สัญชาติญาณความเป็นแม่

สัญชาตญาณความเป็นแม่คือ สิ่งมหัศจรรย์จากธรรมชาติ



หลายๆ คนคงได้เห็นโฆษณาตัวนี้ ผ่านหู ผ่านตามาบ้างแล้วเนอะ (ถ้ายังไม่เคย ก็ดูโลด) บางคนที่ได้ดูแล้ว ก็อาจจะงงๆ เอ๊ะ อะไรยังไง รู้แต่ว่า ซึ้งดี บิ้วต่อมน้ำตากันสุดๆ โดยเฉพาะถ้าใครมีประสบการณ์ตรง คลอดลูกมาไม่แข็งแรงต้องเข้าโรงพยาบาล ตู้อบ เจาะโน่นนี่นั่น ตรวจแล้วตรวจอีก เจาะมือจนพรุนย้ายมาเจาะขา เจาะไปเจาะมา ลามมาคอ ก็คงจะเข้าใจเลยว่า เบบี๋ตัวจ้อย นั้นบอบบางขนาดไหน ไม่อยากจะคิด

ก่อนหน้านี้ เคยอ่านข่าวเจอ คุณแม่ชาวออสซี่ Kate Ogg ที่คลอดลูกแฝดชายหญิงออกมาก่อนกำหนด ทารกอายุเพียง 27 สัปดาห์ และปรากฏว่า แฝดคนน้อง เสียชีวิต หมอพยายามช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถ 20 กว่านาที จนสุดท้ายคุณหมอแจ้งให้ทั้งสองทราบว่า ทารกผู้ชาย เสียชีวิต



"I unwrapped Jamie from his blanket. He was very limp."

"His little arms and legs were just falling down away from his body.

"I took my gown off and arranged him on my chest with his head over my arm and just held him.

"He wasn't moving at all and we just started talking to him. We told him what his name was and that he had a sister.

"We told him the things we waned to do with him throughout his life."

Jamie occasionally gasped for air, which doctors said was a reflex action.

Kate added: "After just five minutes I felt him move as if he were startled, then he started gasping more and more regularly.

ที่มา: //www.thesun.co.uk/sol/homepage/news/3112855/Baby-saved-by-mums-cuddles.html

จนสุดท้าย ปาฎิหารย์ก็เกิด ทารกน้อยส่งสัญญาณชีพ กลับมาหายใจอีกครั้ง
เรื่องนี้ เลยไม่ใช่แค่เพียง talk of the town แล้ว เพราะ ครอบครัวนี้กลายเป็นที่สนใจของคนทั่วโลก เพราะมันไม่ได้เกิดกันได้บ่อยๆ งิ

แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้น ก็เป็นเครื่องยืนยันได้ถึงความรักของแม่ ว่ายิ่งใหญ่ และ สามารถส่งผ่านไปถึงลูกได้เสมอ...
ไม่ว่าจะอยู่ หรือตาย
ไม่ว่าจะใกล้ หรือไกล

จริงๆ นะ....
(แม่เค้าขนาดตายไปแล้ว ยังมาเยี่ยมเลย..อยากฟังไม๊ ตึ่ง!!! เค้าไม่ได้ให้เขียนเรื่องผีเว้ยยยยย)

ณ จุดนี้ ดีเจ ขออนุญาตเปิดเพลงคลอเบาๆ เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศนิดส์นึง พยายามจะซึ้ง แต่รู้ว่าทำไม่ได้ ถ้ามันไม่ได้มาจาก inner อะนะ.....ขอเพลงช่วยด่วน!!!

"There can be miracles, when you believe
Though hope is frail, it's hard to kill
Who knows what miracles you can achieve
When you believe, somehow you will
You will when you believe"

"In this time of fear
When prayer so often proves in vain,
hope seems like the summer birds too swiftly flown away
And now I’m standing here
My heart so full. I can’t explain
Seeking faith and speaking words
I never thought I’d say"

"They don’t always happen when you ask
And it’s easy to give in to your fear
But when you’re blinded by your pain
Can’t see your way safe through the rain
Thought of a still resilient voice
Says love is very near"

สาระ นะ สาระ....

จริงๆ แล้ว เรื่องนี้มีที่มา...เพราะฝรั่งทั้งเชื่อ และมีวิจัยมาว่า การกอด-ให้นม ทารกแรกเกิดแบบ skin to skin ทันที เป็นวิธีที่ดีมากวิธีนึงและจำเป็นอย่างยิ่ง นอกจากอุณหภูมิร่างกายของแม่ที่อบอุ่น สามารถส่งผ่านไปยังทารกได้แล้ว เสียงเต้นของหัวใจที่คุ้นเคยตั้งแต่อยู่ในท้อง ความรักจากแม่ ที่ส่งผ่านการกอด สามารถสื่อไปถึงทารกได้ ทารกจะมีความสุขขึ้น อุณหภูมิร่างกายคงที่ อัตราการหายใจเป็นปรกติและนิ่งขึ้น ปริมาณน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ลึกซึ้งไปถึงเซลล์ผิวยิ่งกว่านั้น คือ แบคทีเรียบนผิวแม่จะอยู่บนผิวลูกด้วยช่วยปกป้อง และสร้างภูมิคุ้มกันต่างๆ ให้กับทารก และยังเป็นการกระตุ้นน้ำนมให้แม่อีกด้วย
(ยิ่งทารกที่เกิดมาพร้อมอาการผิดปรกติ น้ำหนักน้อย คลอดก่อนกำหนด ฯลฯ วิธีกอดลูกแบบ skin to skin ทันทีที่เด็กคลอดออกมา ยังส่งผลดีมากอีกด้วย)

การกอด-ให้นมแบบ skin to skin หรือ kangaroo care คือ การกอดทารกไว้แนบอก วางลูกบนอกแม่ โดยแม่ถอดเสื้อและลูกถอดหมดเพื่อให้ผิวแม่ลูกสัมผัสกัน ควรทำวันละ 2-3 ชั่วโมง (พ่อก็ทำได้เหมือนกันนะ!!!)

ดูเสะ หลับปุ๋ยเลย ประมาณนี้


ฟังแล้ว เริศซะไม่มี แต่ รพ. หลายๆที่ ที่เห็นกัน ก็ยังห่อตัวเด็กเป็นมัมมี่ใส่กะบะเข้าห้องเนริส และ บาง รพ. ยังจับนมขวดยัดปากลูกน้อยที่เพิ่งออกมา ด้วยเหตุผลว่าคุณแม่ต้องพักผ่อน เพื่อจะได้มีแรงเลี้ยงลูกหลังจากออกจากโรงพยาบาล -_-'' (ชีวิตแม่และลูกเพิ่งเริ่มต้นหลังจากออกจาก รพ. ว่างั้น?)

จากใจ คนที่คลอดลูกเอง และนอนโรงพยาบาลรัฐบาลที่ไม่มีห้องเนริส และไม่มีนมชงเป็นตัวช่วย เลี้ยงลูกตั้งแต่แรกคลอด เรื่องแค่นี้ ทำได้ ไม่ถึงกับตาย ไร้เรี่ยวแรงขนาดนั้น

ธรรมชาติสร้างมาอยู่แล้วให้คนเป็นแม่ มีพลังที่ยิ่งใหญ่ มีความอดทน และเข้มแข็ง (ที่มาพร้อมกับภาระและหน้าที่)



คลอดออกมาแล้ว ไม่เท่าไหร่ ตอนให้นมแม่ อดหลับอดนอน ปั้มนมเก็บ ตื่นทุก 2-3 ชั่วโมง ตื่น ร้อง กิน ร้อง อึ นอน ตื่น กิน ร้อง อึ นอน....เป็นวัฎจักร
หลายๆ คนท้อแท้ เหนื่อย ชงนมขวดให้กิน หรือ คิดว่า นมแม่ไม่พอ (นมคน ไม่พอให้คนกิน แล้วจะยังไง)
วิธีที่ดีที่สุด ที่จะช่วยให้ลูกกินนมแม่ได้ตลอดรอดฝั่งคือ ตลอดระยะเวลาอย่างน้อยในช่วง 6 เดือนแรก สิ่งที่ต้องทำ คือ อดทน ต่อเสียงลูกร้องงอแง ต่ออาการหัวนมแตก เจ็บระบม ต่อเสียงคนรอบข้างที่ว่า ทำไมไม่ให้กินนมขวด เด็กมันหิว เด็กมันร้องไห้งอแงหิวนม บลาๆๆ...และ ห้ามซื้อนมผง ติดบ้านไว้เป็นอันขาด

เพราะว่า...สโลแกนเดิม
"You will when you believe"
อิอิอิ(พูดง่ายแต่ทำยากชิมิ)

เราเคยเกือบถอดใจไปละเหมือนกัน เรื่องนมแม่ เพราะง่วงงง เจ็บนม แล้วทำไม ชั้นต้องเป็นคนอดหลับอดนอนตื่นมานั่งอุ้มลูกกินนมคนเดียวล่ะเนี่ย คนอื่นหลับสบาย ร่ำร้องๆ จะไปซื้อนมกระป๋องมาติดบ้านไว้ "เผื่อ" ว่าไม่ไหว คนอื่นจะได้ชงนมป้อนแทน แต่โดนปั๋วด่า "จะไปซื้อนมกระป๋องก็ไป..แต่คนเป็นแม่ ถ้าให้นมลูกไม่ได้ ซื้อนมมาชงใส่ขวด งี้ใครๆ ก็เลี้ยงแทนได้ แค่จับนมใส่ปาก เด็กมันก็ไม่ต้องมีแม่แล้วล่ะ..." แป่วว.....แร๊งง....

สัญชาติญาณความเป็นแม่(รึเปล่า) บอกให้อดทน (ทั้งลูก ทั้งปั๋ว ทั้งยายที่บ่นๆๆๆๆๆ)

และแล้ว ก็ให้กินนมแม่จนถึง 2 ขวบ.......สายใยรักจากแม่ ผลคือ ประหยัด!!

แต่สำหรับบางคนที่มีเหตุจำเป็น อันใด ก็ตาม ที่จะต้องให้นมลูกจากขวด ดิชั้น ขอวิงวอน.....อย่าพยายามฝึก หรือภูมิอกภูมิใจ กับความสามารถพิเศษในวัยแบเบาะ ที่ ถือขวดนมกินเองได้ (คือ มีคนที่คิดแบบนี้อยู่พอสมควรเลยนะ จิงๆ นะ บางคนมีอวดกันด้วย เสมือนว่าเป็นความสามารถพิเศษมากมาย ใครถือขวดกินเองได้ก่อน โตขึ้นจะเป็นอัจฉริยะ?) กล้ามเนื้อมือ ฝึกเมื่อไหร่ก็ฝึกได้ ไปฝึกด้วยวิธีอื่นดีกว่า

ช่วงเวลากินนม สำหรับวัยเบบี๋ เป็นช่วงเวลาของพัฒนาการที่สำคัญและเป็นเวลาของความสุข คงเป็นการดี ที่จะมีแม่อยู่เคียงข้าง กอดเค้าอยู่ในอ้อมแขน และประคองขวดนมให้ แค่ต้องกินนมจากขวด ไม่ได้กินนมจากอกแม่ ก็ขาดทุนชีวิตวัยเด็กไปละหน่อยนึง นี่แม่ยังจะให้ถือขวดกินเองอีก...เป็นเรื่องน่าเศร้า T-T

ข้อเสียของการปล่อยให้เด็กดูดนมจากขวดเอง
- เด็กอาจจะกินนมมากเกินความต้องการ หรือสำลักได้
- ถ้าหากฟันขึ้นแล้ว การปล่อยให้เด็กนอนดูดนมจนหลับ เป็นสาเหตุให้ฟันผุ
- อาจเกิดการติดเชื้อในหู เพราะ การนอนดูดนม อาจจะมีนมไหลรั่วเจ้าไปในช่องหู และทำให้เกิดการอักเสบได้

เมื่อนับข้อดีได้หลายข้อแล้ว....ขอให้แม่ๆทั้งหลาย อดทนต่อไป เชื่อว่า เด็กในอ้อมอกของทุกคน จะเป็นคนที่สร้างสีสรรให้ชีวิต สร้างรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และน้ำตา ได้อย่างไม่มีสิ่งใดเหมือน จริงๆ นะ...

สุดท้าย......ขอให้แม่ และเบบี๋ทุกคน Enjoy hugging, feeding and bonding นะค๊า...

จ๊วบๆ

You will when you believe
Just believe...in your heart ^_^




อ้างอิง:
//www.naturalchild.org/guest/jack_newman2.html
//www.pregnancytoday.com/articles/newborn-care/holding-baby-skin-to-skin-to-calm-4174/
//apps.who.int/rhl/newborn/gpcom/en/index.html
//www.babycenter.com/408_when-can-my-baby-hold-his-own-bottle_1368471.bc
//en.wikipedia.org/wiki/Kangaroo_care
และอื่นๆ อีกมากมาย

เครดิตภาพ Kangaroo care :
//www.thenewbornbaby.com/kangaroo-mother-care/

Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2554 Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2554 12:58:19 น. Counter : 2089 Pageviews.		18 comments
Share Tweet

	ถนนสายนี้มีตะพาบ 387 "ผ่านความทุกข์" kae+aoe (22 ต.ค. 2568 08:20:20 น.)		16 ต.ค. 68 ดูงาน Thai PBS kae+aoe (22 ต.ค. 2568 06:28:19 น.)
	ถนนสายนี้มีตะพาบ 385 "ปีศาจประจำตัว"  kae+aoe (19 ก.ย. 2568 09:48:00 น.)		ถนนสายนี้มีตะพาบ 384 "เพลงรักที่เธอไม่อยากร้อง" kae+aoe (10 ก.ย. 2568 06:33:48 น.)