ตัดสินคนจากหน้าตาก็ต้องเจอแบบนี้ เยว่เซี่ยเตี๋ยอิ่ง เขียน 25/6/2019 ตัดสินคนจากหน้าตาก็ต้องเจอแบบนี้ (3 เล่มจบ) เยว่เซี่ยเตี๋ยอิ่ง เขียน ศีตกาล แปล สำนักพิมพ์ Rose ในเครืออมรินทร์ 1,115 บาท 1,374 หน้า หลังปก
นับตั้งแต่จำความได้ ฉีเยี่ยนก็มีเรื่องที่ไม่พอใจในตัวเองอยู่สองอย่าง หนึ่งคือชื่อไม่น่าเกรงขามพอ สองคือหน้าตาดูไม่น่าเกรงขามยิ่งกว่าชื่อเสียอีก
แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็ไม่ได้กระทบกับเส้นทางสู่อนาคตอันสดใสของกระต่ายน้อยฝีปากกล้าคนนี้หรอก ยิ่งมีคู่หูกู้โลกเป็นนักธุรกิจผู้ทรงอิทธิพล ที่มีไอสีม่วงล้ำค่าอย่างเฉินไป่เฮ่ออยู่ใกล้ๆ เขายิ่งไม่หวาดหวั่นต่อสิ่งใด
"เวลาคุณไม่มีธุระอะไรก็ไปกอบกู้โลกด้วยกันกับผมแล้วกันครับ" "ได้ครับ ถึงเวลาก็อย่าลืมเรียกผมนะ"
คุยกันหลังอ่าน
เป็นเรื่องของหมอดูหน้าใสกับนักธุรกิจหนุ่มที่ทรงอิทธิพลแต่ชะตากำหนดให้มีอายุขัยสั้น
ฉีเยี่ยนเพิ่งจบมหาวิทยาลัยหมาด ๆ ก็ตัดสินใจยึดการดูฮวงจุ้ยยังชีพ คนมากมายที่เห็นว่าเขาเป็นเด็ก เลยไม่เชื่อถือ ภายหลังกลับต้องมากราบกรานเรียกอาจารย์ฉี
แต่ไม่ใช่ว่าเพียงมีเงินทองก็สามารถทำให้ฉีเยี่ยนยอมเอ่ยปากช่วยเหลือ เขายังยึดชะตาที่ต้องกันเป็นคุณสมบัติสำคัญอีกด้วย
เริ่มเข้าวงการเต็มตัวไม่นาน ชื่อของฉีเยี่ยนก็มีคนให้ความสนใจ รวมถึงตระกูลเฉินผู้ทรงอิทธิพล
ทุกคนที่เพียงมีความสนใจในวงการธุรกิจสักหน่อยย่อมรู้จักท่านห้า เฉินไป่เฮ่อ ว่ากันว่าเขาหล่อเหลา เก่งกาจ เป็นลูกหลงคนสุดท้องที่ผู้อาวุโสเฉินทุ่มเทความรักให้ เสียดายที่สุขภาพเฉินไป่เฮ่อนั้นไม่ดีตลอดมา ตระกูลเฉินจึงมีความคิดที่จะเชิญอาจารย์ฮวงจุ้ยมาเพื่อเสริมชะตาต่อชีวิตให้เฉินไป่เฮ่อ
นั่นเป็นครั้งแรกที่ฉีเยี่ยนได้พบเฉินไป่เฮ่อ ไอสีม่วงในร่างของท่านห้าเฉินเป็นสิ่งดีแต่กลับบั่นทอนร่างของเขา อาจารย์ฮวงจุ้ยหลายท่านส่ายหัวว่าไม่มีวิธีการช่วยเหลือ เดิมฉีเยี่ยนก็คิดเช่นนั้น แต่แล้วเขาเริ่มพบว่าอาจมีวิธีการช่วยเหลือ
ช่วยเหลือเฉินไป่เฮ่อ หยุดยั้งการทำชั่ว เสริมสร้างคุณความดี เป็นวิถีง่าย ๆ ที่ฉีเยี่ยนยึดถือ ...นอกจากวุ่ยวายกับการนอน กิน และเล่นเกมน่ะนะ...
+++
นอกจากเรื่องราวของคู่เอก ฉีเยี่ยนกับเฉินไป่เฮ่อแล้ว ก็มีเรื่องของคนมากมายที่ประสบปัญหาแล้วอยากให้ฉีเยี่ยนช่วย รวมถึงการอุทิศตนรับใช้ชาติบ้านเมือง
แนวคิดที่เห็นเด่นชัดนอกจากการรักษาคุณความดีแล้ว ก็คือการโอบกอดและเชิดชูประเทศจีน ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมต่าง ๆ ความเชื่อ สิ่งประดิษฐ์ ความมั่งคั่งยิ่งใหญ่ของแผ่นดินและประวัติศาสตร์
ฉีเยี่ยนเป็นตัวเอก ตัวเด่นที่สุดของเรื่อง ในเรื่องเขาเทพสุดละ อ่านแล้วนึกถึงตัวการ์ตูนที่เรากรี๊ดสมัยเด็กที่ไม่มีวันตาย แม้จะมีเวลาที่ดูเหมือนเสียเปรียบ แต่สุดท้ายเขาก็จะกำชัยไปได้อย่างไม่ยากเย็น เป็นตัวละครที่ในแง่หนึ่งก็เก่งกาจจนน่าหมั่นไส้ แต่ในอีกแง่ก็เราก็ไม่ต้องเสียเวลาลุ้นดี
ฉากมันจะซ้ำ ๆ หน่อย คนดูหมิ่นฉีเยี่ยน ฉีเยี่ยนยิ้ม ๆ รักษาท่วงท่าความเก่งแบบผู้ทรงภูมิ โชว์สเต็ปเทพ แล้วผู้คนที่เห็นปากอ้าตาค้าง
แต่ถึงมันจะซ้ำ ๆ ก็อ่านได้รู้สึกดี อาจเพราะบุคลิกของฉีเยี่ยนเองด้วย เขาดีต่อคนที่ดีด้วย ร้ายต่อคนที่ร้ายตอบ ให้ความเคารพผู้อาวุโส ใส่ใจสุภาพสตรี ให้ความสำคัญต่อคนที่ตนรัก เรื่องจะเล่าแบบไม่รีบเร่ง ค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป ก็อาจจะดูช้าไปบ้าง แต่ก็ไม่เชิงว่าน่าเบื่อนะ มันก็มีอะไรน่าติดตามไปเรื่อย
แต่จังหวะในเรื่องไม่ค่อยดี ยังเล่นกับอารมณ์ไม่ถึง มุกในเรื่องโอไม่ฮาสักมุกเลย เก็บรายละเอียดยังไม่เรียบร้อย ถ้าคิดตามเหตุและผลจะเจอช่องโหว่ของเรื่องพอสมควร
ด้านความรัก โอชอบฉีเยี่ยนกับเฉินไป่เฮ่อตอนที่ยังไม่รู้ว่ารักกันมากกว่า แบบต่างคนต่างรู้สึกดีกับอีกฝ่าย ขำที่พวกเขารำพึงว่ามิตรภาพนี่มันดีอย่างนี้นี่เอง (จริง ๆ คือชอบไปแล้ว มาพงมาเพื่อนอะไรเล่า!) แต่พอบอกรักกันแล้วดร็อปวูบไปเลย ไป่เฮ่อกลายเป็นตัวประกอบให้น้องเฉียนเฉียนโชว์เทพคนเดียว โมเมนต์พระนายก็ไม่น่าลุ้นไม่น่ารักเท่าไรแล้ว กลายเป็นคู่ที่เอาแต่สวีตชวนพวกดวงกุดความรักยี้
ภาพรวมโอว่าเล่มแรกสนุกสุด เรื่องรักก็ชวนลุ้น ความลึกลับก็น่าติดตาม เล่มสุดท้ายดร็อปสุด รักก็ไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไร เฉลยปมก็แบบรีบ ๆ คือเกริ่นวางมาใหญ่โตแต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไร อย่างช่วงเล่นกีฬาสีเวทที่แบบ... เธอเขียนอะไรให้ฉันอ่านนี่
โดยรวมก็ถือว่าโอเคนะคะ ชอบช่วงที่แต่ละคนต้องมาพึ่งพาฉีเยี่ยน เหมือนได้เห็นชีวิตของคนหลากหลายประเภทดี ตัวเอกอย่างเฉียนเฉียนก็เป็นคนที่น่ารัก 3.5 ดาว ส่วนงานไม่ค่อยเรียบร้อย สามารถเกลาได้อีกมากเลยโดยเฉพาะเล่มแรก มีคำผิดบ้าง มีเว้นวรรคผิดความหมายเปลี่ยน มีจุดที่อ่านแล้วสับสน
. . . ฉีเยี่ยนยื่นมือไปคว้าจับในอากาศ เขาหัวเราะจนตาปิดแล้วก็พูดกับเฉินไป่เฮ่อว่า “วันแรกที่เราเป็นเพื่อนกันอย่างเป็นทางการ ผมจะให้ของขวัญคุณชิ้นหนึ่งนะ”
เฉินไป่เฮ่อแบมือขวาออกมา
“มือซ้ายครับ” ฉีเยี่ยนเชิดหน้าขึ้น แสดงอาการให้เขาเปลี่ยนมือ
เฉินไป่เฮ่อหัวเราะด้วยความรู้สึกช่วยไม่ได้ เขายื่นมือซ้ายมาข้างหน้า
ฉีเยี่ยนวางมือทาบลงบนฝ่ามือซ้ายของเขา วินาทีนี้ เฉินไป่เฮ่อก็รู้สึกว่าฝ่ามือของตัวเองร้อนจนทำให้เขาตะลึงงัน
แต่ความตะลึงงันนี้เป็นเรื่องเพียงชั่ววินาทีเท่านั้น เพราะฉีเยี่ยนเก็บมือกลับไปเร็วมาก ในมือของเขาไม่มีอะไรอยู่ทั้งนั้น
บอดี้การ์ดที่นั่งข้างคนขับพูดอะไรไม่ออกไปเล็กน้อย ในฐานะที่เป็นบอดี้การ์ดของคุณชายห้า เขาจะต้องคอยสังเกตใครก็ตามที่ไปมาหาสู่กับคุณชายห้าเสมอ ปกติแล้ว คนที่อยากจะล่อลวงคุณชายห้าก็มีไม่น้อย แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นคนคว้าเอาของขวัญจากในอากาศ
“ขอบคุณครับ” เฉินไป่เฮ่อยิ้ม เขากำมือแน่นราวกับในมือมีของอะไรอยู่
บอดี้การ์ดส่ายหน้า เขาไม่คิดว่าคุณชายห้าของเขาจะมีความสามารถระดับนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากงานประกาศรางวัลไป่ฮวาด้วย
ฉีเยี่ยนชอบนิสัยของเฉินไป่เฮ่อก็ตรงนี้ คือแม้ว่าจะไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่ก็ยังเป็นคนไว้หน้าคนเอามาก ๆ เขาหัวเราะคิก ๆ แล้วว่า “ไม่ต้องเกรงใจครับ”
หน้า 150-151 บทที่ 22 เล่ม 1 . . . คนในวงการบันเทิงที่ทำเอาหน้า เคารพผีสาง กราบไหว้เทวดา ไม่ว่าคนแบบไหนก็มีทั้งนั้น แม้แต่ตัวเธอเองก็ยังเคยไปไหว้พระขอพรเทพมาแล้ว ตอนนี้เธอเพิ่งเข้าใจว่าเมื่อคนเราทำผิด จะขอพรเทพเทวดาที่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ เกิดเป็นคน เพียงเคารพตัวเองจึงมีคนเคารพ หน้า 228 บทที่ 136 เล่ม 3 . . .
เล่ม 1
หน้า 2 วันนี้เป็นวันสุดท้ายของเดือนมิถุนายน หรือว่าทุกเดือนสาม ดวงของเขานี่ยังไม่ครบอีก ถ้าอย่างนั้นธุรกิจนี้มันก็น่าหดหู่จริง ๆ แล้ว >> ‘ทุกเดือนสามดวง’ ต้องติดกันค่ะ เป็นคำที่ฉีเยี่ยนเขียนบนป้าย หมายถึงดูดวงทุกเดือน เดือนละสามดวง (ของคน)
หน้า 281 เดิมพวกเขานัดกันไว้ว่าจะพบกันตอนเย็น แต่เฉินไป่เฮ่อกลับมหาถึงบ้าน เหลียงอวิ๋นนี่ออกจะไม่เข้ากับสไตล์การทำอะไรต่อมิอะไรของไป่เฮ่อตามปกติสักเท่าไหร่ >> ‘บ้านเหลียงอวิ๋น’ ต้องติดกัน หมายถึงบ้านของเหลียงอวิ๋น
หน้า 329 เธอไม่ได้เข้ากับซุนเสียงไม่ได้มาแต่แรก เพียงแต่แม่ของเขาหาข้ออ้างมาดูถูกชาติกำเนิดของเธอ เธอหาให้คนช่วยหาอาจารย์ไปทั่ว แทบจะเชื่อคำพูดของคนอื่นแล้วไปทำคุณไสยด้วยซ้ำ... >> ‘เธอให้คนช่วยหาอาจารย์ไปทั่ว’ เล่ม 2
หน้า 165 “ไม่ได้เป็นอะไร พอดีผมเจอเรื่องที่บริษัทนิดหน่อย อารมณ์ไม่ดีก็เลยพานมาถึงคุณด้วย ขอโทษนะ” >> ต้องเป็น ‘พาลมาถึงคุณ’ (หมายถึง หาเรื่อง หรือระรานมาถึงคุณ)
หน้า 202 ฉีเยี่ยนกุมศีรษะ “รู้แล้วครับ ป๊ะป๋าไป่เฮ่อ” เฉินไป่เฮ่อแทบลืมหายใจ เขาจ้องฉีเยี่ยนอยู่ครู่หนึ่งแล้วว่า “งั้นผมควรจะเรียกคุณว่าเด็กน้อยด้วยดีมั้ย” ฉีเยี่ยน : ... ตอนนี้ไป่เฮ่อชักจะดูไม่สนุกขึ้นทุกทีแล้ว หนำซ้ำ...เด็กน้อยอะไรกัน น่าอายจริง ๆ เขามีเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยที่เรียนคลาสเดียวกันอยู่คนหนึ่งมาจากมณฑลสู่โจว โทรศัพท์มือถือของเขาบันทึกชื่อแฟนสาวเอาไว้ว่า “เด็กน้อย” เห็นว่าที่มณฑลสู่โจวนั้น คู่รักบางคู่เวลาหยอกล้อเล่นกันจะใช้คำนี้เรียกคนรัก แต่ดูท่าทางจริงจริงของไป่เฮ่อสิ คงจะไม่รู็เรื่องความเคยชินของคนพื้นถิ่นแบบนี้แน่ เขากระแฮมครั้งหนึ่ง “ช่างเถอะครับ ผมไม่ยุ่งด้วยแล้ว” เฉินไป่เฮ่อ : ไม่สิ ยุ่งด้วยได้นะ โดยเฉพาะต่อจากนี้ไป บางครั้งเรียกเขาว่าป๊ะป๋าบ้างก็ไม่เลวเลย >> ‘ตอนนี้ไป่เฮ่อดูชักจะดูไม่สนุกขึ้นทุกทีแล้ว’ โอว่ามันน่าจะเป็น ‘ตอนนี้ไป่เฮ่อชักจะดูไม่เหมือนล้อเล่นขึ้นทุกทีแล้ว’ หรือไม่ก็ ‘ตอนนี้ฉีเยี่ยนชักจะไม่สนุกขึ้นทุกทีแล้ว’ ส่วน ‘ไม่สิ ยุ่งด้วยได้นะ’ ก็ควรเป็น ‘อย่าสิ ยุ่งด้วยได้นะ’ หรือ ‘ไม่เอาสิ จะยุ่งด้วยก็ได้นะ’ ประมาณนี้มากกว่า
หน้า 240 “เหล่าเฉิน ดูแลอาจารย์ฉีคนนี้อย่างดีเชียวนะ” “เหล่าหยวน พูดอย่างนี้ได้ยังไงกัน” เฉินชิวเซิงลืมตา ยังคงมีรอยยิ้มประดับอยู๋บนใบหน้า “อาจารย์ฉียังเป็นแขกคนสำคัญของตระกูลเฉินอยู่ ไหนเลยต้องให้พวกเราดูแล” >> ดูจากคำตอบของเฉินชิวเซิง ประโยคที่คนแรกพูดน่าจะเป็น ‘เหล่าเฉิน ดูแลอาจารย์ฉีคนนี้ให้ดีล่ะ” มากกว่า (เป็นคำขู่นิด ๆ เฉินชิวเซิงเลยตอบว่าฉีเยี่ยนเป็นแขกของเราอยู่แล้ว ไม่ต้องกลัวว่าเราจะไม่ดูแล)
คุณสองแผ่นดิน, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ ขอบคุณสำหรับโหวตค่ะ
โดย: ออโอ วันที่: 30 ตุลาคม 2563 เวลา:10:49:44 น.
|
บทความทั้งหมด
|