"พระพุทธเจ้า" ... อาจยังไม่ใช่หนังการ์ตูนที่ดีเลิศในทุกๆสิ่ง แต่ความตั้งใจจริง มีร้อย ให้สองร้อย


"ความน่าสนใจ" และ "ความตั้งใจ" เป็นสองสิ่งหลักๆ ที่ผมมักจะคิดถึงเวลาเลือกดูหนังสักเรื่อง

อย่างข้อแรก ก็คงเหมือนนักดูหนังทั่วๆไป ที่เวลาจะเลือกหนังต้องตาต้องใจต้องดูสักเรื่อง มันก็ควรจะเป็นหนังที่มีจุดบางจุดเด่นออกมาให้รู้สึกว่า มันน่าจะสนุกมันน่าจะดี กระทั่งออกจากโรงมาก็หวังว่าจะได้ประทับใจไปกับมัน หรือถ้ายังไม่ชอบ เอาแค่ไม่เสียดายตังค์ก็พอจะยอมรับได้อยู่

ส่วนในข้อหลัง ...อันนี้ผมก็ยังไม่ค่อยไปเน้นย้ำอะไรกับมันเท่าข้อแรกนัก ก็ขอเอาเป็นว่าแค่หนังเรื่องนั้นมันมีความพิถีพิถัน ไม่สุกเอาเผากิน ทำออกมาโดยมีเจตนา มีวิธีคิดที่ดีก็เพียงพอ จะรู้สึกดีตามตัวหนังไปได้แล้ว... (ยกเว้นเสียแต่ว่าหนังเรื่องนั้นจะมีแนวคิด-ความตั้งใจที่ดี แต่กลับกันดันมีคนกำกับแบบผู้ไม่รู้วิชาทำหนัง ตัดต่อลวกๆ เขียนบทเลอะเทอะ หรือเอาหุ่นยนต์มาเล่น ก็เป็นอีกเรื่องที่ไม่ไหวจะไม่ด่า)




"พระพุทธเจ้า" เป็นหนังที่เข้าข่ายทั้งสองข้อของผม ที่ผมคาดหวังจะได้ดู...

ข้อหนึ่ง ...ก็คือ ความที่ผมเป็นคนพุทธ ที่เคยผ่านหูผ่านตากับการเรียนและรู้เรื่องราวพุทธประวัติของ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ...ตั้งแต่ประถม มาจนถึงมัธยม ก็มีความผูกพันกับพระองค์ ฟังแล้วฟังอาจารย์เล่าอีกได้ทุกๆปี จนขึ้นใจ ...ฉะนั้นแล้ว เมื่อจะมีหนังสักเรื่องที่สร้างขึ้นมาเพื่อเล่าเรื่องราวของพระพุทธองค์ในมุมของความเป็นหนัง ก็ย่อมอยากเห็นว่า ตัวหนังจะสามารถย่อเอาใจความสำคัญที่มีอยู่เป็นร้อยประเด็นรวมในเวลาร่วมๆ 2 ชั่วโมงได้อย่างไร และการเป็นหนังไทยที่มีการนำเสนอเป็นการ์ตูน ก็คืออีกจุดที่ทำให้สนใจไปถึงความสนุก ในแง่ที่หวังจะให้เด็กดูได้เข้าใจอย่างเพลิดเพลิน พร้อมๆยังจะตีคู่ไปกับการรื้อฟื้นความจำของคนวัยผู้ใหญ่ให้ลึกซึ้งกับสิ่งที่เคยรู้มาอีก ...นั่นจึงอยากเห็นว่า ทั้งสองแง่นี้ จะทำออกมาได้ดีพอๆกัน หรือไม่

ซึ่งกับความเห็นส่วนตัวของผม หลังจากที่ได้ดูแล้ว... เมื่อเอามาวัดในแง่ของความเป็นหนังฉายโรงเรื่องหนึ่ง "พระพุทธเจ้า" ก็ยังอาจทำได้ไม่ถึงที่สุด




เหตุผลข้อหนึ่ง ...อาจด้วยความที่หนังมีเรื่องให้ต้องเล่าเยอะแยะ และจำเป็นต้องรวบรัดเพื่อให้อยู่ในความยาวที่ไม่มากเกินไป และไม่สั้นเกินไป (ประหนึ่งก็ตรงตามหลักเดินทางสายกลาง นั่นเอง) ...จึงทำให้หนังต้องใช้เวลาเพียงไม่กี่อึดใจที่มี ในการแตะประเด็นนั้นแบบผิวๆ แล้วก็ต้องรีบจบลงไป เพื่อให้หนังได้ไปต่อในอีกเรื่องหนึ่ง... นั่นอาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ได้สลักสำคัญอะไรมากนัก กับเราๆที่เคยรู้เรื่องเหล่านั้น มาเป็นอย่างดี ...แต่ในความเป็นหนังสักเรื่อง การจัดการรายละเอียดได้ไม่เคลียร์ ก็มักจะเป็นปัญหากระทบต่อความรู้สึกอินของคนดูที่จะมีต่อภาพบนจอ



เหตุผลข้่อสอง ...ภาพที่ดูสวย มีสีสัน ด้วยฝีมือของนักเขียนการ์ตูนที่เคยเป็นหนึ่งในทีมงานดิสนีย์ เป็นสิ่งที่ดึงดูดใจผมได้เป็นอย่างมากตอนที่ได้เห็นในตัวอย่าง ...แต่กระนั้นแล้วเมื่อได้ดูหนังจริงๆ ก็ยังพบว่ามันมีปัญหาอยู่หลายประการเกิดขึ้นกับภาพบนจอ อาทิ ลายเส้นในหลายๆฉากที่ดูจะหนักเบาไม่เท่ากัน น้ำหนักของสีที่ระบายก็มีความอ่อนเข้มที่ดูผิดธรรมชาติไปหน่อย หรือกระทั่งกับการเก็บรายละเอียดในฉาก ที่ยังดูขาดๆเกินๆ มีบ้างไม่มีบ้างให้ประดักประเดิดในความรู้สึก ...ถ้าวัดเอาเฉพาะการสร้างภาพ ยอมรับว่าทีมงานก็มีความประณีตดีอยู่ หากติดแต่ว่าน่าจะดีกว่านี้ได้อีก ...แล้วถ้าไม่ติดปัญหาตรงงบประมาณที่ยังเอื้ออำนวยต่ออนิเมเตอร์ไทยได้น้อย ก็เป็นอีกส่วนที่น่าจะทำให้หนังสวยงามกว่านี้ได้อีกเช่นกัน

เหตุผลที่ผมว่ามา เป็นปัญหาหลักๆตรงๆที่กระทบต่อความรู้สึกของคนดูอย่างผม ตลอดเวลาที่นั่งลึกซึ้งไปกับการทบทวนเรื่องราวพุทธประวัติ ...ถึงจะรู้ว่า ผู้สร้างพยายามได้ถึงที่สุึดแล้ว แต่ก็อาจไม่เพียงพอจะให้ผมรู้สึกว่า หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้า ที่ดีที่สุดแล้ว

ถึงแม้ว่า "พระพุทธเจ้า" จะยังไม่ได้เป็นหนังที่น่าประทับใจในแง่ของเรื่องราวและอารมณ์ ...แต่โดยส่วนอื่นแล้ว ก็คนละอย่างกับความคิดเห็นตรงๆ


ส่วนอื่นที่ว่า ก็คือ 'ความตั้งใจ' ที่ทีมงานทุกคน อยากจะให้มีหนังเรื่องนี้... ส่วนนี้ ผมอาจจะเชื่อมาตั้งแต่รู้ข่าวคราวแล้ว แต่หลังจากที่ผมได้ดูเต็มๆ ผมก็ยิ่งเชื่อในสิ่งที่พวกเขาทำมากกว่าเดิม

ความตั้งใจ ในที่นี้ ย่อมไม่ใช่ความตั้งใจที่จะทำหนังเรื่องนี้เพื่อหวังเรียกศรัทธาให้คนได้ดูทุกคนต้องเลื่อมใสในศาสนาพุทธ ...และต้องไม่ใช่ความตั้งใจที่หวังจะได้คุณประโยชน์ที่ตีค่าออกมาเป็นเงินเป็นทอง



แต่นี่คือหนังที่เป็นความตั้งใจ ของกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่นับถือศาสนาพุทธ แล้วอยากจะนำเสนอเรื่องราวที่เขารู้จัก มาทำเป็นหนัง เพื่อให้ได้มีคนอีกหลายๆคนได้เก็บจารึกภาพเหล่านั้นเอาไว้ในความทรงจำ ...ไม่ใช่เป็นแค่การจินตนาการแล้วนึกไปตามตัวหนังสือ ที่อาจเห็นภาพในใจแต่ก็ไม่ชัดเจนเท่าที่มีคนเอามาตีความเป็นฉากๆ ได้เช่นนี้

แม้ทว่า ความตั้งใจ อาจจะยังไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้ผมได้ประทับใจหนังเรื่องนี้เป็นพิเศษ ...แต่ที่ผมมองว่า ผมประทับใจ ก็คือ คุณค่าของเรื่องราว และความคิด วิธีการของคนทำที่มีเจตนาที่ดี ที่จะเผยแพร่ สืบสาน ศาสนา ให้ยังคงอยู่อย่างมีรูปธรรม กลายเป็นภาพที่คอยย้ำเตือนให้เราชาวพุทธได้นึก แล้วนำเอาสิ่งที่นึกมาทำให้มันเป็นจริง เพื่อสืบทอดหลักธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้มีสืบเนื่องต่อไป ตราบใดที่โลกใบนี้ยังไม่สิ้นเวรสิ้นกรรมจะหยุดหมุน




ขอเชิญชวนทุกๆท่าน ที่ได้อ่านกระทู้นี้ ไปดูหนังเรื่องนี้กันเถอะครับ... ผมไม่อาจรับรองว่าุคุณจะต้องสนุกกับเรื่องราว หรือจะเพลิดเพลินจนประทับใจไปกับสิ่งที่หนังมี ...แต่ที่ผมแน่ใจก็คือ คุณจะได้รับความรู้สึกภูมิใจ และจะลึกซึ้งในความตั้งใจของคนคิด คนทำทุกคน ที่ก่อกำเนิดให้เกิดหนังเรื่องนี้ขึ้นมาให้เราชาวพุทธได้รับชมกัน

เอาเป็นว่า ผมขอขอบคุณ (สำหรับตัวผมและล่วงหน้าไปยังคนอื่นๆ) ทุกๆท่านที่มีส่วนร่วมต่อหนังเรื่องนี้นะครับ ...คุณคิดดี ทำดี แล้วก็ได้กรรมที่ดีมากๆ ที่ทำให้พวกเราทุกคนได้ดูเรื่องราวดีๆ อย่างนี้ในโรงหนัง

และ ผมก็จะขอให้คำสัญญาว่าผมจะยังเป็นอีกคนหนึ่งที่เลือกจะทำกรรมดีอยู่ต่อไป ...ถึงแม้ผลตอบแทนมันจะเล็กน้อย แต่ผมก็จะทำเพื่อเป็นการรักษาคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ยังคงอยู่ในสังคม วัฒนธรรม และจิตใจของมนุษย์ต่อไป ตราบนานเท่านาน




ขอเชิญทุกท่านเสนอความคิดเห็นกัน...
1 Comment ของคุณ คือ 1 Happy ของเจ้าของบล็อก ขอบคุณมากครับ




Create Date : 08 ธันวาคม 2550
Last Update : 8 ธันวาคม 2550 8:36:51 น.
Counter : 4609 Pageviews.

22 comments
ภาพเก่า และใหม่ เล่าเรื่องริมโขงศรีเชียงใหม่ ตรงข้ามเวียงจันทน์ วิวทิวทัศน์ไม่ธรรมดาจริงๆ เที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์
(5 พ.ย. 2568 15:39:07 น.)
The Bourne Supremacy (2004) สุดยอดเกมล่าจารชน ไมเคิล คอร์เลโอเน
(3 พ.ย. 2568 21:57:50 น.)
1101 Hello Kitty สวัสดีชาวพิจิก delicate pudding
(2 พ.ย. 2568 19:13:43 น.)
สวนรถไฟ : กระเต็นน้อยสามนิ้วหลังดำ ผู้ชายในสายลมหนาว
(21 ต.ค. 2568 16:33:34 น.)
  
ภาพสวยมาก โดยเฉพาะแบคกราวน์งามจริงๆ
ส่วนการเคลื่อนไหวของตัวละครอาจจะไม่ลื่นมาก แต่ถือว่าทำได้ดีในระดับนึงแล้วค่ะ
ลายเส้น การวาดคาแรคเตอร์ ก็ดีค่ะ ดูออกไปทางอินเดียดี (ก็แหงนิ เรื่องเกิดในอินเดียนี่)

ส่วนเรื่องบท สำหรับเรา ให้ใจไปเต็มๆค่ะ
เก็บรายละเอียดดีมากๆ มีเกร็ดอะไรในเหตุการณ์เยอะดี ทำให้จำเรื่องราวได้ง่าย
ยิ่งเด็กๆที่เรียนวิชาพระพุทธศาสนาอยู่แล้ว บอกได้เลยว่า โอ้วว ตรงเป๊ะๆ
ในมุมของเรา การที่เหมือนในแบบเรียน กลับดีกว่านะคะ
คนสร้างคงตั้งใจมาอย่างนั้นด้วย คือ คงเนื้อเรื่องไม่ให้เพี้ยนจากของเดิม
ทั้งเหตุการณ์ ทั้งบุคคล รวมทั้งพระธรรมคำสอน สามารถรวมเรื่องสรุปให้เข้าใจในเวลาสั้นๆ
ไม่ง่ายเลยที่จะทำแบบนั้น ปรบมือให้คนเขียนบทค่ะ

มีข้อนึงที่อาจจะทำให้เด็กๆเข้าใจได้ยากไปหน่อย
ก็คือ ในส่วนของพระธรรม ที่อธิบายในแบบโบราณดั้งเดิม ภาษาจะยากนิดนึง
แต่สำหรับผู้ใหญ่ จุดนี้เป็นประเด็นที่น่าประทับใจมาก
ตัวอย่างเช่น พระธรรมจักรกัปปวัตนสูตร ทุกคนเรียนมา ทุกคนรู้ว่าเป็นพระธรรมเทศนาครั้งแรก
แต่มีใครรู้บ้าง ว่าท่านสอนอะไรบ้าง???
ไปลองอ่านในหนังสือสวดมนต์ (แบบมีคำแปล) ดูก็ได้ค่ะว่า บทนี้มันยาวมากแค่ไหน
เค้าสามารถย่อบทพระธรรมยาวมากๆอย่างนั้น มาเป็นบทพูดแค่นิดเดียว แถมพูดครบอีกแน่ะ
สามารถจริงๆ...........

นับถือความตั้งใจของผู้สร้าง เรื่องนี้จึงให้ใจไปเต็มๆค่ะ
เอาใจช่วยให้มีคนไปดูกันเยอะๆนะคะ ^^
โดย: i c u IP: 125.25.148.81 วันที่: 8 ธันวาคม 2550 เวลา:9:57:20 น.
  
อยากไปดูเหมือนกันค่ะ
กำลังหาเพื่อนไปดูอยู่ค่ะ
โดย: นักรักโลกมายา วันที่: 8 ธันวาคม 2550 เวลา:11:28:41 น.
  
น่าดูจัง
โดย: เด็กน้อยขี้แย วันที่: 8 ธันวาคม 2550 เวลา:18:45:02 น.
  
จะพาลูกไปดูค่ะ

โดย: >>> (แม่เจ้าปัน ) วันที่: 8 ธันวาคม 2550 เวลา:22:21:53 น.
  
ไปดูมาแล้ว ประทับใจมั่กมั่กค่ะ
โดย: JohJaeh IP: 58.8.16.173 วันที่: 10 ธันวาคม 2550 เวลา:12:12:31 น.
  
ไปดูมาแล้วคับ และตั้งใจจะไปดูอีกหลายๆรอบจนหนังออกโรงเลยคับ

เป็นกำลังใจให้ทีมงานนะคับ

คนทำดีย่อมต้องได้ดีคับ
โดย: JJ IP: 124.121.172.26 วันที่: 10 ธันวาคม 2550 เวลา:13:56:43 น.
  
เอาเงินไปอุดหนุนความตั้งใจคนทำมาแล้วนะ
แต่พี่รู้สึกเฉยๆมาก ถึงขั้นไม่ชอบเรื่องนี้

ไม่เกี่ยวกับคุณภาพงานสร้างหรอกนะ อันนั้นทำใจไว้แต่เริ่มแล้ว
แต่เนื้อหามันดูออกจะ "อภินิหาร" และ "อะไรก็เกิดขึ้นได้ ถ้ามีพระพุทธเจ้า" มากเกินไปหน่อย (จนพี่ก็รับไม่ค่อยได้ในหลายๆฉาก)

และอีกอย่าง เนื้อหามันสูงเกินกว่าคนที่ไม่เคยเรียนจะรู้เรื่องอะไรเลยได้อะ
เพราะฉะนั้น มันดูจะขัดกับเจตนารมณ์คนสร้างที่บอกอยากให้เข้าถึงเด็กยังไงไม่รู้
เพราะรายละเอียดหลายอย่างไร้ที่มาที่ไปมาก ถ้าไม่เคยเรียนพุทธประวัติมาก่อน ก็ต้องอธิบายกันตายเลยล่ะ


อันที่สำคัญที่สุดที่พี่รับไม่ได้คือ ตัดเนื้อหาของนางปชาบดีโคตมีออกไป
ทั้งที่ตรงนี้เป็นส่วนสำคัญมากที่จะ improve ศาสนาตัวเอง ว่าเปิดกว้างให้คนทุกชนชั้น ไม่แบ่งแยกเพศ
เลยกลายเป็นว่า ทั้งเรื่องไม่มีผู้หญิงศึกษาธรรมให้เราเห็นเลย!!!!
โดย: nanoguy วันที่: 10 ธันวาคม 2550 เวลา:15:38:52 น.
  
ไปดูมาแล้วครับรู้สึกเหมือนผู้เขียนในหลายๆด้านเลย ในด้านของจุดที่ต้องปรับปรุงก็มีครับ แต่ก็ให้คะแนนความตั้งใจพอสมควร

ไว้ผมจะทำวิจารณ์บ้างนะครับ ^^
โดย: DarKMegA IP: 124.121.200.6 วันที่: 10 ธันวาคม 2550 เวลา:20:06:47 น.
  
อยากจะไปดู แต่ไม่รู้จะไปดูที่ไหน ฉายที่ไหนบ้างไม่เห็นมีโปรโมส ให้รู้เลย รู้แต่ว่าจะฉายวันที่ 5ธันวา แต่ฉายที่ไหนบ้างไม่บอกเลย หาใน Net ยังหาไม่ค่อยเจอเลย ในเวปแนะนำยังไม่มีบอกเลย แล้วจะมีแรงสนับสนุนได้อย่างไร
โดย: นัน IP: 124.121.128.168 วันที่: 10 ธันวาคม 2550 เวลา:22:33:32 น.
  
ทําวิจารณ์ อ่านยากมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ไม่เห็นใจสายตาคนอ่านบ้างเลย เป็นหมอมิใช่หรือ
โดย: ไม่ชอบสีเลย IP: 124.121.45.12 วันที่: 11 ธันวาคม 2550 เวลา:8:01:34 น.
  
^
^
+ ไม่ใช่ครับ น้องเค้าเรียนวิศวะอยู่ครับ (รุ่นน้องคณะผมเอง ) ... ส่วนเรื่องสีเหลืองที่เป็นตัวอักษร เข้าใจว่าน้องเค้าจงใจทำเป็น 'พิเศษ' สำหรับเรื่องนี้กระมังครับ เพราะเรื่องอื่นก็ไม่ได้ใช่สีนี้นะ

+ ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พี่ยุ่งมั่กๆ ต้องไปทำช่วยเพื่อนทำค่ายเด็ก เกี่ยวกับธรรมะที่วัด จ.สุพรรณบุรีอ่ะครับ เลยไม่มีเวลาว่างไปดูหนังเลย แค่ทันเก็บ Golden compass ตอนวันที่ 5 ธันวาเอง ... ส่วนเรื่องนี้ ตอนแรกยังว่าจะรอคำวิจารณ์เช่นกัน ก็เด๋วสุดสัปดาห์นี้ถ้า I am legend ออกมาว่าห่วย อาจไม่ดู แล้วตัดสินใจเปลี่ยนเป็นดูเรื่องนี้แทนอ่ะครับผม
โดย: บลูยอชท์ วันที่: 11 ธันวาคม 2550 เวลา:16:31:45 น.
  
รัเกแรสสสสสสสสสสสสสสสสสสะดี้พก้เน้เพดัก
โดย: ดึยดาม IP: 58.9.220.184 วันที่: 13 ธันวาคม 2550 เวลา:18:45:05 น.
  
พระพุทธเจ้า หลังจากตรัสรู้แล้ว ทรงนั่งตรึกตรองอยู่นาน
ว่าจะออกเผยแผ่ ธรรมะ ดีหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องที่ ละเอียดลึกซึ้ง คนธรรมาดาสามัญ เข้าใจได้ยาก เพราะเป็นเรื่องของการทวน กระแสโลก ( ทวนกิเลส)
ไม่ใช่ปัญญา ที่เขาเรียกว่า สุตต และ จินตา มยปัญญา คือใช้ความคิด แบบตรรก logics หาเหตุผลแบบ เถียงกันจนแพ้ชนะไปข้างหนึ่ง แต่..... เป็นภาวนามยปัญญา คือใช้ ปัญญาที่ถ่องแท้ เห็นตามความเป็นจริง ขั้นปรมัต ซึ่งปัญญาธรรมดา ไม่สามารถเห็นตามได้ ต้องใช้ปัญญาที่เกิดจากภาวนา ( วิปัสสนา) แม้นเรียนจบขั้น Doctor ก็ยังไม่เข้าใจ ถ่องแท้ ( มีบางหัวข้อเท่านั้นที่เข้าใจง่าย)
แต่พระพุทธองค์ ก็ยังเมตตา ออกเผยแผ่ เพราะ คนเรามี 4 ประเภท เปรียบดออกบัวสี่เหล่า ที่บารมีแก่กล้า สกิดนิดเดียวก็บรรลุธรรมก็ยังมี ส่วนพวกสุดท้าย พระพุทธองค์ไม่ทรงสอน เพราะพวกนี้เหมือน กะลาควำ ไม่เปิดรับอะไรทั้งสิ้น อย่างอาจารย์เก่าของ พระโมคลานะ พระสารีบุตร เพราะถือตัวเองเป็นเจ้าลัทธิ ไม่ยอมฟังไครสอนทั้งสิ้น อีโก้จัด ( เป็นกรรมของเขาเอง)
ฉะนั้นอย่าว่าแต่เด็กเลยครับที่ไม่เข้าใจ ผู้ใหญ่เองก็ยังยากที่จะเข้าใจให้ลึกซึ้ง
ไม่มีศาสนาใดในโลก ที่ให้ความเสมอภาคต่อผู้หญิง
ยกเว้นพุทธศาสนา ที่ให้พระน้านาง บวชเป็น พระเถรีได้
แต่พระพุทธเจ้าทรงร้อยู่เต็มอก ว่าเพศหญิงโดยส่วนใหญ่ต้องพึ่งพาผู้ชาย จิตใจไม่มั่นคงเท่าเพศชาย (ขอย้ำว่าส่วนใหญ่นะครับ ไม่ใช่ทั้งหมด) และถูกรังแกได้ง่ายกว่าเพศชาย ก็ยังให้บวช
ส่วนเรื่องอภินิหาร พระพุทธองค์ ทรงตรัสว่ามีจริงแต่ไม่ให้สนใจ เพราะเป็นเร่องโลกีย์ อภิญญา แม้แต่เทวตัต น้องชายต่างมารดาของพระพุทธเจ้า มีฤทธิ เหาะเหินเดินอากาศได้ หายตัว แปลงร่าง ก็ยังไม่พ้นต้องตกนรก
พระพุทธเจ้าสอนให้มาดูใจตัวเอง ดับกิเลสที่ใจ ไม่ให้สนใจแภนิหาร ฤทธาต่างๆ เพราะไม่ได้ช่วยให้พ้นทุกข์ เป็นเพียงทางผ่าน ของแถม
แต่หากอยากจะพิสูจน์ เรื่อง เหนือธรมชาติ ต้องทำการทดลองด้วยตัวเองครับ ศีลห้าไห้ บริสุทธ์ เจริญสมถ กรรมฐาน ให้ได้ ถึงชาญ4 แล้วถอยกลับมา อุปจาระสมาธิ
สามารถ มีฤทธฺได้ ทุกคนทำได้ ถ้าเงื่อนไขตรง (มีกล่าวไว้ในพระไตรปิฎก) และบุคคลที่เป็นพยานได้ ก็มีครับเช่น
ท่านอาจารย์ Dr สนอง วรอุไร Dr วรภัทร ภู่เจริญ ทั้งสองท่าน เป็นนักวิทยาศาตร์ ทั้งคู่ แต่เมื่อมาปฎิบัตุ จึงยอมเชื่อ เพราะทดลองด้วยตัวเอง
คนที่ไม่เข้าใจ พุทธศานาแล้วมาวิจารณ์ ผิดๆ เป็นอันตรายต่อตัวคนวิจารณ์ เพราะจะมีอบายเป็นที่ไป ผมสงสารท่าน ไม่อยากให้เกิดเช่นนั้น
ส่วนสื่อการ์ตูน ก็น่าสนับสนุนเพราะดีกว่าสื่อที่ ยั่วยุกิเลส ทำให้เยาวชนเราเสียหายมากแล้ว ไปดู เถิดครับ ถือว่าทำบุญ ตั้งจิตไว้เลยว่าเราจะไม่คาดหวังกับความสนุก แต่เวลาหนังจบ ขอให้เดินออกมา ด้วย ความปีติว่า เรามีส่วนร่วมได้ช่วยเผยแผ่ พระศาสนา เท่านี้ก็ได้บุญแล้วครับ
ขอให้ทุกท่านมีความสุข ครับ

บุญรักษาทุกท่านครับ
โดย: ค้นหาความตาย IP: 203.113.111.226 วันที่: 14 ธันวาคม 2550 เวลา:16:47:55 น.
  
ดูมาแล้วครับ ก่อนดูก็เผื่อใจไว้เหมือนกันว่าจะไม่คาดหวังความสนุก เพียงแต่อยากส่งเสริมพระศาสนา ไปดูกันเยอะๆนะครับ ขออนุโมทนา
โดย: ชาวพุทธคนหนึ่ง IP: 124.120.251.116 วันที่: 15 ธันวาคม 2550 เวลา:22:55:16 น.
  
ขอ อนุโมทนากับผู้สร้าง และผู้ชมด้วยครับ สาธุ
โดย: หน่อย IP: 125.26.149.76 วันที่: 17 ธันวาคม 2550 เวลา:15:33:14 น.
  
ขอ อนุโมทนากับผู้สร้าง และผู้ชมด้วยครับ สาธุ
โดย: หน่อย IP: 125.26.149.76 วันที่: 17 ธันวาคม 2550 เวลา:15:33:19 น.
  
เยี่ยมคับ
โดย: memean IP: 58.64.101.185 วันที่: 19 ธันวาคม 2550 เวลา:14:26:02 น.
  
ซึ้งมาก
โดย: 10218 IP: 117.47.106.3 วันที่: 11 ตุลาคม 2551 เวลา:17:13:41 น.
  
สุดยอดมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
โดย: เด็กไทย IP: 58.147.39.96 วันที่: 15 มิถุนายน 2552 เวลา:21:34:46 น.
  
สุดยอดจริงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
โดย: เด็กเพชร IP: 125.27.145.232 วันที่: 23 สิงหาคม 2552 เวลา:11:06:33 น.
  
สนุกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
โดย: แตงกวา IP: 125.27.145.232 วันที่: 23 สิงหาคม 2552 เวลา:11:07:54 น.
  
สนุกมากคับ
โดย: pu IP: 118.173.62.219 วันที่: 23 กันยายน 2557 เวลา:20:46:25 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Onceupon.BlogGang.com

OncE UPoN'-'a MaN
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]

บทความทั้งหมด