##### รีวิว Thames Valley เขาใหญ่ ตอนที่ 1 อาหารกลางวัน ณ The Castle ##### สวัสดีค่ะ เอนทรี่ล่าสุด รีวิวร้านสุภัทราริเวอร์เฮ้าส์ บรรยากาศดี อาหารโอ (คลิกเพื่ออ่าน) วันนี้เราจะมารีวิวที่พักที่เพิ่งจะเปิดไปไม่นาน นั่นก็คือเปิดแกรนด์โอเพิ่นนิ่งไปเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมานี่เองนะคะ นั่นก็คือโรงแรมเทมส์วัลลีย์ เขาใหญ่ นั่นเองค่ะ ซึ่งการไปที่นี่ก็เนื่องด้วยเอเจนซี่เจ้าหนึ่งส่งอีเมลมาติดต่อให้ไป (ซึ่งเป็นเอเจนซี่เจ้าเดียวกันกับที่เคยชวนเราไปที่ดาราเทวีเชียงใหม่นั่นแหละค่ะ) พร้อมกับแจ้งว่าพาผู้ติดตามไปด้วยได้ และพร้อมข่าวดีว่ามีเพื่อนบล็อกอีกคู่หนึ่งไปในพีเรียดเดียวกันด้วยนะคะ ส่วนจะเป็นใคร อิอิ เดี๋ยวจะเปิดเผยตัวต่อไปค่ะ สำหรับการไป ตอนแรกคุณอุ๊ตัวแทนจากเอเจนซี่ก็สอบถามว่าจะนำรถไปเองหรือจะไปกับรถตู้ของทางบริษัท เราปรึกษากับเพื่อนแล้ว เพื่อนบอกระยะไกล ไปรถเค้าเถอะ (คือคุณเธอเคยนั่งรถไปนครราชสีมากับเรามารอบหนึ่งแล้วค่ะ ตั้งแต่สมัยเราขับรถเป็นใหม่ๆ ไม่รู้ว่ากลัวไปเลยหรือเปล่า เอิ๊กๆ ) ก็เลยตกลงว่าจะไปรถของทางบริษัทค่ะ สำหรับการไปที่นี่เราก็ไปเจอกันที่จุดนัดหมายก่อนค่ะ แต่ระหว่างทางมีรถติดเล็กน้อย (ช่วงกฐินอะนะคะ แล้วระหว่างทางก็มีอุบัติเหตุด้วยหนึ่งเหตุ) ก็เลยทำให้แม้ว่าจะออกจากจุดนัดหมายราวสิบโมงกว่าๆ แต่มาถึงที่โรงแรมก็บ่ายโมงกว่าแล้วค่ะ ก็เลยแพลนว่าจะไปที่เดอะคาสเซิล ห้องอาหารหลักของที่นี่เพื่อรับประทานอาหารกลางวันกันก่อนเลย เพราะฉะนั้นเอนทรี่แรกนี่จะยังไม่พูดรายละเอียดของโรงแรมหรือห้องพักมากนักนะคะ จะว่ากันเรื่องหม่ำอย่างเดียวก่อน แฮ่... สำหรับการเดินทางไปที่นี่นะคะ พอเลี้ยวเข้าถนนธนะรัชต์เรียบร้อยแล้ว ก็วิ่งตรงยาวๆ ไปค่ะ จนเลยปาลิโอทางซ้ายมือไปอีก ประมาณกิโลเมตรที่ 18 ก็จะเจอThames Valley Khao Yai Hotel อยู่ทางขวามือแล้วค่ะ แผนที่จากเว็บไซต์ของทางโรงแรมนะคะ //www.thamesvalleykhaoyai.com/ รถจอดส่งเราที่ด้านหน้าบริเวณน้ำพุแล้วก็เดินลอดประตูนี้ไปค่ะ ก็จะพบอาคารล็อบบี้ตามภาพเลยนะคะ ภาพภายในล็อบบี้ค่ะ อันนี้มาถ่ายอีกทีตอนกลางคืนนะคะ เพราะภาพตอนกลางวันติดแขกของทางรีสอร์ทด้วยน่ะค่ะ แหะๆ เข้าไปทางด้านซ้ายมือจะเป็นที่ติดต่อกับเจ้าหน้าที่นะคะ ส่วนทางขวามือจะเป็นส่วนของที่นั่งค่ะ (ป.ล.ไม่ได้เอาขาตั้งกล้องไปนะคะ ถ่ายมือล้วนๆ แต่ไม่เบลอมากเพราะกันสั่นของ OMD หละค่ะ) เข้าไปก็เจอน้องพนักงานรอบริการผ้าเย็นอยู่ค่ะ ค่อยเฟรชขึ้นหน่อย แฮ่... ชุดฟอร์มของพนักงานนี่ แต่ละส่วนจะไม่เหมือนกันนะคะ เดี๋ยวดูรีวิวไปเรื่อยๆ ลองสังเกตกันดูค่ะ เก๋ดี เราชอบ ออกจากล็อบบี้มาก็เจอคุณอุ้ม ผู้จัดการฝ่ายขายของทางโรงแรมรอต้อนรับอยู่แล้วค่ะ ตัว Welcome Drink ของที่นี่เป็นสูตรเฉพาะของที่นี่นะคะ อร่อยดีค่ะ ออกเปรี้ยวและมีกลิ่นของทับทิมซึ่งเป็นส่วนผสมหนึ่งหละค่ะ จากนั้นเราก็เลี้ยวขวาค่ะ จะเจอกับตัว Clotted Cream Tea Room ก่อนค่ะ แต่วันนั้นเค้าปิดไม่ให้เข้าด้านนี้นะคะ ต้องเลี้ยวขวาเดินไปเข้าทางด้านหน้า ซึ่งจะเป็นด้านที่อนุญาตให้คนที่ไม่ใช่แขกของโรงแรมเข้าห้องอาหาร The Castle ได้น่ะค่ะ ซึ่งตัวลานจอดรถของแขกที่มาพักกับแขกที่มารับประทานอาหาร (ทั้งที่เดอะคาสเซิล และเดอะคลอทเท็ทครีมทีรูม) ก็จะแยกจากกันด้วยนะคะ ถ้าหันหน้าเข้าโรงแรม แขกที่มาพักจะจอดทางด้านซ้ายมือ ส่วนแขกที่มารับประทานอาหารก็จะอยู่ทางขวามือ ตรงหน้าทางเข้าห้องอาหารหละค่ะ Welcome to The Castle ค่าา ลานจอดรถของคนที่มารับประทานอาหารที่นี่นะคะ จะอยู่ติดกับห้องอาหารเดอะคาสเซิลเลย เดินเข้าไปก็เจอตู้ที่มีชื่อของห้องอาหารนี้ก่อนเลยค่ะ สำหรับเอนทรี่นี้จะให้ดูบรรยากาศแบบกลางวันๆ นะคะ เดี๋ยวตอนมื้อค่ำจะมีบรรยากาศแบบกลางคืนให้ดูอีกทีค่ะ แฮ่... สำหรับท่านใดที่จะมาทานน้ำชาและขนม หันหน้าเข้าตู้นี่ ทางด้านซ้ายมือจะมีประตูให้เดินไปที่ Clotted Cream Tea Room ได้นะคะ แต่ถ้ามารับประทานอาหารก็เดินเข้าไปในห้องอาหารได้เลยค่ะ ห้องอาหาร The Castle นี่เปิดตั้งแต่ 07.00-22.00 น.นะคะ กล่าวคือ บริการอาหารครบทั้งสามมื้อได้เลยหละค่ะ ถ้าไม่อยากไปไหน ก็รับประทานที่โรงแรมได้เลยยยยย ซึ่งถ้าท่านใดที่พาน้องตัวเล็กๆ มา ที่นี่มีเก้าอี้สำหรับเด็ก (แบบในภาพ) ให้ด้วยนะคะ ที่นั่งโซนฝั่งซ้ายของห้องอาหารค่ะ (ถ้าหันหน้าเข้าห้องอาหาร) เราเดินเข้าไปด้านในก็จะเจอโต๊ะที่ทางคุณอุ๊และคุณเอ้เตรียมไว้ให้ตามภาพด้านขวานะคะ บรรยากาศของที่นั่งอื่นๆ ภายในห้องอาหารนะคะ อย่างรูปบนนี้ก็จะเป็นที่นั่งโซนที่ติดทางฝั่งขวาของห้องอาหาร (ถ้าหันหน้าเข้าห้องอาหารค่ะ) ส่วนรูปล่างจะเป็นที่นั่งอีกโซนที่จะเป็นทางออกไปยังเอาท์ดอร์นะคะ นอกจากนั้นก็ยังมีที่นั่งด้านนอกด้วยค่ะ แต่เราว่าไม่เหมาะกับการกินอาหารกลางวันเท่าไหร่ค่ะ น่าจะเหมาะกับอาหารเช้าหรือเย็นมากกว่า แหะๆ สำหรับที่นั่งทั้งหมดของห้องอาหารเดอะคาสเซิล ภายในจะนั่งได้ที่ 84 คนค่ะ ขณะที่ด้านนอกจะอยู่ที่ 96 คน โดยรวมก็ 130 คนนะคะ เยอะเอาการอยู่ เพราะทางโรงแรมตั้งใจที่จะรับแขกที่ไม่ได้พักที่นี่แต่ต้องการมารับประทานอาหาร (หรือของว่าง) ที่นี่ด้วยน่ะค่ะ menu นะคะ ราคาก็ตามระดับของโรงแรมหละนะคะ จะเห็นว่าเขียนด้วยว่า Lunch Menu Only แต่พอจริงๆ ตอนมื้อค่ำก็ยังมีบางเมนูที่ขายอยู่นะคะ เพราะตอนมื้อค่ำก็สั่งหลายอย่างในเมนูนี้มาหละ มีทั้งอาหารไทย อาหารกึ่งๆ ฟิวชั่นหน่อย กับอาหารฝรั่งนะคะ ซึ่งเชฟหลักของห้องอาหารนี้คือเชฟบุญช่วยค่ะ เป็นคนเพชรบุรีบ้านเดียวกะเราเลย เท่าที่สอบถาม เชฟไปทำงานที่ต่างประเทศมาหลายประเทศนะคะ จนท้ายที่สุดเจ้าของที่นี่ก็ชวนมาทำอาหารที่นี่แหละค่ะ เอาหละค่ะ มาดูกันดีกว่าเนาะว่าวันนั้นหม่ำอะไรกันบ้างค่ะ เมนูแรกค่ะ ปอเปี๊ยะลาบทอด ก่อนอื่นเลยนะคะ ในส่วนของพรีเซนเตชั่น การนำเสนอของอาหาร เราว่าโอเคเลยค่ะ มีการใช้ภาชนะและจัดวางมาได้ค่อนข้างดี ตัวปอเปี๊ยะทอดออกมาได้กรอบ ส่วนลาบข้างในก็หอมดีค่ะ ตอนกัดไปคำแรกนี่กลิ่นพุ่งมากมาย กลิ่นเครื่องเทศชัดเจนค่ะ เสียแต่แป้งหนาไปหน่อย กินเปล่าๆ โดยไม่จิ้มก็อร่อย หรือกินกับน้ำจิ้มก็ได้รสหวานเจือเปรี้ยวนิดๆ มาเพิ่มค่ะ เป็นหนึ่งเมนูที่เราว่าโอเคนะคะ ต่อไปค่ะ แน่นอนว่ามาที่นี่ซึ่งเค้าสร้างขึ้นมาในคอนเซปต์ English-Style Countryside ก็ต้องมีอาหารแนวอังกฤษกันหน่อย ซึ่งก็แน่นอนว่า พูดถึงอังกฤษก็ต้องนึกถึงฟิชแอนด์ชิปส์หละนะคะ ความพิเศษของเมนูนี้จะอยู่ที่ตัวดิปปิ้งอันหนึ่งที่ทำจากถั่วค่ะ ที่เห็นสีเขียวๆ นั่นแหละนะคะ สำหรับผลของการกินนะคะ ตัวฟิชทำมาได้ค่อนข้างดีค่ะ ตัวเนื้อปลาข้างในยังชุ่มฉ่ำแบบเนื้อปลาอยู่ (ถ้าจำไม่ผิดใช้ปลากระพงนะคะ) ส่วนตัวชิพส์ทอดมาได้ดีค่ะ ตัวมันฝรั่งก็ยังมีเนื้อมีหนังเต็มปากอยู่ ไม่เหมือนเฟรนช์ฟรายส์บางที่ที่ทอดกรอบจริง แต่เนื้อข้างในหายเกลี้ยงซะงั้น ส่วนตัวดิปปิ้งที่เป็นถั่ว (ถ้าจำไม่ผิดเป็นกรีนบีนหรือถั่วลันเตานะคะ) ถ้าใครชอบถั่วแนวๆ นี้ น่าจะชอบนะคะ ออกแนวรสอร่อยแบบนวลๆ อร่อยแบบแปลกๆ ดีค่ะ ไม่เหม็นเขียวนะคะ แต่เป็นกลิ่นแบบถั่วลันเตาอะค่ะ ต่อไปค่ะกับเมนูลาบปลาแซลมอน ตัวนี้ทำออกมาได้รสค่อนข้างครบของความเป็นลาบนะคะ เปรี้ยวเผ็ดเค็มครบ ตัวเนื้อแซลมอนทำมาแบบค่อนไปทางสุกค่ะ แต่รสชาติยังไม่เผ็ดนัก แต่ก็เป็นรสชาติที่คนทั่วไป (ที่ไม่ใช่คนกินเผ็ดจัดแบบเรา) น่าจะโอเคหละค่ะ แนะนำให้กินหอมที่หั่นมาด้วย เพราะจะช่วยกลบกลิ่นคาวนิดๆ ของแซลมอนได้ดีค่ะ menu ต่อไปค่ะกับพอร์คช็อป ตัวนี้เรากินตอนที่มันเริ่มเย็นแล้ว (มัวแต่ถ่ายรูปและเม้าท์มอยอยู่ แหะๆ) ตัวเนื้อก็เลยแข็งไปหน่อยง่ะค่ะ กลิ่นย่างหอมแบบอ่อนๆ แต่ขอบอกว่า น้ำจิ้มแจ่วของเมนูนี้ชนะเลิศมาก รสชาติออกมาพอดี อร่อย จัดพอควร แบบที่ไม่คิดว่าจะได้กินรสชาตินี้ในโรงแรมค่ะ ฟินกับน้ำจิ้มแจ่วมากค่ะ เสียดายว่าถ้ากินตอนยังร้อนๆ และเนื้อไม่แข็งมาก น่าจะฟินเฟร่อ ต่อไปค่ะกับเมนู Grilled Fresh Sausages ตัวไส้กรอกนี่ที่นี่ไม่ได้ทำเองนะคะ แต่สั่งซื้อจากแถวๆ นั้นแหละค่ะ (ถามแล้วเค้าตอบมาว่างี้จริงๆ นา แหะๆ) รสชาติตัวนี้ออกเค็มนำไปหน่อยค่ะ ตัวไส้กรอกเปลือกกรอบบาง ตัวเนื้อเยอะและแน่นมาก แป้งน้อย เวลาเคี้ยวนี่เต็มปากเต็มคำ เด้งกรุบนิดๆ และมีกลิ่นหอมอ่อนๆ โออยู่ค่ะ เสียเรื่องเค็มนำไปหน่อยแค่นั้นเอง ตัวมันบดที่มาด้วย หอมเนยดีค่ะ ไม่ได้บดเนียนนะคะ มีเนื้อของมันปนๆ อยู่บ้างค่ะ โดยรวมอร่อยใช้ได้ค่ะ ต่อไปค่ะกับเมนูเครื่องดื่มกันบ้าง ตัวนี้เป็น signature ของที่นี่นะคะ นั่นก็คือ The Castle นั่นเองค่ะ เป็นเครื่องดื่มสมูทตี้นะคะ ประกอบไปด้วยสตรอเบอรี่ โยเกิร์ต นมสดและไซรัปค่ะ มีฟองนมโปะหน้ามาด้วยนะคะ ตัวรสชาติออกหวานอมเปรี้ยว หอมสตรอเบอรี่ที่ใส่มาค่อนข้างเยอะพอควรนะคะ โออยู่ค่ะ ชอบแก้วที่ใส่มาด้วยค่ะ (เหมือนขวดนมสมัยเด็กๆ เลย) ต่อไปเป็นเมนูของหวานกันบ้างนะคะ ของหวานที่นี่ก็มีดังนี้ค่ะ แต่เนื่องด้วยตอนนั้นอิ่มมากแล้วค่ะ เราก็เลยขอบายกัน ยกเลิกไป เพราะหลังจากมื้อกลางวันก็จะมีอาฟเตอร์นูนทีอีก ก็เลยบอกว่าขอรวบทีเดียวตอนนั้นเลยดีกว่าอะนะคะ เพราะงั้นพาไปดูห้องน้ำของที่นี่กันดีกว่า ขอบอกว่าเคยมีสื่อบางท่านถึงกับอยากนอนในห้องน้ำกันเรยทีเดียว ฮา แต่ห้องน้ำที่นี่ตกแต่งได้ดีจริงๆ แหละค่ะ น่าเข้าไปสิงสถิตมากมาย (ป้าเป็นกระสือเหรอจ๊ะ จะไปสถิตอยู่ในห้องน้ำเนี่ย ) ปิดท้ายเอนทรี่นี้กันด้วยการตกแต่งมุมหนึ่งของห้องอาหารเดอะคาสเซิลแห่งนี้นะคะ สำหรับเอนทรี่ประเดิมก็ขอจบแต่เพียงเท่านี้นะคะ เอนทรี่หน้าจะพาไปดูห้องพักของที่นี่กันนะคะ (ดูห้องแบบที่เราพักก่อนนะคะ ส่วนห้องแบบอื่นๆ ขอแยกไปอีกเอนทรี่หนึ่งเนาะ...ครือ..แหะๆ ค่ะ...มหากาพย์อีกแล้วค่ะอิชั้น) การให้คะแนน (ความคิดเห็นส่วนตัวสุดๆ นะคะ) รสชาติ Grilled Fresh Sausages B+ / ปอเปี๊ยะลาบทอด B+ / ลาบปลาแซลมอน B+ / ฟิชแอนด์ชิปส์ B / พอร์คช็อป B+ / The Castle B+ วัตถุดิบ B+ การบริการ B+ บรรยากาศ A ราคา B+ ความสะอาด B+ ความคุ้มค่า B+ ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ 1,469,696+1971214=3440910/10996/909 ชอบด้านนอกค่ะ สวยมากกกก
น่าไปถ่ายรูปจริง ๆ รูปอาหารสวยมากเลยค่ะพี่เต้ย เห็นแล้วน้ำลายหยด โดย: Close To Heaven วันที่: 12 พฤศจิกายน 2557 เวลา:9:59:55 น.
สวยจ้ะ น่าไปถ่ายรูป
ห้องน้ำขนาดนี้ ห้องพักจะขนาดไหน The Castle น่ากินเนาะ คงหอมสตรอเบอรี่จ๋าเลย ลาบปลาแซลมอน น่ากิน โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 12 พฤศจิกายน 2557 เวลา:19:16:17 น.
สาวไกด์ใจซื่อ Food Blog
โหยยยย ตะลึงกับบรรยากาศมากค่ะพี่เต้ย ลาบแซลมอนนี่ เรียกความหิวยามตีหนึ่งได้ดีจริงๆ โดย: กาบริเอล วันที่: 13 พฤศจิกายน 2557 เวลา:1:23:27 น.
บรรยากาศ ดูหรู แต่รู้สึกเงียบ ๆ เหงา ๆ ไม่เหมือนเมืองไทยนะคะ คุณญามิลา เขียนหนังสือแนวธรรมะ ปรัชญา คะ ชอบวิธีคิดเขาคะ ^U^ |
ปล.เค้ารู้แหละอีกคู่ที่ไปด้วยเป็นใคร แอบเห็นในเฟซ 555