อาการของโรค COVID 19 ควรไปรพ.เมื่อไร ?
อาการของโรค COVID 19
ควรไปรพ.เมื่อไร ?
เครดิตคุณ
Ben Thanyapatt
(บ้านคนไทยในนิวยอร์ก)
ขอนำข้อมูลจริงๆ จากพยาบาลที่ทำงาน
ในรพ.ที่นิวยอร์กขณะนี้
มาแบ่งปันให้เพื่อนบล็อกอ่าน
เพื่อจะได้รู้ขั้นตอนของโรค Covid 19
อาการและการดูแล เมื่อไรควรไปรพ.
หวังว่าคงเป็นประโยชน์บ้างนะคะ
ขอรบกวนพื้นที่ชมรมนะค่ะ 🙏🏼
อยากใช้พื้นที่แจ้งข้อมูลที่ถูกต้อง จาก พยาบาลทำงาน
ใน ER อยู่ 2 โรงพยาบาลใหญ่ในเมือง และทำงานกับ
fellow doctors who get rotate work in
Elmhurst hospital นะค่ะ
เริ่มจาก อาการและ ข้อควรทำ:
อาการ: classic symptoms: ไอ, ไข้, ปวดเมื่อยตัว,
หายใจติดขัดลำบาก, เจ็บหน้าอก, ปวดหัว, หนาวสั่น,
ท้องเสีย. แต่ตอนนี้ที่เจอ เคสหลายเคส คือ ไม่มีอาการ
ทาง respiratory เลย แค่ไอ บางครั้งคราว แต่
test positive. ที่สำคัญกว่านั้นคือ ไม่มีอาการเลย
สามารถเป็น carrier คือ ตอนนี้พวกเราทุกคน หมอ
พยาบาล คิดว่า เราคงเป็น แต่ไม่ได้ test เพราะ
เราไม่อาการ แต่เรา expose 100% either
well have immune because we expose too
much or we just wait to see symptoms ใน ER
ทุกวันนี้ พวกเรา ไม่ได้อยากกลับบ้าน ไปหาครอบครัว
เพราะ กลัวว่า จะไป expose family. ไม่ได้เจอใคร
ในวันหยุด เพราะไม่มีใครอยากเข้าใกล้ เว้นแต่เพื่อน
ร่วมงานหมอ กับพยาบาลด้วยกัน
ถ้ามีอาการข้างต้น ควรทำอย่างไร:
รักษาตามอากาน เป็นไข้ กิน Tylenol ที่สำคัญคือ พักผ่อนเยอะ
เยอะ well hydration ที่สำคัญที่สุด self quarantine!
ถ้าภายใน 2-3 วันอาการไม่ดีขึ้นทำอย่างไร สำหรับคนที่มี
health insurance: ตอนนี้ hospital ทุกทีมี telehealth
หมอ สามารถคุยผ่าน online, listen lung sound. แต่ถ้าไม่มี
แล้วอาการหนัก ขึ้น ไปโรงพยาบาล เพราะ เอาจริงจรืง 90%
probably positive for covid19.
สาเหตุที่ ทุกคนมารำร้อง ให้ #stayhome #socialdistsnce
เพราะ เอาจริงจริง ถ้าอาการน้อย เราทำอะไรไม่ได้ นอกจาก
รักษาตามอาการ เรา admit ทุกคนไม่ได้ เรา ดู chest X-rays,
swab ถึงแม้ positive covid19 with mild symptoms
หมอก้อจะให้ กลับบ้าน ไป self quarantine.
สาเหตุที่หมอและพยาบาลไม่อยากให้มาที่ ER
ถ้าไม่จำเป็นจริงจริง เพื่อตรวจ หรือ เพื่ออะไรก็ตาม
เพราะ ตอนที่มา อาจจะยังไม่ติดเชื้อ
แต่ any respiratory symptom พวกเรา
ต้องส่ง คนไข้ ไปที่ rule out covid19 ตอนที่เช็ก
อาจจะ ยังไม่เป็น แต่มีโอกาสสูงที่จะเอาเชื้อกลับไป
เพราะ ไป expose ในที่มีคนติดเชื้อ. เพราะ
ก่อนหน้านั้น possible คนไข้ที่ติดเชื้อมาถึงแม้ว่า
จะ clean disinfected.
ถ้าติดเชื้อแล้วอาการเป็นหนักขึ้นที่บ้าน ต้องทำอย่างไร
ถ้าเริ่มมีอาการ หายใจไม่ออก หนักขึ้น ไปโรงพยาบาล
ก็จะ check vital sign, chest X-ray ถ้า show something
bad then we will draw blood and possible keep you.
แต่ถ้า confirm positive ถ้าอาการไม่หนัก แล้วเป็นไข้ หรือ
ปวดเมื่อยตัว ได้โปรด อย่ามา หรือ ออกจากบ้าน เพราะจะมา
ติดเชื้อ คนอื่นมากขึ้น มีคนไข้เยอะ มากกกกก ติดเชื้อ
ใส่ถุงมือ แล้วก้อเอา ถุงมือ จับตัวเอง จับหน้า แล้วจับอย่างอื่น
หรือ แทบไม่มีอาการแล้วจะมาเช็ก อย่างที่บอก อาจจะไม่เป็น
แต่จะมาเป็นที่โรงพยาบาล เพราะ expose without PPE.
ไวรัส เป็น droplet หมายความว่า ถ้าไปอยู่ใกล้คนที่เป็น แล้ว
ไอ จาม อาจติดได้ภายใน 6 feet, contact ถ้าคนที่เป็น เอา
mucousไปสัมผัสสิ่งของ แล้วเราจับต่อ เราไป จับหน้า
จับตา จมูก และ airborne กรณีนี้สำหรับพวกเราที่ทำงาน
ใกล้คนป่วยมากมาก เพราะ เราต้อง intubated, คนป่วยต้องใช้
oxygen like airflow, BiPAP ไวรัสอยู่ใน air ได้ 3 ชั่วโมง
พวกเรา ควร ปฏิบัติตัวเหมือน เรา ติดเชื้อ ที่พูดไม่ได้ทำ
ให้กังวล. Asymptomatic อาจจะเป็นหรือไม่เป็น การแพร่
กระจายของเชื้อน้อยกว่า คนที่มีอาการแล้ว หรือ คนที่มี
อาการหนัก การแพร่กระจายเชื้อยิ่งมากขึ้น อาการของ
pneumonia มีน้ำในปอด หายใจไม่ออก สิ่งที่พวกเรา
ทุกคนทำได้ คือ พยายามอย่าออกจากบ้าน social distance,
keep clean, เพราะ เชื้อติดได้ทุกวัย มีคนไข้ 6 เดือน
positive ถูก เด็ก อาจจะไม่ตาย อาการไม่หนัก เหมือน
คนแก่ หรือ คนที่ high comorbidity แต่ท้องเสีย เป็นไข้
พวกเรา intubated patients left and right. 80% คนไข้
ใน ER are covid19 คนไข้อาการหนัก อายุน้อยลงน้อยลง
ไม่ได้พูดให้กลัว แต่พูดให้ระวัง อันนี้สำคัญ ไม่เครียด
stay strong, and healthy. . Keep immune up เพราะ
พวกเราทุกคนก็กลัว ทำงานไปทุกวันก็คิดว่า
เราอาจจะเป็นคนไข้พรุ่งนี้ มีหมอ กับพยาบาล
ติดเชื้อแล้วก็เยอะ. .
ขอบคุณพื้นที่ชมรมค่ะ ขอโทษที่เขียนเยอะ
ถ้าผิดกฏลบได้นะค่ะ 🙏🏼 เราต้องสู้ไปด้วยกัน
ทุกคนเป็นฮีโร่หมด ตอนนี้เรายังไม่ถึงจุด peak yet
but we will soon will be like Italy. Well can
help to stop. Thank you! Please spread the word. .
Well want this to past and were
going thru this together!
ขอบคุณข้อมูลจาก
คุณ Ben Thanyapatt
เวป บ้านคนไทยในนิวยอร์ก
Health Blog
newyorknurse
อืม..
เมืองไทยตอนนี้อ้อก็ว่า Carrier เป็นหมื่นเชียว
ถ้าอ่านแลัวประมวลง่าบๆจากบล็อกนี่