ดู{หนัง} วิธ มายเซลฟ์ <The Best of 2007> #1 : "15 การแสดง" ...ที่สุดแห่งความประทับใจของผม คือ...? ยินดีต้อนรับ ทุกๆท่านเข้าสู่การสรุปทุกความรู้สึกของผม OncE UPoN'-'a MaN ที่มีต่อเรื่องราวของภาพยนตร์ ใน 365 วัน และ 1 รอบปีที่ผ่านมา ...กับ "ดู{หนัง} วิธ มายเซลฟ์ [ภาคพิเศษ]" ตอน "The Best of 2007" ครับ... และแล้ว เราก็ผ่านพ้นอีกหนึ่งขวบปีที่ใครๆก็เรียกว่า "หมู" ไปเรียบร้อย...หากแต่กลับความเป็นจริง มันก็ไม่ได้มีแต่เรื่องหมูๆ สมชื่อปีเอาเสียเลย (แถมยังจะมีอะไรให้โหดร้ายในความรู้สึก ประหนึ่งมันจะเป็นหมูป่าตกมัน ไงงั้น) แต่ยังไงๆ มันก็เป็นอดีตไปแล้วในวันนี้ วันที่เราได้ก้าวผ่านมาอยู่ในปี 2008 หรือจะเรียกกันในภาษานักษัตรก็คือ "หนู" ...ซึ่งก็ได้หวังแต่ว่า เจ้าหนูตัวนี้จะทำตัวเป็นเจ้าหนูที่น่ารัก น่ากอด เฉกเช่น เจ้าเรมี่ แห่ง "Ratatouille" ด้วยเถอะนะ ... บ่นเสร็จก็มาว่ากันถึงเรื่องของหนัง ในช่วงเวลา 1 ปีหมูๆก่อนหน้า ของผม ...ซึ่งสิ่งแรกที่จะขอสรุป ก็คือ ตัวเลขจำนวนหนังฉายในโรง ที่ตัวผมได้ไปตามดูมาทั้งหมด ...ตั้งแต่ Blood Diamond ไปจนสิ้นสุดกับ Alvin and the Chipmunks มียอดรวมทั้งสิ้น 73 เรื่อง ด้วยกัน... และในจำนวนตัวเลข 73 ที่เคยผ่านตามาทั้งหมดในหนึ่งปีนั้น มันก็ได้คละเคล้าไปด้วยทั้ง หนังยอดเยี่ยมควรค่าจดจำ หนังที่ดีน่าประทับใจ หนังสนุกดูเพลิดเพลิน หนังเอาบันเทิงพอใช้ได้ หนังเรื่อยๆดูงั้นๆ ไปจนถึง หนังที่เรียกว่า ดูจบแล้วก็อยากจะลืม (แต่กลับยังจำขึ้นใจมาจนถึงวันนี้) ...การสูญเสียเงินร้อยอัพกว่าๆ ให้หายไปจากกระเป๋า เพื่อแลกกับความสุขเพียงชั่วประเดี๋ยว ก็ให้ผลลัพธ์ที่ทั้งเหมือนกัน หรือแตกต่างกันออกไป ตามแต่ที่หนังแต่ละเรื่องจะทำให้ผมรู้สึกได้ และด้วยความรู้สึกที่มีอย่างแปลกแยกออกไปตามแต่หนังหลายหลากเรื่อง จะพาให้อิน จะพาให้ชอบ ...การตัดสินใจที่จะลงเอยเอาความรู้สึกหนึ่งรู้สึกใด มาเป็นตัวชี้วัด จึงเป็นประเด็นแรกสุดที่ผมจะเลือกเอาแต่บรรดาเหล่า หนังเกรด A (แบ่งเป็น A และ A-) ซึ่งเป็นหนังที่เข้าข่ายชอบทุกๆเรื่อง และมีอะไรให้รู้สึกประทับใจ มากกว่าความเป็นหนังดูสนุกๆ อีกเรื่องหนึ่ง การคัดเอาแต่หนังเกรด A มาก็ดูจะไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรนัก แต่เมื่อเอาจำนวนทั้งหมดทั้งมวลที่คัดสรรไว้ มากลั่นกรองในอีกลำดับขั้นถัดมา ก็กลายเป็นเรื่องที่ไม่หมูเอาซะเลย ...เพราะมันจะเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่จะทำการตัดสินใจคัดเลือกสิ่งที่ดีที่สุด ด้วยความรู้สึกที่ชอบเป็นทึ่สุด ในแต่ละส่วนสาขาที่มีความสำคัญแตกต่างกันออกไป... หาเรื่องมาเกริ่นนำกันเสียยาวยืดย้วยเยิ่นเย้อ ...ก็ได้เวลาเข้าสู่ การประกาศผลของ The Best of 2007 สาขาแรก ที่จะเริ่มเปิดประเดิมกันด้วย... ในปีที่ผ่านมา ได้มีหลายร้อยบทบาทการแสดงที่ได้ฝากฝังไว้ซึ่งลีลา วาทะ และศิลปะ ในการเล่นหนัง ...มีทั้งบางคนที่ทำอะไรให้หนังไม่ได้เลย หรือบางคนก็ยังเป็นได้แค่ไม้ประดับ มีบางคนที่ทำหน้าที่ได้ดีสมบทคาแรกเตอร์ แต่กับบางคนส่วนน้อยที่สุดนี้ เขาและเธอคือความยอดเยี่ยมทั้งในภาพลักษณ์ และฝีไม้ลายมือที่มีอะไรให้คนดูต้องรู้สึกประทับใจไปกับการสวมวิญญาณของนักแสดงเหล่านี้ และนี่ก็คือ รายชื่อของนักแสดงแห่งปี 2007 ที่ผมประทับใจในตัวเขา/เธอ/พวกเขาและเธอ อย่างมากมาย ...ขอแบ่งแยกย่อยออกเป็นอีก 3 สาขา ดังต่อไปนี้ * ไม่ขอเรียงลำดับความเยี่ยม * ![]() จะมีใครคนอื่นอีกมั้ย ...ที่จะสามารถทนทานทานทนทุกๆสถานการณ์ความเป็นที่ก้ำกึ่งกับความตายเพียงแค่เส้นบางๆ อย่างเช่นที่ เจสัน บอร์น สามารถทำได้ และจะมีใครคนอื่นอีกมั้ย ...ที่จะสามารถสวมวิญญาณเป็นยอดสายลับบักอึดอารมณ์ตายด้าน ได้ยอดเยี่ยมเท่าที่ แมตต์ เดมอน คนนี้ทำได้ ...หากตอบได้แต่ว่า คงไม่มี ใครเหล่าที่จะคงความเท่ห์ในทุกท่วงท่า ให้มาดของนักฆ่ากลืนกินวิญญาณจนน่าเชื่อ... ใครเหล่าที่จะแสดงสีหน้าเย็นชา เหมือนจะไม่รู้สึกอะไร แต่กลับใช้ดวงตาสองดวงสื่อความเป็นจริงทุกอย่างที่เขาคิดได้อย่างถี่ถ้วน... และใครเหล่าที่จะได้ดูหนังเรื่องนี้แล้วจะมองข้ามอีกหนึ่งสุดยอดการแสดงที่ต้องจำของ แมตต์ เดมอน กับบทบาทของคาแรกเตอร์สายลับอีกหนึ่งคนที่โลกต้องจดจำ ไม่แตกต่างไปกับรุ่นน้า เจมส์ บอนด์ ที่ถึงจะอุตส่าห์เข้าขั้นคลาสสิคไปนับหลายสิบปี แต่ก็เคยเสียท่าเสียรู้ให้กับรุ่นหลานคนนี้มาแล้ว //www.bloggang.com/mainblog.php?id=onceupon&month=20-08-2007&group=2&gblog=82 ![]() จอห์น คูแซ็ค เป็นอีกหนึ่งนักแสดงเจ้าฝีมือ ที่มักจะถูกลืมอยู่เสมอๆ ในหนังดีๆหลายต่อหลายเรื่องที่เขาเล่นมา เช่น High Fidelity , Identity หรือกระทั่งหนังตลาดฟอร์มใหญ่ อย่าง Con Air ก็ยังมีแต่คนจำได้แต่ว่า นิโคลาส เคจ เป็นพระเอก ... แต่ถ้าไม่วัดในแง่ความจำ คนที่มีฝีมืออย่างคูแซ็ค ก็เป็นอีกคนที่มีความรอบด้าน และจัดจ้าน เข้าถึงทุกบทบาทได้อย่างน่าเชื่อ ...แม้กับกระทั่งคาแรกเตอร์บทบาทล่าสุดที่ดูเหมือนจะโอเวอร์แอ๊คติ้ง ก็ไม่เว้น เคยมีนักแสดงมีชื่ออยู่หลายต่อหลายคน ที่มักจะสวมบทคาแรกเตอร์ที่เป็นตัวนำในหนังสยอง ระทึกขวัญ แล้วกลายเป็นดูไม่จริง โอเวอร์กันเสียจนเฟค ...แต่กับ คูแซ็ค แล้ว เขาไม่ทำให้ผมรู้สึกว่ามันเฟค กลับเชื่อในสิ่งที่เขาเจอ และอินกับลักษณะตัวละครที่เขาเป็น ...แล้วที่สำคัญที่ทำให้เขาได้ใจผมไป ก็คือ การแบกหนังไว้บนบ่าแต่เพียงผู้เดียว แล้วเอาเวลา 2 ชั่วโมงที่เขามีทำให้ผมยึดติดกับความเป็น ไมเคิล เอนสลิน ได้อย่างอยู่หมัด //www.bloggang.com/mainblog.php?id=onceupon&month=21-09-2007&group=2&gblog=90 ![]() ถ้าลุง อลัน อาร์กิ้น ไม่มาแรงแซงโค้งสุดท้าย เก็บรางวัลออสการ์ไปอย่างน่าเหมาะสมแล้ว ...อีกหนึ่งคนที่ควรค่า กับรางวัลนี้ มากไปกว่าตัวเต็งอันดับหนึ่งในสาขาสมทบชายปีก่อน ที่เคยเป็นของ เอ๊ดดี้ เมอร์ฟี่ย์ ก็คือ แจ๊คกี้ คนนี้นี่เอง นี่คือตัวละครที่ถูกวาดภาพให้ดูเป็นผู้ร้ายในเบื้องหน้า หากแต่ในความลึก นี่คือตัวละครที่มีความดีงามอย่างมากมาย ที่โดนแปดเปื้อนสิ่งที่ทำพลาดเพราะขาดความยั้งคิดเพียงครั้งเดียวจริงๆ ...ชะตากรรมของ รอนนี่ ก็ไม่ต่างไปจากผู้ร้ายในสังคมนี้อีกหลายๆคน ที่สู้อุตส่าห์กลับตัวกลับใจทำทุกอย่างที่ดี แต่ก็ต้องทุกข์ทนกับคำประชาชีที่มองดูห่างๆอย่างเหยียดหยาม ...การแสดงของ แจ๊คกี้ ทำให้เราเชื่อในภาพความเป็นผู้ร้าย แต่สุดท้ายก็มาตบหน้าเตือนความจริงให้เราต้องเห็นใจในตัวเขา และชวนรันทดในสภาพแวดล้อมสังคมผู้คนปัจจุบันที่ดูจะเป็นผู้ร้ายที่น่ากลัวยิ่งกว่า คนเพียงคนๆเดียวที่เราเห็นตรงเบื้องหน้าซะอีก //www.bloggang.com/mainblog.php?id=onceupon&month=07-08-2007&group=2&gblog=79 ![]() อีกหนึ่งตัวละครที่ติดโผมา เพราะการแสดงแบบ One Man Standing แบกหนังเอาไว้คนเดียวทั้งเรื่อง ... แต่ที่สำคัญมากไปกว่านั้น ก็คือ ความยอดเยี่ยมของ วิล สมิธ ที่เขาเอาอยู่กับการเป็นมนุษย์คนสุดท้ายในนิวยอร์คที่อยู่อย่างโดดเดี่ยว พล่ามกับหมาเหมือนเป็นคน พูดกับหุ่นเหมือนมันมีชีวิต และที่ทำให้เราเชื่อได้อย่างสนิทใจ ก็คือ อารมณ์ที่ถ่ายทอดผ่านสีหน้าได้อย่างทุกข์ทรมานเหมือนว่าตายทั้งเป็น หลายๆคนอาจจะรู้สึกประทับใจกับการแสดงของ ป๋าวิล ในหนังเรื่องก่อนหน้า "The Persuit of Happyness" กันมากกว่า ...แต่กับผมที่ยังไม่รู้สึกชอบหนังเรื่องนั้นเท่าที่ควร ก็เลยขออนุญาตเลือกให้ สิ่งที่เขาเป็นใน I am Legend เป็นการแสดงระดับตำนาน(สมชื่อหนัง) ของ วิล สมิธ ที่ควรค่าแก่การจดจำ สำหรับผมในรอบปีนี้ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=onceupon&month=15-12-2007&group=2&gblog=99 ![]() ข้อสุดท้ายมาแหวกแนว แต่ทว่าก็ยังเป็นการแหวกที่หาตัวแปรตัดสินได้อย่างยากเย็น ระหว่าง สองตัวเลือก สองตัวละคร ที่ผมประทับใจพอๆกันในหนังการ์ตูนพิกซาร์ประจำปีเรื่องนี้ ... เมื่อ หนึ่ง คือ เจ้าหนู "เรมี่" พระเอกที่โคตะระน่ารัก และเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้หนังเรื่องนี้น่ารักจับหัวใจ ... และ สอง คือ ผู้ร้ายตัวเอ้ ปากปีจอ "อังตวน อีโก้" ที่โคตะระน่าให้ชัง เป็นอย่างยิ่ง ... แต่สุดท้าย หวยก็จำต้องออก และมาลงที่ตัวเลือกที่สอง ..."อังตวน อีโก้" กลายเป็นหนึ่งตัวละครที่ได้ติดโผความเยี่ยมของผมโดยดุษฎี สาเหตุที่เป็นเช่นนั้น ...เพราะ หนึ่ง การพากย์เสียงของปู่โอ'ทูล ที่แฝงความเจ้าเล่ห์ เยือกเย็น เป็นทั้งเสน่ห์และสีสันที่ทำให้หนังมีผู้ร้ายที่มีความเป็นเรียลลิสติกสูงกว่าการ์ตูนพิกซาร์เรื่องอื่นๆ และ สอง ตัวละคร อังตวน คือ ตัวแปรสำคัญที่กำหนดให้ฉากพีคที่สุดของหนัง กลายเป็นมุมซึ้งที่ทึ้งให้น้ำตาผมต้องแตกอย่างมิอาจสกัดกั้นได้ ...จากตัวละครที่ร้ายสุดขั้วเหมือนมีมิติเดียว กลับกลายเป็นคนที่น่าเห็นใจในอีกมิติเพียงชั่วไม่กี่วินาทีซะอย่างงั้น //www.bloggang.com/mainblog.php?id=onceupon&month=30-07-2007&group=2&gblog=77 ![]() วัดกันแค่มาดจากภาพโปสเตอร์ก็กินขาดแล้ว สำหรับการสวมวิญญาณเป็นควีนอลิซาเบธ(ที่ยังทรงมีลมหายใจในวันนี้) ของป้ามิเรน... จนเมื่อลงลึกไปในจิตใจ และอารมณ์ ของผู้หญิงคนหนึ่งที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าของเกาะอังกฤษ ...ผมก็รู้สึกได้ถึงความทรงพลัง ที่เจ้าป้ามิเรน สำแดงออกมา ผ่านความเย็นชา เรียบเฉย ที่ยากจะมองออกว่า เธอรู้สึกอะไรกันแน่ในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนั้น ...แม้กระทั่งในฉากที่เธอมองกวางทั้งมีน้ำตาไหลริน ผมก็ยังพาลนึกไม่ออกมาจนถึงวันนี้ ว่ามันมีความหมายอะไรกับเธอกันแน่ แต่เอาเถอะ ผมยังยินยอมจะปล่อยความคาใจที่มีต่อฉากนั้นมันต่อไป ...ถ้ามันจะทำให้นี่คือ หนึ่งการแสดงสมควรแก่ออสการ์ตลอดกาล ที่สมจริงทั้ง กิริยา ท่าทาง คำพูด และหัวใจ ที่ยิ่งใหญ่สมกับคุณค่าของรางวัลที่เธอได้รับ ![]() แม้อาจจะยังเป็นมือใหม่เพิ่งหัดเล่น ที่ต้องฝึกฝนขึ้นไปอีก ...แต่กับความพยายามที่เห็นได้ชัดแจ้งของ เจน.ฮัด. ที่ทุ่มเทอย่างไม่ยั้งในหนังแค่เรื่องแรก ก็สมควรแล้วที่เธอจะได้ออสการ์ไปนอนกอดที่บ้าน ความประทับใจของผมที่มีต่อเธอ ไม่ใช่เพียงแค่ สุ้มเสียงการร้องเพลงอันกังวาน ทรงพลัง อย่างที่เคยสมกับการไปถึงเวที American Idol มาก่อนหน้า ...แต่ที่มากไปกว่านั้น ก็คือ วิญญาณของ เอฟฟี่ ไวท์ ได้สิงสู่ใจเธอได้อย่างน่าเชื่อ ประกอบกับการออกท่าออกทางความรู้สึกร่วมในเพลงเอก "I Am Telling You ,I'm Not Going" ก็เต็มไปด้วยภาพที่น่าขนลุก และสะเทือนใจผสมอารมณ์อันเจ็บปวด ให้ผมอิน เห็นใจ และจบลงตรงที่การร้องไห้ประหนึ่งจะขาดใจตามการหอนอย่างร้าวรานของเธอ มิฉะนั้น แล้วจึงไม่ต้องแปลกใจ ถ้าผมจะขอเอาประโยคที่เขียนไว้ข้างบนนี้บางส่วนไปเสริมทับอีกสักที ในสาขา 5 ฉาก ที่สุดแห่งความประทับใจ ในรอบปีนี้ ...เพราะฉากเอกฉากนี้ มันมีคุณค่ามากมายที่น่าจดจำ พร้อมกับการเป็นอีกหนึ่งหนังเพลงมิวสิคัลที่ประทับใจผมได้มากพอๆกับ Moulin Rouge เลยทีเดียว ![]() ขึ้นชื่อว่า "เคท วินสเลต" ก็ยังไม่เคยมีบทบาทไหนที่เธอทำได้ผิดหวังแม้สักครั้ง แถมมักจะทำได้ดี เข้าตากรรมการออสการ์อยู่บ่อยๆ ...เคยได้รับการเสนอชื่อถึง 5 ครั้งแล้ว หากแต่ก็ยังไม่สามารถเข้าถึงมือจับเจ้าตุ๊กตาทองได้เลยสักที (แต่ใครๆก็บอกกันว่าตราบใดที่เธอยังเล่นหนังต่อไป ...สักวันออสการ์ต้องถึงมือเธอแน่นอน) คาแรกเตอร์ล่าสุดที่เธอได้ฝากฝีมือเอาไว้ ก็คือ อีกหนึ่งครั้งที่ทำให้เธอได้เข้าชิงออสการ์ ...กับบทบาทของแม่บ้านชานเมืองลูกยังละอ่อน ที่วันๆใช้ชีวิตอยู่อย่างซ้ำๆ มีแต่ความน่าเบื่อ จนเมื่อวันหนึ่ง มีผู้ชายพ่อบ้านคนหนึ่งเดินเข้ามาในชีวิตของเธอ มันทำให้ทุกอย่างดูสดใสขึ้น แต่ในทางกลับกันอะไรๆก็ยิ่งลึกล้ำ กลายเป็นสมการรักตัวแปร "ชู้" ที่ยิ่งแก้ก็ยิ่งปวดหัวใจ เคท ยังคงสะกดสายตาทั้ง 2 ข้างของผมได้ด้วย ความเป็นเคทที่เข้าถึงทุกรูปแบบคาแรกเตอร์ และความเป็นตัวละครที่เธอสวมก็แสดงออกให้เรารู้สึกนึกคิดอ่านไปตามเรื่องตามราวที่หนังพาไป ...ซึ่งก็น่าเสียดายที่เธอต้องมาแข่งบุญแข่งวาสนากับสองรุ่นใหญ่ที่เก๋าประสบการณ์กว่า (หมายถึง ป้ามิเรน และ ป้าเมอรีล สตรีพ แห่ง "The Devil Wear Pradas") จึงมีเหตุจำเป็นให้เธอต้องโดนมองข้ามอย่างเลี่ยงไม่ได้ ...แต่ถึงกระนั้นก็รอสักวันหนึ่งเถอะ วันนั้นของเธอคงจะต้องมาถึง ผมเชื่ออย่างนั้น //www.bloggang.com/mainblog.php?id=onceupon&month=07-08-2007&group=2&gblog=79 ![]() แม้จะมีบทบาทสำคัญอยู่แค่ตอนเดียวก็ตามที แต่นังคางคกสุดอัปลักษณ์ นาม "โดโรเลส อัมบริดจ์" ก็ถูกจัดให้เป็นอีกหนึ่งตัวละครแห่งยอดนิยายพ่อมด ที่ได้รับความนิยมชมเกลียด จากแฟนๆอย่างล้นหลาม ไม่ต่างไปจาก คนที่คุณก็รู้ว่าใคร ...ด้วยความที่ตัวละครนี้ ร้ายได้ร้ายดี ตูจะร้ายแล้วใครจะว่าอะไร ไม่สนหัวประชาชีจะรุมประนาม แถมยังเลวทรามมากกว่าด้วยการเป็นปรปักษ์กับ แฮร์รี่ เล่นงานหนักซะจนพ่อมดน้อยเสียหลักเกือบไม่เป็นผู้เป็นคน เพราะฉะนั้นแล้ว เมื่อหนังสือเล่มที่ 5 ได้เวลาเอามาสร้างเป็นหนังโรง ...มิส อัมบริดจ์ ก็เลยเป็นสิ่งสำคัญแรกๆ ที่มีคนให้ความสนใจ จับตามองว่า ยอดฝีมืออังกฤษคนไหนจะมารับหน้าที่อันน่าเป็นเกียรติ(ที่จะโดนรังเกียจ)เช่นนี้ ...จนเมื่อคนที่ก้าวเท้ามาข้างหน้ายืนองอาจอย่างสง่าผ่าเผย เป็น ป้าอิเมลด้า สตอนตัน เมื่อนั้นก็เลยแอบรู้สึกเป็นห่วงอยู่ลึกๆกับคุณป้าที่มีหน้าตาดูใจดีผู้นี้ แต่ก็อย่างที่มีคำกล่าว ดูคนอย่างมองแค่หน้า ดูผ้าอย่างมองแต่เนื้อ... ป้าอิเมลด้า ก็คือ ผ้าผืนนั้น ที่แฝงความหยาบกระด้างเมื่อเราได้สัมผัส เธอโหดได้สมบทบาทกับการเป็นนังคางคก(ที่มีหน้าตาใจดีจนเกินไป) และส่งผลทำให้ มิสอัมบริดจ์ ในหนังสือ ดูหมองบารมีลงไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ ...นี่ถือเป็นคำชมเลยนะ เพราะเกลียดหรอกจึงหยอกเล่น //www.bloggang.com/mainblog.php?id=onceupon&month=17-07-2007&group=2&gblog=76 ![]() หนึ่งดาราไทย ที่ติดชื่อพ่วงมาในลิสต์คราวนี้ ...เป็นหนึ่งบทบาทที่ถือว่ามีเวลาแสดงตัวตนเพียงแค่ไม่กี่เสี้ยวนาทีในหนัง แต่เพียงแค่ไม่กี่เสี้ยวที่ว่า กลับสามารถตรึงผมให้ตะลึง อื้ออึงกับความสามารถสะกดจิตและอารมณ์ทำให้ผมต้องกลัวจนฉิ่งฉ่องแทบจะเล็ด มีคนๆหนึ่งบอกผมว่า คุณเมย์ เล่นใน "จันดารา" ได้น่าประทับใจมากกว่า ...แต่ด้วยความที่ผมยังไม่เคยได้ดูเรื่องนั้น (แก้ตัวก่อนว่า...ผมไม่ใช่คนที่มีมือถือสาก ปากถือศึล และไอ้หนังที่มีอะไรวับๆแวมๆน่ะ ชอบดีนักแล อุอุ) ก็เลยมิอาจจะไปสรุปว่าบทบาทไหนดีกว่ากัน ...แต่กับการเป็น ดาราราย หนึ่งตัวละครปริศนาอันชวนฉงนของหนังไทยสุดสยองแห่งปีเรื่องนี้ เธอทำให้เชื่อในทุกคำพูดน้ำเสียงอันราบเรียบ อากัปกิริยาที่วางเฉย แต่กับใช้สายตาที่เต็มไปด้วยแววความเหี้ยมโหดดุจดังจระเข้ที่จ้องจะเขมือบเหยื่อตรงหน้าให้หายไปทั้งตัว ทำให้ผมประหวั่นพรั่นพรึงแทนเหยื่อของเธอทุกคนที่ตกมาเป็นฎีกาในการตัดสินความถูกผิด ที่มีตัวละครของเธอเป็นศาลสูงผู้เย็นชา ใช้หัวใจที่ยะเยือก กล่าวพิพากษาไปด้วยคำพูด "ฉันชื่อ ดาราราย ...ตามหาฉันให้เจอ" ประโยคสั้นๆที่ยังทำให้ทุกคนคงติดหูชวนหลอน ยากจะถอนพิษลืมเลือนมันได้ลง //www.bloggang.com/mainblog.php?id=onceupon&month=06-10-2007&group=2&gblog=92 ![]() คนบางคน(มิอาจระบุเพศได้)อาจจะกรี๊ดกร๊าดดี๊ด๊าชื่นชอบในสองหนุ่ม มิว-โอ้ ...หรือกับคนบางคนก็อาจจะตกหลุมรักในความหน่อมแน้มใสๆของนู๋ตาล ความสวยด้านชาของเบสท์ (กระทั่งถึงล่าสุดที่กำลังเป็นที่กระฉ่อนในความดำขโมยจอของ อินังจอย ซี้น้องหญิง) ...หรือกับคนบางคนก็อาจจะชื่นชมความเยี่ยมของ 4 รุ่นใหญ่ (นก-สินจัย , กบ-ทรงสิทธิ์ , พลอย-เฌอมาลย์ , อาม่า พิมพ์พรรณ) ...แต่กับผมไม่ขอสนใจว่าจะชอบใครเป็นพิเศษ อยากจะขอโลภทำการชอบแบบเหมารวมกันไปซะเลย เนื่องด้วยเหตุผลแบบมักง่ายที่มองว่าทุกๆคนทุกๆบทบาทล้วนมีความหมายต่อการนำเสนอเรื่องราวความรักแห่งประเทศสยาม ครือๆกันทั้งหมด ...ถ้าขาดบท ถูกลดระดับความสำคัญของใครคนไหนหายไป หนังเรื่องนี้ก็คงยากจะผูกเรื่องให้ลงตัว รักษาความกลมกล่อมตลอด 2 ชั่วโมงครึ่งไว้ได้เพียงพอ หรืออาจจะไม่จบลงให้ความรู้สึกดีๆกับแง่มุมที่น่าประทับใจอย่างมากมายขนาดนี้ก็เป็นไปได้ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=onceupon&month=30-11-2007&group=2&gblog=98 ![]() 3 สถานที่เกิดเหตุ กับ 3 เรื่องราวที่ต่างกรรมต่างวาระ แต่ล้วนมีความคาบเกี่ยวไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ถูกโยงใยไปสู่หลายบทบาทคาแรกเตอร์ที่ประกอบมาอยู่ในหนังรวมดารานานาชาติเรื่องนี้ ...ความซับซ้อนของเหตุการณ์แต่ละอย่าง ถูกถ่ายทอดจากนักแสดงแต่ละคน ที่มีอารมณ์ในแต่ละรูปแบบแตกต่างกันออกไป จากคนหนึ่ง บทหนังได้ถ่ายทอดพฤติกรรมของคนนั้นไปยังเรื่องราวของอีกคนที่ส่งผลกระทบต่อกันไปเป็นทอดๆ สะท้อนไปยังบุคคลรอบข้างที่พลอยได้รับกรรมในต่างวิธี ต่างวาระ กันต่อๆไป ...ฉะนั้นแล้ว การแสดงของดาราที่จะสื่อผลกระทบจากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่งได้นั้น ต้องมีความแม่นยำในบทที่ได้รับ และต้องรู้ถึงลักษณะการแสดงออกที่จะทำให้คนดูรู้สึกจากเขา/เธอ ส่งต่อไปยังอีกคน อีกคน และอีกคน ที่ห้อมล้อมเขาหรือเธอออกไปอีกทีหนึ่ง ...และ Babel ก็คือ Love Actually อีกเรื่องที่นักแสดงแต่ละคนต่างทำได้ถึง จึงเกิดการชิ่งกระทบเป็นทอดๆ ที่จบลงได้อย่างสวยงามเพราะ สิ่งที่พวกเขาทำร่วมกันทั้งทีม ![]() หายสงสัยในบัดดล หลังจากที่ผมได้รู้จักกับครอบครัวๆนี้อย่างมิดชิดสนิทใจ ภายในเวลาชั่วโมงกว่าๆ ...ก็เข้าใจแล้วว่า ที่คนทั่วทั้งโลก ต่างคลั่งไคล้ได้ปลื้ม 5 สมาชิกตัวเหลืองนี้ เป็นเพราะอะไรกัน ... เสน่ห์ของชาวซิมป์สัน อาจถือเป็นเรื่องแปลกประหลาดที่สุดอีกเรื่องหนึ่งของโลก ที่ผมได้ค้นพบ ...เพราะ จะเคยมีครอบครัวไหนบ้างที่ทะเลาะด่าทอกันชิ_หายวายป่วง แต่คนดูกลับฮาสะใจจนน้ำหูน้ำตาไหลชอบใจให้ทะเลาะกันบ่อยๆ ...แล้วจะเคยมีครอบครัวไหนบ้าง ที่สมาชิกแต่ละคนทำตัวได้น่าเอือม แต่กลับกลายเป็นเรื่องน่ารักเพียงเพราะสิ่งที่เขากระทำมันทำให้เราได้หรรษายิ้มเพลิดเพลินซะอย่างงั้น สุดท้ายแล้วผมไม่อาจจะสรุปได้ว่า ทำไมคนทั้งโลกถึงรักครอบครัวนี้กันจัง ...แต่ผมสามารถพูดได้ว่า ถ้าคุณคิดอยากจะลองรู้จักกับครอบครัวตัวเหลืองนี้แล้ว ก็จงระวังจะไม่สามารถเลิกคบกับพวกเขาได้อีกต่อไป //www.bloggang.com/mainblog.php?id=onceupon&month=21-08-2007&group=2&gblog=83 ![]() ถ้าจะให้วัดประเมินการแสดงของดาราทีมนี้ยกทั้งก๊ก ก็บอกได้ทันทีเลยว่า เล่นได้หุ่นย้น หุ่นยนต์จริงๆ ...แต่กับความรู้สึกที่มีจริงๆ ก็ยอมรับโดยดุษฎีว่า เหล่าตัวละครซีจี พวกนี้ ทำให้ผมได้ทั้งมันส์ ขำ ซึ้ง และจบลงด้วยความประทับใจ อย่างครบครันจากการดูหนังซัมเมอร์ที่เหมือนจะหวังได้แค่ความบันเทิ้ง บันเทิงอีกเรื่องหนึ่ง ในแง่ของการเป็นซีจี ก็อาจจะมีอยู่หลายจุดที่ดูแล้วไม่เนียน ยังแยกแยะออกว่าอะไรจริง อะไรไม่จริง ...แต่กับความเป็นจริงที่ได้เห็นก็คือ หนังสามารถทำให้เราเชื่อว่าหุ่นมีชีวิต และชีวิตเหล่านี้ก็ยังแฝงไปด้วยจิตใจที่มีความรู้สึก จากแง่มุมอื่นๆที่หนังแอบซ่อนไว้ในช่วงเวลาที่อยู่นอกเหนือจากการต่อสู้กันวินาศสันตะโร ฉะนั้น แล้วการได้ติดโผของพวกเขา จึงไม่ใช่เรื่องที่เหมือนจะคิดสั้น ...แต่ถ้ามองกันยาวๆ ผมว่าสิ่งที่ ไมเคิล เบย์ พยายามใส่ลงไปในหนังเรื่องนี้ มันน่าจะเข้าถึงรางวัลออสการ์ได้ ถ้าเขาตั้งใจจะให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่จริงจัง ซีเรียส และเต็มไปด้วยความรุนแรงในแบบที่ผู้ใหญ่ต้องปิดตาเด็ก //www.bloggang.com/mainblog.php?id=onceupon&month=05-07-2007&group=2&gblog=73 ![]() มีทั้งทีมที่เป็นคน มาทั้งพลพรรคที่เป็นตัวการ์ตูน และคาแรกเตอร์ซีจี กันอย่างนี้แล้ว ...ก็ขอปิดท้ายที่ สิ่งมีชีวิตอีกหนึ่งชนิดที่ไม่ใช่ทั้งคน ไม่ใช่การ์ตูน และทั้งหมดทั้งมวลล้วนได้ตำแหน่งสุดท้ายนี้มาด้วยความสามารถพิเศษถ้วนๆ ไม่มีซีจีมากวนใจ ...ขอปรบมือให้กับ บรรดาเหล่านักแสดง มะหมา 4 ขาครับ ที่ทำให้ผมตกหลุมรักสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า มะหมา มากขึ้นกว่าที่เคยรู้สึก ความเก่งของมะหมาไทย อาจจะนับเป็นเรื่องอันน่าตื่นเต้นที่ยอดเยี่ยมแล้วก็จริง ...แต่ที่ลึกๆยิ่งไปกว่านั้น ก็คือ ความอึ้ง ทึ่ง ตะลึง ที่ชวนให้ตื่นตาตื่นใจมากกว่ากับการพยายามฝึกฝนหมามิดโรด(ข้างถนน)ที่เคยโดนมองข้ามไม่มีใครสน เปลี่ยนให้มันกลายมาเป็นดาราหนังที่สามารถเข้าถึงบทบาทอันน่ารักน่าเอ็นดูที่ทำให้ชาวเราต้องตกหลุมรักพวกมันอย่างถอนตัวไม่ขึ้น นอกไปจากความสามารถอันสุดยอดของบรรดาเหล่ามะหมา อีกหนึ่งความสามารถที่จะไม่ขอบคุณเป็นไปไม่ได้เลย ก็คือ ทีมคนผู้ฝึก (ศูนย์ไชยภักดิ์) ที่แลกความเสี่ยง มอบความพยายามปลุกปั้นอยู่เป็นเบื้องหลังทุกอย่าง จนทำให้พวกมันกลายเป็นดารา และกลายเป็นที่โด่งดังอีกครั้งของแวดวงหนังไทย ที่ยังมีอะไรให้คุณๆฝรั่งได้ดูมากไปกว่า ศิลปะการต่อสู้ และความติสต์แตกอินดี้จ๋า //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=onceupon&group=2&month=04-2007&date=24&gblog=57 ทั้งหมดทั้งมวล ทั้ง 15 ข้อที่ผ่านพ้น ...คือ บทสรุปความยอดเยี่ยมแห่งปีที่น่าจดจำ ของสาขา การแสดงที่สุดแห่งความประทับใจ ของผม ... แล้วของคุณล่ะครับ มีใครคนไหน เขา/เธอ/พวกเขาและเธอ ผู้ใดที่ทำได้เข้าตา และกลายเป็นที่ตราตรึงใจของคุณตลอดปีหมูที่ผ่านมา มาจนถึงวันนี้ ...อยากจะรู้ว่าคุณและผม คิดเหมือนกันหรือเปล่า ? แล้วพบกันอีกที กับ The Best of 2007 ในสาขา "5 ฉาก ...ที่สุดแห่งความประทับใจ" ...คิดกันมาล่วงหน้า แล้วอย่าลืมกลับมาแลกเปลี่ยนความเห็นกันอีกนะครับ ขอเชิญทุกท่านเสนอความคิดเห็นกัน... 1 Comment ของคุณ คือ 1 Happy ของเจ้าของบล็อก ขอบคุณมากครับ ![]() ชอบเจนนิเฟอร์ ฮัดสัน กะเม ภัทรวรินทร์ มาก ๆเหมือนกันค่ะ
โดย: ชีนะ IP: 203.150.4.103 วันที่: 7 มกราคม 2551 เวลา:0:19:29 น.
นึกว่าจะไม่พูดถึง รักแห่งสยามซะแล้ว
![]() ปีนี้ดูหนังน้อยมากทั้งไทยและฝรั่ง อยากดู บอดี้ฯ อ่ะครับ ไมดีวีดีไม่ออกซะทีก็ไม่รู้ เห็นเขาว่ากันว่าบทเจ๋งดี ปล. ปกติก็ตามอ่านบทวิจารณ์ จขบ. ตลอดนะครับ แต่ออกแนวเสือซุ่มน่ะครับ วันนี้ขอให้จขบ. 1 แฮ๊ป ก็แล้วกันครับ ![]() โดย: winter love song
วันที่: 7 มกราคม 2551 เวลา:0:20:57 น.เห็นด้วยกับหลายๆ คนเลยค่ะ
แต่บางเรื่องเราก็ยังไม่ได้ดูอ่ะ เหอ เหอ เหอ โดย: หัวใจสีชมพู
วันที่: 7 มกราคม 2551 เวลา:11:14:08 น.+ อืม ... ที่พี่ไปเขียนไว้ที่บล็อกคุณหมอพีฯ มันเป็นโจทย์อีกแบบแฮะ ซึ่งพอดีพี่เตรียมคำตอบไว้สำหรับโจทย์นั้นซะด้วย ดังนั้นสำหรับโจทย์ของนัท พี่คงต้องแปลงคำตอบของตัวเองเล็กน้อย ... เป็นดังนี้ครับ
![]() + 5 นักแสดงชายยอดเยี่ยม 2550 + (ไม่เรียงลำดับ) * ตาเฒ่าผู้ริกิ๊กสาวตอนแก่ [Peter O'Toole / Venus] - หาได้ยากที่หนังซักเรื่องจะมีคาแรคเตอร์นำเป็นชายชราอายุเฉียด 80 เช่นนี้ และเมื่อโอกาสมาถึง คุณปู่ก็ไม่รีรอที่จะเปล่งประกายซุปเปอร์สตาร์จนเฉียดรางวัลออสการ์ได้อีกครั้ง เพราะถ้าแสดงหลุดโทนไปนิดนึง ตาเฒ่ามัวริซในเรื่องอาจดูเป็นตาแก่หัวงูสกปรกลามกไปเลยก็ได้ ... แต่ในเรื่อง เค้าได้กลายเป็นคนแก่ผู้กลับมากระชุ่มกระชวยเหมือนเด็กหนุ่มอีกครั้ง เมื่อได้ค้นพบ 'Venus' เอาในยามใกล้ฝั่งนั่นเอง ![]() * เกสตาโป(ก็มีหัวใจ) [Ulrich Muhe / The lives of others] - การแสดงที่ซึมลึกของอุลริค (ซึ่งรู้สึกจะเป็นเรื่องสุดท้ายในชีวิตของเขาด้วย เพราะได้เสียชีวิตหลังจากปิดกล้องหนังเรื่องนี้ได้ไม่นาน) ทำให้คนดูค่อยๆ อินตามไปด้วย ... จากนายทหารเกสตาโปผู้ไร้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึกในตอนต้นเรื่อง กลายเป็นคนอีกคนนึง ที่ยอมแม้กระทั่งเอาชีวิตตัวเองเข้าไปเสี่ยงเพื่อช่วย 'ใครสักคน' (ที่ช่วยดึงจิตวิญญาณแห่งความเป็นคนของเขาออกมา) ในตอนท้ายเรื่อง บทสรุปของหนังทำเอาคนดูหลายคนน้ำตาซึมกันเลยทีเดียว ![]() * ชายโรคจิต [Jackie Earle Haley / Little children] - เค้าสามารถตีบทนี้อย่างแตกละเอียด สามารถทำให้คนดูอย่างพี่รู้สึกทั้งหวาดหวั่นและสมเพช แต่ขณะเดียวกัน ก็รู้สึกสงสารเค้าจับใจที่โดนสังคมกดดัน และไม่สามารถหาทางออกให้ตัวเองได้แบบนั้น ![]() * มือปืนหัวแครอต [Clive Owen / Shoot'em up] - คนนี้ติดอันดับเพราะความสะใจส่วนตัวของพี่ล้วนๆ ... นึกไม่ออกเหมือนกันว่าถ้าไม่ใช่พี่ไคลฟ์ จะมีใครมารับบทเป็นมือปืนแสนกวนโอ๊ย ผู้มีอาวุธเป็นหัวแครอตได้เนียน, มันส์สะใจ และฮากระจายเท่าเค้าอีกแล้ว ![]() * ทนายภารโรง ไมเคิล เคลย์ตัน [George Clooney / Micheal Clayton] - เพราะบทที่ดูลึกขึ้นและนำเสนอชีวิตส่วนตัวอันยุ่งเหยิงของไมเคิล เคลย์ตัน ควบคู่ไปกับธีมหลักของหนัง และพี่จอร์จก็สามารถนำเสนอทั้ง 2 ส่วนได้อย่างเนียนตา ไม่ขาดตกบกพร่อง ทำให้หนังที่มีลูกเล่นที่บทเรื่องนี้ ดูดีขึ้นมาอีกโขเลย ![]() + 5 นักแสดงหญิงยอดเยี่ยม 2550 + (ไม่เรียงลำดับ) * ควีนอลิซาเบธที่ 2 [Helen Mirren / The queen] - คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณกันมากสำหรับคนนี้ แค่รางวัลที่ได้รับในปีที่ผ่านมาก็แทบเอากระบุงมาโกยไม่ไหว ... ตอนดูในหนัง เหมือนได้ดูควีนองค์จริง ลุกจากบัลลังก์มาเล่นเป็นพระองค์เองเลยทีเดียว ![]() * อีดิธ เพียฟ [Marion Cotillard / La vie en rose] - ถึงแม้ตัวหนังอาจไม่ถึงกับน่าประทับใจเท่าไหร่ แต่ที่จับตาที่สุดก็คือการสวมบทบาทเป็นนักร้องเจ้าเสน่ห์ อีดิธ เพียฟ ของมาริยง จนพี่ไม่แปลกใจเลยที่ชื่อเธอติดอยู่ในโผชิงรางวัลแทบทุกโผตอนปลายปี ถึงแม้ว่าบทดังกล่าวจะมาจากหนังฝรั่งเศสเล็กๆ ที่เข้าฉายตั้งแต่ตอนต้นปีก็ตาม ... ความน่าประทับใจมีตั้งแต่ความสามารถเปลี่ยนตัวเองได้ทั้งในช่วงที่อีดิธยังรุ่งเรืองในอาชีพนักร้อง เธอก็ดูสดใส สง่างาม แต่ในช่วงท้ายของชีวิตที่เธอเจ็บป่วยและติดยา ก็ดูโทรมจนราวกับเป็นคนละคนกันไปเลย นอกจากนั้น เธอยังสามารถลิปซิงค์เพลงของอีดิธได้เนียนสุดๆ ... จนแม้แต่คนที่เคยรู้จักอีดิธ เพียฟ ยังบอกว่าเหมือนเธอลุกขึ้นมาจากหลุม ถอดวิญญาณมาเล่นหนังเรื่องนี้จริงๆ อย่างงั้นแหละ ![]() * ป้ามัตสึโกะ [Miki Nakatani / Memories of Mutsuko] - เป็นอีกคนที่เปลี่ยนตัวเองจากตอนสาว จนกระทั่งถึงตอนท้ายเรื่องที่ดูโทรมจนน่าตกใจ ... การแสดงของเธอทำให้หนังเรื่องนี้ทำคนดู 'ใจสลาย' ไปเลยทีเดียวหลังจากดูจบ ![]() * แม่สุนีย์ [สินจัย (หงษ์ไทย) เปล่งพานิช / รักแห่งสยาม] - เธอคนนี้เป็นผู้ 'แบก' หนังเรื่องนี้ไว้ทั้งเรื่อง กับบทแม่ผู้แบกภาระอันหนักหน่วงของครอบครัวที่ใกล้แตกสลาย จนแทบจะหลงลืมที่จะคิดถึงผู้อื่นไปในบางครั้ง ... เพราะถ้าเธอแสดง 'มาก' กว่าในหนังไปอีกสักหน่อย เธอจะเปลี่ยนจากแม่ที่น่าเห็นใจ กลายเป็นนางร้ายของหนังเรื่องนี้ไปในทันที ... สีหน้า, แววตา, อารมณ์ เธอในหนังเรื่องนี้เข้าขั้น 'เทพ' เจงๆ และถือเป็นตัวแทนของภาพคุณแม่ยุคใหม่ ที่ร่วมสมัยกับครอบครัวของสังคมไทยในยุคปัจจุบัน ![]() * คุณนายม่าย [Wei Tang / Lust, Caution] - ถึงจะเป็นดาราหน้าใหม่ แต่เธอคนนี้ก็สามารถประชันบทบาทบนจอกับซุปเปอร์สตาร์อย่างเฮียเหลียงโดยไม่ถูกกลบรัศมี ก็นับว่าฝีมือการแสดงเธอสูงพอตัวเลยทีเดียว ... เธอสามารถเข้าถึงบทบาท จนทำให้คนดูเข้าใจถึงพัฒนการทางอารมณ์ของตัวละคร หวังเจียจือ ผู้ต้องปลอมตัวเป็นคุณนายม่าย ... จนถึงสามารถเข้าใจการตัดสินใจ (โดยใช้อารมณ์และความรู้สึก ... แบบผู้หญิงแท้ๆ) ของเธอในตอนท้ายเรื่องได้ในที่สุด ![]() + 5 ทีมนักยอดเยี่ยม 2550 + (ไม่เรียงลำดับ) (พอดีไม่ได้เขียนไว้) * รักแห่งสยาม * Babel * Pan's Labyrinth * Little Miss Sunshine * Hairspray โดย: บลูยอชท์
วันที่: 8 มกราคม 2551 เวลา:14:22:33 น.แดด ร่ม ลม ตก
โดย: โสหุ้ย IP: 124.120.172.136 วันที่: 19 เมษายน 2551 เวลา:19:16:24 น.
55555
โดย: 5555555 IP: 125.24.84.108 วันที่: 16 กรกฎาคม 2551 เวลา:9:04:07 น.
|
บทความทั้งหมด
|



































ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [