ขอได้ไหมผู้ชายของเธอ :: ของ่ายๆ สั้นๆ ยกให้กันได้หรือเปล่า










สวัสดีค่ะ...


ห่างหายไปนานทีเดียวสำหรับการรีวิวหนัง ละคร ทั้งๆ ที่ส่วนตัว ก็ยังคงดูละครอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้หยุดได้หย่อน ส่วนมากเน้นไปทางซีรี่ย์เกาหลีซะมากกว่า ละครไทยก็มีบ้างนิดๆ หน่อย ส่วนหนังทางฮอลลิวูด ช่วงที่ผ่านมา ดูน้อยจริงๆ ค่ะ


จำได้ว่าช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา กระแสละคร ‘สามหนุ่มเนื้อทอง’ มาแรงเหลือเกินในเนท โดยเฉพาะในห้องเฉลิมไทย เวปพันธ์ทิพย์ กระทู้ต่อเนื่องกัน จนเกือบจะต้องเปลี่ยนชื่อห้องเป็นชื่อละครเรื่องนี้เลยทีเดียว

กระแสแรง ว่าด้วยเรื่องการสร้างตัวละครพระเอก นางเอก ที่กลม ที่จริง จนคนดูละครส่วนหนึ่งรับไม่ได้กับพฤติกรรมของตัวเอกในเรื่อง ตั้งแต่ตัวเอกชายที่นิสัยไม่ดี เจ้าชู้ เอาแต่หนีปัญหา ไม่สมเป็นพระเอก ส่วนนางเอกก็มีค่านิยมที่เปรี้ยวจัด เอาแฟนคนอื่นมาเป็นของตัว ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม


มันคือเรื่องของ 'คนที่ใช่ในเวลาที่เหมาะสม' หรือ 'คนที่ใช่ในวันที่ผิด' อันนี้ก็แล้วแต่คนจะมองและตัดสิน และหยิบจับเอาสาระสำคัญของมันออกมาได้มากน้อยแค่ไหน


ในส่วนตัว ฉันดูละครเรื่องนี้ก็คิดว่ามันสนุกดีค่ะ มีข้อคิดดีในบางเรื่อง แต่บางข้อคิดก็เหมือนดาบสองคม...เอาเป็นว่า เราเป็นคนเสพสื่อ ก็เลือกกันเองก็แล้วกัน ว่าจะเลือกหยิบดาบเล่มนั้นด้วยวิธีไหนเพื่อไม่ให้มีดมันบาดมือ













นึกย้อนไปตอนประมาณสี่เดือนก่อนโน้น ตอนอยู่บนเครื่องบินเพื่อบินกลับเมืองไทย ได้มีโอกาสได้ดูหนังเรื่องหนึ่งที่ไม่รู้จักมาก่อน คือ Something Borrowed (เพิ่งมารู้ที่หลังว่า) หนังเรื่องนี้ สร้างมาจากนิยายขายดีเรื่อง ขอได้ไหมผู้ชายของเธอ (55+ ชื่อเรื่องแซ่บเนาะ ฟังแล้วแสบทรวงเชียว)


หนังเรื่องนี้เปิดเรื่องมา เป็นเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่เมามายในวันเกิดของตัวเอง ซึ่งเพื่อนรักเป็นคนจัดให้ และด้วยความเมาจึงเผลอไผลได้เสียกับคู่หมั้นของเพื่อนสุดเลิฟ (ซึ่งผู้ชายคนนั้น คือผู้ชายในฝันที่เธอแอบรักมานานแสนนาน) ความสุขเพียงชั่วคราวนำมาซึ่งความวุ่นวายให้กับชีวิตและจิตใจ เพราะไม่รู้จะเลือกอะไรดี ระหว่างทำตามหัวใจตัวเอง หรือตัดหัวใจให้เพื่อนรัก จริงๆ เธอคงตัดสินใจง่ายขึ้น ถ้าไม่ใช่เพราะคู่หมั้นของเพื่อนนั้น หลังจากที่ได้มีสัมพันธ์กับเธอแล้ว เขาก็เพิ่งจะมารู้ตัว ว่าจริงๆ แล้ว คนที่เขารักมาตลอด ก็คือเพื่อนสาวของคู่หมั้นตัวเองนั่นเอง เรื่องราวสั้นๆ นี้ก็ยืดเยื้อ เพราะต่างฝ่ายก็ต่างยื้อๆ ยุดๆ ยักๆ ยั้งๆ กันอยู่เป็นนานแสนนาน


ตัวเอกหญิงราเชลนั้น ในส่วนของดารา ที่นำแสดงโดย Ginnifer Goodwin ฉันว่าเขาเลือกคนแสดงได้เหมาะสม เพราะเธอดูเป็นผู้หญิงที่ซื่อๆ เงียบๆ ไม่น่าหมั่นไส้ดี เลยทำให้บทนี้ไม่ดูน่ารังเกียจ ส่วนดาร์ซี่ เพื่อนรักของราเชล นำแสดงโดย Kate Hudson คนนี้ไม่ปลื้มเป็นการส่วนตัว เพราะไม่เคยถูกสเป็คในหน้าตาและการแสดงเลย แต่ต้องยอมรับว่า แม้บทในเรื่องของเธอ จะไม่ใช่คนนิสัยดีนัก แต่สิ่งที่เพื่อนรักและคู่หมั้นทำกับเธอ มันก็ไม่ใช่สิ่งที่เธอสมควรจะได้รับ ส่วนเด็กซ์ คู่หมั้นใจโลเล รับบทโดย Colin Egglesfield คนนี้อยากบอกว่า ความหล่อไม่ช่วยอะไร ดูแล้วแว๊บแรก โหย..ย...หล่อจัง...ดูต่อไปเรื่อยๆ แอบอยากตื้บเบาๆ














จริงๆ แล้ว การเปลี่ยนใจหมดรักอีกคนแล้วก็ไปรักอีกคนนั้น ฉันไม่เคยมองว่ามันเป็นเรื่องที่เข้าใจไม่ได้ ฉันเข้าใจถึงธรรมชาติของหัวใจและความรัก ว่ามันมีวันหมดและสามารถเปลี่ยนแปลงได้เสมอ หนังเรื่องนี้ก็ไม่ใช่ว่าไม่ดี หรือว่าทำเรื่องผิด แต่ฉันไม่ค่อยชอบวิธีการนำเสนอ การที่ราเชลแอบรักเด็กซ์มานานแสนนาน แทนที่คนดูจะแอบเอาใจช่วย แต่ฉันคนนึงแหล่ะ ที่ไม่ได้เอาใจช่วย เพราะรู้สึกไม่เห็นด้วยกับการกระทำของเธอ แม้จะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม...ถ้าเธอแอบรักผู้ชายคนนี้มานานแสนนาน แล้วจริงๆ ลึกๆ แล้ว เขาเองก็เหมือนมีใจให้เธอ....เหตุใดจึงปล่อยให้เวลามันทอดยาวมานานขนาดนั้น กว่าจะรู้ตัว มารู้ตัวอีกที ก็ทำให้คนกลางต้องเจ็บปวดหัวใจ


ภาพรวมของหนังก็สนุกดีค่ะ เบาๆ ไม่ได้บีบคั้นหรือเข้มข้นมาก เรื่องดำเนินไปที่จุดเริ่มต้น ขัดแย้ง แล้วก็จบลงอย่างแฮปปี้เอ็นดิ้ง พระเอกก็คู่กับนางเอก ส่วนคนที่ไม่ใช่นางเอกก็มีชีวิตใหม่ในแบบของเธอไป

แต่มีฉากหนึ่งที่สะดุดใจคือฉากจบของเรื่อง เมื่อเพื่อนรักสองคนบังเอิญเดินมาเจอกันบนถนน แล้วก็ทักทายกัน จากเพื่อนรักก็กลายเป็นคนแปลกหน้า เพราะสุดท้ายราเชลก็ได้ผู้ชายของดาร์ซี่ไปครอง... ฉากนี้ต้องไปดูกันเอาเองค่ะ ว่าเป็นอย่างไร สำหรับฉัน รู้สึกกระอักกระอ่วนใจอยู่นิดๆ (ซึ่งนักดูหนังคนอื่นอาจจะไม่รู้สึกแบบเดียวกันก็ได้) สรุปว่า ตัวหนังก็จบลงแบบพาฝัน แต่คนดูไม่ค่อยรู้สึกพาฝันไปด้วย เพราะมันจริงเกิ๊น...น


จริงๆ หนังเรื่องนี้เป็นหนัง Feel Good - Good Feel ที่ควจจะอมยิ้มและมีความสุขไปกับมัน แต่ฉันก็ไม่รู้ว่ามันขาดส่วนเล็กๆ ตรงไหนไป ที่ทำให้เรายิ้มได้ไม่เต็มที่ มีความสุขไปกับมันไม่เต็มอิ่ม...อย่างที่ควร


บางที จุดบกพร่องอาจจะไม่ใช่ที่ตัวหนัง แต่จุดบกพร่อง อยู่ที่ใจของฉันเอง ที่ไม่รู้สึกร่วมไปด้วย...










Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2555 5:52:21 น.
Counter : 2069 Pageviews.

6 comments
  

ทักทายครับ ...


มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

ภาพยนตร์เรื่องนี้ผมก็ยังไม่เคยชมเลยครับ สงสัยต้องไปหามาชมบ้างแล้วล่ะครับ

อิอิ
โดย: อาคุงกล่อง วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:13:19:18 น.
  
สามหนุ่มเนื้อทองนี่เราก็สงสารแหนมนะ แต่มีประโยคนึงที่ทำให้เราเข้าใจไอ้หน้าหนวดว่าทำไมเค้าถึงเลือกอีกคน แหนมไม่ได้รักแต่เห็นว่าผู้ชายคนนี้เป็นสิ่งของที่จะช่วยเชิดหน้าชูตาในสังคม มันเป็นเรื่องความเหมาะสมมากกว่าความรักความเข้าใจกันน่ะ

สำหรับเรานะใครมาขอเราก็ไม่ให้หรอก แต่ถ้าคนของเราอยากไปก็จะปล่อยให้ไปล่ะจ๊ะ
โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:21:32:18 น.
  
แนวเรื่องแบบนี้ เป็นหนังฝรั่ง ก็รับได้อยู่หรอกนะ
แต่ถ้าเป็นละครไทย เรายังรู้สึกตะขิดตะขวงใจอยู่นะ
โดย: นัทธ์ วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:21:41:55 น.
  
ตูนชอบสามหนุ่มเนื้อทองมากเลยนะแจง
เท่ห์ดีอะ
พระเอกนางเอกเป็นคนจริงๆ

ไม่ใช่เทพมาจากไหน
เจอปัญหาอะไรแก้ไขได้หมด

ในนามแห่งความรัก-หมดรัก
ตูนว่ามันมีเหตุผลพอสมควรเลยทีเดียวว่าทำไม
บางคู่รักถึงไปต่อไม่ได้....
โดย: เหมือนพระจันทร์ วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:1:35:57 น.
  
สวัสดีค่ะ

บังเอิญเห็นว่าเป็นบล็อคจากคนไทยที่อยู่ในอิตาลี เหมือนกันเลยแวะเข้ามาทักทายค่ะ

แอบเห็นว่าอยู่ ที่ ซาโวน่า ด้วย อยู่ในตัวเมืองเลยหรือเปล่าค่ะ

พอดีอยู่ในเขตของ ซาโวน่าเหมือนกันค่ะ
โดย: สาวน้อยบานเฉิ่ม IP: 82.52.133.160 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:7:14:15 น.
  
^
^
ไม่ได้อยู่ในตัวเมืองค่ะ ห่างจากตัวเมืองราวๆ 30 นาที โดยรถยนต์
โดย: nikanda วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:4:24:12 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Nikanda.BlogGang.com

nikanda
Location :
จันทบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 31 คน [?]

บทความทั้งหมด