~* ~* ~* ~* ~* ~* อาเธอร์จอมราชันย์ ถึงเป็นจอมราชันย์ก็ยังมีวันที่ฝันร้าย ~* ~* ~* ~* ~* ~*




อีกหนึ่งเล่มที่ได้อ่านในโครงการ RRR (Rainy Read Rally) ค่ะ






ชุดอาร์เธอร์จอมราชันย์ 1-5
เขียนโดย ที.เอช.ไวท์
แปลโดย นพมาส แววหงส์
สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์
จำนวนหน้าและราคา
เล่ม ๑ ตอนดาบในศิลา 320 หน้า 205 บาท
เล่ม ๒ ตอนราชินีแห่งลมฟ้าราตรี 171 หน้า 130 บาท
เล่ม ๓ ตอนอัศวินอัปภาคย์ 341 หน้า 225 บาท
เล่ม ๔ ตอนเปลวเทียนในสายลม 214 หน้า 159 บาท
เล่ม ๕ ตอนคัมภีร์เมอร์ลิน 200 หน้า 145 บาท
รวม 5 เล่มจำนวนหน้า 320+171+341+214+200= 1246 หน้า







ขอบอกก่อนว่า ก่อนจะอ่านหนังสือชุดนี้ เราคิดว่าหนังสือชุดนี้จะออกแนวขรึม-ขลังซะอีกค่ะ

แต่พออ่านเล่มแรก ก็เริ่มรู้สึกว่า..เฮ้ย..ไม่ใช่แล้วแหละ เพราะมันเป็นการเขียนแบบคนในอนาคตมองไปสู่เรื่องราวในอดีต มีอารมณ์ขัน มีหยิกแกมหยอก ฯลฯ




ว่าแล้วก็เริ่มรีวิวเลยแล้วกันค่ะ เพื่อไม่ให้เสียเวลา














เล่ม ๑ ตอน ดาบในศิลา


เล่มนี้จะค่อนข้างมีอารมณ์ขัน มีความเบาๆ สบายๆ กว่าทุกเล่มค่ะ เพราะเป็นเรื่องราวของอาเธอร์สมัยยังเด็กอยู่ จะมีอะไรฮาๆ รั่วๆ เยอะค่ะ

ยกตัวอย่างเช่น ตอนเซอร์เอ็กซเตอร์ขอหนังสือรับรองจากเมอร์ลิน เมอร์ลินพูด “หนังสือรับรอง” พร้อมยื่นมือ ปรากฏแผ่นจารึก ลงนามโดยอริสโตเติล มีกระดาษหนังซึ่งลมนามโดยเฮคาที เจ้าแม่แห่งเวทมนตร์และสำเนาตัวพิมพ์ดีดซึ่งลงนามโดยอาจารย์ใหญ่วิทยาลัยทรีนีตี้ ซึ่งจำไม่ได้ว่าเคยเจอเมอร์ลินมาก่อน ทั้งหมดนี้ทำให้เมอร์ลินดูน่าเชื่อถืออย่างยิ่ง




นับจากบรรทัดนี้ จะมีสปอยล์หน่อยๆ นะคะ


เล่มนี้จะเป็นในส่วนของการ “ก่อร่างสร้างตัว” ให้กับอาร์เธอร์ในอนาคต
ด้วยการทีเมอร์ลินพยายามจะให้เรียนรู้ด้วยการแปลงร่างวอร์ตเป็นสัตว์ต่างๆซึ่งมีเรื่องเล่าที่น่าสนใจอย่างเรื่องพระยิวกับเอไลอาห์ กับเรื่องของความยุติธรรม


เรื่องของตรรกะแบบมดๆ ที่อ่านแล้ว “หึๆ” ดีค่ะ -*-


หรือเรื่องแปลกๆ (ที่เพิ่งรู้) เช่น กระต่ายป่าตัวเดียวกัน อาจจะเป็นตัวผู้ในเวลาหนึ่ง และตัวเมียในเวลาอื่น


แถมในเล่ม ๑ นี้ ก็มีนกอีก๋อย ซึ่งปรากฏตัวในหนังเรื่อง UP ด้วย ทำให้อยากรู้มากว่า นกอีก๋อยในธรรมชาตินี่มันเป็นยังไงหว่า? (คืออยากเห็นรูปมันจริงๆ ว่างั้น)

เพิ่มเติม คุณปิยะรักษ์ ได้นำรูปของนกอีก๋อยมาให้ดูค่ะ มันคือเจ้าตัวข้างล่างนี้นะคะ มีทั้งนกอีก๋อยเล็ก และนกอีก๋อยใหญ่ค่ะ (UP น่าจะเป็นนกอีก๋อยใหญ่ค่ะ)




จาก //www.pantip.com/cafe/library/topic/K8287666/K8287666.html ความเห็นที่ 107 นะคะ





แต่ก็มีข้อสงสัยนิดหนึ่ง ตอนที่เมอร์ลินแปลงร่างให้วอร์ตเป็นเหยี่ยว ปรากฏว่ามีการร้องเพลงสดุดี ในเพลงเอ่ยชื่อวอร์ต ทั้งที่ไม่ได้มีการบอกชื่อ



แล้วก็..ความผิดพลาดของหนังสือมีจุดเดียวในหน้า 243

“แล้วนกไนติงเกลล่ะ” อาร์คิมีดีสร้องขึ้นสุดเสียว



เล่มแรกนี่ออกแนวสนุกปนเนือยๆ ในบางช่วงค่ะ สลับๆ กันไป


เล่มแรกนี้จะจบลงที่วอร์ตดึงดาบออกจากศิลาได้นะคะ




















เล่ม ๒ ตอน ราชินีแห่งลมฟ้าราตรี




จะเป็นเรื่องของครอบครัวกาเวนและพี่สาวร่วมมารดาของอาร์เธอร์ ซึ่งฉากเปิดของหนังสือเล่มนี้ อาจทำเอาคนรักแมวใจสลายได้ค่ะ


เล่มนี้จะเป็นเล่มที่เมอร์ลินสอนอาร์เธอร์ให้เห็นความไม่ควรของสงครามเปลี่ยนทัศนคติ และวิธีคิดใหม่ ทำให้อาร์เธอร์คิดค้นหาวิธีที่จะกำกับอำนาจ และสร้างระบบใหม่จนเป็นที่มาของ “โต๊ะกลม”


เล่มนี้เป็นเล่มที่บางที่สุดของชุด แต่ดำเนินเรื่องและจบได้ชวนติดตามมากค่ะ จบด้วยจุดเริ่มต้นของชะตากรรมที่จะเลวร้ายต่อไปในอนาคต



มีคำผิดพลาดนิดหน่อย อย่างหน้า 93 ก็มีอัศวินร่างหมึมา (พิมพ์สลับกันอะนะคะ)





เล่มนี้มีคำพูดที่ชอบๆ อยู่ สองตอนค่ะ





บางทีเราต่างมอบหัวใจให้แก่คนที่แทบจะไม่คำนึงถึงเราตอบแทนเลย โดยไร้เงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น








“ชะตากรรมของมนุษย์คือการอยู่รวมกัน ไม่ใช่แบ่งแยก ถ้าเอาแต่แบ่งแยก เราก็จะลงเอยด้วยการเป็นฝูงลิง
ที่ขว้างปาถั่วใส่กันจากต้นไม้คนละต้น”



















เล่ม ๓ ตอน อัศวินอัปภาคย์




เล่มนี้จะเป็นลักษณะการเล่าเรื่องด้วยสายตาของคนในอนาคตค่อนข้างเยอะมีเปรียบเทียบลานสล็อตเป็นนักเล่นคริกเก็ตชาวออสเตรเลีย ฯลฯ


เล่มนี้จะเน้นเรื่องของลานสล็อต อัศวินคู่ใจ มือหนึ่งแห่งอัศวินโต๊ะกลมของอาร์เธอร์ค่ะ


เริ่มตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก กลายมาเป็นอัศวิน ชีวิตรักอันแสนจะ..นะ การทำผิดและการเสียพรหมจรรย์ของตนเอง การเกิดเรื่องราวต่างๆ ขึ้น รวมทั้งการสร้างปาฏิหาริย์ครั้งสุดท้าย ฯลฯ (การสร้างปาฏิหาริย์ครั้งสุดท้ายนี่ เล่นเอาเราสะเทือนใจอยู่นะคะ)




ในเล่มนี้จะมีพูดถึงสาเหตุและเรื่องราวของการตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ด้วยค่ะซึ่งมีหลายเรื่องหลายราวที่น่าสนใจ มีหลายเหตุการณ์ที่..แหม้!

แล้วก็จะมีการพูดถึงอาร์เธอร์ในฉบับของมาโลรีตลอด (เล่นเอาอยากหามาอ่านด้วยเลยนะนี่ หุๆ)

มีความพยายามที่จะอธิบายให้คนรู้สึกดีขึ้นกับกวินีเวียร์ แต่การกระทำต่อมา ก็หักล้างความพยายามนั้นลงซะอย่างนั้น แล้วก็ตบท้ายด้วยเหตุการณ์ที่ทำให้นางได้รับผล จนอาจทำคนอ่านใจอ่อนลงอีก (โอ้..ช่างล้อเล่นกับความรู้สึกคนอ่านเสียนี่กระไร)


เรื่องของเซอร์เมลิอากรันซ์ช่าง -*- แล้วก็ทำให้เรื่องกลับตาลปัตรไปเลยค่ะ






ข้อผิดพลาดของเล่มนี้ในหน้า 286

ที่จริงต้องเป็นเซอร์บอริสที่เจอราชินีคุกเข่า แต่พิมพ์เป็นอาร์เธอร์ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นที่ต้นฉบับหรือผิดพลาดที่การแปลกันแน่นะคะ







ปิดท้ายเล่มนี้ด้วยข้อความที่ชอบของเล่มนี้ค่ะ




คนเรายอมทำสิ่งที่ต่ำช้าสามานย์ที่สุดได้ เพื่อสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าเกียรติศักดิ์









“...มีแต่คนที่รู้สึกขาด หรือเลว หรือไม่ดีพอ ที่อยากเป็นคนเก่ง...”








“ถ้าพระเจ้าควรจะต้องมีเมตตาปรานี” พระองค์ตรัส “ข้าก็ไม่เห็นว่าทำไมพระองค์จึงจะไม่ยอมให้มีคนโซซัดโซเซมาสู่สวรรค์ เหมือนกับคนที่ปีนขึ้นไป...”









...คุณลักษณะเหล่านี้อาจจะอธิบายว่าทำไมกวินีเวียร์จึงกำหัวใจลานซล็อตและอาร์เธอร์ไว้ได้ เป็นเรื่องของความกลัวยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด ความกล้าที่จะรับและให้จากหัวใจในยามที่มีโอกาส กวีมักจะเรียกร้องให้ผู้หญิงมีความกล้าแบบนี้ นางเก็บกุหลาบตูมยามที่ยังเก็บได้และสิ่งที่สะดุดใจยิ่งคือ นางเก็บไว้เพียงสองดอก ซึ่งนางรักษาไว้ตลอดและสองดอกนั้นเป็นดอกที่ดีที่สุด


















เล่ม ๔ ตอน เปลวเทียนในสายลม



เล่มนี้จะเป็นเรื่องราวของการทำลายและทำร้าย ทั้งราชินีกวินีเวียร์ อาร์เธอร์ และลานซล็อตค่ะ โดยครอบครัวของกาเวน


การเกิดโศกนาฏกรรมในระหว่างการช่วยราชินีของลานซล็อต


การเปิดเผยความผิดพลาดของอาร์เธอร์


การถกเถียงภายในตัวเองของอาร์เธอร์ ถึงสิ่งที่ทำมา และสิ่งที่จะทำไป


คำถามที่ว่า ที่แท้แล้ว...มนุษย์เป็น “โฮโมเฟร็อกซ์” หรือ “โฮโมเซเปียนส์” กันแน่?





ข้อผิดพลาดของเล่มนี้มีที่หน้า 106 มอร์เดร็ดพูดว่า

อากราเวนเป็นพี่ชายกาเวน ทั้งที่ก่อนหน้านี้บอกว่ากาเวนเป็นพี่ชายคนโต








ปิดท้ายด้วยข้อความที่ชอบๆ แล้วกันค่ะ





“...สงครามก็เหมือนกับไฟนั่นแหละ....คนคนเดียวอาจจะจุดขึ้นได้ แต่ไฟก็จะลุกลามไปทั่ว...”








“คนที่กล้าหาญที่สุดคือคนที่ไม่รังเกียจที่จะดูเหมือนคนขี้ขลาด...”








ผู้นำที่ชั่วร้ายเป็นคนนำประชาชนผู้บริสุทธิ์ไปสู่การสังหารหมู่ หรือว่าประชาชนที่ชั่วร้ายเป็นคนเลือกผู้นำตามแต่ใจตัวเองกันแน่...








มนุษย์เอาแต่แก้แค้นสิ่งที่ทำผิดไปด้วยสิ่งที่ผิดใหม่















เล่ม ๕ ตอน คัมภีร์เมอร์ลิน




เล่มนี้เป็นเล่มที่เพิ่มขึ้นมา ทั้งที่ตอนแรกผู้เขียนตั้งใจจะให้จบเพียงแค่ 4 เล่มค่ะ เป็นเล่มที่มีการถกเถียง โต้แย้งทางความคิดค่อนข้างมาก และทำเอาคนอ่านพลอยครุ่นคิดไปด้วย


และ..อาจจะปรับเปลี่ยนความคิดบางประการไปเลยก็ได้





เนื่องจากเล่ม 4 จบลงด้วยความรู้สึกอ่อนแรง และท้อแท้ใจของอาร์เธอร์


เล่มนี้เป็นเล่มที่เมอร์ลินได้พาอาร์เธอร์มาพบกับ “เพื่อนเก่า”และร่วมครุ่นคิด ถกเถียงเรื่องต่างๆ ก่อนจะกลับไปเผชิญกับชะตากรรมที่รออยู่ และยังคงมีการพูดถึงเรื่องราวของอาร์เธอร์ ด้วยสายตาคนปัจจุบัน (ในขณะนั้น)


อย่างเช่นตอนที่อาร์เธอร์บอกว่า วันหนึ่งผู้คนก็จะลืมเลือนเรื่องราว สิ่งที่ทำอยู่ล้วนไร้ค่า เมอร์ลินก็ร่ายรายชื่อของคนที่จะพูดถึงอาร์เธอร์ในอนาคต แม้กระทั่งคนที่เขียนหนังสือเล่มนี้เองด้วย(แถมยังแซวคนอ่านด้วยตัวอักษรอีกต่างหาก )



อีกตอนหนึ่งก็ตอนพูดถึงคนปัจจุบัน (ในขณะนั้น) ซึ่ง..ขอบอกว่าเราไม่ใช่คนที่มีความคิดสามอย่างนี้ฟร่ะ เหอๆ

จากหน้า 26
“ผู้อ่านของเราในเวลานั้น” จอมขมังเวทพูดต่อด้วยเสียงขรึมๆ “มีความคิดสามอย่างอยู่ในหัวเลิศเลอของพวกเขา อย่างแรกคือ มนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐกว่าสัตว์อื่นๆ อย่างที่สองคือ ศตวรรษที่ยี่สิบนั้น เหนือกว่าศตวรรษอื่นๆ และอย่างที่สามคือมนุษย์ผู้ใหญ่ในศตวรรษที่ยี่สิบนั้นเหนือกว่าผู้อ่อนวัยกว่า...”






มีความน่าสนใจที่บอกว่า สัตว์มีการเมืองในแต่ละรูปแบบเป็นของตนเอง (ซึ่งเมอร์ลินให้อาร์เธอร์เรียนรู้ตั้งแต่เดิม) มดบางชนิดเป็นคอมมิวนิสต์หรือฟาสซิสต์ ห่านเป็นอนาธิปไตย แต่เมอร์ลินไม่สามารถหาลัทธิทุนนิยมในโลกธรรมชาติได้ซึ่งนั่นน่าจะหมายถึงข้อสรุปว่า ทุนนิยมเป็นเรื่องผิดธรรมชาติ?




ข้อมูลที่ว่าในบรรดาสัตว์สองแสนห้าหมื่นชนิด มีแค่ราวสิบสองชนิดที่ทำสงครามกัน (หมายถึงสงครามในระหว่างพวกเดียวกันเอง)




คือ..อ่านแล้วรู้สึกว่า ครุ่นคิดได้หลายอย่าง ถกเถียงกับตัวอักษรและฐานความคิดของตัวเองอย่างเมามันเลยค่ะ



เรียกว่า..เล่ม 5 นี่ค่อนข้างชัดเจนว่า มีเรื่องให้ชวนคิด ถกเถียง วิพากษ์ โดยเฉพาะความคิดในเชิงปรัชญา มากยิ่งกว่าเล่มอื่นๆ "มาก" ค่ะ (ซึ่งถ้าใครไม่ชอบอ่านแนวนี้ เล่มนี้อาจจะเป็นเล่มที่อ่านแล้วไม่สนุกที่สุดก็เป็นได้ แต่ถ้าใครชอบถกเถียง ชอบคิด น่าจะชอบเล่มนี้ที่สุดค่ะ)




อย่างในหน้า 63 ที่มีเรื่องความคิดของพันเอกมาร์ติน ที่ทำให้คิดถึงห้องหว้ากอแห่งพันทิปขึ้นมาติดหมัด ที่มักมีความคิดในเชิง..เอ่อ..ไม่เห็นด้วยกับหลายๆ เรื่องที่เป็นความเชื่อโบราณ ทั้งที่ยังไม่ได้ทำการพิสูจน์หรือยังไม่ได้รู้มากพอที่จะรู้ว่า "ความเชื่อ" ที่บอกต่อกันมานั้น มันจริงหรือไม่ แต่ก็หัวเราะเยาะไปก่อน (ลองอ่านตัวอย่างของพันเอกมาร์ตินในหน้านั้นแล้วจะอึ้งว่า..ที่หัวเราะเยาะน่ะ พอมีวิทยาการมากพอ ปรากฏว่า..มันดันเป็นจริงซะอย่างนั้น เหอๆ)


อย่างเรื่อง...งูเลื้อยผ่านแตงกวาแล้วจะขมเนี่ย..กลายเป็นเรื่องตลกขบขัน ทั้งๆ ที่..นะ ได้พิสูจน์หรือยังว่ามัน "ไม่จริง" จริงๆ น่ะ?






นอกจากนั้นความคิดที่ตอกย้ำว่า สัตว์ต่างๆ ยิ่งใหญ่ไม่แพ้มนุษย์ เกิดมาก่อนมนุษย์เราตั้งหลายหมื่นหลายแสนปี ซึ่งเราในฐานะผู้มาทีหลังและมีประสบการณ์อันอ่อนด้อยกว่า ควรให้ความเคารพเช่นกัน ในฐานะผู้ที่เยาว์วัยกว่าอย่างเหลือแสน
(อ่านๆ ไป พอเกิดความ "เคารพ" ก็เลยทำให้รู้สึกอยากเลิกกินเนื้อสัตว์อีกรอบแล้วค่ะ แต่..นะ..ใจยังไม่แข็งพอซักที ไม่รู้ว่าตัวเองจะทำได้เมื่อไหร่สิน่า)




มีการพูดถึงคำคุณศัพท์ที่ใช้เรียกชนิดของสิ่งมีชีวิตซึ่งจะต้องเหมาะสมกับลักษณะเด่นของมัน(จนกระทั่งถึงขนาดว่า มนุษย์เราไม่ควรเรียกว่า โฮโมเซเปียนส์ แต่ควรเป็นโฮโมเฟร็อกซ์มากกว่า เพราะเฟร็อกซ์แปลว่าดุร้าย (ส่วนคำว่าเซเปียนส์ คุณปิยะรักษ์ได้บอกว่า แปลว่า ฉลาด รู้คิด (wise or judicious)) หรือกระทั่งบอกว่าน่าจะเป็นโฮโมสตัลตัส (ที่แปลว่าโง่) รวมทั้งเสนอว่าน่าจะเรียกว่า โฮโมอิมโพลิติสส์ ซึ่งแปลว่าสัตว์การเมืองด้วย






อ่านๆ ไปแล้วก็ทำให้คิดว่า


ทำไมต้องระบุว่ามนุษย์มีธรรมชาติเด่นที่ดีงามหรือเลวร้าย มนุษย์อาจเป็นสัตว์อีก 1 ชนิดที่ไม่ได้มีธรรมชาติไปทางด้านใดเลยก็ได้ กล่าวคือ เนื้อแท้ของมนุษย์เกิดมามีทั้งส่วนดีและเลวในปริมาณที่พอๆ กัน

การกำหนดว่าสัตว์ใดมีลักษณะเด่นอย่างไร อาจเป็นเพียงเพราะมนุษย์ตัดสินและ stereotype โดยไม่ได้รู้จักมันอย่างลึกซึ้งก็ได้






หรืออย่างเรื่องที่มาร์ลินบอกว่า ความเสมอภาค ที่แท้แล้ว ไม่ได้สอดคล้องกับธรรมชาติ แต่อย่างมดที่เชื่อกันมามากกว่า 30 ล้านปี และทำให้ "ความเสมอภาค" นั้นเป็นจริงได้ แล้วมนุษย์หละ? ที่แท้จริงแล้ว ท้ายที่สุดจะทำได้เหมือนมด หรือมีทางออกอื่น?



มีจุดที่อ่านแล้วค้างคาใจนิดหนึ่งคือ ตอนที่งูน้ำบอกว่า นิรันดร์กาลที่เต็มไปด้วยคนที่เหมือนๆ กันหมดช่างน่ากลัว..ซึ่ง..ก็เลยรู้สึกว่า ทำไมถึงน่ากลัวหละ? เป็นเพราะมีความคิดในเชิง "ปัจเจก" ค่อนข้างสูงหรือเปล่า?

ซึ่งหนังสือเล่มนี้เรารู้สึกว่า..คนเขียนมองความคิดแบบสังคมนิยมเป็นผู้ร้าย แล้วก็เทิดทูน "ปัจเจก" อยู่มากกว่าความเป็นรัฐ (ซึ่งทำให้คิดว่า..ที่จริงแล้ว ความเป็นรัฐที่มีศีลธรรม มันเป็นไปไม่ได้เหรอ? ซึ่งก็ไม่ใช่ขนาดมดน่ะนะ)




อ่านๆ ไป..สำหรับคนที่เคยยึดมั่นในเรื่องของความคิดในเชิงชาตินิยม อาจจะเปลี่ยนไปได้นะคะ เพราะท้ายที่สุดแล้ว หนังสือเล่มนี้มีตรรกะที่ทำให้เราคิดไปได้ว่า ที่จริงแล้วความวุ่นวายที่มันเกิดขึ้นเนี่ย..มันอาจจะเป็นเพราะเรามีการแบ่งชาติ แบ่งแยก และยึดว่า สิ่งใดเป็นของใคร ของชาติไหนก็เป็นได้ ทั้งที่..ที่แท้แล้ว มันไม่มีอะไรที่เป็นของใครอย่างแท้จริง (ออกแนวพุทธก็ยังได้นะคะนี่)










ในเล่มนี้มีหลายเรื่องเลยค่ะ ที่ชวนคิด และอยากพูดถึง แต่คิดว่า แค่นี้ก็คงไม่มีใครอ่านแล้ว






แต่สิ่งหนึ่งที่รู้สึกแปลกๆ ก็คือ เราอ่านเล่มนี้แล้วรู้สึกว่า มันแปลต่างไปจากเล่มอื่นค่ะ ราวกับเป็นคนละคนแปลน่ะ ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า แต่อ่านแล้วมันรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ



อ้อๆ แต่ตอนท้ายบท 19 ทำเอาเราน้ำตาไหลซะงั้นนะคะ








แต่ก็มีข้อติดข้องสงสัยอย่างการบอกว่า

จักรพรรดิใช้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท แต่กับกษัตริย์ใช้ท่าน? ซึ่งเรางงง่ะ ไม่น่าจะใช่นา



หรืออย่างในหน้า 101-102 แทนตัวว่าพระองค์ แต่พอหน้า 102 กลับใช้ว่า “เขา” แทน งงง่ะ






จบด้วยประโยคที่ชอบๆ จากเล่มนี้แล้วกันค่ะ





“ไม่มีใครจะช่วยใครไว้จากอะไรได้หรอกนอกจากพวกเขาจะต้องช่วยตัวเอง
ไม่มีทางจะทำอะไรๆ ให้ใครๆ ได้หรอก จริงๆ แล้วมันอันตรายมากเลยนะที่จะทำอะไรลงไป และสิ่งเดียวที่คุ้มค่าที่จะทำสำหรับมนุษยชาติก็คือ เพิ่มพูนความคิดความอ่านไว้เยอะๆ ในคลังข้อมูล เพื่อที่ว่าถ้ามีคลังข้อมูลใหญ่ขึ้น ผู้คนจะได้มีโอกาสนำไปใช้ประโยชน์ในการช่วยเหลือตัวเอง ด้วยการทำแบบนี้ก็จะมีวิธีปรับปรุงให้ดีขึ้นเรื่อยๆ จะได้นำไปใช้หรือปัดทิ้งไปได้ตามสบายและยังมีความหวังริบหรี่ที่จะมีความก้าวหน้าต่อไปได้ในช่วงเวลาหลายพันปีจากนี้ไปเป็นเรื่องของปราชญ์ที่จะเปิดความคิดใหม่ๆ ขึ้น ไม่ใช่ธุระของเขาที่จะนำไปบังคับใช้กับผู้คน”










“การทะเลาะเบาะแว้งเป็นเพียงการอวดกำลังทางความคิดเท่านั้นเป็นเหมือนการดวลดาบโดยนับคะแนนเพื่อเอาชนะไม่ใช่เพื่อหาความจริง...”










“เราพบว่าปัจจุบันนี้มนุษยชาติแบ่งแยกในแง่การเมืองออกเป็น คนฉลาดหนึ่งคน คนโกงเก้าคน และคนโง่เก้าสิบคนในมนุษย์ทุกๆ ร้อยคน ...คนโกงเก้าคนนั่นรวมตัวกันภายใต้ป้ายชื่อของคนโกงที่สุดในหมู่พวกเขาและกลายเป็น ‘นักการเมือง’ คนฉลาดแยกมายืนต่างหากเพราะเขารู้ตัวดีว่ามีจำนวนน้อยกว่าอย่างไม่อาจไปสู้รบปรบมือได้และอุทิศตนให้แก่กวีนิพนธ์ คณิตศาสตร์หรือปรัชญาขณะที่คนโง่เก้าสิบคน ย่ำเท้าตามหลังป้ายชื่อของคนโกงเก้าคนตามแต่ใจจะนึกฝันไปเดินไปสู่วังวนแห่งเล่ห์เหลี่ยม การมุ่งร้ายและศึกสงคราม...”










มนุษย์ฆ่าฟันคนดีๆ ทุกคนที่อ้าปากพูดอะไรขึ้นโดยเกือบจะไม่มีการเว้นเลยนับแต่สมัยของโสกราตีส มนุษย์ฆ่าแม้กระทั่งพระเจ้าของตน ใครก็ตามที่พูดความจริงแก่มนุษย์จะตกเป็นเหยื่อที่ถูกต้องตามกฎหมายให้มนุษย์หักหลัง










โดยรวมแล้ว คงเป็นหนังสือที่ “ควร” อ่านค่ะ แต่ไม่คิดว่า ทุกคนจะรู้สึกชอบทั้งหมดนะคะ สำหรับเรา ถ้าไม่ได้อ่านก็คงเสียดายน่ะค่ะ











ขอบคุณทุกท่านที่อ่านรีวิวยาวโคตรๆ อันนี้นะคะ แหะๆ

521258/4298/380





Create Date : 08 ตุลาคม 2552
Last Update : 8 ตุลาคม 2552 17:02:59 น.
Counter : 4050 Pageviews.

43 comments
  

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


แวะมาทักทายกันด้วยความระลึกถึงจ้า
อ่านจนจบแล้วค่ะครูเต้ย
ชุดนี้ซื้อแล้วแต่ยังไม่ได้อ่านเป็นปีเลยค่ะ

โดย: หอมกร วันที่: 8 ตุลาคม 2552 เวลา:8:26:10 น.
  

อ้าว คนแรกเหรอเนี่ย ดชคดีเป็นบ้าเลยค่ะ

โดย: หอมกร วันที่: 8 ตุลาคม 2552 เวลา:8:27:57 น.
  

ขออภัยค่ะ สะกดผิดจนได้
โดย: หอมกร วันที่: 8 ตุลาคม 2552 เวลา:8:28:58 น.
  
ท่าทางว่าหนังสือชุดนี้จะให้ข้อคิดเยอะเหมือนกันน่ะค่ะ
โดย: เด็กน้อยขี้แย วันที่: 8 ตุลาคม 2552 เวลา:9:02:09 น.
  
ห่างเหินวงการหนังสือไปหลายปี อาศัยอ่านตามบล็อคจ้า
โดย: Poo (myroom_pu ) วันที่: 8 ตุลาคม 2552 เวลา:9:09:54 น.
  
ยาวจริงๆ จ๊ะ แต่แสดงว่าจขบ.ต้องชอบมากแน่ๆ เลยใช่มะ
โดย: Summer Flower วันที่: 8 ตุลาคม 2552 เวลา:9:14:06 น.
  
มีหนังสืออ่านเยอะดีจังค่ะ
ช่วงนี้ไม่ค่อยได้หาหนังสือมาอ่านเลยค่ะ

โดย: vanilla_ole วันที่: 8 ตุลาคม 2552 เวลา:9:33:12 น.
  
...



+ “...มีแต่คนที่รู้สึกขาด หรือเลว หรือไม่ดีพอ ที่อยากเป็นคนเก่ง...”

มิน่า... เราเลวนี่เอง



+ เคยอ่านเจอ (รู้สึกจะใน มติชนสุดฯ คอลัมน์หนัง) ที่พูดถึง แคแรกเตอร์ เมอร์ลิน

อ้อ...นึกออกละ เป็น คอลัมน์ของ คุณพรพิมล (คอลัมน์ที่อยู่ข้างๆกับของ คุณนพมาศ ผู้แปลห้าเล่มนี้นั่นเอง)
เมื่อครั้งคุยถึงหนัง Benjamin Button
รู้สึกว่าน่าสนใจมากๆ

จึังยังไม่ได้อ่านทั้งหมดที่ พี่เต้ย รีวิว ไว้นะครับ (เพื่ออรรถรส )


โดย: The Legendary Midfielder วันที่: 8 ตุลาคม 2552 เวลา:10:54:39 น.
  
ส่งการบ้านค่ะ
แหะแหะ
มาช้าไงก็ดีกว่าไม่มา
เนอะๆๆๆ
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=howareyou&month=10-2009&date=08&group=4&gblog=198


ว่าแต่หนังสือรวมแล้ว
พันกว่าหน้านี่ก็ยากเอาการอยู่นะคะ

านรีวิวไม่ละเอียดเท่าไหร่
แต่เห็นแว้บๆ ว่าพี่เต้ยอ่านละเอียด
แบบนี้สนพ.และผู้แปลคงต้องนำไปพิจารณาแล้วละค่ะ

ปกสวยเนอะ
^^
โดย: I am just fine^^ วันที่: 8 ตุลาคม 2552 เวลา:11:46:30 น.
  
ฮัลโหลๆ ครูเต้ย ไปทานข้าวแล้วแหงๆ เลย แวะมาอีกรอบค่ะ
จะมาบอกว่าแปลว่าซื้อฉบับพิมพ์ครั้งที่ 1 แล้ว แต่ยังไม่ได้หยิบมาอ่านเลยค่ะ
จะมีแรงบันดาลใจหยิบมาอ่านก็เพราะครูเต้ยนี่แหละ อิอิ
โดย: หอมกร วันที่: 8 ตุลาคม 2552 เวลา:12:12:41 น.
  
อร๊ายๆๆๆ ไม่ได้ต้องมาอ่านให้จงได้ค่ะ อย่าลืมนะคะมีเวลาเมื่อไหร่ต้องมาเอมิเรตส์ค่ะ พาเพื่อนๆมาเที่ยวให้ได้
โดย: Thairabian วันที่: 8 ตุลาคม 2552 เวลา:13:05:31 น.
  
ที่ Hutcha ไม่ต้องพายเรือค่ะ
อิอิ

^^
โดย: I am just fine^^ วันที่: 8 ตุลาคม 2552 เวลา:13:11:31 น.
  
มาเป็นชุดเลยวันนี้ ให้ข้อคิดดีๆเยอะเลยใช่มั้ยค่ะ ^^
โดย: กล้ายางสีขาว วันที่: 8 ตุลาคม 2552 เวลา:13:48:06 น.
  
น่าไปหามาอ่านบ้างค่ะ
โดย: The Best of Me วันที่: 8 ตุลาคม 2552 เวลา:14:40:35 น.
  
เตรียมตัวไปช็อปปิ้งหนังสือที่งานสัปดาห์หนังสือหรือเปล่าคะ หรือมีเพียบรออ่านแล้วตอนนี้


รัชชี่ก็ชอบประโยคดี ๆ ที่ได้จากการอ่านหนังสือนี่เอง

แต่เดี๋ยวนี้ไม่ไหวไม่ได้อ่านอะไรยาว ๆ แบบนี้มาอ่านแล้วค่ะ เรื่องที่อ่านยาว ๆ แล้วเพลินคือ “เพชรพระอุมา” และนิยายบางเรื่องที่สร้างเรื่องให้ต่อ ๆ กันน่ะค่ะ คืออ่านเล่มนั้นเล่มเดียวจบก็ได้ แต่ว่าจะมีตัวละครบางตัวของเล่มนั้น ไปอยู่ในเล่มอื่นต่อ

เห็นบล็อกนี้แล้วอยากรีวิวหนังสือบ้างแล้วนี่
โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 8 ตุลาคม 2552 เวลา:16:07:11 น.
  
กำลังตามหาหนังสืออ่านช่วงปิดเทอมอยู่ค่ะ
โดย: กอหญ้าพาฝัน วันที่: 8 ตุลาคม 2552 เวลา:16:15:26 น.
  
หนังสือชุดนี้เป็นชุดที่ตั้งใจว่าจะซื้อมาเก็บไว้เป็นของตัวเองด้วย
แต่ไม่รู้เพราะเหตุใดทำให้เป็นอันแคล้วคลาดกันตลอด แหะๆ


พูดถึงงานหนังสือแล้วอยากร้อง "อ๊ากกก"
........อยากไปง่ะ
โดย: แพนด้ามหาภัย IP: 121.4.64.46 วันที่: 8 ตุลาคม 2552 เวลา:19:34:03 น.
  
โอ๊ะ งานหนังสือใกล้จะเริ่มแล้วนี่คะ ลิสต์ไว้มั่งหรือยังว่าจะยาวเป็นหางว่าวแค่ไหนค่ะ ^^v
โดย: :D keigo :D วันที่: 8 ตุลาคม 2552 เวลา:21:11:31 น.
  
บล็อกนี้ไม่เน้นอ่านมากนะคะเพราะว่า
ตั้งใจไว้แล้วว่าจะสอยทั้งชุดมาอ่านเลย
ประมาณว่าเห็นตั้งในห้องสมุดน่ะคะ
เลยคิดว่าน่าจะไปยืมติดมือกลับมาบ้าน
ซะแล้วค่ะ ... น่าอ่านมากๆ เลย
โดย: JewNid วันที่: 8 ตุลาคม 2552 เวลา:21:33:05 น.
  
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

น่าสนใจเน๊าะ
โดย: อุ้มสี วันที่: 9 ตุลาคม 2552 เวลา:1:18:51 น.
  
น่าสนใจดีนะคะ
แต่หลายเล่มน่าดูเลย

แอบสะดุดตา นกอีก๋อย
คิดถึงไอ้ตัวในเรื่อง Up ทันทีเลย เอิ้กๆ
โดย: คีตอักษรา วันที่: 9 ตุลาคม 2552 เวลา:2:44:24 น.
  

เรื่องนี้เป็นชุดที่อยากได้มานาน แต่ไม่ซื้อสักที จนผ่านมาหลายปี ก็ยังไม่ซื้อ แต่ตอนนี้จะซื้อแล้วค่ะ เพราะคุณสาวไกด์ฯ รีวิวซะจนเราอยากอ่านเลย

ตอนแรกกลัวว่าจะออกแนวบันทึกประวัติศาสตร์ เลยไม่กล้าอ่าน กลัวหลับ ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้วค่า

โดย: Masaomi IP: 10.0.2.53, 125.24.157.59 วันที่: 9 ตุลาคม 2552 เวลา:7:55:59 น.
  

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆค่ะ
(ชอบหนังสือสไตล์นี้เหมือนกัน)
อ่านหนังสือเก่งจังเลยนะคะ...สาวสวยบ้านนี้

อ่านมากๆเกิดหิวขึ้นมา
ทานข้าวกล่องนะคะ..เอามาฝาก..ค่ะ

โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 9 ตุลาคม 2552 เวลา:9:12:49 น.
  
ขอแบ่งข้าวกล่อง้าวบนก่อน
ว้าๆๆ มันน่าหม่ำวะกะไร

ทำอะไรอยู่คร้า
ตอนนี้มีเด้กนั่งพิงหลัง
ดูการ์ตูนกันอยู่
ตัวติดกันเป็นแตงเม

รักลูกที่ซู๊ดๆๆ
ว่างๆๆก็มาช่วยเลี้ยงนะ
เพราะเด็กมันน่าร๊ากมากๆ

ปล.เรื่องหนังสือเป็นอะไรที่ออกจะยามสำหรับเราตอนนี้ อาจเป็นข้ออ้างก้เพราะเอาเงินไปซื้อของหมดก่อนถึงร้านหนังสือนั่นสิ
โดย: Poo (myroom_pu ) วันที่: 9 ตุลาคม 2552 เวลา:10:34:27 น.
  
เรื่องงานศิลป์แผ่นดิน พระที่นั่งอนันตสมาคม เหมือนเมื่อก่อนเขาเปิดเป็นช่วง ๆ เฉพาะงานค่ะ

แต่วันนั้นที่ถาม (ไปมาเดือนส.ค. เจ้าหน้าที่บอกว่าต่อจากนี้จะเปิดตลอดค่ะ

แต่เขาอาจจะมีวันหยุด 1 วันสำหรับสัปดาห์ ก่อนไปโทรเช็คก่อนที่
02-2839411
02-2839185

ส่วนพระที่นั่งวิมานเมฆ ไม่มีเบอร์โทรค่ะ แต่น่าจะถามได้จากเบอร์ก่อนหน้าที่จดไว้ค่ะ เพราะเดินต่อเนื่องถึงกันได้ค่ะ
โดย: รัชชี (รัชชี่ ) วันที่: 9 ตุลาคม 2552 เวลา:12:07:15 น.
  
...


+ นัดวันกินเค้กมาเลย พี่เต้ย


+ อืมมม... แล้วเซ็ทวันไปงานฯกันยังอ่าครับ?




โดย: The Legendary Midfielder วันที่: 9 ตุลาคม 2552 เวลา:15:34:32 น.
  
น่าอ่านนะคะชุดนี้ แต่... หลายเล่มจังค่ะ เก็บตังค์อีกนานเลยกว่าจะได้อ่าน

จอมคาถา มหาติ๊งต๊องแก้เครียดได้ผลอยู่เหมือนกันค่ะ อ่านแล้วก็... ไม่เครียดดี
โดย: หวานเย็นผสมโซดา วันที่: 9 ตุลาคม 2552 เวลา:15:58:56 น.
  
สรุปแล้วมันน่าอ่านไหมคะ..ถ้าเด็ดแพทจะหามาอ่านบ้างนะคะสาวไกด์..

ไม่ค่อยได้มาเยี่ยม สบายดีเปล่าคะ บล็อกหนังสือของสาวไกด์มีหนังสือน่าอ่านเพียบเลย มีคนมาหย่อนตั๋วเด็ดๆทั้งนั้น อิอิ
โดย: ตัวp_box วันที่: 9 ตุลาคม 2552 เวลา:16:06:09 น.
  
รีวิวยาวมาก...ไม่ได้อ่านให้ละเอียด
เพราะตั้งใจว่า จะซื้อมาอ่านอยู่เหมือนกันล่ะ
โดย: นัทธ์ วันที่: 9 ตุลาคม 2552 เวลา:20:26:42 น.
  

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...



แวะมาส่งเข้านอนค่ะ หลับฝันดีนะคะครูเต้ย

โดย: หอมกร วันที่: 9 ตุลาคม 2552 เวลา:21:18:04 น.
  


ขอเชิญและชวน เพื่อนๆ เรื่องเล่าสั้นๆ ความยามไม่เกิน ๒ หน้ากระดาษเอสี่ ขนาด ๑๖พ้อยท์
โดยมีคอนเซป “ความสุขจากการแบ่งปันหรือการให้”
ขอให้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการ “ให้” หรือการ “แบ่งปัน”
เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้อื่น
และเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน
เพื่อจัดทำหนังสือทำมือ "ในท่วงทำนองเดียวกัน"

***ส่งต้นฉบับเป็นไฟล์เวิร์ด มาที่ windy_poo@hotmail.com ภายในวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ นะคะ ***


*** หากใครต้องการจะช่วยออกแบบดีไซด์ปกหนังสือทำมือเล่มนี้ก็ยินดีค่ะ ***

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บล็อกค่ะ

**ขอรบกวนฝากข่าวสักเล็กน้อยนะคะ **
โดย: สายลมอิสระ วันที่: 9 ตุลาคม 2552 เวลา:21:43:40 น.
  
ขอบคุณสำหรับคำอวยพรเกี่ยวกับ
หนังสือจ้ะ ... เสียดายว่าปีนี้ไม่ได้ไปงาน
อีกแล้ว เนื่องด้วยเหตุจำเป็นที่
เลี่ยงไม่ได้ อดเลย งือๆ ...

ขนาดว่าทำงานกับพี่เปิ้นยังไม่เคยเจอเลย
จะถือโอกาสไปเจอตัวเป็นๆ ที่บูธ
ก็หมดสิทธิ์เลยต้องรอกันต่อไป
โดย: JewNid วันที่: 10 ตุลาคม 2552 เวลา:6:51:06 น.
  
หวาดดีคะพี่ไกด์
เอาบุญมาฝาก
วันนี้ไปช่วยงาน+ทำบุญตักบาตรพระ หนึ่งหมื่นกว่ารูป ที่สุพรรณบุรีมาคะ
ให้ไำด้บุญเท่าๆกันในทุกๆบุญเลยนะคะ
สาธุ

มีความสุขมากๆนะคะ
โดย: weraj วันที่: 10 ตุลาคม 2552 เวลา:17:04:57 น.
  
ใช่ค่ะ ยาวจริง ๆ

แต่มันส์ จริง ๆ ค่ะ

ขอบคุณที่รีวิวนะคะ
โดย: raya-a วันที่: 10 ตุลาคม 2552 เวลา:17:53:10 น.
  
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
โดย: i_nookae วันที่: 12 ตุลาคม 2552 เวลา:4:12:16 น.
  
อ่านตอนบนๆ น่าสนใจล่ะ
แต่ไม่กล้าอ่านข้างล่างมาก

กลัวสปอยล์
โดย: grappa วันที่: 12 ตุลาคม 2552 เวลา:9:32:56 น.
  
"ผู้นำที่ชั่วร้ายเป็นคนนำประชาชนผู้บริสุทธิ์ไปสู่การสังหารหมู่ หรือว่าประชาชนที่ชั่วร้ายเป็นคนเลือกผู้นำตามแต่ใจตัวเองกันแน่..."

ซี๊ดสสสสสสส

มีความคิดเรื่องอยากเลิกกินเนื้อสัตว์เหมือนกันครับ แต่ก็เหมือนกันอีกนั่นแหละ ที่ทำไม่ได้ซะที แถมยังเป็นคนชอบกินเนื้อแบบสุดๆอีกต่างหาก แล้วเมื่อไหร่จะทำได้กันละนี่?
โดย: แฟนผมตัวดำ วันที่: 12 ตุลาคม 2552 เวลา:11:40:11 น.
  

ดีครับ ไปเยียมตอนไม่สบายครั้งนึงแล้ว
ไปอีกรอบนะครับ




ข้าพเจ้า ขอลาบวช หากมีสิ่งใดที่ข้าพเจ้าเคยล่วงเกิน

ไม่ว่าจะเป็น กายกรรมก็ดี วจีกรรมก็ดี มโนกรรมก็ดี

ทั้งต่อหน้าก็ดี ลับหลังก็ดี ทั้งตั้งใจก็ดี และไม่ตั้งใจก็ดี

. .ขอให้ท่านอโหสิกรรม แก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด
โดย: .ใบไม้ (benjarong9 ) วันที่: 12 ตุลาคม 2552 เวลา:12:43:14 น.
  
หนังสือชุดนี้ยังไม่ได้ซื้อเลยครับ
ผ่านตอนลดราคามาหลายครั้งละ
ว่าจะซื้อก็ไม่ได้ซื้อสักที
พอมาอ่านรีวิวพี่สาวไกด์ฯ ทำให้อยากอ่านขึ้นมาเชียว
คงต้องไปซื้อมาดองไว้ก่อนดีกว่า
ถ้าอ่านจบแล้วจะมาร่วมแสดงความคิดเห็นนะครับ
(แต่คงอีกนาน ฮ่าๆ)
โดย: ไอซ์คุง (ปีศาจความฝัน ) วันที่: 12 ตุลาคม 2552 เวลา:13:37:22 น.
  
+ อ้าว! วันนี้ครูเต้ยไม่อยู่รึนี่ จึงไม่ได้อัพบล็อกวันจันทร์? (แต่ก็พอดีเลย เพราะพี่พลาดอ่านหน้านี้จากอาทิตย์ที่แล้ว เลยได้มาอ่านทันพอดี)

+ ตอนที่ดูบนสุด พี่นึกว่าเป็นวรรณกรรมเยาวชนซะอีกนะครับ แต่หน้าปกราวนิยายจีน ... ส่วนรายละเอียดข้างล่าง คงต้องอาศัยวัยวุฒิในการอ่านแบบใคร่ครวญพอสมควรเลยนะครับนั่น

+ พอดีพี่คิดว่าตัวเองคงยังไม่ได้อ่านในเร็ววัน (กว่าถึงวันที่จะได้อ่าน ก็คงลืมรายละเอียดไปแล้ว) ก็เลยอ่านไปหมดเลย พี่คิดว่าพี่คงถูกจริตกับเล่ม 2 และเล่ม 5 มากที่สุดอ่ะครับผม

+ อืม ... นกอีก๋อยตัวจริง หน้าตาเป็นเช่นนั้นเองรึนี่ แต่ใน Up เล่นใส่สีสันซะเป็นสีรุ้งเชียวเนอะครับ

+ คำคมที่ครูเต้ยยกมาจากเล่มต่างๆ (โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับสังคมและการเมือง) มีโดนๆ หลายอันเลยอ่ะครับ ไว้มีโอกาสต้องไปไขว่คว้าหามาอ่านประดับสมองขี้เลื่อยของพี่เองบ้างซะแล้
โดย: บลูยอชท์ วันที่: 12 ตุลาคม 2552 เวลา:15:15:46 น.
  
รีวิว5เล่มรวด!!!

เป็นผมซอยเป็น5เอนทรีแน่ๆ 555
โดย: kirofsky วันที่: 12 ตุลาคม 2552 เวลา:21:42:20 น.
  
สนุกจริงๆครับน่าอ่านแล้วเป็นหนังสือที่น่าอ่านจริงๆ
โดย: aof IP: 192.168.10.101, 61.7.144.128 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:3:03:49 น.
  
There are many at your home acne breakouts cures that really help manage acne breakouts outbreaks onto the skin. However, you'll want to pick the built to be powerful on your skin.
north face infant coats //www.boudoirinteriors.com/our/northface/northfacejacket2048.html
โดย: north face infant coats IP: 218.251.113.57 วันที่: 30 พฤศจิกายน 2557 เวลา:5:05:51 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Pakwan.BlogGang.com

สาวไกด์ใจซื่อ
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 203 คน [?]

บทความทั้งหมด