Strawberry Kiss บทที่ 16 (YURI)

๑๖

 

อีกด้าน เผด็จจูบรมัยอย่างดูดดื่มขณะนอนกอดก่ายกันในคอนโด สองมือนวดเคล้นอกเต่งตึงอย่างสนุกมือ ฝากรอยรักไว้บนตัวอีกฝ่ายนับไม่ถ้วน ลูบไล้ร่างสวยเปลือยเปล่าที่อยู่ด้านล่าง แต่ยังไม่สาแก่ใจ ทั้งที่เพิ่งจบบทรักครั้งที่สามไปไม่นานนัก

“อา...” รมัยครางเบาๆ “ยะ ยังไม่พออีกเหรอคะ ไมเหนื่อยแล้วนะคะ”

“อีกหน่อยเถอะ พี่ยังอยากสนุกอีก” ชายหนุ่มกระซิบ เลื่อนมือลงแตะเนินแห่งความเป็นหญิง ซึ่งเป็นจุดอ่อนไหว แล้วขยี้แรงๆ

หญิงสาวเกร็งตัวขึ้น จิกเล็บเข้าที่แขนของเผด็จอย่างลืมตัว กับความต้องการที่ถูกปลุกอีกครั้ง

“อ่า...”

ร้อนแรงดีจริงๆ

ชายหนุ่มผุดยิ้มร้ายกาจ ก่อนเริ่มบทรักบทใหม่ ขยับตัวเข้าไปอย่างไม่รอช้า

“ยะ อย่าทิ้งไมนะคะ” เธอร้องบอกเสียงสั่นพร่า โยกสะโพกรับกับจังหวะของเขาอย่างพอดิบพอดี

“น่ารักขนาดนี้ พี่ไม่ทิ้งแน่” เผด็จทำหน้าบิดเบี้ยว ขณะขยับเอวกระแทกกระทั้นเข้าไปเต็มแรง เขาพูดติดปากแบบนี้ ไม่ต่างจากที่เคยพูดกับผู้หญิงคนอื่น

...ไม่ทิ้งตอนนี้ แต่อีกไม่นานก็ทิ้งอยู่ดี

เขาไม่มีความคิดจะจริงจังกับผู้หญิงคนไหน มองพวกเธอเป็นแค่สิ่งบำบัดความใคร่ เบื่อก็เปลี่ยนคนใหม่ ตามประสาลูกคนรวย ไม่คิดแคร์อะไร นอกจากกอบโกยความสุขใส่ตัวเท่านั้น

เสียงเตียงโยกดังเป็นจังหวะ สลับกับเสียงครางของหนึ่งชายหนึ่งหญิงที่กำลังเสพสมอย่างเมามัน ตามด้วยเสียงกรีดร้องแห่งความหรรษาที่ดังไปกว่าค่อนคืน

หลังเสร็จกิจกรรม ชายหนุ่มโอบกอดเธอไว้หลวมๆ

“เสาร์หน้าไปงานเลี้ยงวันเกิดพ่อพี่นะ”

“พูดจริงเหรอคะ?” รมัยถามอย่างยินดี

“อือ” เขารับคำสั้นๆ “นอนเถอะ พรุ่งนี้ไปหาชุดสวยๆ กัน”

“ค่ะ”

เธอซุกหน้าซบอกเผด็จ รู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ที่จะได้ออกงานเลี้ยง คิดไปเองว่าเผด็จจริงจังกับตน

...แต่ในความเป็นจริงแล้ว รมัยเข้าใจผิดทั้งเพ

 

“พี่ชอบน้องสานะคะ ชอบมากๆ” เสียงใสหวานเอ่ยกระซิบข้างหูเด็กสาวในวงแขน

“ไม่เชื่อหรอกค่ะ” เธอในวัยเด็กพูดยิ้มอายๆ

“ต้องเชื่อพี่สิ พี่ไม่มีวันหลอกลวงน้องสาเด็ดขาด” เด็กสาวที่อายุมากกว่าบอก โน้มหน้ามาใกล้จนจมูกสัมผัสกันเบาๆ “รอพี่นะคะคนดี พี่เรียนจบจะกลับมาหา”

“ค่ะ” รสาในวัยเด็กพึมพำ หลับตาพริ้มปล่อยให้อีกคนจูบตน ก่อนยกแขนขึ้นกอดร่างนั้นไว้

ทั้งคู่จูบกันเนิ่นนานใต้ต้นไม้ใหญ่แห่งหนึ่ง

แล้วภาพก็ค่อยๆ จางหายไป

สาวหน้าคมสะดุ้งตื่นขึ้น ยกมือขึ้นแตะเรียวปากตัวเอง ความฝันเมื่อกี้ช่างเหมือนความจริงเอามากๆ หญิงสาวฝันคล้ายๆ กันแบบนี้เกือบทุกคืน ตั้งแต่กลับมาอยู่บ้าน เพียงแต่ไม่ปะติดปะต่อมากเท่าครั้งนี้

เด็กคนนั้นใคร?

รสาทำหน้ายุ่งอยู่บนเตียง ความง่วงหายวับไปเป็นปลิดทิ้ง คิดใคร่ครวญอยู่เป็นนาที แล้วมั่นใจมากว่า นั่นคือสิ่งที่เธอลืมเลือนไปเมื่อนานมาแล้ว

ความทรงจำของฉัน...กับใคร?

...รู้สึกคุ้นหูกับน้ำเสียงอ่อนโยนนั้นยิ่ง

...คุ้นเคยกับวงแขนแสนอบอุ่นของอีกฝ่าย

...ไม่มีความรู้สึกขยะแขยงหรือรังเกียจแม้แต่น้อย

เหมือนว่าตนกับคนในฝันจะรักชอบกันอย่างลึกซึ้ง ถึงขนาดกอดจูบกันแบบนั้น คงไม่ใช่แค่เพื่อนแน่

สาวร่างเล็กแตกตื่นกับรสนิยมของตัวเอง เรื่องที่ลืมเลือนไปจากสมอง แต่ยังคงฝังอยู่ในจิตใต้สำนึก

บ้าน่า...นี่ฉันเป็นเลสตั้งแต่เด็กเลยเหรอเนี่ย!

รสานวดขมับตัวเอง ไม่รู้ว่าจะดีใจหรือเสียใจดี? ที่ได้รู้จักตัวเองมากขึ้นอีกนิด

พอเข้าใจสาเหตุแล้วว่า ทำไมที่ผ่านมา ตัวเองถึงได้ไม่ชอบพอหรือรักใครเลย

ที่ฉันไม่สนใจใคร เพราะยังรักษาคำสัญญากับคนนั้นอยู่สินะ แต่ว่าคนนั้น...ใคร?

ในฝันเธอเห็นหน้าคนสวมกอดไม่ชัด เดาจากคำพูดอีกฝ่ายน่าจะอายุมากกว่า เพราะแทนตัวเองว่า ‘พี่’ และเรียกเธอว่า ‘น้องสา’

...ส่วนรายละเอียดอย่างอื่นไม่รู้เลย

สาวหน้าแขกยกมือเกาหัวจนผมยุ่ง ล้มตัวลงนอนกอดหมอนข้าง ไม่คิดว่า การไปเดินถามสเปะสปะจะเป็นความคิดที่ดี คนอื่นอาจมองว่าเธอบ้าหรือเสียสติได้

ยากชะมัด ชาตินี้จะรู้ไหมเนี่ย!

รสามองนาฬิกา แล้วไม่คิดนอนต่อ ลุกนั่งแล้วบุ้ยใบ้ความผิดไปให้จันจิรา

อาจจะเป็นแค่ความฟุ้งซ่านก็ได้ อยู่ใกล้คนเพี้ยนแบบคุณจัน ฉันอาจจะติดเชื้อเพี้ยนมา

พอคิดแบบนั้นก็อารมณ์ดี ลุกไปเข้าห้องน้ำ เพื่อเตรียมอาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน

 

เจ็ดโมงครึ่ง พรรัตน์ทำหน้าประหลาดใจ ที่เห็นจันจิราปรากฏตัวที่บ้านของเธอ พร้อมปุ๋ยอินทรีย์เต็มหลังกระบะรถปิคอัพ

“จันเอาปุ๋ยมาให้ค่ะ เพิ่งทำเสร็จเมื่อวันก่อน” หล่อนบอก หลังยกมือทำความเคารพ

“ขอบคุณนะคะ” แม่เธอยิ้ม เอ็นดูหญิงสาวผู้นี้ที่ช่วยเหลือคนรอบข้างเสมอ “มาค่ะ มาทานมื้อเช้าด้วยกันก่อน ยายสากำลังทานอยู่เลย”

“ขอบคุณค่ะน้ารัตน์”

พรรัตน์หันบอกให้สามคนงานช่วยกันขนปุ๋ยไปเก็บ แล้วขึ้นเรือนไปต้อนรับแขกสาว

จันจิรานั่งดื่มชาร้อน เพราะทานอิ่มมาแล้ว จึงนั่งคุยกับพรรัตน์ไปพลางๆ รอจนรสาพร้อม สาวสวยก็ทำหน้าที่เป็นสารถีพาผู้ช่วยสาวไปทำงาน

“คุณจันเอาใจใส่ยายสามากเลยนะคะพี่” พรรณอรกล่าวขึ้น หลังอยู่กันแค่สองคนหน้าบ้าน

ส่วนสามคนงานไปรดน้ำต้นไม้ที่สวนหลังบ้าน

เธอแอบจับสังเกตท่าที และสายตาของแขกคนสวยอย่างละเอียดแทบจะทุกอิริยาบถ จนมั่นใจว่าเรดาร์ของตนไม่ผิดพลาดแน่

“อือ” พรรัตน์รับคำเสียงต่ำในลำคอ เห็นไม่ต่างจากน้องสาว แต่ยังไม่คิดสรุปอะไรเวลานี้ บางเรื่องต้องดูกันนานๆ ไม่อยากจะคิดเข้าข้างตัวเอง “ดูไปก่อนเถอะ”

“ค่ะ” พรรณอรรับคำอย่างเข้าใจ

น้าสาวเห็นความรักฉายชัดในแววตาคู่สวยหวาน แต่หลานสาวนิ่งมาก จนเดาไม่ออกว่า มีใจให้จันจิราบ้างหรือเปล่า?

...ผลลัพธ์จึงยากจะคาดคะเน

ในฐานะผู้ใหญ่จึงไม่ควรทำอะไร นอกจากดูอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ พร้อมจะเคียงข้างและให้กำลังใจ ในเวลาที่หลานสาวต้องการ โดยไม่ชี้นำหรือตัดสินใจแทน

พรรณอรรักและเป็นห่วงหลานสาวไม่ต่างจากลูกของตัวเอง ส่วนหนึ่งเพราะรสานิสัยน่ารักกว่ารมัยและปองคุณลูกชาย แต่เธอไม่คิดจะเข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงหน้าที่มารดาของพี่สาว

ถ้าคุณจันรักชอบยายสาจริงๆ ก็คงดี

น้าสาวแอบเอาใจช่วยหลาน ด้วยมองว่าจันจิรานิสัยดีไม่ต่างจากจุรีผู้เป็นแม่…อยากให้รสาได้คู่ครองที่ดี

ตอนแรกเธอไม่ได้ชอบเรื่องเกย์เรื่องเลสเบี้ยนนัก มีความเชื่อว่าคู่ชีวิตควรจะเป็นเพศตรงข้ามไม่ต่างจากคนทั่วไป แต่หลังตัวเองล้มเหลวในชีวิตแต่งงาน ความคิดของเธอก็เปลี่ยนไป เข้าถึงสัจธรรมที่ว่า

‘ชีวิตคนเราไม่ได้ยืนยาว จะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้ แค่มีคนรักที่ดีคอยอยู่เคียงข้าง ก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว’

“ปุ๋ยที่คุณจันให้มาเก็บเรียบร้อยแล้วนะ?” พรรัตน์ถาม

“เรียบร้อยค่ะพี่” น้องสาวตอบ “อาทิตย์หน้าคงได้ใช้ ของเก่าใกล้หมดพอดี”

“ดีแล้ว ปุ๋ยของคุณจันดีกว่าปุ๋ยเคมีตั้งเยอะ ดินไม่แข็ง แถมต้นไม้ออกลูกออกดอกดกด้วย”

“นั่นสิคะ ไม่แปลกใจเลยที่สวนโสภาคย์ ทำไมปลูกดอกไม้พันธุ์ฝรั่งขายได้” พรรณอรนึกชื่นชมความสามารถที่ไม่ธรรมดาของหล่อน

“ไอ้ดีก็ดีนะ แต่ต้องลงทุนไปเท่าไหร่กว่าจะทำแบบนั้นได้ คุณจันเธอคงไม่ใช่พวกโชคช่วยโชคดีอย่างเดียวหรอก”

พรรัตน์มองว่า ในทุกการลงทุนจะมีความเสี่ยงซ่อนอยู่ ถ้าไม่เก่งจริงก็ควรทำเท่าที่ศักยภาพของตนจะรับไหว

...หากเห็นช้างขี้ แล้วขี้ตาม สุดท้ายคงไม่พ้นทำให้ตัวเองและคนรอบข้างลำบาก ควรฝึกฝนไปเรื่อยจนเก่งขึ้น ค่อยขยับอัพเลเวลต่อไป

คนฟังพยักหน้า เข้าใจในความหมายของพี่สาว

“เสียดายตรงที่ยายไมกับตาปองไม่ได้ทำงานที่สวนนั่น เผื่อจะได้เรียนรู้อะไรบ้าง”

“สองคนนั้นไม่ชอบต้นไม้ ให้ไปทำก็คงทนไม่ได้นาน” พรรัตน์ฝืนยิ้ม “แล้วตาปองล่ะไปไหน หายหน้าไปนานแล้วนะ”

“เมื่อวานโทรไป บอกว่างานยุ่งค่ะ”

“ช่างเถอะ แค่ทำงานทำการก็ดีแล้ว” พี่สาวตัดบท ไม่อยากสอบรู้เรื่องหลานชายนัก “ขึ้นเรือนเถอะ แดดชักร้อนแล้ว”

“ค่ะ” น้องสาวทำหน้าขรึม เมื่อคิดถึงลูกชายที่ค่อนข้างเกเร และไม่ยอมเรียนหนังสือ

หลังเลิกกับสามี หากไม่ได้พรรัตน์คอยให้กำลังใจ และช่วยเหลือเจือจุน พวกเธอสองแม่ลูกคงลำบากมาก ตอนนั้นไม่มีแม้กระทั่งบ้านจะซุกหัวนอน

พรรณอรจึงตอบแทนบุญคุณพี่สาวด้วยการอยู่ดูแล หลังอีกฝ่ายมีปัญหาสุขภาพรุมเร้า

หายหัวไปแบบนี้ คงไม่ไปก่อเรื่องที่ไหนหรอกนะ

เธอแอบหวังแบบนั้น

 

“ไอ้เอก” เสี่ยวิชัยเรียกหาคนสนิท ที่อายุแก่กว่าลูกชายเล็กน้อย

“ครับนาย”

“เรื่องเก็บเงินลูกหนี้ไปถึงไหนแล้ว?”

“เอ่อ ส่วนใหญ่ก็จ่ายมาครบนะครับ แต่มีพวกหัวหมอบอกว่าไม่ยอม มันขู่ว่าจะไปแจ้งความเล่นงานนายด้วย”

หืม

นัยน์ตาคมกริบของเสี่ยคนดังเป็นประกายวาว ไม่บ่อยนักที่จะมีผู้กล้ามาท้าทายเขา

...เพราะคนพวกนั้นถูกส่งไปรวมกันที่ปรโลกแล้ว

“ไปจัดการสั่งสอนแบบเบาะๆ ก่อน ถ้ามันยังไม่หายบ้า ก็เชือดมันซะ” เขาออกคำสั่งเสียงเย็น แล้วยกไวน์ขึ้นจิบ

เอกพยักหน้าอย่างรู้งาน

“ครับนาย”

“แล้วนี่เผด็จไปไหน?” เขาถามหาลูกชาย

“เอ่อ...” ลูกน้องทำท่าอึกอัก

เสี่ยวิชัยถอนใจยาวเหยียด เดาได้ว่าลูกชายไม่เอาถ่าน คงออกทำเรื่องเหลวไหลอีกเช่นเคย

ถ้าไม่ติดว่ามีลูกชายคนเดียว เขาคงตัดหางปล่อยวัดไปนานแล้ว

“แล้วยายตาล่ะ?” เสี่ยถามถึงลูกสาวบ้าง

“ออกไปซื้อของครับ” เอกตอบเสียงเบา

“จะซื้ออะไรกันนักหนา มีลูกแต่ละคน ไม่ได้เรื่องเลยซักคน” ชายวัยกลางคนพึมพำอย่างอ่อนใจ แล้วกำชับลูกน้อง “ไปจัดการเรื่องที่สั่งให้เรียบร้อย”

“ครับ”

คนสนิทรับคำ เดินออกไปจากห้องนั้น พอพ้นประตูเอกพยักหน้าเรียกลูกน้องสองคนที่ยืนรออยู่

“ไปข้างนอกกัน มีงานให้ทำแล้ว”

“งานอะไรลูกพี่?” คนตัวเตี้ยถาม

“ไปทวงหนี้แบบจัดหนัก” เอกบอกใบ้

ลูกน้องสองคนแสยะยิ้ม ด้วยท่าทางกระเหี้ยนกระหือรือ แล้วตามลูกพี่ออกไป

...ลูกน้องหนึ่งในสองของเอกคือปองคุณ ลูกชายของพรรณอร

OoXoO

ขอบคุณที่กรุณาติดตามนะคะ ขอบคุณทุกหัวใจ และทุกคอมเม้นท์ค่ะ...ปีใหม่นี้ขอให้ทุกท่านเฮงๆ รวยๆ กันถ้วนหน้านะคะ ^^

ในตอนนี้ได้เฉลยแล้วว่า น้องชายน้องสาวของรสาเกี่ยวข้องกับบ้านเสี่ยวิชัย ส่วนเรื่องจะวุ่นวายมีปัญหาขนาดไหน ต้องลุ้นกันต่อค่ะ...แต่รับรองว่าเหนื่อยแน่ อิอิ

ตอนหน้าจะเป็นตอนงานเลี้ยงวันเกิด มีฉากหึงเล็กๆ ของพี่จัน จะลงให้อ่านเป็นตอนสุดท้ายนะคะ น่าจะเป็นต้นๆ เดือนหน้าค่ะ

ท่านใดสนใจอ่านต่อ นิยายทุกเรื่องของไรท์โหลดซื้อได้ที่ MEB ค่ะ ส่วนหนังสือถามได้ที่ เพจนิ้วนาง นะคะ

ช่วงนี้เริ่มเขียนเรื่องใหม่แล้วค่ะ คงใช้เวลาอีกพักใหญ่ๆ กว่าจะเป็นรูปเป็นร่าง พล็อตที่ร่างไว้ไม่ใช่แนวหวานๆ สนุกๆ แบบเรื่องนี้ ส่วนจะหนักแค่ไหน รันทดบีบหัวใจขนาดไหน อันนี้ไรท์ยังบอกไม่ได้ จนกว่าจะใกล้เสร็จค่ะ

...ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ

นาง ^^    




Create Date : 27 มกราคม 2563
Last Update : 27 มกราคม 2563 16:58:13 น.
Counter : 601 Pageviews.

2 comments
เบญจมาศ​ ปรศุราม
(5 พ.ย. 2567 09:42:24 น.)
: กะว่าก๋าแนะนำหนังสือ - ปลุกให้ตื่น...รู้อย่างเซน เห็นอย่างพุทธ : กะว่าก๋า
(5 พ.ย. 2567 04:00:34 น.)
attitude is everything พุดดิ้งรสกาแฟ
(4 พ.ย. 2567 10:17:27 น.)
คนคิดถึงอนาคตเท่านั้น ถึงจะมีอนาคต?!? Alex on the rock
(2 พ.ย. 2567 11:57:42 น.)

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณโอน่าจอมซ่าส์

  
มาให้กำลังใจค่ะ
โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 27 มกราคม 2563 เวลา:23:32:44 น.
  
ขอบคุณค่ะ ^^
โดย: นาง (นิ้วนาง-เดียนา ) วันที่: 31 มกราคม 2563 เวลา:15:40:57 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Nuinang.BlogGang.com

BlogGang Popular Award#20



นิ้วนาง-เดียนา
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]