะ

ป.ล. มารออ่านแถกหนังน้ำตาพรากของพี่สาวไกด์ฯ ด้วยค่ะ อิอิ
โดย: Kitsunegari วันที่: 18 กันยายน 2552 เวลา:11:52:56 น.
  

สวัสดีค่ะสาวไกด์

อยากอ่านฝั่งเล่มสีเหลืองมากๆเลยค่ะ (สีชมพูก็ดีนะคะ)

แค่อ่านที่โปรยไว้เรื่องของลุงคำป่วนก็ซาบซึ้งมากมาย

ชอบผู้ที่มีคุณธรรม และทำมาหากินอย่างสุจริต ไม่ย่อท้อ และยึดหลักความพอเพียงมากๆเลยล่ะค่ะ
โดย: ม่านฟ้านาคราช วันที่: 18 กันยายน 2552 เวลา:15:19:44 น.
  
มีลางสังหรณ์ว่า หนังสือเล่มนี้อาจบวมเพราะน้ำตาของข้าพเจ้า

ซาบซึ้ง โดยเฉพาะตอนของคุณลุงคำป่วน
โดย: ThE BooK@HoLiC วันที่: 18 กันยายน 2552 เวลา:17:19:28 น.
  
แวะมาเยี่ยมเยียนครับ
ไม่เคยอ่านอื่นตามเคย

แต่น่าสนใจมากๆครับ
ชอบประโยคนี้

"คนเราถ้าไม่ยอมแพ้ต่อความยากลำบาก วันหนึ่งต้องได้ในสิ่งที่หวัง"


ปล. ช่วงนี้ไม่ค่อยได้อ่านตามโจทย์เลย ผมอ่านอะไรไปเรื่อยเปื่อย คงไม่ได้เก็บคะแนนเพิ่มอีกตามเคย
โดย: ไอซ์คุง (ปีศาจความฝัน ) วันที่: 18 กันยายน 2552 เวลา:19:15:35 น.
  
แวะมาขอบคุณค่ะคุณสาวไกด์ฯที่แวะไปส่งกำลังใจให้แม่ปูและน้องอินชอนที่บล็อกค่ะ ถ้าเด็กๆได้เจอคุณครูที่มีใจเมตตาและรักเด็กๆอย่างคุณสาวไกด์ฯนับว่าเป็นโชคดีของเด็กๆมากเลยนะคะ นี่ขนาดไม่ได้จบโดยตรงแท้ๆ แม่ปูต้องขอโทษด้วยนะคะที่เข้ามาทักทายและขอบคุณช้าไปนี๊ดนะคะ พอดีน้องอินชอนยังไม่หายจากไม่สบายค่ะ ตอนนี้ช่วงนี้ก็เริ่มดีขึ้นจึงพอมีเวลาได้ขยับตัวเข้าบล็อกบ้างค่ะ ได้มีโอกาศเข้ามาอ่านหนังสือดีๆมีประโยชน์ครบไปด้วยสาระดีๆมากมาย ได้อ่านเนื้อหาด้านบนแล้วทำให้มีกำลังใจขึ้นเป็นกองเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ขอบคุณสำหรับมิตรภาพดีๆที่คอยมีให้กันเสมอๆ ขอให้คุณสาวไกด์มีชีวิตที่สมบูรณ์ในทุกๆสิ่ง มีแต่ความสุข สุขภาพแข็งแรงๆนะคะ ฝันดีค่ะ รักและคิดถึงเสมอค๊า
โดย: แม่ปูและน้องอินชอน (Incheon ) วันที่: 18 กันยายน 2552 เวลา:19:46:29 น.
  
หวาดดีคะพี่ไกด์
คิดถึงจัง ไม่ได้มาหาตั้งนาน
สบายดีนะคะ

ช่วงนี้ไม่ค่อยได้อ่านหนังสือนอกเวลาเลย T^T เรียนหนักมาก เดี๋ยวปิดเทอมต้องหามาอ่านให้หน่ำใจเลย

ชอบข้อคิดที่ได้จังคะ
ทำให้รู้สึกมีกำลังใจขึ้นเยอะเลย

มีความสุขมากๆนะคะ
โดย: weraj วันที่: 18 กันยายน 2552 เวลา:20:53:36 น.
  
ตามมาจากบล็อกค่ะ ขอบคุณที่แวะไปนะคะ ....
ก่อนอื่นต้องบอกว่าเราอ่านนิยายของคุณดวงตะวันมาหลายเรื่องเหมือนกัน ที่ชอบที่สุดก็คือ "เรือนดอกรัก" ขำน้ำตาเล็ด ส่วนวรรณกรรมเยาวชนก็ชอบทั้งเรื่อง เด็กหญิงนางฟ้า และส้มสีม่วง แต่ยังไม่เคยอ่านงานเขียนเชิงสารคดีของนักเขียนท่านนี้เลย เดี๋ยวคงต้องแว๊บไปหาอ่านดูบ้าง น่าสนใจดี คงได้แง่คิดดีๆ กับชีวิตไม่มากก็น้อย ชอบผลงานของนักเขียนท่านนี้จังค่ะ...

ปล. เราเพิ่งรู้ว่า ดวงตะวัน ขวัญใจ เอมใจ และ ดาราราย คือคนๆ เดียวกัน ทั้งๆ ที่อ่านมาตั้งนาน ฮาตัวเองมากๆๆๆ
โดย: Miracle_oo IP: 203.131.211.156 วันที่: 18 กันยายน 2552 เวลา:21:41:10 น.
  
ผมเซนซิทีฟประมาณมีนครับ 55
โดย: kirofsky วันที่: 18 กันยายน 2552 เวลา:23:01:25 น.
  
ขอบคุณที่แนะนำหนังสือดีๆ นะคะ
ส่วนตัวคงไม่ได้ซื้ออ่านเพราะอ่านแนวนี้ทีไรร้องไห้ทุกที
แต่จะช่วยบอกต่อให้นะคะ มีเพื่อนชอบอ่านแนวนี้ค่ะ
โดย: tonpor (kosak ) วันที่: 19 กันยายน 2552 เวลา:16:26:39 น.
  
แค่อ่านคำแนะนำ ก็ขนลุกด้วยความเต็มตื้นเลยค่ะ

ห้องแผนที่ที่มิวเซียมสยามนั้น ตอนที่ไปครั้งแรกจำได้ว่าเล่นแล้วค่ะ ... ไปอีกรอบคนเยอะก็เลยไม่ได้เล่น แถมลืมไปแล้วด้วยว่าเกมมันยังไงอ่ะค่ะ แหะๆ
โดย: :D keigo :D วันที่: 19 กันยายน 2552 เวลา:17:09:03 น.
  


แวะมาเยี่ยมค่ะ

สุขสันต์วันหยุดนะคะ
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 20 กันยายน 2552 เวลา:1:05:10 น.
  
เป็นอกีเล่มที่น่าอ่าน มีอะไรให้สาวช่วยเพิ่ม สาวยินดีนะค่ะพี่
โดย: sawkitty วันที่: 20 กันยายน 2552 เวลา:8:35:41 น.
  
จะหามาอ่านบ้างค่ะ
ขอบคุณที่แนะนำสิ่งดีๆค่ะ
โดย: ผักแป้น วันที่: 20 กันยายน 2552 เวลา:10:09:15 น.
  
จดเก็บไว้ค่ะ จะไปหามาให้ได้

ว่าจะไม่ซื้อหนังสือแล้วนะเนี่ยะ ไม่น่าเล้ยยย คุณสาวไกด์ฯ ไม่น่าทำเราเสียความตั้งใจเลย 5555
โดย: rainoflove (rainoflove ) วันที่: 20 กันยายน 2552 เวลา:11:52:15 น.
  
สุก็เป็นคนบ่อน้ำตาตื้นค่ะ

แค่อ่านรีวิวก็น้ำตาคลอแล้วค่ะ
โดย: นู๋สุ วันที่: 20 กันยายน 2552 เวลา:17:15:45 น.
  
ผมก็ได้อ่านบทความของก๋งหมอเหมือนกันครับ ตัวผมเองคิดว่าจริงๆแพทย์แผนโบราณแบบก๋งหมอนั้น ไม่ได้ดูไม่ปลอดภัยเลย บางโรคที่ยาสมัยใหม่รักษาไม่หายพ่อผมก็ได้ลองทานยาสมุนไพรปรากฏว่าหายก็มี อยากแบ่งปัน มันคือ โรคเกาฑ์ครับ ยาสมัยใหม่แป็ปๆก็เป็นอีก แต่รางจืดที่พ่อผมทานนี่หายจริงครับ การที่คนสมัยใหม่เอาแต่เห่อตามโลกตะวันตกนั้นผมว่าไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป ของดีที่คนรุ่นปู่รุ่นย่าของเราหามาไว้ให้นั้นจริงๆอาจจะดีกว่าของฝรั่งก็เป็นได้ แล้วถ้าไม่มีคนไปต่อยอดจากก๋งหมอแล้ววิชานี้หายสาปสูญไปผมว่าคงน่าเสียดายมากทีเดียว แต่ก็อย่างว่านะครับ หรือบางทีนี่อาจจะเป็นอีกหนึ่งในคำสาปแช่งจากการมีทรัพยากรก็เป็นได้ (ตลกฝืด) :)
โดย: ผ่านมา IP: 202.28.27.6 วันที่: 31 กรกฎาคม 2554 เวลา:4:00:57 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Pakwan.BlogGang.com

สาวไกด์ใจซื่อ
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 203 คน [?]

บทความทั้งหมด