I can't breathe - บทที่ ๑๐ (YURI)

๑๐

 

ก่อนตีห้า ชนิญญาลุกอาบน้ำแต่งตัว เลือกใส่ชุดลำลอง เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีฟ้ากางเกงยีนสีดำ ที่ไหล่สะพายกระเป๋าเป้ใบย่อมใส่สัมภาระที่คิดว่าอาจจะต้องใช้ พร้อมที่จะทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยผู้จัดการดาราวันแรก

เมื่อคืนเธอตื่นเต้นจนนอนแทบไม่หลับ ทั้งเรื่องได้เป็นเจ้าชาย และเรื่องที่จะต้องมาทำภารกิจแรกกับไอศิกา

สาวร่างสูงมองเวลาก่อนหกโมง จึงออกมานั่งรอที่ห้องรับแขกเงียบๆ ตามลำพัง โดยมองมือถือเป็นระยะ ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีเพื่อนร่วมบ้านคนไหนออกมาจากห้องพัก ด้วยวันนี้เป็นวันหยุด คนอื่นจึงอาจตื่นสายกว่าปกติ

คงไม่ใช่ลืมฉันหรอกนะ

เธอถอนหายใจเบาๆ กลัวตัวเองจะเป็นสายบัวรอเก้อ แต่แล้วคนที่ถูกบ่นถึงก็เลี้ยวรถผ่านรั้วประตูใหญ่เข้ามา ที่ประตูหน้ามียามรักษาการณ์คอยดูแล

เสียงรถและแสงไฟทำให้ชนิญญายิ้มกับตัวเอง

ตายยากจริงๆ

เธอออกไปยืนหน้าบ้าน เห็นรถเก๋งหรูตราดาวสายพันธุ์เยอรมันสีขาวจอดติดเครื่องอยู่

“รอนานไหมคะ?” เจ้าของรถคนสวยในชุดเสื้อยืดแบรนด์เนมกับกางเกงสีเข้มเข้ารูป เดินลงมาทักทายผู้ช่วยจำเป็นคนใหม่

“ไม่ค่ะ” คนถูกถามส่ายหน้า

“วันนี้ขอรบกวนด้วยนะคะ” หล่อนบอกยิ้ม

“ยินดีค่ะ”

ชนิญญาขึ้นทำหน้าที่สารถีแบบเกร็งๆ เล็กน้อย ไม่เคยขับรถหรูหราขนาดนี้มาก่อน ปรับเบาะให้นั่งสบายขึ้น สำรวจหน้าจอเข็มวัดต่างๆ ของรถก่อนเข้าเกียร์ แล้วขับออกไป

นางเอกสาวนั่งคู่เบาะหน้า พร้อมบอกจุดหมายปลายทาง ที่จะต้องไปในวันนี้...พัทยา โดยเผื่อเวลาเดินทางไว้พอสมควร

“น้องญาหิวหรือเปล่าคะ?” ซุปตาร์สาวถามอย่างใส่ใจ ที่อีกฝ่ายอุตส่าห์เสียสละเวลามาเป็นเพื่อน จึงควรดูแลเป็นการตอบแทน

“ยังค่ะ” เธอตอบ โดยไม่ละสายตาไปจากถนน “ถ้าคุณหิว ฉันเอาขนมปังติดมาด้วยนะ อยู่ในเป้น่ะ”

“สักหกโมงครึ่งค่อยทานดีไหม วิ่งอีกสักพักจะเจอร้านข้าวต้มเจ้าอร่อย”

“บอกด้วยนะ ทางแถวนี้ฉันไม่ชิน”

“ค่ะ”

ทั้งคู่ไม่รู้จะคุยอะไร ไอศิกาจึงเอื้อมมือไปเปิดเพลงเบาๆ เพื่อไม่ให้เงียบจนเกินไป และไม่อยากให้คนขับง่วงเหงาหาวนอน แล้วนั่งเป็นเพื่อน บทเพลงรักหวานซึ้งในอดีตดังแว่วมา เจ้าของรถฮัมเพลงคลอตามไปด้วยอย่างคุ้นเคย

เสียงหวานมาก

คนขับเงี่ยหูฟังเสียงไพเราะ พลันยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย

“ยิ้มทำไมคะ?” หล่อนอดถามไม่ได้ แอบชำเลืองมองใบหน้าคมด้านข้างของอีกฝ่ายมาสักพักแล้ว

“ก็แค่แปลกใจ ไม่คิดว่าคุณจะชอบฟังเพลงแบบนี้ด้วย” สารถีหน้าคมเอียงคอไปมองคนถาม

“แล้วพี่ควรจะฟังเพลงแบบไหน?”

“เพลงฝรั่งมั้งคะ”

ซุปตาร์สาวหลุดส่งเสียงขำเบาๆ ออกมา

“จริงๆ ก็ฟังได้ แต่แปลออกหรือเปล่าอีกเรื่องหนึ่งนะ” หล่อนพูดทีเล่นทีจริง

ถ่อมตัวไปหรือเปล่า

ชนิญญาเบ้ปากเล็กน้อย

“คนที่เรียนจบโปรแกรมภาษาอังกฤษตั้งแต่เด็ก แปลไม่ออกเหรอคะ...แปลก!”

นัยน์ตาคู่สวยหวานของสาวงามเปล่งประกายขึ้น

“รู้เรื่องของพี่ดีขนาดนี้ สรุปน้องญาเป็นสต๊อกเกอร์?”

เธอหัวเราะร่วน

“ใช่ที่ไหน ประวัติของคุณไม่ใช่ความลับสักหน่อย เสิร์ชหาข้อมูลง่ายจะตายไป”

“เหรอคะ” หล่อนทำหน้าแปลกใจ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะสนใจเรื่องราวของตน “แล้วน้องญารู้อะไรเกี่ยวกับพี่อีกคะ?”

“คร่าวๆ ก็วันเดือนปีเกิด ความสูง น้ำหนัก แล้วก็สัดส่วน”

“สัดส่วน! นี่มันลึกไปแล้วนะ” นางเอกสาวโวยวาย เบ้ปากอย่างไม่พอใจ ไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากให้เรื่องส่วนตัว กลายเป็นเรื่องสาธารณะ

...เว้นแต่พวกที่อยากโชว์ออฟหรืออยากดัง ซึ่งคนสวยไม่ใช่หนึ่งในนั้น ตั้งแต่ทำงานบันเทิงน้อยครั้งที่จะโชว์เนื้อหนังมังสา

เฮ้อ! หลุดไปตอนไหน?

หล่อนถอนใจเฮือก เดาว่าข้อมูลพวกนี้ น่าจะหลุดออกมาจากห้องเสื้อ หรือไม่ก็ตอนไปถ่ายแบบครั้งใดครั้งหนึ่ง

“คุณควรจะภูมิใจนะ ที่ใครๆ ก็อยากรู้เรื่องของคุณ” ชนิญญาพูดความจริงกึ่งปลอบโยน ถ้าเป็นเรื่องของคนธรรมดา ใครจะไปสนใจมากขนาดนี้

ภูมิใจน่ะภูมิใจหรอก แต่บางทีมันก็อึดอัดนะคะ

“ไว้สักวันน้องญาได้เป็นดาราดัง จะเข้าใจความรู้สึกของพี่ค่ะ” คนพี่ตอบแบบเนือยๆ

การรับมือกับผู้คนไม่ใช่เรื่องสนุก ถึงแม้จะอยู่ในวงการบันเทิงเป็นสิบปี หล่อนไม่กล้าพูดว่าตนเองเก่ง แค่รอบคอบละเอียดและความอดทนสูง จึงผ่านมาได้ด้วยดี

“ไว้ให้ถึงวันนั้นก่อนเถอะค่ะ” เธอตอบแบบไม่สนใจสักเท่าใด มองว่าเป็นเรื่องอนาคต

การได้รับบทเป็นเจ้าชายในละครเวที เป็นความสำเร็จก้าวแรก แต่หากเทียบกับคำว่าดาราดัง นับว่าห่างไกลลิบลับ

ทว่าชนิญญาก็ไม่กลัวที่จะเสี่ยง อย่างน้อยก็จะได้เจริญรอยตามรอยเท้าของมารดา ใกล้สักนิดก็ยังดี เป็นความฝันของเธอมาตั้งแต่เด็ก

เป็นเด็กที่ประหลาด...

ไอศิกาคิดแบบนั้น หลังอีกฝ่ายไม่ได้แสดงความทะนงตัวออกมามากมาย ผิดกับแสงแขคนละเรื่อง เมื่อวานหลานสาวของศจีดูภาคภูมิใจในตัวเองมากเกินเหตุ ไม่ได้ดูบรรยากาศเลยว่า เพื่อนอีกสองคนที่ไม่ได้จะรู้สึกเฮิร์ตขนาดไหน

การแสดงออกของแสงแข ชัดเจนว่าไม่แคร์ความรู้สึกคนอื่นเลย เป็นคนที่เห็นแก่ตัวโดยธรรมชาติ

พอคิดถึงนางซินคนนั้น หล่อนก็นึกอะไรขึ้นมาได้

“น้องญาสนิทกับแขหรือเปล่าคะ?”

ร่างสูงนิ่งคิดเล็กน้อย แล้วตอบออกไป

“คงพูดแบบนั้นไม่ได้หรอกค่ะ แค่คุยกันบ้าง ปกติฉันคุยกับนาวมากที่สุด” เธอตอบตามตรง

หลังแสงแขกับปัทมาจับคู่สนิทสนมกันมาตั้งแต่ต้น ชนาภาจึงมีเวลาว่างมาคุยกับตน ซึ่งสาวร่างสูงมองเป็นเรื่องดี เพราะเพื่อนคนนี้เรื่องมากน้อยที่สุดในกลุ่มแล้ว

“งั้นเหรอ” สาวสวยพึมพำ แล้วพูดเปรยลอยๆ ออกมา “บางทีการที่น้องญามากับพี่วันนี้ อาจจะไม่ใช่เรื่องดีก็ได้”

“ทำไมคะเสียใจที่ฉันมา หรือว่าอยากให้แสงแขมาแทน?” โทนเสียงของชนิญญาเปลี่ยนไปเล็กน้อย พยายามเก็บความรู้สึกไม่พอใจเอาไว้

...แต่ไม่ง่ายเลย

ไอศิกาเป็นคนช่างสังเกต จับได้ถึงความน้อยเนื้อต่ำใจ จึงรีบอธิบายอย่างใจเย็น

“อย่าเข้าใจผิด พี่ไม่ได้คิดแบบนั้นนะคะ พี่แค่เป็นห่วงน้องญาต่างหาก”

เป็นห่วงฉัน?

คิดแปลกใจ ความรู้สึกพลุ่งพล่านเมื่อกี้สลายไปเกือบหมด ก่อนเดาความคิดอีกฝ่ายได้ลางๆ

“ฉันไม่ได้อ่อนแอ จนปล่อยให้คนอื่นมารังแกได้ง่ายๆ หรอกนะ” สาวร่างสูงพูดอย่างมั่นใจ

ไม่ง่ายนักหรอกนะ

หล่อนคิดในใจ แต่เลือกที่จะไม่พูดออกมาว่า แสงแขมีส่วนทำให้นักแสดงหน้าใหม่ของบริษัทต้องเด้งออกไปแล้วหลายคน

“ถ้ามีปัญหาอะไร ให้คุยกับพี่ไก่ หรือไม่ก็บอกพี่นะคะ พี่พร้อมจะช่วยเสมอ”

สารถีเอียงคอไปมองอีกฝ่ายแวบหนึ่ง รับรู้ได้ถึงความจริงใจ จึงพยักหน้า

“เข้าใจแล้วค่ะ”

ไอศิกามีสีหน้าผ่อนคลายขึ้น แล้วเผลอหาวหวอดออกมา จึงรีบยกมือป้องปาก เพื่อไม่ให้เสียมารยาท

“ถ้าง่วงก็นอนก่อนเถอะ เดี๋ยวใกล้ร้านอาหารฉันจะปลุก” เธอบอก

“โอเคค่ะ”

 

ทั้งสองแวะทานอาหารร้านอร่อย แล้วไปถึงโรงแรมที่เป็นจุดหมายปลายทาง ก่อนเวลานัดเกือบชั่วโมง ซึ่งเป็นไปตามเวลาที่คนสวยเผื่อเอาไว้ หล่อนถือกระเป๋าส่วนตัวใบโตของตน ส่วนเธอเอาเป้หลังลงไปด้วย

“สวัสดีค่ะพี่โป๊ป” ซุปตาร์สาวเอ่ยทักทายตากล้องชื่อดัง ที่ต้องทำงานร่วมด้วยในวันนี้ ที่สวนดอกไม้สวยภายในโรงแรม

ชายหนุ่มกำลังเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม สำหรับการถ่ายชุดแต่งงาน โชคดีมากที่วันนี้ไม่มีเมฆและฝน

“สวัสดีครับไอซ์” ผู้ชายวัยสามสิบปลายๆ ทักทายตอบอย่างอารมณ์ดี แล้วมองไปยังสาวร่างสูงที่อยู่ข้างกายหล่อน ซึ่งไม่เคยเห็นหน้า จึงถามไปถึงผู้จัดการส่วนตัวของอีกฝ่าย “พี่อังไม่มาเหรอครับ?”

“พี่อังไม่ค่อยสบายค่ะ เลยเอาผู้ช่วยสำรองมาแทน” สาวสวยพูดติดตลก แล้วแนะนำทั้งคู่ “นี่พี่โป๊ป ส่วนคนนี้น้องญาค่ะ”

“สวัสดีค่ะ” สาวร่างสูงทักทายอย่างสุภาพ ไม่ลืมที่จะยกมือขึ้นไหว้ ตามที่ถูกสอนไว้ว่า เป็นเด็กเป็นเล็กหัดมือไม้อ่อนเข้าไว้

“สวัสดีครับ” ตากล้องใหญ่รับไหว้ สายตาพินิจพิจารณาเจ้าของใบหน้าคมสวย แล้วอดชื่นชมไม่ได้ “สวยขนาดนี้ เป็นนางเอกได้เลยนะครับ”

ไอศิกาหัวเราะคิกคักอย่างไม่เกรงใจ ปรายตามองคนถูกชมที่ทำหน้าไปไม่เป็น

ขี้อายไปนะ

“น้องญากำลังจะแสดงละครเวทีค่ะ แต่ไม่ได้เป็นนางเอก...เป็นพระเอกค่ะ”

หืม!

โป๊ปทำหน้าประหลาดใจ

“เหรอครับ แต่บุคลิกรูปร่างน้องก็เหมาะนะครับ จะแต่งให้สวยหวานก็ได้ จะแต่งให้หล่อเท่ก็โอเค” เขาวิจารณ์ในฐานะตากล้องมืออาชีพ ที่เห็นส่วนประกอบของวงหน้าของผู้หญิงตรงหน้า ก็สามารถจินตนาการถึงความสวยที่ซ่อนอยู่ได้

...บุคลิก Unisex ที่สวยสะดุดตา หาไม่ง่าย

นี่คือชมใช่ไหม?

ชนิญญาทำหน้าเหลอหลา ไม่ค่อยเข้าใจคำพูดของอีกฝ่ายนัก

“ค่ะ” ไอศิกาอมยิ้ม ก่อนถามไปถึงอีกคนที่จะต้องร่วมงานด้วยวันนี้ “แล้วเจ้าบ่าวของไอซ์ มาถึงหรือยังคะ?”

เจ้าบ่าว?

เธอทำหน้างงเล็กน้อย ก่อนมองไปรอบๆ จึงเข้าใจแล้วว่า คอนเซ็บต์ของการถ่ายโฆษณาวันนี้ คือเจ้าบ่าวเจ้าสาว

“ยังเลยครับ โทรมาบอกว่าอาจจะมาถึงช้าหน่อย” โป๊ปถอนหายใจยาว หากไม่ติดว่าหมอนั่นเป็นดาราชื่อดัง เขาคงสวดยับไปแล้ว จากนั้นพูดต่ออย่างเกรงใจ “ไอซ์จะไปแต่งตัวก่อนก็ได้นะ”

“ได้ค่ะ”

“เกดดูแลไอซ์ด้วยนะ” เขาหันไปสั่งผู้ช่วยสาวห้าวของตน

“ได้ค่ะพี่โป๊ป” ผู้หญิงร่างบึกบึนรับคำ แล้วหันมาทางดาราสาว “เชิญทางนี้ค่ะคุณไอซ์”

“ค่ะ” นางเอกสาวรับคำ หันมาพยักหน้ากับชนิญญา “ไปค่ะน้องญา”

โป๊ปมองตามหลังสองสาว แล้วอดยิ้มกับตัวเองไม่ได้

เขาชอบร่วมงานกับไอศิกา เพราะหล่อนไม่ใช่พวกเอาแต่ใจที่คอยแต่จะสร้างปัญหา เป็นคนที่ถ่อมตัว อุปนิสัยดี รับผิดชอบงาน และตรงเวลามาก ตั้งแต่ตอนเข้าวงการใหม่ๆ เป็นอย่างไร ปัจจุบันก็ยังคงเป็นเช่นนั้น

ไม่เหมือนกับดาราบางคนที่พอชื่อเสียงโด่งดัง ได้ดีก็ลืมตัว ลืมตน ลืมดิน ไม่ต่างจากวัวลืมตีน สาวสวยไม่มีชื่อเสียงคาวๆ ด่างพร้อยโดยเฉพาะในเรื่องชู้สาว เงียบมากจนน่าประหลาดใจ

นิสัยดีแบบนี้ อยากรู้จริงว่า เมื่อไหร่นางเอกคนนี้จะมีตัวจริงกับเขาสักที

 

โห! สะ สวยมาก

ชนิญญาเผลออ้าปากตาค้าง หลังเห็นไอศิกาในชุดเจ้าสาวสีขาวสวยบริสุทธิ์ ก้าวออกมาจากห้องแต่งตัว ทั้งที่ยังไม่ได้แต่งหน้าแต่งตาด้วยซ้ำ ออร่าที่สง่างามสูงส่งพัดออกมาจากเรือนร่างบอบบางของหล่อน

ทำไมมองแบบนั้น? ...อย่าบอกนะว่าตะลึงฉัน

ไอศิกามองผู้ช่วยคนใหม่ของตน หัวใจพองฟูโตอย่างบอกไม่ถูก ที่มีผู้แสดงอาการตะลึงลาน หลงใหลตน จึงยกมุมปากน้อยๆ

“น้องญาแมลงวันเข้าปาก วางไข่เป็นร้อยแล้วค่ะ”

เฮ้ย!

เธอรีบหุบปากทันที พยายามเก็บอาการที่หลุดร่วงให้เป็นปกติ จากนั้นกระแอมเบาๆ เพื่อกลบเกลื่อนแต่ไม่เนียนนัก

“อะฮึ่ม!” ใบหน้าคมสวยนั้นมีสีแดงซ่านไปจนถึงใบหู ไม่อาจหลอกลวงใครได้

“พี่สวยไหมคะ?” หล่อนถามพร้อมยิ้มสวย ที่กระชากใจคนมานักต่อนัก

ไม่น่าถาม...

“กะ ก็ดีค่ะ” เสียงตอบอึกอัก

“แค่ก็ดีเองเหรอคะ แย่จัง!” นัยน์ตาคู่สวยหวานฉายแววหยอกยั่ว ชวนให้คนน้องต้องใจสั่นสะท้านอย่างไร้เหตุผล

อย่ามองแบบนั้นสิ...

คนน้องครวญครางในใจ รู้สึกแพ้มากมาย

“ดะ ดีมากก็ได้ค่ะ”

“ขอบคุณค่ะ” เจ้าของน้ำเสียงหวานเอ่ยเอื้อนยินดี รอยยิ้มงดงามยังคงประดับใบหน้า รู้สึกสนุกที่ได้แกล้งอีกฝ่าย แบบที่ไม่ค่อยเป็นกับคนอื่น

หล่อนเข้าใจดีว่า ผู้หญิงตรงหน้าจะไม่ตกหลุมรักความงามของตนง่ายๆ เหมือนคนอื่น ซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทายไม่น้อย

“อย่าแกล้งฉันสิ” เธอต่อว่าอีกฝ่ายลอดไรฟัน ใบหน้าแดงก่ำ

เจ้าสาวคนสวยหัวเราะคิกคักออกมา

“ไม่แกล้งก็ได้ค่ะ”

สาวร่างสูงค้อนผ่านหางตา ยิ่งทำให้หล่อนยิ้มกว้างกว่าเดิม

ดูแปลกๆ ชะมัด!

เกดสาวห้าวมองดาราสาวกับผู้ช่วยคุยกัน ด้วยความรู้สึกฉงนสนเท่ห์ แต่บอกไม่ได้ว่า...แปลกตรงไหน?

“คุณไอซ์คะ แต่งหน้าเลยดีไหมคะ?”

“ค่ะพี่เกด” ซุปตาร์สาวทรุดนั่งเก้าอี้ เพื่อให้อีกฝ่ายทำงานได้สะดวก

ขณะที่ชนิญญาเลือกนั่งเก้าอี้ที่ตั้งไม่ห่างหล่อนนัก เพื่อศึกษาการแต่งหน้าอย่างสนอกสนใจ

“วันนี้แต่งหน้าแบบอ่อนๆ นะคะ จะได้เป็นเจ้าสาวแสนหวานที่สุด” เกดบอก ขณะนำอุปกรณ์คู่มือมาวางเรียงเตรียมใช้งาน

“อย่างไรก็ได้ค่ะ”

“น้องคนนี้เป็นผู้จัดการคนใหม่เหรอคะ?” ช่างแต่งหน้าอดคันปากถามไม่ได้

“จะพูดอย่างนั้นก็ได้ค่ะ” หล่อนตอบยิ้ม

“ดูสนิทกันดีจัง เหมือนรู้จักกันมานาน”

“เหรอคะ” นางเอกสาวชำเลืองมองไปทางเธอ ที่จ้องหน้าตนอยู่ก่อน “น้องญาอยากแต่งบ้างเหรอคะ?”

“ไม่ดีกว่า ฉันไม่เหมาะกับแนวหวาน” คนน้องส่ายหน้า

“จริงค่ะ พี่ว่าน้องเหมาะกับแบบเท่ๆ แต่งให้เปรี้ยว พี่ว่าเจ๋งสุดๆ” เกดที่ฟังอยู่พูดแทรกขึ้น พลางขยับมือลงรองพื้นบนใบหน้าสวยอย่างชำนาญ

“นั่นสิคะ” ไอศิกาเสริมขึ้น

ฉันเนี่ยนะเปรี้ยว...

ชนิญญาฝืนยิ้ม ก่อนหันไปจดจำวิธีที่เกดแต่งหน้าหล่อนอย่างตั้งอกตั้งใจ

เพียงไม่นาน นักแต่งหน้ามืออาชีพก็บรรจงแต่งแต้มให้ไอศิกา กลายเป็นเจ้าสาวแสนงามที่มีเสน่ห์ไม่ธรรมดา ทำให้ผู้คนที่พบเห็นลุ่มหลงคลั่งไคล้

“สวยมากครับ” โป๊ปที่เพิ่งเดินมาหาพูดชมขึ้น รู้สึกเลยว่า นับวันไอศิกายิ่งสวยสง่าขึ้น ทั้งที่อายุขึ้นเลขสามไปแล้ว

...ถ้าใครบอกว่า ผู้หญิงสามสิบไม่สวย เขาเถียงตายเลย

“ขอบคุณค่ะ” เจ้าสาวคนสวยยิ้มน้อยๆ รับคำชมนั้น พลางยกกระจกขึ้นสำรวจใบหน้าของตัวเอง

“เจ้าบ่าวมาถึงแล้วครับ กำลังแต่งตัว เห็นบอกว่าอีกสิบห้านาทีจะพร้อม”

“โอเคค่ะ”

สวย สวยสง่าสุดๆ

เธอคิดชมหล่อนในใจ ไม่คาดคิดเลยว่า ยามที่ซุปตาร์สาวแปลงร่างแบบจัดเต็ม จะสวยกระชากวิญญาณได้ถึงขนาดนี้ สวยจนลืมหายใจกันเลยทีเดียว

“พี่ขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะคะ” เกดพูดขอตัว ท้องไส้ไม่ค่อยดี หลังเมื่อวานรับประทานส้มตำปลาร้าเข้าไป

“ค่ะ” ไอศิกาพยักหน้า ก่อนหันไปทางผู้ช่วยของตนที่ทำเป็นมองไปทางอื่นกะทันหัน หล่อนจึงนึกอะไรขึ้นได้ “น้องญาคะ ไหนๆ เราก็มีเวลาว่างตั้งเยอะ บรรยากาศตรงนี้ก็ดีด้วย เรามาซ้อมบทเจ้าชายกันหน่อยดีไหมคะ?”

สาวสวยไม่เชื่อว่า เจ้าบ่าวของตนจะใช้เวลาแค่สิบห้านาที เขามักมีปัญหาเรื่องเวลาเสมอ...เลทเป็นประจำ จึงไม่อยากเสียเวลารอไปโดยเปล่าประโยชน์

ซ้อมบท!

ชนิญญากระพริบตาถี่ กวาดตามองไปรอบตัวที่อยู่ในสวน ซึ่งมีดอกไม้หอมนานาพันธุ์ โป๊บกับลูกน้องหลายคนอยู่ไม่ไกลนัก แขกเป็นสิบของโรงแรมเดินไปเดินมา แถมบางคนยังเมียงมองหล่อนอย่างสนใจอีกต่างหาก

...ใครก็สนใจดาราดัง

“ตอนนี้?” เธอถามย้ำ

สาวสวยเผยยิ้มสว่างจ้า

“ค่ะตอนนี้”

OoXoO

E-book เรื่องนี้มีขายที่ MEB แล้ว ราคาโปรโมชั่นเหลืออีก 2 วันนะคะ ตอนหน้าสองนางเอกของเราจะเริ่มสนิทกันมากขึ้น แล้วนำไปสู่เรื่องยุ่งๆ ตามมาอีกเป็นพรวน ส่วนจะเป็นอย่างไรคงต้องอ่านในฉบับเต็มนะคะ 

ขอบคุณทุกโดเนท ทุกหัวใจ ทุกคอมเมนท์ และทุกการติดตามค่ะ

นาง ^^

OoXoO 




Create Date : 28 ธันวาคม 2564
Last Update : 28 ธันวาคม 2564 16:52:24 น.
Counter : 710 Pageviews.

0 comments
เวลาที่หายไป - บทที่ 22 ดอยสะเก็ด
(20 มี.ค. 2567 14:40:13 น.)
๏ ... ร่วมสมัย ... ๏ นกโก๊ก
(20 มี.ค. 2567 20:59:17 น.)
๏ ... รักลูก เลี้ยงหลาน ... ๏ นกโก๊ก
(20 มี.ค. 2567 20:54:32 น.)
เถาตำลึง..ตัวร้าย (ヤサイカラスウリ) ฟ้าใสทะเลคราม
(18 มี.ค. 2567 22:51:42 น.)
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Nuinang.BlogGang.com

นิ้วนาง-เดียนา
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]