ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 385 "ปีศาจประจำตัว" โจทย์ครั้งนี้ คุณ จันทราน็อคเทิร์น เป็นคนกำหนด ไม่จำกัดรูปแบบงานเขียน โจทย์คราวนี้หัวข้อคือ "ปีศาจประจำตัว" หรือผู้ใหญ่ในประเทศนี้จะคิดแบบนี้กัน พวกเขามีปีศาจประจำตัวอยู่ซึ่งเขาไม่ต้องการให้เด็กในประเทศฉลาด ต้องการแค่เป็นสัตว์เชื่องๆ ไม่ต้องแปลกใจถ้าในอนาคตจะมีนโยบายแบบนี้ออกมาจากพรรคการเมืองขวาจัด ซึ่งทุกนโยบายตอบโจทย์และสามารถแก้ปัญหาเด็กและเยาวชนในยุคปัจจุบันได้อย่างดี รวมไปถึงปัญหาสังคมผู้สูงอายุด้วย เราไปดูกัน เรื่องที่เขียนเป็นเรื่องแต่งอิงการเมือง อ่านสนุกๆ ก็แล้วกัน พันธะสัญญาแห่งเผ่าพันธุ์ 1. บังคับให้มีลูกเพื่อเพิ่มจำนวนประชากร ทุกคู่สมรสต้องมีบุตรไม่ต่ำกว่า 3 คน หากฝ่าฝืนจะถูกริบสิทธิขั้นพื้นฐาน เช่น อาหาร ที่อยู่อาศัย และการรักษาพยาบาล รัฐจะติดตามภาวะเจริญพันธุ์ทุกเดือน หากไม่มีความคืบหน้า จะมีเจ้าหน้าที่ "เร่งผลผลิต" เข้าดำเนินการ 2. ให้เด็กติดยาเพื่อควบคุมได้ง่าย ยาเสพติดชนิดพิเศษ "ซับมิสซิน" จะถูกแทรกในอาหารเด็กอายุ 5 ปีขึ้นไป เพื่อทำให้พวกเขาเชื่อง ชินกับการเชื่อฟัง และขึ้นตรงต่อรัฐ พ่อแม่ที่พยายามปฏิเสธจะถูกแยกเด็กออกและส่งเข้าศูนย์ฟื้นฟู "ความจงรักภักดี" 3. เด็กไม่เชื่อฟังก็จับฆ่าทิ้ง หากเด็กคนใดถูกตรวจพบว่ามีแนวโน้มต่อต้านอำนาจ หรือมีค่าความดื้อเกินระดับที่ 5 จากระบบ AI คัดกรอง พวกเขาจะถูกส่งเข้าสู่ "โปรแกรมชำระล้าง" ซึ่งจะเป็นการกำจัดทางชีวภาพเงียบ ๆ และไม่มีบันทึกในทะเบียนประชากรอีกต่อไป 4. ลบความทรงจำของเด็กทุกปี เพื่อไม่ให้สร้างตัวตน เมื่อเด็กมีอายุครบ 7 ปี และต่อจากนั้นทุกปี ระบบจะทำการลบความทรงจำระยะยาวเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเชื่อมโยงความคิดอิสระหรือการตั้งคำถามกับอดีต ครอบครัวจะต้องโกหกกับเด็กว่า "นี่เป็นชีวิตปกติ" โดยเด็กจะอยู่ในลูปของการเรียนรู้ใหม่ซ้ำทุกปี เหมือนเครื่องจักรที่ไม่มีวันรู้ว่าตนเองเคยคิดต่าง 5. สร้าง "เกมชีวิต" ให้เด็กฆ่ากันเอง เพื่อคัดกรองผู้ภักดี เด็กอายุ 10 ปีขึ้นไปจะถูกบังคับเข้าร่วมเกมจำลองชีวิต ที่ต้องเผชิญกับภารกิจที่มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่รอดจากกลุ่ม 10 คน (ตัวเลขสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม) เด็กที่รอดถือว่าภักดี ฉลาด และคู่ควรจะเติบโต ส่วนเด็กที่ตาย จะถูกประกาศว่า "ล้มเหลว" และถูกลืมจากระบบ 6. ฝังเครื่องกระตุกไฟฟ้าที่ลิ้น เพื่อปรับพฤติกรรมการพูด เด็กทุกคนจะได้รับการฝังอุปกรณ์ขนาดจิ๋วไว้ใต้ลิ้นที่เรียกว่า "ลิ้นแห่งความจงรักภักดี" (The Tongue of Obedience) โดยเชื่อมต่อกับฐานข้อมูล AI กลางของรัฐ ซึ่งจะสแกนทุกถ้อยคำที่พูดออกมา หากเด็กใช้คำต้องห้าม เช่น "อิสระ", "ทำไม", "หนี", "แม่จริงๆ ของฉันอยู่ไหน" หรือแม้แต่แค่ ตั้งคำถามเกินระดับ 3 อุปกรณ์จะปล่อยกระแสไฟฟ้าขนาดต่ำเข้าไปในปลายลิ้นทันที ทำให้เกิดความแสบ ร้อน เจ็บจนพูดต่อไม่ได้ และจิตใต้สำนึกจะเริ่ม เชื่อม "คำถาม" เข้ากับ "ความเจ็บปวด" โดยอัตโนมัติ เมื่อเด็กเข้าสู่ระบบการศึกษา จะถูกสอนให้ใช้แต่คำพูดเชิงรับคำสั่ง เช่น "ค่ะ/ครับนาย", "ฉันผิดเอง", "ขอบคุณที่ให้มีชีวิตอยู่" "เด็กที่เงียบ คือลูกที่ดี เด็กที่คิด คือภัยของแผ่นดิน" 7. เปลี่ยนครอบครัวทุก 3 ปี เพื่อทำลายความผูกพัน ความรักในครอบครัวคือเชื้อเพลิงแห่งอิสรภาพ ความทรงจำ และการปกป้องซึ่งกันและกัน ดังนั้น เด็กทุกคนจะถูกย้ายครอบครัวใหม่ทุก 3 ปี โดยรัฐจะบังคับล้างสมองทั้งพ่อแม่และเด็ก ให้ลืมความสัมพันธ์เดิม ผ่านการฉีดยา "อินโนคิวม่า" ที่ลบความรู้สึกผูกพัน พ่อแม่ใหม่จะได้รับ "บทบาทใหม่" และเด็กจะได้รับชื่อใหม่ทุกครั้งที่ย้าย ชีวิตกลายเป็นบทละครไม่มีจุดเริ่มต้น ไม่มีตอนจบ "จงเติบโตในโลกที่ไม่มีใครเป็นของใคร เพราะความเป็นเจ้าของคือเงื่อนไขของการสูญเสีย" 8. ฝังอุปกรณ์ควบคุมในสมองเด็กก่อนอายุ 5 ปี เด็กทุกคนจะถูกฝังชิป NEXUS-Ω ภายในสมองส่วนล่าง ซึ่งเชื่อมต่อกับเครือข่ายควบคุมกลางของรัฐ ชิปจะตรวจจับความคิดกบฏ พฤติกรรมต่อต้าน และความฝันที่ไม่อนุญาต หากตรวจพบความผิดปกติ ชิปจะปล่อยคลื่นสั่นประสาทเพื่อกระตุ้นความเจ็บปวด เด็กบางคนหัวเราะออกมาไม่ได้อีกเลย เพราะเพียงแค่จิตใต้สำนึกเริ่มจินตนาการถึง "อิสระ" พวกเขาจะทรุดลงไปกองกับพื้น ด้วยคลื่นแห่งโทษทัณฑ์ นี่เป็นความคิดปีศาจของผู้ใหญ่ในประเทศนี้ที่ต้องการควบคุมเด็กแบบเบ็ดเสร็จ แม้จะเป็นแค่เรื่องแต่ง และยังไม่เป็นจริงแต่ก็เริ่มมีแนวคิดแบบนี้ถึงขนาดกล้าพูดว่าจะฆ่าลูกตัวเอง ถ้าไม่เชื่อฟังออกโทรทัศน์ออกมาแล้ว "เด็กแบบนี้เอาไว้ไม่ได้หรอก" "เป็นลูกผม ผมฆ่ามันไปแล้ว" To voter บล็อกนี้เป็นบล็อก Political Blog โปรดเลือก Political Blog เพื่อเป้าหมาย Skyfall Political Blog
หลายประเทศ ขนาดยังไม่ได้ทำถึงขั้นนั้น ก้ใกล้เคียงแล้วนะครับ
เพื่อนบ้านเราก็เริ่มกลัว เนปาลโมเดลกันบ้างแล้วละนะครับ555 ![]() โดย: multiple
คิดในแง่ร้ายได้ แต่อย่าง
มองทุกสิ่งในแง่ร้ายเลยจ้า ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() โดย: หอมกร
อ่านแล้วทำให้ผมนึกถึงหนังสตาร์เทร็ค
ตอนที่ดวงดาวของสป๊อคระเบิดแล้วครอบครัวสป๊อคอยากให้ออกจากสตาร์ฟรีทไปขยายเผ่าพันธุ์เลยครับ แหม่ ฟังทีแรกก็ดูจะเป็นหน้าที่ความรักผิดชอบที่ดูดี 55555 แต่อย่างที่คุณบอกครับ การเพิ่มจำนวนประชากรมันง่าย แต่การจะสร้างประชากรที่มีคุณภาพนี่โคดยากครับ เพราะประเทศไทยเรามีค่าเทอมเป็นเหมือน "ยาคุมกำเนิด" โชคดีที่เด็กยุคนี้ถูกประตุ้นให้คิดและแสดงออกซึ่งความคิดครับ ผมเชื่อว่า ถ้าพวกเค้าเติบโตขึ้นพร้อมๆ กัน แนวคิดแบบนี้จะเปลี่ยนสังคมของเราได้ครับ อย่างน้อยๆ ก็เกิดกับสถาบันครอบครัวเป็นอย่างแรก ไม่เหมือนกับคนเจนวาย ที่เราถูกสอนให้ไม่คิดต่าง ขนาดในห้องเรายังไม่อยากยกมือตอบเลย 55555 จากบล๊อก 5555 จริงๆ ผมเป็นคนชอบทำอะไรมีแผนนะครับ แต่ปีศาจในตัวมีความยืดหยุ่นสูงมาก พอเจอเรื่องอะไรไม่เป็นตามแผน ไอ่ปีศาจก็พาดิ้นแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปเรื่อยทุกที แล้วผมก็ชอบผลลัพธ์ซะด้วย55555 โดย: จันทราน็อคเทิร์น
เอาเข้าจริงตอนนี้แม้จะไม่เหมือนซะทีเดียวแต่ก็เริ่มมีแนวโน้มนะ อย่างพวกกัญชา บุหรี่ไฟฟ้า เด็กๆ เสพกันสนุกเลย
โดย: คุณต่อ (toor36
สวัสดีค่ะ
ถ้ามันเกิดขึ้นจริงเราคงต้องหนีออกจากประเทศนี้ไปแน่ๆ ![]() โดย: tanjira
|
BlogGang Popular Award#21
![]() สมาชิกหมายเลข 7115969
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]บทความทั้งหมด
|












ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [
ผมว่าคนคงทิ้งประเทศนี้ไปจนหมด
หรือไม่ก็ทนไม่ไหว
จนต้องจับอาวุธขึ้นสู้แน่ๆ
เพราะอยู่ไปก็เลวร้ายกว่าตายครับ