Thailand Mega Flood 2011 : ขอบคุณชาวนนทบุรี วันนี้ไปรับน้องแอปเปิ้ลเขียวจากเซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์มาจอดที่ทำงาน หลังจากต้องไปตากแดดบนชั้นดาดฟ้า มาตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม 2554 จำได้ว่าคืนนั้นนั่งรถสาย 18 กลับมาแล้วพบว่า มีการปิดถนนไปจรัลสนิทวงศ์ เนื่องจากกำแพงบ้านซอยจรัล 80 ริมน้ำเจ้าพระยาพังลงมากว่า 40 เมตร เศร้าใจที่คนๆ หนึ่งไม่ยอมให้ กทม สร้างคันกั้นน้ำตามแนวพระราชดำริ แล้วทำให้คนทั้งเขตต้องจมอยู่ใต้น้ำ แต่สิ่งหนึ่งที่มากไปกว่านั้นก็คือ เมื่อ กทม ขนกระสอบทรายมาเพื่อจะทำการปิดซอยไม่ให้น้ำออกมาที่ถนน ชุมชนที่อยู่ในซอยนั้นรวมตัวกันประท้วง ไม่ยอมให้มีการดำเนินการใดๆ เหตุผลก็คือข้างในเป็นบ้านชั้นเดียว ถ้ากั้นแล้วน้ำคงท่วมหนักทั้งชุมชน คนที่บ้านน้ำไม่ท่วมอย่างผมคงพูดแทนคนที่บ้านน้ำท่วมไม่ได้ แต่ก่อนหน้านั้น ฝั่งพระนครก็มีคันกั้นน้ำแตกหลายจุด ที่เป็นข่าวออกทีวีคือที่โรงเรียนราชินีบน น้ำทะลักบนถนนเขียวไข่กา แต่สิ่งที่ชุมชนทำก็คือช่วยกันเอากระสอบทราย มากั้นที่ปากซอยไม่ให้น้ำมาท่วมถนน เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงก็ระดมกันหา กระสอบทรายในพื้นที่ใกล้เคียงมาเสริม และลำเลียงคนออกมาภายนอก พวกเค้ายอมเสียสละที่จะปิดกั้น เพื่อรอความช่วยเหลือที่มาตามถนนใหญ่ และสุดท้ายเมื่อน้ำลดระดับลง ก็มีการเข้าไปการกั้นกระสอบทรายในโรงเรียน โดยยอมปล่อยให้บางส่วนจมน้ำ ในซอยก็กั้นกระสอบทรายแล้วสูบน้ำออก ทุกอย่างจบลงที่ถนนกลับมาแห้งเหมือนเดิม และคนที่อยู่ภายนอกไม่ต้องอพยพ ที่นี่ไม่ใช่ที่แรกที่ทำเช่นนี้ ทุกปีคนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำก็โดนน้ำท่วม อยู่เป็นประจำ และก็เป็นเรื่องปรกติที่ชุมชนริมน้ำจะยอมให้บ้านน้ำท่วม ขังน้ำไว้ในพื้นที่จำกัด แล้วทอดสะพานในซอยเพื่อจะเดินออกมาที่ถนนหลัก วัดปากน้ำที่อำเภอเมืองหรือวัดสลักเหนือที่ปากเกร็ดก็ถูกน้ำท่วมมานานนับเดือน สิ่งที่ทำให้การเสียสละของคนเหล่านี้ ไม่กลายเป็นความสูญเปล่า ก็คือการทำงานอย่างหนักของเทศบาลเมืองนนทบุรีและนครปากเกร็ด และการมีส่วนร่วมของคนในพื้นที่ทั้งสอง เช่น การกรอกกระสอบทราย ผมเองแม้จะไม่ใช่คนจังหวัดนี้ แต่การทำทุ่มเทของคนจังหวัดนนทบุรี ก็เหมือนปราการคุ้มภัย จาก อบต หลักหกที่ยังคงเหนียวแน่นทางเหนือ เลาะเรื่อยผ่านแนวกระสอบทรายทางทิศตะวันตกมาตามแม่น้ำเจ้าพระยา จนถึงคันดินกั้นน้ำริมคลองประปามิให้ไหลทะลักเข้ามาจากแนวตะวันออก หากจังหวัดนนทบุรีไม่สามารถปกป้องพื้นที่เอาไว้ได้ เขตบางซื่อที่ต่ำลงมา ก็คงท่วมไปแล้ว เพราะแนวคันกั้นน้ำที่เหล่าผู้เชี่ยวชาญวาดสวยหรูในทีวี ว่ากรุงเทพจะมีถนนนั้นถนนนี้เป็นตัวปกป้อง วันนี้ถูกพิสูจน์แล้วว่าแม้ถนน นั้นจะสูงเพียงใด สุดท้ายน้ำก็สามารถจะหาจุดอ่อนและผ่านไปได้ทุกครั้ง สิ่งที่เป็นความจริงเพียงหนึ่งเดียวที่ปกป้อง กทม มิให้จมน้ำอย่างได้ผล ก็คือคันกั้นน้ำในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ยังคงแบกรับมวลน้ำมหาศาลอยู่ริมสองฝั่งน้ำเจ้าพระยาอย่างทรหด สมดั่งที่พระองค์ได้ตั้งพระราชหฤทัยไว้ หลังน้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ ผมคิดว่าจะไปลงชื่อถวายพระพรพระองค์ที่โรงพยาบาลศิริราชสักครั้ง แต่สิ่งที่ผมตอบแทนชาวนนทบุรีได้โดยไม่ไต้องรอหลังน้ำลด คือการไปกรอกกระสอบทรายที่วัดหงษ์ทอง ในวันที่ 30 ต.ค. 2554 เนื่องจากการไปทำงานเลอะๆ จึงไม่ได้คิดว่าจะเอากล้องไปถ่ายรูปเอง จึงต้องขอยืมรูปมาจากสมาชิกที่ไปในวันนั้น ในรูปที่สองนี้ ถ่ายติดผมด้วยล่ะ @@ภาพชุดล่าสุดที่วัดหงษ์ทอง ของจิตสาอาป้องกันปากเกร็ด@@ เดี๋ยวจะเพ่งหาเพื่อนหน่อยจ้า
โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 14 พฤศจิกายน 2554 เวลา:16:00:09 น.
เราไม่เห็นเพื่อนเลย เพราะเราไม่รู้ว่าคนไหน ..
เดาไม่ถูก แต่รูปที่เขาถ่ายเดี่ยว ๆ ของ action ของแต่ละคนสวยมากค่ะ โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 14 พฤศจิกายน 2554 เวลา:16:07:32 น.
เซนต์เบอร์นาด น่ารักค่ะ เราสงสารที่มันมาอยู่เมืองร้อน
มีนายทหารเลี้ยงอยู่ใกล้ ๆ สนามกอล์ฟ เวลาร้อนๆ เธอเดินลงน้ำไปเลย โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 14 พฤศจิกายน 2554 เวลา:16:38:21 น.
สวัสดีค่ะ
ตอนนี้เราอยู่เชียงใหม่ มาซ่าแถวหัวเมือง ถิ่นเก่าเราเอง โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 16 พฤศจิกายน 2554 เวลา:10:59:04 น.
|
บทความทั้งหมด
|