เทคนิกสอนลูกแปรงฟัน ดูแลฟันเด็ก ใครอยากฟันสวย ตามมาทางนี้ ^_^ เทคนิกดูแลฟันเด็ก และ สอนลูกแปรงฟันอย่างถูกวิธี วันนี้ฤกษ์งามยามดีดี มีสปอนเซอร์ใจดีสนับสนุน content เลยอยากจะขุดเรื่องเก่าๆ จากบล็อคเก่าๆ ที่เคยเขียนเกี่ยวกับเรื่องการดูแลรักษาฟันเด็ก อัพเดทการพาลูกไปหาหมอฟันอยู่เนืองๆ คิดอยู่เหมือนกันว่าวันไหนว่างๆ จะรวบรวมเขียนบล็อคเกี่ยวกับเรื่องการดูแลฟันเด็กน้อยบ้าง....(จะได้ไม่ต้องตอบคำถามกันบ่อยๆ ฮิฮิ) เอาวันนี้เลยละกันนะ....มาแชร์ข้อมูลกันว่า เหตุใดเราจึงควรจะให้ความสำคัญกับการดูแลฟันของเด็กๆ เริ่มต้นตั้งแต่ฟันซี่แรกๆ ขึ้น ทีแรก เราก็ชีลๆ เช็ดฟันบ้าง ไม่เช็ดบ้าง ฟันมีอยู่ไม่กี่ซี่เองนิ หนำซ้ำ บางบ้านอาจจะคิดว่า ฟันน้ำนม ไม่ต้องดูแลอะไรมากก็ได้ ผุไป ยังไงซะ เดี๋ยวก็หลุด มีฟันแท้ขึ้นมาอยู่ดี..ชิมิๆ เมื่อตอนประมาณขวบกว่าๆ เจ้าเบื๊อกมิวมิวพลาดท่า ซ่าหกล้ม เอาฟันหน้าไปกระแทกขอบเตียงฟันโยกผลุบเข้าไปด้านใน จนต้องหามส่งโรงพยาบาลกลางดึก (เวอร์ไม๊) ไปอ่านบล็อคเก่า 1 เกี่ยวกับอุบัติเหตุฟันของเด็กแสบได้ที่นี่ ![]() ณ ตอนนั้น คุณหมอ อธิบายความสำคัญของฟันให้ฟัง ว่า จริงๆ แล้วฟันน้ำนมก็สำคัญไม่ใช่น้อย นอกจากจะใช้บดเคี้ยวอาหารแล้ว การจัดเรียงตัวของฟันยังส่งผลถึงรูปหน้า( รูปหน้าของเด็ก จะเซ็ทตัวก็ต่อเมื่อฟันเขี้ยวสองข้างขึ้นแล้ว) กระดูกขากรรไกร การออกเสียงที่ชัดเจน ผลต่อการเรียงตัวและตำแหน่งของฟันแท้ที่จะขึ้นในเวลาต่อมา รวมไปถึงความสวยงาม...อะแน่นอน....สำคัญที่สุดนะ แค่นึกภาพ ด.ญ.มิวมิวเป็นหลอลี่..หรือด.ญ.ฟันเงิน ฟันทอง เหมือนอาแปะ...อิชั้นก็ทำใจไม่ได้แล้ว อีกตั้งหลายปีกว่าฟันแท้จะขึ้น ใจแป้วสิคะ เพราะแม่ชอบเด็กฟันสวย เวลายิ้มแล้วเห็นฟันน้ำนมซี่น้อยๆ เรียงกันในปากแล้วดูน่ารักดี T_T วัยเตาะแตะ เป็นวัยที่คุณหมอบอกว่า พบอุบัติเหตุเกี่ยวกับฟันกันได้บ่อยมาก (แต่ใช่ว่าโตแล้วจะไม่มี เด็กไปโรงเรียนเล่นกับเพื่อน ก็อาจจะมีบ้าง บางครั้งไม่ได้บอกให้พ่อแม่รู้ มาพบอีกที ฟันเปลี่ยนสี หรือรากฟันอักเสบติดเชื้อ ฟันตายต้องถอนเลยก็มี) เพราะฉะนั้น คุณพ่อคุณแม่ คนรอบตัวที่เลี้ยงเด็กวัยนี้ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ ถ้าสุดวิสัยจริงๆ หกล้ม หรือฟันกระแทกแรงๆ ควรพาไปพบทันตแพทย์ อย่านิ่งนอนใจปล่อยไว้ เพราะ คุณหมอจะได้ประเมิณ เอ็กซเรย์ดูผลของการกระแทก การเคลื่อนตัวของฟัน ว่าไปกระทบหน่อฟันแท้หรือไม่ และควรทำตัวอย่างไร บล็อคเก่า 2 ผลจากอุบัติเหตุ ตั้งแต่นั้นมา(อายุ 1 ขวบ) มิวมิวก็ไปพบหมอฟันอย่างต่อเนื่อง และคุ้นเคยกับหมอฟันที่สุด (ก็ไม่อยากหลอนี่นา) เจ้ามิวสามารถนอนนิ่งๆ ดูคุณหมอทำฟันได้ จน อายุ 3 ขวบกว่า สามารถนอนอ้าปากค้างนานๆ ให้คุณหมอเคลื่อบหลุมร่องฟันทีละ 4 ซี่ได้แล้วเสร็จ (ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที เป็นอย่างน้อย) ฟันกรามที่เคลือบทั้งปากรวมแล้ว 8 ซี่ สบายใจหายห่วง ช่วยให้เศษอาหารไม่ค้างอยู่ตามหลุมร่องฟันกรามได้ระดับหนึ่ง พัฒนาการฟันเด็ก ![]() Tips การดูแลสุขภาพช่องปากลูกในแต่ละช่วงอายุ จาก ![]() เด็ก 0-2 ปี - พ่อแม่ควรแปรงฟันให้อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง หลังอาหารเช้าและก่อนนอน - เมื่อลูกบ้วนน้ำเป็นแล้ว ให้ใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ จะช่วยป้องกันฟันผุได้อีกทาง (เจ้ามิวมิวบ้วนน้ำเองเป็นตอนอายุประมาณ ขวบกว่าๆ - สองขวบ) เด็ก 3-4 ปี - ควรเริ่มเรียนรู้ที่จะแปรงฟันอย่างถูกวิธีด้วยตนเอง ภายใต้การดูแลของพ่อและแม่อย่างใกล้ชิด อาจจะช่วยแปรงซ้ำอีกครั้งหลังจากลูกแปรงเองเสร็จแล้วก็ได้ - เริ่มทำความรู้จักและหัดใช้ไหมขัดฟัน เด็กอายุ 5 ปี ฟันน้ำนมจะเริ่มหลุด โดยฟันน้ำนมจะรักษาพื้นที่สำหรับฟันแท้ไว้ ซึ่งถ้าเด็กสูญเสียฟันน้ำนมเร็วเกินไป ฟันแท้ที่ขึ้นมาอาจจะเก หรือคุดได้ เด็กอายุ 6 ปี ฟันกรามที่เป็นฟันแท้จะเริ่มขึ้นด้านใน จึงควรดูแลรักษาแปรงฟันซี่ในสุดให้สะอาด เคล็ดไม่ลับใช้กับมิวมิวที่บ้านคือ - พยายามพาลูกไปหาคุณหมอฟันเฉพาะทางสำหรับเด็กแต่เนิ่นๆ ตั้งแต่อายุ 1 ปี เพื่อสร้างความคุ้นเคย และ แสดงให้ลูกเห็นความสำคัญของฟ.ฟัน (รู้ไม๊ว่า ในเด็กเล็ก ถ้าจะต้องอุดฟัน หรือถอนฟัน เพราะฟันผุ มันลำบากลำบนแค่ไหน... ถ้าเล็กมาก จับไม่อยู่ วางยาสลบ ต้องใช้วิสัญญีแพทย์สำหรับเด็ก....ได้ข่าวว่า รพ.รัฐก็หลักหมื่น รพ.เอกชน ก็เฉียดแสนมั้งน่ะ กับการวางยาเพื่อ ถอนฟัน! ถ้าเด็กเริ่มโต ไม่วางยา อาจจะมาลงเอยด้วยการมัดขึงติดกับเตียง) หมอฟันสำหรับเด็กโดยเฉพาะ จะมีเทคนิคในการหลอกล่อ อดทน และใจเย็น เลเวลสูง...ใช้เวลาตรวจรักษา ประมาณ 5 นาที แต่หลอกเด็กล่อไปครึ่งชั่วโมงอะไรแบบนี้....และจะมีอุปกรณ์หลอกล่อมากมาย ทั้งลูกโป่ง สติกเกอร์ ลูกบอล กล่องดินสอ ที่คาดผม กิ๊บติดผม สารพัด เป็นอุปกรณ์ที่หมอผู้ใหญ่คงไม่ต้องใช้แน่นอน... เมื่อฟันเริ่มเยอะประมาณนึง คุณหมออาจจะแนะนำให้เคลือบฟลูออไรด์ ซึ่งจะช่วยป้องกันฟันผุ ได้ประมาณ 30% ค่าเคลื่อบต่อครั้งอาจจะอยู่ที่ 500-1000 บาท แล้วแต่สถานที่ (รพ.หรือคลินิก) - ในเด็กเล็ก พ่อแม่ต้องแปรงให้ อย่างน้อย 2 ครั้งต่อวัน อย่าไปคิดมาก ว่า การจับลูกแปรงฟัน จะสร้างทัศนคติที่ไม่ดี ต่อการแปรงฟันและดูแลฟัน เพราะมันไม่จริง...มีเด็กหรือผู้ใหญ่ที่ไหนโตมาแล้วบอกว่าไม่อยากแปรงฟันเพราะตอนเด็กๆ พ่อแม่บังคับแปรงฟันไม๊....ถ้ามี อย่างน้อย ไอ่คนนั้น เพื่อนไม่คบแน่ๆ เพราะปากเหม็น ขอจงคิดถึงเหตุที่ทำให้ฟันผุ และค่าหมอฟันเข้าไว้ ท่าที่เหมาะที่สุด คือ ท่าแบบเตียงหมอฟัน คือ แม่นั่งอยู่ทางด้านหัว จับลูกนอนหนุนตัก ตำแหน่งนี้จะช่วยให้มองเห็นช่องปากทั้งหมด ล็อคแข้งขา และอาจจะต้องมีอุปกรณ์ช่วยคือผ้าก็อซ พันนิ้วไว้หนาๆ ช่วยง้างปาก กันหมากัด..เอ้ย...เด็กกัด ![]() อีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญที่สุด สำหรับเรา คือ การสอนให้ลูกเรียนรู้ และเข้าใจวิธีการดูแลฟันด้วยตัวเองจนเป็นนิสัย เราจะบอกมิวมิวเสมอว่า เวลากินอาหารโดยเฉพาะของหวาน น้ำอัดลม ขนม ลูกอมต่างๆ ผลไม้รสหวาน รสเปรี้ยว ว่า กินเสร็จแล้วให้ไปแปรงฟัน หรืออย่างน้อย ถ้าไม่แปรงฟัน ให้ไปบ้วนปาก หรือ กินน้ำตามเยอะๆ ทำน้ำขลุกๆๆๆๆ กลั้วปากและฟัน อย่างน้อยล้างคราบความเป็นกรด หรือหวานๆ ออกไปก็ยังดี ทำเสร็จแล้วเจ้ามิวมิวก็จะมาโชว์ อ้าปากให้แม่ดู และ ดม ด้วย(กำของตรูจริงๆ) ว่าสะอาดพอรึยัง บอกมิวว่าถ้าแปรงฟันไม่สะอาด จะมีแบคทีเรีย มากินขอกินขนมที่ติดอยู่ตามฟันมิวมิว เพราะแบคทีเรียก็ชอบกินขนมเหมือนเด็ก ชอบกินหวานๆ ชอบกินช็อคโกแลต (เด็กงกๆเป็นทุนเดิมอย่างเจ้ามิว มักจะไม่อยากแบ่งขนมให้คนอื่นอยู่แล้วชะมะ..เพราะฉะนั้น มุขแบบนี้แบคทีเรียอย่าหวังจะได้ส่วนแบ่งขนมเลย 55555) พอแบคทีเรียกินขนมที่ติดอยู่ตามฟันแล้วจะเกาะแน่นๆๆ อยู่บนฟันเป็นคราบพลั๊ค(Plague - ขี้ฟัน) แถมยังอึออกมา ทำให้ปากเหม็นๆๆ กัดๆๆ ฝันผุเป็นสีดำๆ อีก...หูยย น่ากลัว (คริ คริ......) เพราะฉะนั้น ทุกครั้งหลังกินขนม ให้แปรงฟัน พอแปรงฟันเสร็จ ก็จะต้องบ้วนปากหลายๆครั้ง ให้แบคทีเรียกระเด็นออกมา...เด็กแสบๆ อย่างเจ้ามิวก็จะชอบมาก บ้วนไม่หยุด เพราะจะแกล้งแบคทีเรียให้กระเด็นไปติดกระจกบ้าง ไหลลงอ่างบ้าง มามะ มาดูมิวมิวสอนแปรงฟันได้เลย....อิอิอิอิอิ นี่นะค๊า...ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์สำหรับเด็กที่บ้วนน้ำเป็นแล้ว ![]() ปาดบางๆ เท่าเมล็ดถั่วเขียว ![]() บุ๋ยๆ ก่อน 1 ที ![]() ตามขั้นตอนเลยจ้า ![]() ![]() ![]() สำหรับเด็กบางคน อาจจะเริ่มต้นช่วยสร้างแรงจูงใจอย่างดาวเด็กดี สติ๊กเกอร์ หรือรางวัลเล็กๆน้อยๆ หรือนิทานก่อนนอนน่ารักๆ เช่น หนังสือของครูชีวัน วิสาสะ ซีรียส์คุณฟอง น่ารักมากๆ พร้อมคำคล้องจอง มิวมิวชอบมากๆ ![]() ![]() กิจกรรมสำหรับเด็ก จากเว็บไซท์ Colgate เช่น ลากเส้นต่อจุด +ดาวเด็กดี กิจกรรมสำหรับครอบครัวจาก Colgate ค่ะ เด็กๆ มารักษารอยยิ้ม กับฟันสวยๆ 20 ซี่ ให้อยู่กับหนูไปนานๆ แบบมิวมิวนะค๊า....จุ๊บบบบบบบบบบบ (ใครเจอมิวมิว ขอดมปากได้...หอมมมซาเหมอออออ 555555) ![]() Credit รูปภาพประกอบจากกูเกิ้ล ชอบ ๆๆๆ น่ารักมากเลยมิวมิว
โดย: แม่เด็กหลิงวาด IP: 223.204.200.187 วันที่: 19 สิงหาคม 2554 เวลา:13:11:00 น.
อ่านแล้วมีประโยชน์มากเลย ขอบคุณค่ะ
ตอนนี้คุณลูกยังไม่ยอมบ้วนปากเลย อมแล้วกลืนตลอด T_T โดย: แม่น้องหมีพูห์ IP: 182.232.254.166 วันที่: 19 สิงหาคม 2554 เวลา:14:26:19 น.
น้องซีหลัก ไม่ยอมแปรงฟัน ฟันเหลืองแล้ว แงแง
โดย: ซีทะเล (kae+aoe
) วันที่: 19 สิงหาคม 2554 เวลา:15:28:03 น.โอ้โห ตรงใจมากค่ะ กำลังอยากได้ข้อมูลดีดีแบบนี้เอาไปสอนแสบที่บ้าน ขอบคุณมากนะคะคุณเกด
ปอลิง : มิวมิว แปรงฟันเก่งมั่กกกกก โดย: Thee-T'sMom IP: unknown, 58.137.193.252 วันที่: 19 สิงหาคม 2554 เวลา:16:20:05 น.
มิว มิว น่ารักจังเลยคะ
เจนโชคดีน่้องอิ๊กไม่มีปัญหาเรื่องฟัน แต่่ตัวเจนเองนี่สิเป็นฟันคุดผลุบๆโผล่ๆไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน โดย: JanE & IK
วันที่: 22 สิงหาคม 2554 เวลา:17:56:36 น.ขอบคุณค่า ^^
ตอนนี้ลูก 1 ขวบ 9 เดือนยังไม่ได้พาไปหาหมอฟันเลย แว้ๆ แต่ก็แปรงให้อยู่ค่ะ กำลังอยากรู้วิธีดูแลฟันเด็กเลยค่ะ โดย: แพร์ IP: 124.121.155.120 วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:14:16:40 น.
ลูกสาวบ้านนี้ ฟันสวยมากเลยคะ ต้องจำเทคนิคเอาไปใช้บ้างแล้ว ขอบคุณนะคะ ที่ให้สาระดีๆๆ
โดย: ไหมสีตอง
วันที่: 13 เมษายน 2555 เวลา:16:36:38 น.ผมนักศึกษาทันตแพทย์มหาวิทยาลัยรังสิตจะขออนุญาตนำรูปน้องมิวมิวไปใช้สอนเด็กโรงเรียนขจรทรัพย์อํารุง ชั้นประถมศึกษาปีที่1แปรงฟัน ในวิชาทันตกรรมชุมชนนะครับ เนื่องจากน้องมิวมิวเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับเด็กในวัยนี้ที่มักไม่ชอบแปรงฟัน จึงขออนุญาตมานะที่นี้นะครับ ^^
โดย: อธิพร IP: 180.180.176.159 วันที่: 5 ธันวาคม 2555 เวลา:23:34:19 น.
น้องปุนโน่ก็ชอบให้ดมปากเหมือนมิวมิวเลยค่ะ เค้าจะภูมิใจมากเวลาแปรงฟันเสร็จแล้งปากหอมๆ ตอนนี้บ้วนน้ำเป็นแล้ว แต่ก้มีปัญหาคือชอบแกล้งบ้วนน้ำใส่พื้นข้างนอกน่ะค่ะ มีใครเป็นบ้างมั้ยคะ ทำไงดี
โดย: ม่าม้าน้องปุนโน่ IP: 125.25.130.124 วันที่: 27 มีนาคม 2556 เวลา:21:33:24 น.
|
บทความทั้งหมด
|




















ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [