~* ~* ~* ภาพที่ไร้เสียง (Fall On Your Knees) - หรือความเป็น "มนุษย์" ต้องถูกทดสอบเสมอ? ~* ~* ~*





หนึ่งในหนังสือที่อ่านและรีวิวในโครงการ RRR (Rainy Read Rally) ค่ะ แต่ว่าเราไม่ได้เอามารีวิวลงบล็อกทุกเล่มนะคะ เลือกมาเฉพาะที่อยากมาบอกเล่าให้ฟัง ซึ่งก่อนนี้รีวิวไปสองเรื่องแล้วกับ เดอะ สตอรี่ เทลเลอร์ และ ๑๐๐ ปีจุลจักรพงษ์ ๑๙๐๘-๒๐๐๘ ค่ะ




วันนี้จะมารีวิวหนังสืออีกเล่มที่อ่านแล้วค่อนข้าง "โดน" นะคะ







ภาพที่ไร้เสียง (Fall On Your Knees)
เขียนโดย แอน-มารี แมคโดนัลด์
แปลโดย ปัทมา อินทรรักษา
สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์
จำนวนหน้า 644 หน้า
ราคา 423 บาท







ไม่ได้อ่านอะไรที่ทำให้เกิดความรู้สึกอย่างนี้มานานแล้วค่ะ

กล่าวคือ เข้มข้น ชวนติดตาม โดนล่อหลอก และรู้ว่าโลกโหดร้าย







หนังสือเล่มนี้พูดถึง "ชะตากรรม" ของครอบครัวครอบครัวหนึ่ง ที่มีกันอยู่ 4 พี่น้อง (หญิงล้วน) ซึ่ง..ใช้กลวิธีการเขียนที่ชวนอ่านมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการทิ้ง clue เป็นระยะๆ การเปิดให้ผู้อ่าน อ่านและรู้แต่บางส่วนเสี้ยว ก่อนจะเฉลยความเป็นจริงทีละเล็กละน้อย ทีละเรื่อง

แต่การเฉลยนั้น บางเรื่องผู้อ่านอาจคาดการณ์ได้ แต่บางเรื่องนี่..เราว่าเกินคาดน่ะ (ด้วยกลวิธีการเขียนที่กึ่งๆ คลุมเครือ และหลอกล่อให้ผู้อ่านเหมือนว่าจะรู้ แต่ไม่รู้อย่างแท้จริง)


หักมุมชนิดที่เรื่องสุดท้ายเล่นเอาเราอึ้งรับประทานไปเลยค่ะ









ไม่แน่ใจว่า โดยต้นฉบับแล้วแบ่งเป็นเล่มย่อยๆ หรือเปล่า เพราะในฉบับแปลนี้ มีคั่นด้วยเล่มที่ ๑ ในสวนพฤกษ์ เล่มที่ ๒ ... ไปเรื่อยๆ ต้นฉบับแบ่งเป็นเล่มย่อยๆ หรือเปล่าคะ? (แต่แบบนี้ก็อ่านต่อเนื่องดี)


นอกจากความรู้สึกติดหนึบในการอ่าน ความกระหายใคร่รู้ว่าเรื่องราวจะ "เป็นไป" อย่างไร และเรื่องราว "เป็นมา" อย่างไรแล้ว




หนังสือเล่มนี้สร้างความ "อยาก" หลายประการให้ข้าพเจ้าได้เกิดกิเลส






ไม่ว่าจะเป็นอยากรู้จักและได้ฟังภาษาเกลิค จากการบรรยายว่า

เจมส์ใช้เกลิคเป็นภาษาแม่ เนื่องจากภาษาอังกฤษสำหรับเขานั้น มันฟังดูราบเรียบแข็งกระด้าง เหมือนวันอันจัดจ้าหลังกลับมาจากการออกหาปลายามค่ำคืน





หรือความแตกต่างระหว่างอีแฟลตกับซีชาร์ปจากการบรรยายว่า

ถ้าตอนนั้น (แม่ทีเรีย) กดอีแฟลต ไม่ใช่ซีชาร์ป เรื่องราวก็คงไม่ดำเนินไปไกล คือ..สงสัยว่า นอกจากตำแหน่งแป้นจะต่างกันแล้ว (ซึ่งคงส่งผลต่อการดีดอันทำให้เจมส์เจ็บ) มันมีความหมายในเชิงอะไรอีกมั้ย? หรือแค่เป็นมุข?








แล้วก็เรื่องที่เมื่อปี 1917 พระแม่มารีย์ปรากฏองค์ต่อหน้าเด็ก 3 คนที่เมืองฟาติมา โปรตุเกสและได้บอกความลับ 3 ประการ แต่ประการที่ 3 ยังคงเป็นความลับของวาติกันจนทุกวันนี้


อ๊ากซ์ซ์ซ์ซ์ซ์ซ์ อ่านแล้วกระหายใคร่รู้อย่างแรง (คุ้นๆ ว่าอ่านเรื่องนี้มาแล้วจากนิยายเรื่องไหนสักเรื่อง ของแดน บราวน์ ในแองเจิ้ลฯ หรือเปล่า?)






อ่านแล้วอยากรู้เรื่อง Oprah's Book Club ค่ะ ซึ่งเพื่อนบล็อก คือ คุณพัทได้ให้ลิงค์ไว้ที่นี่นะคะ
//www.oprah.com/entity/oprahsbookclub









ผู้แปล มีกลิ่นนมเนยบ้าง แค่นิดๆ หน่อยๆ ค่ะ ไม่มาก โดยมากไหลรื่นดีค่ะ ตัวกลอนแปลได้ไพเราะจริงๆ อ่านแล้วค่อนข้างเนียนและไพเราะ กลมกลืนมากๆ เลยค่ะ









นอกจากนั้นก็มีบางเรื่องที่น่าสนใจค่ะ อย่างเช่น



เชิงอรรถในหน้า 136 มีบอกเรื่องบริเวณระหว่างสนามเพลาะของ 2 ฝ่าย (อังกฤษ+แคนาดา กับ เยอรมัน)ว่าเรียกว่า No Man's Land ซึ่งเป็นพื้นที่ว่างที่อยู่ระหว่างคู่ศึกสองฝ่ายนั้นถือเป็นพื้นที่อันตรายเพราะทหารที่บุกเข้าไปจะถูกระดมยิงโดยไม่มีทางรอด และเนื้อหาต่อจากนั้นบอกว่า เป็นพื้นที่ที่ยังไม่มีฝ่ายไหนชิงมาได้ ก่อนจะอธิบายต่อว่า ช่วงที่อยู่ตรงนั้นจะถูก "ละ" จากความเป็นมนุษย์ชั่วคราว เพราะท่ามกลางการฆ่าฟัน คนล้มตาย ไม่มีใครที่จะคงความเป็นมนุษย์ไว้ได้

อ่านแล้วจี๊ดเลยค่ะ รู้สึกว่าแค่วลี กลุ่มคำกลุ่มเดียว มันมีความหมายได้หลายประการจริงๆ










ต้องบอกก่อนว่า ตัวบทเริ่มต้นกับประมาณ 5-10 หน้าแรก อาจจะรู้สึกแปลกๆ ไปสักหน่อย แต่แม้กระทั่งตั้งแต่หน้าแรก ที่บรรยายภาพแต่ละภาพ ก็ทิ้ง clue ที่จะมีรายละเอียดต่อเนื่องมาในเรื่องค่ะ

แต่ขอให้อ่านต่อค่ะ ถ้าใครชอบอ่านแนวนิยายเข้มข้น ชะตากรรมอันโหดร้าย มีกลวิธีการเขียนที่เจ๋งดี

เชียร์ให้อ่านค่ะ







แต่ขอเตือนว่า นิยายเล่มนี้ ไม่เหมาะกับคนที่อายุต่ำกว่า 18 และคนที่คิดว่าโลกนี้ไม่โหดร้ายนะคะ











ถ้าจะให้เปรียบนิยายเล่มนี้ให้เห็นภาพชัดขึ้น

ก็เหมือนนางระบำเปลือยชั้นสูงที่มีลีลาและชั้นเชิง ที่ทำให้เรากระหายใคร่รู้ด้วยความทรมาน






สำหรับการหักมุมรองสุดท้ายและสุดท้ายเล่นเอาเราอึ้ง (อย่างที่บอกไป)

อดคิดไม่ด้ว่า ถ้าเราเป็นแคทลีน เราจะให้อภัยคนๆ นั้นได้หรือไม่?

ถ้าเราเป็นฟรานเชส เราจะให้อภัยเมอร์เซดิสได้หรือ?







สิ่งที่เกิดขึ้นในเรื่องนี้มันโหดร้าย และอาจจะเรียกได้ว่าเลวทราม

มันทำให้ประโยคหนึ่งที่เราเคยคิดถามตัวเองผุดขึ้นมาอีกครั้ง





มนุษย์มีชะตากรรมที่ต้องถูกทดสอบว่าจะเอาชนะสัญชาตญาณแห่งความดิบเถื่อนได้ดีแค่ไหน

และจะคงความเป็น "มนุษย์" ที่แท้ได้มากเพียงใด

เสมอเลยใช่มั้ย?








ติดข้อสงสัยนิดหนึ่ง เราไม่แน่ใจว่าเราอ่านพลาดไปหรือเปล่า แต่เราไม่ได้คำตอบว่า ใครเป็น "ผู้หวังดี" ที่เขียนจดหมายไปบอกเจมส์คะ?














ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านนะคะ

380576/4162/361







Create Date : 06 สิงหาคม 2552
Last Update : 6 สิงหาคม 2552 7:53:29 น.
Counter : 3142 Pageviews.

44 comments
  
น่าอ่านจริงๆด้วย ไว้จดชื่อหนังสือแล้วไปหาอ่านคะ ขอบคุณที่นำมาเล่าให้ฟัง
โดย: sawkitty วันที่: 6 สิงหาคม 2552 เวลา:8:27:13 น.
  
...


ก็เหมือนนางระบำเปลือยชั้นสูงที่มีลีลาและชั้นเชิง

ถ้าใช้เวิร์ดดิ้งนี้โฆษณาหนังสือ ยอดขายคงถล่มทลายเลยพี่ อิอิ



โดย: The Legendary Midfielder วันที่: 6 สิงหาคม 2552 เวลา:9:28:58 น.
  
เรายังไม่ได้อ่านเลย
มีอันแคล้วคลาดกับหนังสือเล่มนี้อยู่ตลอดเวลา งง


โดยส่วนตัว
เราคิดมาตั้งแต่อยู่อนุบาลแล้ว ว่าโลกนี้โหดร้าย 555+
โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 6 สิงหาคม 2552 เวลา:9:58:27 น.
  
เคยเห็นมานานแล้ว แต่ไม่ได้ซื้ออ่านอ่ะค่ะ ไว้จะหามาอ่าน ขอบคุณน่ะค่ะ ไว้จะเข้ามาอ่านอีก เป็นคนชอบอ่านเหมือนกัน แต่ช่วงนี้เป็นมรสุมชีวิต และมรสุมการสอบ ไว้ซัก 2 อาทิตย์ว่าจะ Up เรื่องหนังสือเหมือนกัน ไว้แวะไปอ่านกันน่ะค่ะ
โดย: aorming วันที่: 6 สิงหาคม 2552 เวลา:11:15:18 น.
  
แง้วว ไม่เหมาะกับคนที่คิดว่าโลกนี้ไม่โหดร้าย...

อป.ก็ว่าโลกมันโหดร้ายนะคะ เลยชอบหนีมาอยู่ในนิยายไง เจอหนังสือที่โลกสมมุติยังโหดร้ายอีก ฮือ...จะอ่านดีมั๊ยเนี่ย

^
มีหมีตนหนึ่งรู้ความจริงตั้งแต่อนุบาล 55

เรื่องเด็กเจอพระแม่นี่ไม่แน่ใจว่าอยู่ในหนังสือแดนบราวน์รึเปล่านะคะ...แต่เวอร์ชั่นหนังที่ดูมาล่าสุดไม่มีบอกไว้อ่ะ

โดย: อป (apple_cinnamon ) วันที่: 6 สิงหาคม 2552 เวลา:12:11:40 น.
  
^
^
ขำคุณหมีเหมือนกัน รู้ตั้งแต่อนุบาลเลยเรอะ

ผมเพิ่งรู้ตอนอยู่ ม.ปลาย เอง แถมเร็วๆนี้ยังรู้อีกด้วยว่าเรานี่แหละ คือส่วนหนึ่งของความเลวร้าย 555++ (แปลว่าหนังสือเล่มนี้คงเหมาะกับเราสินะ)
โดย: แฟนผมฯ IP: 202.134.119.218 วันที่: 6 สิงหาคม 2552 เวลา:13:45:52 น.
  
จ๊าก!!อยากอ่าน อยากอ่าน..สาวไกด์มากระตุ้นต่อมอยากของเขาให้ร้าวระบบทำไม..จะแกล้งเขาใช่เปล่า..ก็ตัวพีต้องอ่านหนังสือกฎหมายที่กองอยู่เป็นพะเนินนี่อ่ะ..จะเอาเวลาที่ไหนไปอ่านได้อีก แง แง...


โดย: ตัวp_box วันที่: 6 สิงหาคม 2552 เวลา:14:05:22 น.
  
อ่านรีวิวจนอยากอ่านเลยค่ะ
ช่วงนี้อ่านแต่นิยาย ต้องเปลี่ยนแนวบ้างแล้วค่ะ

ปล.มิโยริ สนุกจริงๆนะคะ recommended ! ^^
โดย: nanida วันที่: 6 สิงหาคม 2552 เวลา:15:25:29 น.
  
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

ยังไม่ได้อ่านเลยค่ะ
โดย: อุ้มสี วันที่: 6 สิงหาคม 2552 เวลา:15:56:43 น.
  
มีหนังสือน่าอ่านมายั่วอีกแว เขียนบรรยายได้น่าติดตาม ทำให้อยากอ่านมากๆเลย
ขอบคุณที่ดูคำตกหล่นให้ค่ะ แก้ไขแล้วนะค่ะ
โดย: Roseshadow วันที่: 6 สิงหาคม 2552 เวลา:15:59:35 น.
  

ไม่เป็นไรค่ะคุณสาวไกด์ เรื่องแค่นี้เอง
ยินดีให้บริการค่ะ


หนังสือน่าอ่านนะคะนั่น....
โดย: ม่านฟ้านาคราช วันที่: 6 สิงหาคม 2552 เวลา:16:10:56 น.
  
สนพ.วิบูลย์กิจค่ะ
โดย: nanida วันที่: 6 สิงหาคม 2552 เวลา:17:03:15 น.
  
ขอลอกคำตอบคุณอป.เลยค่ะ ก็รู้ว่าโลกนี้มันโหดร้าย เลยต้องหาอะไรมากล่อมเกลาจิตใจไงคะ เช่น นิยายน้ำเน่า
โดย: หมูย้อมสี วันที่: 6 สิงหาคม 2552 เวลา:17:51:07 น.
  
มีประสพการณ์ตรงเรื่องนางระบำยุคปัจจุบันครับ หรือ เรียกว่าโคโยตี้นี่เอง... อิอิ
ผมว่า การเสพความงามของดอกไม้นี่ต้องรักษาระยะห่างที่เหมาะสม คือ ทำได้แค่ดู หากเริ่มดม อาจจะเสี่ยงโดนผึ้งต่อย หากพยายามเด็ดอาจโดนหนาม หากพยายามกลืนกิน อาจท้องเสีย...
อืม แต่ชอบดูทุกดอกจริงๆแหะ อิอิ
โดย: ช่างประชันพันธุ์ประชด วันที่: 6 สิงหาคม 2552 เวลา:21:48:47 น.
  
ท่าทางเล่มนี้จะเครียดมากๆ นะคะเนี่ย ยังไม่ลองดีกว่า
โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 6 สิงหาคม 2552 เวลา:22:12:00 น.
  
แวะมาอ่านหนังสือค่ะ ... เห็นคำเตือนแล้ว ก็รู้ตัวเลยว่าไม่เหมาะกับตัวเองแน่ ๆ

ปล. จริง ๆ ตามแผนที่เค้าวางกันไว้ ได้ยินว่าไปพระธาตุแช่แห้งด้วยค่ะ แต่ฝนตกอ่า ก็เลยอด

และชอบกินโมจิมากค่ะ อิอิ
โดย: :D keigo :D วันที่: 6 สิงหาคม 2552 เวลา:23:27:09 น.
  
สวัสดีค่าา คุณ สาวไกด์ฯ
เห็นคำเตือน แล้วต้องรีบไปหามาอ่านอย่างไวเลย

ไว้จะแวะมาอีกนะคะ

โดย: LadYcookie วันที่: 7 สิงหาคม 2552 เวลา:2:34:16 น.
  


แวะมาดูๆ ไว้ก่อนค่ะ

โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 7 สิงหาคม 2552 เวลา:2:59:52 น.
  
โอว มีโครงการการอ่านเป็นซีซั่นด้วย
โดย: grappa วันที่: 7 สิงหาคม 2552 เวลา:8:17:22 น.
  
สวัสดีตอนเช้าค่ะ
หนังสือน่าอ่านอีกแล้ว
โดย: กล้ายางสีขาว วันที่: 7 สิงหาคม 2552 เวลา:8:58:08 น.
  
หน้าปกบ่งบอกว่าเรื่องราวออกจะหม่น ๆ นะคะ
โดย: หวานเย็นผสมโซดา วันที่: 7 สิงหาคม 2552 เวลา:10:54:14 น.
  
หวัดดีค่ะ พี่สาวไกด์

... อ่านดูแล้ว ก็น่า่อ่านจริง ๆ แหล่ะค่ะ... แต่รัตน์ว่าถ้าอ่านแล้ว รัตน์คงมึนแน่ ๆ เลยค่ะ เพราะบอกตรง ๆ ว่าไม่ค่อยมีพื้นฐานด้านนี้เลยค่ะ

ถ้าอ่านคงต้องตีความกันนานพอสมควรกว่าจะเข้าใจกระจ่าง

.... แต่แนวนี้น่ะ พี่บ่าวชอบค่ะ...อิอิ
.....................

รัตน์ไม่มีเวลาได้อ่านหนังสือนานมาก ๆ แล้วค่ะ ทำแต่งาน ๆๆๆๆๆๆ... กว่าจะว่างก็ตี 1 ซะแล้ว ก็ต้องรีบนอนก่อนน่ะค่ะ เช้าต้องตื่นทำงานแต่เช้ามืดอีก...

อิจฉาพี่สาวไกด์อย่างแรงเลยค่ะ ได้อ่านหนังสือดี ๆ ตลอดเลย....
...............................

ขอบคุณมาก ๆ นะคะ ที่แวะไปยินดีกะคู่บ่าว-สาว เมือ่คราวก่อน

และขออภัยจริง ๆ ค่ะ ที่ไม่มีเวลาแวะมาทักทายพี่เลย แบบว่ามันยุ่งอิรุงตุงนังสุด ๆ ค่ะ

.... นี่เขียนเรื่องแ่ต่งงานไว้เกือบ 5 เดือนแล้ว เพิ่งจะมีเวลาเอามาลงค่ะ

ว่าง ๆ จากอ่านนิยายของพี่แล้ว ก็อย่าลืมแวะไปอ่านนิยายสั้น ๆ ของรัตน์บ้างนะคะ.... อิอิ

รักษาสุขภาพด้วยนะคะ... ด้วยความคิดถึงและเป็นห่วงค่ะ
โดย: largeface วันที่: 7 สิงหาคม 2552 เวลา:11:43:36 น.
  
น่าหามาอ่านบ้างจังเลยค่ะ

แต่ว่าระหว่างอ่านไปก็คงเหนื่อยไป แบบว่าคิดตามตลอด
โดย: Philos-Love วันที่: 7 สิงหาคม 2552 เวลา:12:49:07 น.
  
จริงด้วยค่ะ ส่วนมากจับได้ส่วนลดเยอะๆ กันทั้งนั้นเลยค่ะอย่าง 70% เนี่ยเห็นได้หลายคนเลย แต่ก็ไม่มีอะไรน่าซื้อ ของส้มก็ยืนดูตั้งนานมี "หนึ่งวงในตงง้วน" นี่ล่ะที่น่าสนใจ แถมเหลือเล่มสุดท้ายสภาพเลยยับนิดหน่อยค่ะ
โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 7 สิงหาคม 2552 เวลา:15:38:54 น.
  
สวัสดีค่ะสาวไกด์

เห็นด้วยค่ะ

museum siam เป็นพิพิธภัณฑ์ที่นับว่าดีมากๆในบ้านเราที่มีอยู่นะคะ
พิมเองก็ชอบมากค่ะ

happy weekend ค่ะ
โดย: ม่านฟ้านาคราช วันที่: 7 สิงหาคม 2552 เวลา:16:00:37 น.
  
เรื่องแนวนี้ไม่ค่อยได้อ่านเลยค่ะ แต่หนังสือนี่เวลาอ่านแล้ว วางไม่ค่อยลงเลยนะคะ
โดย: รัชชี (รัชชี่ ) วันที่: 8 สิงหาคม 2552 เวลา:11:35:40 น.
  
อยู่ในกองดองมาหลายเดือนแล้วครับ ยังไม่ได้หยิบอ่านเลย คงต้องใช้เวลา อีกนานจริงๆในเมื่อยังเหลือ textbook และ journal ทุกวันเลย
โดย: anfunkel วันที่: 8 สิงหาคม 2552 เวลา:14:16:16 น.
  
น่าอ่านจังค่ะ งานหนังสือปลายปีมีลิสต์เย๊อะเลย
โดย: คุณย่า วันที่: 8 สิงหาคม 2552 เวลา:15:57:49 น.
  
แค่ชื่อเรื่องก็เป็นปริศนา ให้อยากอ่านแล้ว

ปกติจะอ่านที่ปกหลังก่อนค่ะ อยากเห็นคำโปรยหลังปกจังเลย...

มาชวนไปชิมอาหารในทริปค่ะ


โดย: Maekapomkha วันที่: 8 สิงหาคม 2552 เวลา:20:03:48 น.
  
เขียนซะผมอยากอ่านเลย ^ ^
โดย: kirofsky วันที่: 8 สิงหาคม 2552 เวลา:23:40:14 น.
  
อายุยังไม่ถึง 18 ค่าาาาาา



แหะๆ สารภาพตามตรงว่าอ่านข้ามไปตัวนึงอ่ะค่ะ อ่านเป็นว่า ไม่เหมาะกับคนที่คิดว่าโลกนี้โหดร้ายอ่ะค่ะ ... ก็เลยว่าตัวเองคงไม่เหมาะอ่า แง้วๆ
โดย: :D keigo :D วันที่: 9 สิงหาคม 2552 เวลา:0:25:22 น.
  
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
โดย: i_nookae วันที่: 9 สิงหาคม 2552 เวลา:10:02:04 น.
  
มาขอบคุง อิๆๆๆ
ว่างเฉพาะวันหยุด
วันธรรมดา ไม่มาแต่คิดถุง


โจจัง

โดย: พลังชีวิต วันที่: 9 สิงหาคม 2552 เวลา:14:06:11 น.
  
สวัสดีเช้าวันจันทร์ค่ะ
หนังสือเล่มนี้ดูน่าจะเครียดน่ะค่ะ หน้าปกดูลึกลับดี
โดย: กล้ายางสีขาว วันที่: 10 สิงหาคม 2552 เวลา:9:49:38 น.
  
สวัสดียามบ่ายค่ะ
มีขนมมายั่วอีกแล้วค่ะ

โดย: vanilla_ole วันที่: 10 สิงหาคม 2552 เวลา:12:49:47 น.
  
น่าอ่านจังค่ะ
เล่มก่อนนู้นยังมะได้เลย เกิดความอยากได้เล่มใหม่อีกแล้วค่ะ
โดย: I Love Sticky Rice วันที่: 10 สิงหาคม 2552 เวลา:14:35:15 น.
  
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
โดย: i_nookae วันที่: 10 สิงหาคม 2552 เวลา:15:16:50 น.
  
เคยอ่านแล้วค่ะ
มีความรู้สึกเหมือนกันเลยค่ะ อ่านแล้ววางไม่ลงเลย
**อยากรุ้เหมือนกันค่ะ ว่าใครเป็นผู้หวังดีที่ส่งจดหมายไป
โดย: misaboy วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:22:34:33 น.
  
ชอบเรื่องนี้เหมือนกันค่ะ...กำลังจะเขียนถึงก็เลยเสิร์ชดูว่ามีใครเขียนถึงเรื่องนี้กันบ้าง และแต่ละคนชอบเรื่องนี้เหมือนเรามั้ย

พอดีเห็นคุณสาวไกด์ฯเขียนไว้...เอ็มว่าคำตอบว่าผู้หวังดีคนนั้นคือใครอยู่หน้า ๖๒๙ อ่ะค่ะ...ไม่รู้ว่าคิดตรงกันมั้ย :)
โดย: whitemomo IP: 124.122.74.137 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2552 เวลา:18:39:55 น.
  
..บังเอิญจังค่ะ กำลังหาเรื่องของจิมมี่ เลียว อยู่ แต่เห็นว่ามีคนอ่านเรื่องนี้เหมือนเราด้วย

..เจอหนังสือเล่มนี้วางกองอยู่ในร้านขายหนังสือครึ่งราคาค่ะ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถือซื้อติดมือมา (เหมือนมีแรงดึงดูด) ปกติจะอ่านหนังสือแปลของญี่ปุ่นเป็นส่วนใหญ่ ..พอได้อ่านเรื่องนี้แล้วรู้สึกเหมือนกันเลยค่ะว่า "โลกนี้มันช่างโหดร้าย" สิ่งที่เกิดขึ้นในหนังสือหนาๆเล่มนี้ ชะตากรรมของตัวละครทั้งหมด ล้วนแต่บิดเบี้ยว ผิดเพี้ยน แล้วก็น่าสะเทือนใจ แต่ก็ต้องติดตามแบบอยากจะกลั้นหายใจไปจนจบ..

ถ้าจะให้เปรียบหนังสือเล่มนี้เหมือนกับอะไร ..ก็คงเหมือนกับกินไอสครีมเจลาโต้รสดาร์กช็อกโกแลต ที่เหนียวหนึบ เข้มข้น ดำ ขม ..แต่วางไม่ลงนั่นแหละค่ะ



ปล.เรื่องของผู้หวังดี น่าจะเหมือนคุณนักเดินทางคนที่ 39 ค่ะ
โดย: zadakO IP: 119.42.72.51 วันที่: 27 พฤศจิกายน 2552 เวลา:2:31:09 น.
  
^
^
ขอบคุณทั้งสองท่านที่มาร่วมจอยกันนะคะ

เดี๋ยวจะลองไปเปิดหน้า 629 ดูค่ะ
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 5 มกราคม 2553 เวลา:19:56:14 น.
  
เราอ่านแล้วสนุกจนวางไม่ลงจริงๆ ผู้เขียน เขียนได้สุดยอดมาก ชอบประโยคที่ เจมส์แอบด่าแมททีเรีย (เมียของเขา) ในใจ มันเจ๊บเเสบและตลกมากกก
โดย: Pattie IP: 10.10.22.61, 202.29.50.66 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2554 เวลา:8:03:00 น.
  
ผู้หวังดีที่เขียน จดหมายไปหาเจมส์ก็คือ แม่ของโรสนะครับ เค้าต้องการให้แคทลีนกลับบ้านเพราะว่าถ้าไม่มีเคทลีนโรสจะได้โด่งดัง
โดย: นนท์ IP: 110.49.250.210 วันที่: 22 เมษายน 2555 เวลา:17:07:24 น.
  
มีแต่ฉบับภาษาอังกฤษแฮะ เล่มนี้ขึ้นหิ้งได้เลยเก่ามาก 555
โดย: krairin IP: 124.120.160.206 วันที่: 21 มกราคม 2557 เวลา:16:51:49 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Pakwan.BlogGang.com

สาวไกด์ใจซื่อ
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 203 คน [?]

บทความทั้งหมด