ถูกตั้งชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Ardea purpureaในปี 1766 โดยนักธรรมชาติวิทยาชาวสวีเดน Carl Lineaus บิดาแห่งอนุกรมวิธาน ที่เป็นรากฐานมาจนถึงปัจจุบัน
กำหนดชื่อสิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดในทางวิทยาศาสตร์เป็นภาษาลาติน เพราะเป็นภาษาที่ตายไปแล้ว แม้เวลาผ่านไปความหมายก็ยังคงเดิม โดยนำหน้าด้วย genus (สกุล) ตามด้วย species (ชนิด) Ardea คือนกยาง และ purpureaคือสีม่วงแดง
เมื่อเวลาผ่านไปมีการพบว่า สิ่งมีชีวิตแต่ละสายพันธุ์ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว มีความต่างกันเล็กน้อยไปตามภูมิภาค ทำให้ต้องมีการเพิ่ม sub species นกกระสาแดงในปัจจุบัน ถูกแบ่งออกจากกันเป็น 4 ชนิดย่อย
กลุ่มแรกเรียกว่า นกกลุ่มตะวันตก (A. p. purpurea) พบนกในฤดูผสมพันธ์ในยุโรปไปจนถึงคาซักสถาน จนถึงฤดูหนาว ก็จะบินลงมาทางใต้ หากินร่วมกับนกประจำถิ่นในทวีปแอฟริกาเหนือ
กลุ่มที่สามเรียกว่า นกกลุ่มใต้ A. p. madagascariensis พบในเกาะมาดากัสการ์ ทางตะวันออกของแอฟริกา
และนกกระสาแดงชนิดย่อยสุดท้าย A. p. bournei พบเฉพาะที่หมู่เกาะ Cape Verde ทางตะวันตกของแอฟริกา ปัจจุบันยังไม่ได้ข้อสรุปว่า จะยังเป็นนกกระสาแดงชนิดย่อย หรือว่าจะถูกตั้งเป็นนกชนิดใหม่ว่า Bourne's heron (A. bournei)
บึงบรเพ็ด 15/2/2568
ปี 1951 Dr William Bourne แพทย์และนักปักษีวิทยาชาวอังกฤษ เดินทางมาสำรวจนกที่หมู่เกาะ Cape Verde เมื่อถึงเกาะ Santiago ได้สังเกตว่า นกกระสาแดงที่เกาะนี้แตกต่างไปจากที่แผ่นดินใหญ่ Bourneส่งตัวอย่างนกไปยังปารีส
หนึ่งปีต่อมา René de Naurois นักบวชและนักปักษีวิทยาชาวฝรั่งเศส ให้ความเห็นว่า นกตัวนี้สีจางกว่านกกระสาแดงที่พบโดยทั่วไป ควรตั้งเป็นชนิดย่อยใหม่ A. p. bournei และตั้งชื่อสามัญเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ค้นพบว่า Bourne's heron
เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้เห็นแล้วครับ