​Vick แก้เชื้อราได้ดีที่สุด - เพื่อนไปขูดตาปลาที่เท้า และไปทานอาหารเช้ากัน




Vick แก้เชื้อราได้ดีที่สุด
เพื่อนไปขูดตาปลา ที่เท้าและไปทานอาหารเช้ากัน



วันนี้มีโอกาสไปเป็นพี่ข้างบ้านไปหาหมอเอาตาปลาที่เท้าออก พี่สองท่านอยู่บ้านไม่ไกลกับจขบ.และมีน้ำใจดีมาก คอยดูแลบ้านจขบ.เวลากลับมาเมืองไทยทุกปี และเป็นหน้าหนาวหนาวด้วย หิมะตก พี่ทั้งสองก็ยังแวะมาดูบ้านให้สม่ำเสมอ ขอบคุณในน้ำใจงามของพี่ทั้งสองด้วยค่ะ


เผอิญคุยกับสามีพี่ บอกว่าจะไปผ่าเอาตาปลาที่เท้าออก จขบ. บอกว่าอะไรกันนิดหน่อยเท่านั้น ถ้าไม่หนักหนาอะไรก็ทิ้งๆไว้ ไม่ต้องเอาออกหรอก ไปผ่าตัดเจ็บเปล่าๆ แถมต้องใส่ร้องเท้าแตะอีก ตั้งนานกว่าแผลจะหาย พี่ก็บอกว่ามันเจ็บ ต้องไปเอาออกดีกว่า นัดหมอแล้ว ก็เลยบอกว่าจะไปเป็นเพื่อนพี่สองคน จะได้คุยเวลาสามีพี่ไปทำผ่าตัด... คิดว่าตาปลาคงใหญ่มาก ถึงต้องไปผ่าออก


เช้าวันที่นัดหมอ ก็ไปกับพี่ ถึงที่คลินิคหมอ บอกขอดูหน่อยก่อนไปผ่า พอเห็นตาปลาที่นิ้วก้อยที่เท้า แทบไม่เห็นเลย แหม คิดว่าใหญ่มาก ยังมองไม่เห็นเลย ไปถึงไม่นานก็ได้เข้าไปที่ห้องหมอ ไม่ใช่ที่ห้องผ่าตัดหรือ คิดว่าต้องไปห้องผ่าตัดอีก


สามีพี่เข้าไปในห้องหมอ ไม่ถึงสิบนาทีก็ออกมา เสร็จแล้ว บอกว่าหมอทายาชาแล้วก็ฉีดยาชา ให้มีดขูดที่ตาปลา จากนั้นก็ใส่ยาปิดแผล บอกว่ากลับบ้านได้แล้ว แผลนิดเดียวเอง คิดว่าเป็นเรื่องใหญ๋ การมาหาหมอครั้งนี้ประกันสุขภาพจ่ายหมด คงราคาไม่ต่ำกว่า 300 เหรียญ





ตาปลาที่นิ้วก้อย มองไม่เห็นเลย...






หลังจากหมอขูดออก ใส่ยาไว้




สามีพี่บอกว่ามาวันนี้ได้ประโยชน์อย่างหนี่ง หมอบอกว่าหลังจากล้างเท้าสะอาดแล้ว ให้ใช้ Vick ที่เราใช้ทาแก้หวัด ทาบริเวณเท้าและเล็บด้วย จะรักษาโรคเชื้อราที่เล็บด้วย และทำให้เล็บแข็งแรง 

คุณหมอบอกว่าใช้ยาหลายอย่าง
 Vick ทาที่เล็บรักษาโรคเชื้อราที่เล็บดีที่สุด




ทุกอย่างเรียบร้อยดี ชวนกันไปทานอาหารเช้ากัน ที่ร้าน Dinner ร้านประเภทนี้ เป็นร้านขายอาหาร 24 ชั่วโมง จะพบมากที่ไฮย์เวย์ เวลาขับรถผ่านเห็นร้าน Dinner แวะเข้าไปได้เลย มีอาหารอเมริกันตามสั่ง และมีซุบร้อนๆ ตลอดเวลา ขับรถทางไกลเหนื่อยๆ ได้ทานอะไรร้อนๆ ทำให้สดชื่นมีแรงขับรถต่อไปได้อีกด้วย


เราไปทานอาหารที่ร้าน Nanuet Dinner ไม่ไกลจากที่บ้าน นานๆเราก็แวะมาทานกันที วันนี้ออกจากบ้านแต่เช้า เลยแวะมาทานกันที่นี่อีก เชิญชมว่าเราทานอะไรกันบ้างค่ะ















กาแฟหอมกรุ่น เติมได้







สั่งอาหารกัน







Belgian waffle ของพี่







Egg omelet & Fried potato







ของจขบ. Belgian waffle (ของโปรด) กับไข่หนี่งฟอง









รายการอาหารพิเศษของวันนี้ เป็นอาหาร Spanishสตูไก่ ข้าวสเปนนิส และกล้วยดิบทอดทับเป็นแผ่นบางๆ ตอนที่ทำงานร้านข้างๆรพ.ที่ทำงานจะมีร้านขาย เป็น Lunch Special ราคาชุดละ 5 เหรียญ น้อยกว่านี้หน่อย ชุดนี้ราคา 10 เหรียญ นานๆจะอยากทานอาหารต่างชาติบ้าง ไหนๆก็อยู่ที่ร้านแล้ว สั่งกลับบ้านหนี่งชุดเลย






ข้อมูลเกี่ยวกับตาปลา




ที่มา: นิตยสาร : ชีวจิต

* ตาปลา คือผิวหนังซึ่งหนาตัวขึ้นมาเนื่องจากการกดทับ มักจะเกิดตรงนิ้วเท้าเนื่องจากรองเท้าคับเกินไป แต่ก็อาจจะเกิดที่ฝ่าเท้าได้ สาเหตุที่พบได้บ่อย คือ การใส่รองเท้าคับแน่น ไม่เหมาะกับเท้า หรือการเดินลงน้ำหนักที่ไม่เหมาะสม ทำให้มีแรงกดตรงใต้ฝ่าเท้า หรือนิ้วเท้านานๆ จึงเกิดการสร้างเนื้อเยื่อพังผืดแข็ง ๆขึ้นมารองรับจุดนั้นแทนเนื้อธรรมดา สำหรับคนที่มีปัญหาเป็น "ตาปลา" ที่เท้านั้น เรามีตำรับอายุรเวทรักษาตาปลามาแนะนำครับ

* 3 ตำรับอายุรเวทรักษาตาปลา

- คนสมัยก่อนนิยมเปลือยเท้าเดินบนดินหรือบนหญ้า เพื่อได้สัมผัสกับธรรมชาติที่แท้ เพราะถือว่าเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ร่างกายมีสุขภาพดี ช่วยกระตุ้นให้เกิดความสดชื่นและกระปรี้กระเปร่าได้ แม้หนุ่มๆ สาวๆ ยุคนี้จะไม่นิยมเดินเท้าเปล่า แต่ใช่ว่าเท้าของเราจะไม่ต้องการถนอมรักษา

1. กระเทียมสด ให้ฝานกระเทียมสดเป็นชิ้นหนาๆ แล้วนำมาถูบริเวณที่เป็น และแปะส่วนที่เหลือตรงตาปลา พันผ้าพันแผลทับ แล้วปล่อยไว้ข้ามคืน จึงค่อยแกะทิ้ง ทำซ้ำทุกคืน นานประมาณ 1-2 สัปดาห์ น้ำกระเทียมสดจะช่วยรักษาอาการที่เป็นอยู่ให้หายเร็วขึ้น หรือลองฝานมะนาวสดหรือสับปะรดหั่นเป็นชิ้นบางๆ มาแปะแทน ก็ช่วยรักษาอาการเหล่านี้ได้เช่นกัน


2. น้ำมันสน ให้นำผ้าสำลีเนื้อนุ่มหรือผ้าขาวบางชุบน้ำมันสนแล้วแปะไว้บริเวณที่เป็น ช่วงก่อนนอน ทิ้งไว้ข้ามคืน ทำประมาณ 4-5 คืนติดต่อกัน วิธีนี้สามารถรักษาตาปลาได้อย่างดี


3. สูตรยารักษาตาปลา ซึ่งมีส่วนผสมดังนี้ น้ำมันมะพร้าว 1 ถ้วยตวง น้ำมันการบูร 2 ช้อนโต๊ะ และน้ำมันสน 1 ช้อนโต๊ะ หากน้ำมันมะพร้าวเป็นไขให้นำมาอุ่นจนละลายก่อน แล้วจึงนำไปผสมกับน้ำมันอีก 2 ชนิดตามสูตร กวนให้เข้ากัน แล้วเทใส่ขวดแก้วเก็บไว้ ใช้ทาลงบนตาปลาวันละ 2 ครั้ง ทำเป็นประจำทุกวันเมื่อเริ่มเกิดอาการ

ที่มา: วิชาการ.คอม (www.vcharkarn.com)





* ตาปลา คือ ผิวหนังที่ด้านขึ้น เนื่องจากแรงกด หรือแรงเสียดสีนานๆ มักเกิดตรงบริเวณ ที่มีปมกระดูกนูน ตำแหน่งที่พบได้บ่อย ได้แก่ บริเวณ ฝ่าเท้า และใต้นิ้วเท้า

- วิธีรักษา คือ ให้ใช้ขนมปังนิ่ม ๆ ชุบน้ำส้มสายชูทาตรงตาปลาทุกวัน หรือนำขนมปังชุบน้ำส้มสายชูปิดรอยตาปลาแล้วใช้ผ้าพันไว้ ตาปลาจะอ่อนตัวลง แล้วถูเอาหนังที่เปื่อยออก

ที่มา: พญ.จิรพร ศรีวสันต์ศักดิ์
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคผิวหนังและศัลยกรรมเลเซอร์




การรักษาตาปลา โดยการทายา จี้ไฟฟ้า หรือเลเซอร์ เป็นการบรรเทาชั่วคราว โดยกำจัดตุ่มตาปลาออก

ข้อดีของการทายา คือ ราคาถูก หายแล้วไม่มีแผลเป็น ข้อเสีย คือ ถ้าขี้เกียจทายา ก็ไม่หายซักที หรือทายามากไป ผิวถลอก อาจมีการติดเชื้ออักเสบของตาปลาได้

ข้อดีของการใช้ไฟฟ้า และเลเซอร์ คือ รักษาแบบม้วนเดียวจบ ลุยทีเดียว หมดเกลี้ยง ข้อเสียเป็นแผลเป็น และต้องการการดูแลทำแผลที่จี้ไปแล้ว อาจจะเป็นเดือน เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ค่ารักษาแพงกว่าทายาแน่นอน เลเซอร์จะแพงกว่าจี้ไฟฟ้า เพราะเครื่องมือราคาแพงกว่าหลายเท่า

เทคโนโลยีใหม่ๆ ไม่ได้ทำให้หลักการรักษาโรคของหมอเปลี่ยนไป แต่จะอำนวยความสะดวกให้กับคนไข้มากขึ้น

ที่สำคัญที่สุดสำหรับคนไข้ตาปลา คือ อย่าผ่าตัดออกค่ะ เพราะจะได้แผลเป็นหนึ่งขีด พร้อมๆกับตาปลาขึ้นใหม่บริเวณเดิม เนื่องจาก pressure effect อาจยังคงลอยนวลอยู่

อย่าลืมกำจัด pressure effect ไม่ให้มาเสนอหน้ารบกวนฝ่าเท้างามๆของเรา แล้วทุกคนจะประสบความสำเร็จในการรักษาตาปลาในที่สุด

วิธีการรักษาที่สะดวกมากขึ้นและคุณสามารถทำได้ด้วยตนเอง ด้วยการใช้พลาสเตอร์สำหรับรักษาหูด ตาปลา หรือหนังด้าน พลาสเตอร์นี้มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก (Salicylic acid) 40 % ผสมอยู่เพื่อทำให้หูดหรือตาปลาอ่อนตัวลงและหลุดออกได้ง่ายวิธีใช้ คือ ล้างบริเวณที่เป็นหูด หรือตาปลาให้สะอาดเสียก่อน แล้วปิดพลาสเตอร์ในบริเวณที่ต้องการทิ้งไว้ 2-3 วัน จากนั้นแช่ส่วนที่เป็นตาปลาในน้ำอุ่นประมาณ 15 นาทีหรือจนกว่าผิวหนังบริเวณนั้นจะนิ่ม ลอกพลาสเตอร์ออก หูดหรือตาปลาจะหลุดตามพลาสเตอร์ออกมาด้วย แต่หากหูดหรือตาปลาหลุดออกมาไม่หมดสามารถทำซ้ำได้อีก

- พลาสเตอร์รักษาหูด ตาปลามีจำหน่ายที่ร้านขายยาชั้นนำทั่วไป

[ คัดลอก จากนิตยสารใกล้หมอ ปีที่ 22 ฉบับที่ 7 กรกฎาคม 2541 ]


ข้อมูลข้างบน ขอเชิญเปิดอ่านที่นี่



สาขา Health Blog


ขอขอบคุณข้อมูลจากอินเตอร์เนต


newyorknurse





Create Date : 23 เมษายน 2560
Last Update : 23 เมษายน 2560 19:14:04 น.
Counter : 4036 Pageviews.

15 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณเนินน้ำ, คุณtoor36, คุณปรัซซี่, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณข้ามขอบฟ้า, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณกะว่าก๋า, คุณหอมกร, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณสาวไกด์ใจซื่อ, คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณพันคม, คุณhaiku, คุณรัชต์สารินท์

  
เจิมและโหวตค่ะพี่น้อย
เพิ่งรู้ว่าวิคส์มีสรรพคุณที่เป็นประโยชน์นี้ด้วย
ขอบคุณค่ะ
โดย: เนินน้ำ วันที่: 23 เมษายน 2560 เวลา:9:43:23 น.
  
เพิ่งรู้ว่า Vick รักษาเชื่อราที่เล็บได้ด้วย ดีจังประโยชน์เยอะ ^^

Belgian waffle น่ากินจังค่ะ

ปล ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตนะคะ ^^
โดย: VELEZ วันที่: 23 เมษายน 2560 เวลา:14:17:45 น.
  
เพิ่งทราบเหมือนกันครับว่าวิคส์มันใช้แบบนี้ได้ด้วย มีประโยชน์เยอะกว่าที่คิดเยอะเลย (หลังๆ เป็นหวัดผมใช้วาเป็คมากกว่า)
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 23 เมษายน 2560 เวลา:16:25:51 น.
  
สวัสดีค่ะ พี่น้อย ^^

นู๋เคยถอดเล็บสองครั้ง ครั้งแรกเล็บไปเตะขอบพื้นร้านอาหาร
พอยาวขึ้นเล็บขบ ไปที่รพ. หมอบอกว่าฉีดยาชาแล้วจะตัดเล็บให้
เพราะมันจิกเข้าเนื้อ กลายเป็นว่าถอนออก (อ่าววว หากเป็นสมัยนี้
นู๋หัวหมอมากขึ้นฟ้องเลยนะคะ) คือถอดเล็บที
นู๋ต้องไปล้างแผลทุกวันและต้องนั่งอาบน้ำเอาถุงห่อเท้าไว้
ไม่ให้โดนน้ำคือไม่สะดวกมาก
ตอนที่ขึ้นมาใหม่นี่มันนูนขึ้นทำให้เนื้อเล็บเยอะมาก
ดูใน google เค้าบอกว่าเป็นเชื้อราค่ะ

คนอเมริกันนี่ชอบวัฟเฟิลนะคะ กินเป็นอาหารคาวเลย
ช่วงหลังมีร้านอาหารทำ Chicken Waffle เยอะ
แต่ยังไม่โดนใจนู๋เท่าไหร่ แหะ ๆ กินไก่ไปเลยดีกว่า
วัฟเฟิลไว้กินเป็นของหวาน แง่มแง่ม
โดย: ปรัซซี่ วันที่: 23 เมษายน 2560 เวลา:19:56:00 น.
  
ความรู้ใหม่เลยค่ะ ใช้วิคทารักษาโรคเชื้อราได้ด้วย

หนูยังไม่เคยกินวาฟเฟิลกับไข่เลยค่ะ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ข้ามขอบฟ้า Klaibann Blog ดู Blog
zungzaa Travel Blog ดู Blog
รัชต์สารินท์ Literature Blog ดู Blog
sawkitty Diarist ดู Blog
อุ้มสี Review Food Blog ดู Blog
mambymam Home & Garden Blog ดู Blog
mariabamboo Photo Blog ดู Blog
newyorknurse Health Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 23 เมษายน 2560 เวลา:21:24:17 น.
  
สวัสดีค่ะพี่น้อย

กาญก็เป็ตาปลากค่ะ แต่ไม่ใหญ่มากก็เลยไม่เคยไปหาหมอ
ค่ารักษาที่นี่ก็แพงเหมือนกันค่ะ ถ้าไม่ได้ประกันจ่ายแย่แน่
Vick ทาที่เล็บรักษาโรคเชื้อรา ความรู้ใหม่ ไว้มีปัญหาจะลองใช้ดูค่ะ


เมื่อวานแถวบ้านกาญอากาศแย่มาก แต่วันนี้อากาศดีแดดออก
ก็เลยลงไปถอนหญ้าในสวน ไม่ได้ลงสวนนานหญ้าเต็มหมดเลย
ถ้าอากาศดีกว่านี้คงต้องเอาเวลาไปดูแลสวนแล้วค่ะ

newyorknurse Health Blog
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 23 เมษายน 2560 เวลา:21:39:35 น.
  
เน็ตบ้านป่าภาพไม่ขึ้น
แต่โหวตถูกต้องแน่นอนค่ะ
วันนี้ไม่เบ๊อะบ๊ะ

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
AdrenalineRush Food Blog ดู Blog
rosebay Travel Blog ดู Blog
ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog
newyorknurse Health Blog ดู Blog

พรุ่งนี้มาอ่านค่ะ

โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 23 เมษายน 2560 เวลา:21:41:37 น.
  

สวัสดียามเช้าครับพี่น้อย

โหวตบล็อกสุขภาพครับ

วิคมีสรรพคุณเยอะมากเลยนะครับ
ผมเพิ่งทราบครับว่าใช้ทาตาปลาได้ด้วย


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 เมษายน 2560 เวลา:6:22:47 น.
  
newyorknurse Health Blog ดู Blog
อ่านแล้วเกิดความสงสัยว่าเราจะเป้นเชื้อราที่เล็บได้อย่างไรค่ะพี่น้อย

โดย: หอมกร วันที่: 24 เมษายน 2560 เวลา:8:50:37 น.
  
ได้ความรู้ใหม่เรื่องวิคส์เลยค่ะ ไปหาติดไว้ที่บ้านดีกว่า เพิ่งรู้ว่าป้องกันเชื้อราได้ด้วยอ้ะ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Photo Blog ดู Blog
newyorknurse Health Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 24 เมษายน 2560 เวลา:13:16:00 น.
  
สวัสดี จ้ะ คุณน้อย

บล็อกวันนี้ ได้ประโยชน์มาก จ้ะ พี่ก็ชอบเป็นตาปลา ตรงแก้มเท้า ใต้นิ้วโป้ง เป็นวงหนา เชียว หาหมอ หมอให้ยามาทา เป็นยาน้ำ พี่ว่า เหมือนน้ำกรดอ่อน ๆ ทาเสร็จจะเป็นวงขาวเลย หลาย ๆ วัน มันก็จะเริ่มนิ่ม เอาเท้าแช่น้ำ แล้วถูกตรงตาปลา มันจะหลุดออกมาเป็นขุย ๆ เป็นอาทิตย์ ก็สามารถลอกออกมาเป็นแผ่น ๆ หายไปนานเหมือนกัน กว่าจะขึ้นมาอีก

เดี๋ยว ถ้าเป็นอีก จะลองเอาวิธีของคุณน้อยไปลองดู อิอิ

มีเพื่อนบ้านที่ดี ถือว่า เป็นบุญอย่างหนึ่งจ้ะ เพื่อนบ้านของครูก็โอเค จ้ะ เวลาครูไปเที่ยวไหน ก็ฝากบ้าน ฝากต้นไม้หน้าบ้านที่ปลูกไว้ เขาก็ช่วยรดน้ำให้เป็นอย่างดี

โหวดหมวด สุขภาพ จ้ะ

ขอบใจคุณน้อยที่แวะไปเยี่ยมและโหวดที่บล็อกครู จ้ะ ใช่จ้ะ ครูโชคดี มีลูกศิษย์หลายรุ่น หมุนเวียนเปลี่ยนกันมาเยี่ยม หมู่บ้าง เดี่ยวบ้าง เลยไม่ค่อยเงียบเหงาจ้ะ
โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 24 เมษายน 2560 เวลา:13:26:26 น.
  
สวัสดีค่ะคุณพี่น้อย..

อ้อมแอ้มก็เป็นเชื้อราที่นิ้งโป้งที่เท้า..

จะลองทา Vick ดูนะคะ ขอบคุณคะ

โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 24 เมษายน 2560 เวลา:18:09:48 น.
  
กลับมาอ่านค้าบบบบ
เมื่อก่อนก็เป็นตาปลาเหมือนกันค่ะ
แต่เดี๋ยวนี้ใส่รองเม้าสบายๆขึ้นเลยค่อยๆ
หายไปเอง

อาหารการกินหาง่ายดีนะคะ
ดูน่ากินและไม่แพง

โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 24 เมษายน 2560 เวลา:19:13:25 น.
  
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
อุ้มสี Review Travel Blog ดู Blog
ข้ามขอบฟ้า Music Blog ดู Blog
สุนันท์ยา Literature Blog ดู Blog
กาปอมซ่า Review Food Blog ดู Blog
Sweet_pills Food Blog ดู Blog
newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog
โดย: พันคม วันที่: 24 เมษายน 2560 เวลา:20:37:26 น.
  
โหหหห เพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรกค่ะ นึกว่าวิคไว้ดมตอนเป็นหวัดคัดจมูกเท่านั้น
โดย: รัชต์สารินท์ วันที่: 28 เมษายน 2560 เวลา:7:22:55 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Newyorknurse.BlogGang.com

newyorknurse
Location :
ราชบุรี .. New York ...   United States

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 164 คน [?]

บทความทั้งหมด