วันเสาร์ที่ 30 ก.ค.54

ย้อนดูวันแรก คลิ๊กเลย

เวปโรงแรมครับ //www.presidenthotelthailand.com/





จากป้ายก็เป็นทางเข้าโรงแรมครับ ทางขวาจะเป็นที่จอดรถของโรงแรม





จากที่จอดรถเดินตรงไปจะเข้าไปยังส่วนของโรงแรม

ตรงไปทางซ้ายมือจะเป็นห้องอาหารครับ



โรงแรมจะมีสองส่วนครับ ส่วนแรกทางด้านซ้ายชั้นล่างจะเป็นส่วนประชาสัมพันธ์และห้องอาหาร ส่วนชั้นสองและชั้นสามจะเป็นห้องพัก





อีกส่วนจะอยู่ตรงกันข้าม จะเป็นห้องพักทั้งหมด มีสองชั้นครับ





ตรงไปก็จะเป็นทางเข้าส่วนประชาสัมพันธ์และห้องพัก

ระหว่างตึกจะจัดสวนร่มรื่นดี





Information ไม่ใหญ่แต่จัดได้น่ารัก


ติดต่อเสร็จได้กุญแจห้องมาแล้ว





ทางเดินเข้าห้องพัก





ระหว่างทางจะมีศิลปะบ้านเชียง จัดวางได้สวยดีครับ







เข้าไปดูในห้องบ้างครับ จะเป็นเตียงคู่ มีขนาดควีน ไซด์กับขนาด 3 ฟุตครึ่งให้ น้ำ - ไฟ - แอร์ ไม่มีปัญหา อุปกรณ์มีพร้อมให้ตามมาตรฐานโรงแรม ผ้าต่างๆสะอาดดี ห้องไม่มีกลิ่นเหม็นอับใดๆ ห้องถือว่าโอเคเลยครับ


มาดูสระว่ายน้ำกับบริเวณโรงแรม ถ่ายจากห้องที่ผมพัก

เช้านี้แม่ผมมาปลุกให้ไปเล่นน้ำเป็นเพื่อน จัดไป

เล่นน้ำได้ซักพัก ประมาณเจ็ดโมงกว่าๆ ฝนก็เริ่มตกปรอย หลังจากนั้นก็เข้าห้องเปลี่ยนชุด สมาชิกคนอื่นต่างแต่งตัวรอลงไปทานอาหารเช้าในโรงแรม

บรรยากาศห้องอาหาร




ที่พักจะรวมอาหารเช้าให้ด้วย เป็นบุฟเฟ่ต์ 

ไลน์อาหารมีหลายอย่างมาก อร่อยอีกต่างหาก











มีไข่กระทะด้วยครับ จะเอาไปตั้งทอดข้างนอกภายในห้องอาหาร ทำให้ไม่มีกลิ่นควันรบกวน 

อิ่มเสร็จ สมาชิกพร้อม ประมาณเก้าโมงเข้าออกเดินทางไปสกล ขับออกเมืองไปได้หน่อยพายุนกเตนเข้าครับ แต่ก็ลุยต่อ


ขับมาได้ประมาณ 50 กม.ก็มาถึงบ้านเชียง (จากถนนหลักเลี้ยวซ้ายเข้าบ้านเชียงอีก 7 กม.) ขับไปถึงฝนตกหนัก สมาชิกไม่มีใครลงรถ บอกว่าไว้ขากลับค่อยมาแวะแล้วกัน ผมก็เลยขับออกไปวัดคำประมง จ.สกล

ระหว่างทางฝนยิ่งตกหนัก ใช้ความเร็วไม่ได้ต้องค่อยๆขับไป





11.00 น. ก็มาถึงวัดคำประมงครับ

วันนี้หลวงพ่อไม่ได้อยู่ที่วัดครับ ไปทำธุระที่ กทม. เสียดายจัง แม่ผมอยากเจอท่านมาก เลยฝากทำบุญ แล้วผมก็พาสมาชิกไปทัวร์วัดคำประมงเอง (ฝนยังตกอยู่เหมือนเดิม ไม่ได้ลงจากรถ นั่งชมในรถผมก็บรรยายไป) ทำบุญเสร็จก็พาไปกินร้านก๋วยเตี๋ยวเรือสูตรรังสิต สนใจข้อมูลวัดคำประมง ดูที่บล็อกของผมได้ครับ คลิ๊กเลย

หลังจากกินเสร็จก็ออกเดินทางเข้าสกล ฝนเริ่มซาบ้างแล้วครับ

ถึงแยกตรงนี้ผมก็เลี้ยวขวาครับ





ขับไปประมาณสิบกว่ากิโล ก็มาถึง





จากป้ายต้องขับขึ้นไปอีกประมาณห้ากิโล พอขึ้นไปถึงต้องจอดรถ แล้วเดินขึ้นเขาไปชมพระตำหนักอีกหนึ่งกิโล แม่ผมไม่สะดวก เลยไม่มีใครเดินขึ้นได้แต่มอง ไม่เห็นอีกต่างหาก เลยขับลงไปทำบุญที่วัดป่าสุทธาราช หลวงปู่มั่น





ทำบุญเสร็จก็ขับเข้าตัวเมืองสกล ฝนตกตลอด ได้แต่วนชมเมือง ตอนแรกผมตั้งใจพาไปกินที่ร้านเลิศรส แต่สมาชิกยังอิ่มอยู่เลยไม่ได้แวะกิน หลังจากนั้นก็ขับกลับ ระหว่างทางก็แวะที่วัด



เหมือนเดิมครับ ฝนตกหนัก ไม่ได้ลงจากรถเลย ถ่ายรูปก็ในรถนั้นแหละ เจอพายุเต็มๆ เสียดายจังเลย





จากนั้นสมาชิกบอกกลับไปนอนเล่นในห้องดีกว่า ขากลับว่าจะแวะที่บ้านเชียง สมาชิกตั้งใจจะซื้อของไปฝากเพื่อนๆ ที่ทำงาน ก็ไม่ได้แวะ แล้วอีกอย่างเวลาตอนนั้นก็ห้าโมงเย็นแล้ว เลยยิ่งยาวกลับอุดรครับ ระยะทางจากอุดร – สกลนคร ประมาณ 160 ก.ม.

มาถึงที่อุดรก็หกโมงกว่าๆแล้ว หิวกันถ้วนหน้า ขับรถวนหาร้านอาหารกัน หลงไปหลงมา เจอร้านนี้เป็นร้านข้าวต้ม เห็นคนแน่นดีเลยแวะซะหน่อย ชื่อร้านกันเอง อยู่แถวหนองประจักษ์ สั่งแหลก

มี มะระยัดไส้หมู, เป็ดตุ๋นมะนาวดอง, ไส้ เป็ดเลือดพะโล้ กุ๋ยฉ่ายขาวหมูกรอบ, ไส้ตันทอด, สะตอผัดกุ้ง, ผัดผักแม้ว,กุ้งชุบแป้งทอด, ไข่เจียวหมูสับ, ผัดผักบุ้ง, ยำปลาเค็ม หมดแล้วอะ 



























อิ่มแล้วคราวนี้ก็กลับเข้าโรงแรม ฝนตก หลับสบายเลย พรุ่งนี้ไปทำบุญที่วัดป่าภูก้อนต่อครับ  คลิ๊กเลย