วิ่งเส้นวิภาวดีถึงรังษิต ขับไปเรื่อยๆไม่รีบ สภาพการจารจรติดนิดหน่อยแต่ยังไม่มากเท่าไหร่ เลยไปถึงคลองสิบ รถค่อยโล่ง ใครไม่เคยไปให้มองป้าย ไปนครนายก ขับตามป้ายไปเรื่อยๆ ไม่หลงครับ (เส้นทาง 305) ถึงตัวเมืองเมืองนครนายก ขับต่อไปปราจีนโลด

ผมมาถึงตัวเมืองนครนายก 10.00 น. ระยะทาง 100 ก.ม.พอดีครับ







จากป้ายข้างบน ขับประมาณ 30 ก.ม.ก็มาถึงปราจีนแล้วครับ

ถึงปราจีน จะมีที่เที่ยวเพียบ ที่ดังๆก็จะมี ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร- พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์ - โบราณสถานเมืองศรีมโหสถ เอาแผนที่เที่ยวปราจีนมาฝากครับ ใครสนใจตรงไหนก็แวะได้ตามสบายเลยครับ

แผนที่จาก เวปท่องเที่ยวปราจีนบุรีคลิ๊กเลย






ผมไม่ได้แวะเที่ยวในตัวเมืองปราจีน ออกจากนครนายก ก็ขับตรงมาถึงวงเวียนศาลสมเด็จพระนเรศวร เลี้ยวซ้ายไปทางเขาใหญ่ จุดแรกที่ผมแวะคืน ดาษดา แกลอรี่ จากแยกวงเวียน มาดาษดา ประมาณ 8 ก.ม. ดาษดา แกลอรี่ จะอยู่ทางด้านขวามือ ใครผ่านเส้นนี้จะเห็นชัดเจน

ส่วนอากาศฝนหยุดตกแล้วแต่ท้องฟ้าไม่แจ่มอย่างที่เห็น ดีตรงที่ไม่ร้อน






จากนนท์มาถึงดาษดา แกลอรี่ ประมาณ 130 ก.ม.เวลา 10.30 น. 

ช่วงที่จัดงานดอกไม้ ประมาณต้นปี เก็บค่าเข้าคนละ 200 บาท แต่เมื่อวานผมไป ไม่เก็บค่าเข้า เห็นตอนนี้กำลังเตรียมจัดงานเทศกาลดอกไม้ Floral Coral ช่วง 5 ธ.ค.55-17 ก.พ.56 (จากโบชัวร์) ใครสนใจก็ลองเข้าไปดูในเวปเค้าได้ครับ

จอดรถได้เดินไปหน่อยก็ถึงแกลอรี่ ครึ้มมาเชียวนะ

เวป ดาษดา แกลอรี่





ด้านหน้าเข้าตัวแกลอรี่ครับ เป็นอาคารโล่ง




หน้าอาคารจะจัดสวนดอกไม้อยู่ข้างหน้าไว้ให้ถ่ายรูปสวยๆ 















ผมถ่ายรูปข้างหน้ายังไม่ครบเลยครับ แฟนเรียกให้เข้าไปถ่ายข้างใน บอกขอมุมนี้ก่อนเลย จัดไป






ส่วนข้างในจะเป็นจุดจำหน่ายสินค้าของ ดาษดา




ดอกไม้สวยๆทั้งนั้นเลย ดอกลิลลี่





นี่ก็สวย





จัดอยู่ในแจกันไว้จำหน่ายให้นักท่องเที่ยว




แจกัน กระถางดอกไม้ มีหลายสี หลายแบบให้เลือกครับ





ตุ๊กตาหมีก็มีไว้ให้จำหน่าย เห็นมีหลายตัวอยู่




ราคาผมไม่ทราบครับ ถ่ายรูปอย่างเดียว ส่วนใครได้ของถูกใจก็มาจ่ายกะตังค์ตรงนี้





ชิงช้าน่านอนจัง จัดไว้ข้างหน้าสำหรับคุณผู้ชายหรือน้องๆที่รอ แม่บ้านเค้าเลือกซื้อดอกไม้





ดูสินค้าเสร็จ ออกไปเดินในส่วนที่เค้าจัดดอกไม้โชว์กันดีกว่าครับ





ตอนแรกผมนึกว่าดอกไม้ปลอมซะอีก ดอกจริงทั้งหมดเลยนะครับ ของจริงสวยกว่าที่เห็นอีก





มองจากด้านนอกเข้าไปใน Shop ครับ





ภายในบริเวณอาคารที่จัดสวนดอกไม้ครับ





ด้านหลังเดินออกไปทะลุอีกอาคารครับ




ภายในอาคารจะทำทางเดินให้ชมสวนดอกไม้

ประเภทไม้ใบ





ไม้ดอกบ้าง









มุมเก๋ๆ



เอาดอกเดี่ยวมาให้ดูบ้าง

แบบเป็นช่อ










ภายในอาคารจะมี coffee shop ไว้บริการกาแฟ ขนมเค้ก 





ราคาไม่แพงครับ แต่ผมไม่ได้อุดหนุนอ่ะ 







ภายในแต่ละโต๊ะ จะจัดดอกไม้วางไว้ทุกโต๊ะ มีหลายสี น่ารักดีครับ

ข้างในผมถ่ายไม่กี่รูปเอง เกรงใจลูกค้าท่านอื่น







บรรยากาศภายใน coffee shop





มีมุมนั่งเล่นชั้นบนด้วยครับ









มุมนี้น่านอนเล่นจัง





ถ่ายจากชั้นบนครับ











ออกจากอาคารแรก ก็จะมีทางเชื่อมไปอีก อาคารหนึ่ง

อาคารที่เห็นคือที่ผมเพิ่งเดินออกมา









เดินออกจากอาคารจะเป็นห้องน้ำ กิ๊บเก๋มาก อยู่ระหว่างทางเชื่อมอาคาร







ภายในห้องน้ำผู้ชายครับ โปร่งโล่งสบายตาจัง 






มีดอกไม้ทุกมุม




ส่วนของที่พักของ ดาษดา เค้าจะกันให้เฉพาะแขกที่เข้าไปพัก 

ผมเคยไปพัก 1 คืนประทับใจมาก ลองดูในบล็อกผมได้ //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=nongmalakor&month=02-2014&date=16&group=16&gblog=40





มาดูอีกอาคารครับ โซนนี้จะเปิดโล่ง แต่ยังจัดดอกไม้ไม่เยอะ คิดว่าเดือนธันวาคงพร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยว





ยังเป็นโครงอยู่เลย




ยังโล่งอยู่ครับ







โรงเพาะชำ เป็นห้องกระจก ผมไม่ได้เข้าไป ถ่ายข้างนอก





ด้านหน้าอาคารครับ คนละส่วนกับโรงแรม ใครพักที่โรงแรมจะมีรถรับส่งระหว่าง แกลอรี่กับที่พัก







ได้เวลาไปเที่ยวที่อื่น ใครสนใจ ที่พักหรือจะไปเที่ยวชมดอกไม้แกลอรี่ ก็ลองเปิดเวปเค้าดูเอาเองนะครับ ตอนผมไปโทรถาม เจ้าหน้าที่บอกว่า เก็บค่าเข้าคนละ 50 บาท แต่พอไปจริงๆ ไม่เก็บตังค์ 

ลานจอดรถกับแกลอรี่เดินไม่ไกล 




ผมออกจากดาษดา ประมาณเที่ยง ขับขึ้นไปทางเขาใหญ่ ประมาณ 3 ก.ม.ก็ถึงด่านเขาใหญ่ เก็บค่าเข้าคนละ 40 บาท ค่ารถอีก 50 บาท 2 คนรวมรถ 130 บาท

แอบถ่ายนักท่องเที่ยว ขับ Big Bike ถ่ายกับป้ายครับ





เอาแผนที่เขาใหญ่มาฝาก

เวปที่เที่ยว เขาใหญ่ คลิ๊กเลย





ขับมาเรื่อยๆ ประมาณยี่สิบนาทีก็มาถึง น้ำตกเหวนรก (จากนนท์มาถึงตรงนี้ 145 ก.ม.)




นักท่องเที่ยวไม่ค่อยเยอะ สงสัยกลัวฝน แต่ก็มาเรื่อยๆ





ทางเดินจากป้อม เดินไปน้ำตก ระยะทาง 1 ก.ม.จะทำทางลาดปูนตลอด เดินสบายมาก จะมีช่วง 200 เมตรสุดท้าย ทางจะชันและสูง แต่เป็นบันไดปูน ลงไปชมน้ำตกได้




ทางลาดปูนตลอดครับ มีสะพานข้ามแม่น้ำ 2 จุดครับ











ระหว่างทาง เดินเพลินๆ ฟังเสียงน้ำตก เสียงแมลง ชมนก ชมไม้ ชีวิตไม่รีบ เดินไปเจอเห็ดแชมเปญ ส่องมาไม่กี่รูปเองครับ ขี้เกียจก้มๆเงยๆ ไม่ไหวหน้าจะมืดเอา 

เดินมาเรื่อยๆ แล้วก็มาถึง ศาลา ช.ช้าง 

อีก 200 ม.จะเป็นทางลงไปชมน้ำตกเหวนรก ทางลงจะชันมาก เดินด้วยความระมัดระวังแล้วกัน 









น้ำตกแรงได้ใจจริงๆ แถมละอองน้ำเยอะมาก เย็นชื่นใจจริงๆ









ยืนดูน้ำตกได้ซักพัก รับละอองน้ำช่ำใจเสร็จก็ได้เวลาเดินกลับ ให้ดูทางขึ้นชัดๆอีกทีครับ แต่ไม่ต้องกลัว เดินสบายครับ ไม่ยาก





ป้ายนี้ก่อนลงไปชมน้ำตกข้างล่างครับ

ขากลับเจอเห็นแชมเปญเพียบเลย 














มาถึงลานจอดรถ เห็นนักท่องเที่ยวกินมาม่า หอมยั่วใจเหลือเกิน จัดไป มาม่าคัพ 1 ถ้วย เลย์ 1ถุง น้ำเปล่ 1 ขวด รองท้องไปก่อน ทั้งหมด 55 บาท





ได้เวลาออกจากน้ำตกประมาณ บ่ายโมงครึ่ง เพื่อจะลงเขาใหญ่ทางปากช่องระหว่างทางถนนจะลาดยางตลอด เรียบอย่างที่เห็น

ผ่านจุดชมวิว ผาเดียวดาย จุดกางเต้นท์ จุดชมนก เยอะครับ ใครสนใจจะแวะตรงไหนก็ตามสบาย ส่วนผมยิงยาว









แวะที่ว่าการอุทยานซะหน่อย







ลงไปได้กวางมาตัวนึงครับ กำลังเล็มหญ้าอยู่ใกล้ถังขยะ





ไม่ได้ขึ้นมานานแล้ว ถนนดีมากเลยครับ ขับเรื่อยๆเพลินดี





แวะจุดชมวิวหน่อย ครึ้มทั้งวันเลยนะ ดีว่าฝนไม่ตก









ระหว่างทางลงมีต้นไม้ล้ม เลยรอเจ้าหน้าที่มาตัดต้นไม้ออก รอประมาณ 15 นาที

ใครอยากเที่ยวต่อ ลงเขาใหญ่ให้เลี้ยวขวาไปทางวังน้ำเขียว ผ่านอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง เขาแผงม้า จะมีร้าน a cup of love ขายกาแฟ ตกแต่งร้านน่ารักๆ มีมุมให้ถ่ายรูปสวยเยอะ ก่อนถึงร้านกาแฟ จะมีไร่องุ่นธันยพร มีร้านอาหารอร่อยๆหลายเจ้า ขับไปถึงวังน้ำเขียวแล้วเข้า กบินทร์บุรี เข้าปราจีน หรือไปบางคล้า ฉะเชิงเทราก็ได้

ผมตั้งใจไปถ่ายรูป กินข้าวที่ ปาริโอ้ แต่พอขับไปถึง โห้...คนเพียบเลย ขอขับผ่านไปแล้วกัน ขี้เกียจแวะ ผ่าน The Smoke House ว่าจะลงไปถ่ายรูป ก็ขี้เกียจ ขับกลับเลยแล้วกัน 

ถึงไร่ข้าวโพดสุวรรณแวะหน่อยแล้วกัน

น้ำนมข้าวโพด 6 ขวด 90 บาท

ข้าวโพดต้ม 4 ถุง 140 บาท

ผักสลัด 1 ถุง 30 บาท

แหนมเห็ด 1 ถุง 100 บาท

แหนมหมูขนาดกลาง 2 ชิ้น 70 บาท

ทั้งหมด 430 บาท












ได้ของกลับบ้านก็ขับตรงมาเรื่อยๆ ก็มาถึง แดรี่โฮม แล้วครับ เคยกินมาสองครั้ง แต่นานแล้ว วันนี้ขอชิมอีกซักมื้อแล้วกัน

















จานนี้อของผม สตริปลอยน์ สเต็กเนื้อ สุกปานกลาง มันติดขอบ อร่อยดีครับ แต่กินมากแล้วเลี่ยน 





สเต๊กปลาแซลมอน ของแฟนผมครับ





ต่อไปเป็น ไส้กรอก 1 จานเลือกได้ 2 ชิ้น เสิร์ฟพร้อมมันฝรั่งทอดและผักดอง

ไส้กรอกกระเทียม Garlic sausages
เราแอบซ่อนกลีบกระเทียมในเนื้อไส้กรอกที่แน่นไปด้วยรสชาดแสนอร่อย

ไส้กรอกโชลิโซ Cholizo sausages
ไส้กรอกหมูที่ใส่หอมหัวใหญ่ พริกหวานและเครื่องเทศรสจัดจ้าน
ไส้กรอกกระเทียม เหมือนไส้กรอกอีสาน





เมนูสุดท้าย ของแฟนผม สปาเก็ตตี้ต้มยำกุ้ง จานนี้อร่อยเลยครับ





ค่าเสียหาย รวมน้ำเปล่า 1 ขวด น้ำแข็ง 2 แก้วทั้งหมด 1,080 บาทรวมทิปพอดี 1,100 บาท

ได้เวลากลับบ้านแล้วผมออกจากร้านสเต็กประมาณ 16.30 น.ที่ระยะทาง 226 ก.ม. ขับมาเรื่อยๆเข้าสระบุรี มาขึ้นทางด่วนอุดรรัถยา ลงแจ้งวัฒนะ ถึงบ้าน หนึ่งทุ่มพอดี ระยะทางทั้งหมด 369 ก.ม. หมดน้ำมันไปหนึ่งขีด สบายๆสำหรับทริปนี้ ไว้มีโอกาสจะไปเที่ยวใหม่ครับ