เข็นเด็กขึ้นภูเขา #สิ่งสำคัญของความเห็นอกเห็นใจ
 

เข็นเด็กขึ้นภูเขา

#สิ่งสำคัญของความเห็นอกเห็นใจ
 





วันนี้มีการประกวดรอบสุดท้ายของ Miss Universe 2024 โดยตัวแทนของประเทศไทยคือ มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ‘โอปอล สุชาตา ช่วงศรี’ และคุณโอปอลได้รับตำแหน่งรองอันดับ 3

.

หมอรู้สึกประทับใจคำตอบของคุณโอปอลในรอบ 5 คนสุดท้าย กับคำถามที่ว่า “คุณสมบัติอะไรที่จะทำให้เป็นผู้นำที่ประสบความสำเร็จ?”

คุณโอปอลตอบว่า

“คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดที่ผู้นำควรมีสำหรับฉันคือ ความเห็นอกเห็นใจ (Empathy) เพราะไม่ว่าคุณจะเก่งแค่ไหน หรือมีการศึกษาดีเพียงใด สุดท้ายแล้วคุณต้องมีความเห็นอกเห็นใจเพื่อใส่ใจผู้คน และคำนึงถึงความเป็นอยู่ของพวกเขา ไม่ใช่แค่ผู้นำเท่านั้น ฉันเชื่อว่าทุกคนในโลกนี้ควรมีความเห็นอกเห็นใจกันและกัน นี่แหละคือวิธีที่เราจะรวมเป็นหนึ่งเดียวกันได้ ขอบคุณค่ะ”

.

บทความนี้จึงอยากพูดถึง Empathy ความเห็นอกเห็นใจ ซึ่งไม่ใช่เพียงคนที่เป็นผู้นำควรมี แต่ทุกคนในโลกควรจะมี เพื่อเป็นพื้นฐานสำคัญในการใช้ชีวิตในสังคม การอยู่ร่วมกับคนอื่นๆ ว่าจะปลูกฝังเด็กๆ ให้เติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มี Empathy อย่างไร

อาจจะขอเขียนเรื่องนี้แบบยาวๆ เพราะคิดว่าสำคัญค่ะ

.

1) พ่อแม่ต้องสร้างพื้นฐานจิตใจที่มั่นคงและปลอดภัยให้เด็ก (ตรงนี้เป็นรากฐานสำคัญเหมือนเสาเข็มของบ้านที่กำลังจะสร้างขึ้น) มีความเมตตา เห็นใจเด็ก ให้พร้อมในการเรียนรู้ที่จะเห็นอกเห็นใจคนอื่น

2)ให้ความรักความอบอุ่น มีเวลาที่จะรับฟังความรู้สึก ให้เด็กรู้สึกว่าตัวเองมีที่พึ่งและพ่อแม่ควรเป็นที่ไว้วางใจ ทำให้เด็กรู้สึกปลอดภัยได้

3) ให้เด็กเรียนรู้และเข้าใจความรู้สึกของตัวเอง เพราะเด็กจำเป็นจะต้องรับรู้ความรู้สึกของตัวเองก่อนที่จะไปเข้าใจความรู้สึกของคนอื่น

4)เริ่มแรกที่ผู้ใหญ่ต้องทำเป็นตัวอย่างให้เด็กเห็น เช่น เวลาที่ผู้ใหญ่มีความรู้สึกต่างๆ เช่น เศร้า เสียใจ ดีใจ มีความสุข ผู้ใหญ่ต้องทำเป็นตัวอย่างในการบอกความรู้สึกตัวเองเป็นคำพูดง่ายๆ เช่น “แม่ดีใจที่ลูกฟังแม่ เล่นกับน้องดีๆ ไม่ทะเลาะกัน” หรือ"พ่อเหนื่อยจัง วันนี้งานของพ่อที่ทำงานเยอะมากเลย"

5) เวลาที่เด็กมีความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้นในสถานการณ์ต่างๆ ผู้ใหญ่ควรสะท้อนความรู้สึกเด็กเป็นคำพูด เพื่อให้เด็กเห็นว่า เวลาที่เขาเกิดความรู้สึกอะไรบางอย่างขึ้นมา มีคนรับรู้และเข้าใจเขา คือรับรู้ว่า เขารู้สึกอย่างไร เช่น เด็กคนหนึ่งมีการบ้านเยอะมากจากที่โรงเรียน แม่สังเกตว่าเด็กมีสีหน้าไม่พ่อใจ หน้าเบ้ แม่ก็พูดกับเด็กเป็นการแสดงว่าแม่เข้าใจความรู้สึกว่า "แม่รู้สึกว่าลูกดูหงุดหงิด คงเพราะการบ้านวันนี้เยอะมาก" เด็กก็จะเข้าใจความรู้สึกตัวเองที่เป็นอยู่ ว่า “ใช่แล้ว ตอนนี้เรากำลังหงุดหงิด ไม่พอใจที่การบ้านเยอะ” ที่สำคัญรับรู้ว่า แม่เข้าใจความรู้สึกของเขา ไม่ละเลยเขา ตรงนั้นจะช่วยให้เด็กหงุดหงิดลดลง

6) บางครั้งผู้ใหญ่มักจะรู้สึกว่า ไม่อยากให้เด็กมีอารมณ์ด้านลบ แต่จริงๆ คนทุกคนก็ต้องมีทั้งอารมณ์ดีและไม่ดีเป็นธรรมชาติ สำคัญกว่าคือการจัดการกับอารมณ์อย่างเหมาะสม ผู้ใหญ่ควรยอมรับความรู้สึกของเด็กก่อน ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกดี หรือไม่ดี ว่าความรู้สึกทุกแบบนั้นเป็นธรรมดา บางครั้งเราอาจจะดีใจ บางครั้งเราอาจเศร้า เสียใจ

7) ถ้าเด็กรู้สึกว่ามีคนที่ยอมรับในความรู้สึกของเขา เขาก็จะค่อยๆยอมรับความรู้สึกคนอื่น นำมาซึ่งความเห็นอกเห็นใจ

8 )ฝึกให้เด็กคิดในมุมมองของคนอื่น เช่น ถ้าเด็กไปตีน้อง น้องเจ็บ ร้องไห้ ลองถามเค้าว่า "หนูคิดว่าตอนนี้น้องรู้สึกยังไง" "สมมติว่ามีคนมีตีหนูแบบนี้ หนูจะรู้สึกอย่างไร แล้วหนูจะทำแบบไหนคราวหน้า"

9) พ่อแม่ควรให้เด็กได้เรียนรู้ที่จะรับผิดชอบในสิ่งที่ทำด้วย เขาจะได้เรียนรู้จักรับผิดชอบในการกระทำของตัวเอง เช่น ถ้าทำผิดให้ทำความดีชดเชย (เช่น งานบ้านที่เหมาะสมกับวัย) หรือตัดสิทธิ์ที่ชอบบางอย่าง (เช่น งดการ์ตูน)

10) ฝึกให้เด็กรู้จักควบคุมตนเอง รอคอยได้เมื่อมีความต้องการต่างๆ เช่น อยากได้ของเล่น พ่อแม่ก็ไม่ควรตามใจซื้อให้ทุกครั้ง แต่ควรให้เด็กเรียนรู้ว่าเขาจะได้เมื่อถึงเวลาที่สมควร เมื่อเขาโตเป็นผู้ใหญ่ เขาจะควบคุมตนเองได้ ถ้าเป็นเรื่องที่อาจทำให้เกิดผลเสียกับตัวเอง และคนอื่น เขาก็จะไม่ทำ

11) ตรงนี้ควรเริ่มตั้งแต่เด็กยังเล็ก และทำสม่ำเสมอจนเด็กโตขึ้นมา เพราะหากครอบครัวปลูกฝังพื้นฐานที่ดีให้เด็กตั้งแต่เล็กๆแล้ว ถึงแม้ว่าจะอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยสิ่งล่อใจ เช่น สื่อต่างๆ ที่มักทำให้เด็กหมกมุ่นอยู่กับตัวเองเป็นส่วนใหญ่ แต่อย่างน้อยเด็กก็น่าจะสามารถเติบโตมาเป็นคนที่มีความเห็นอกเห็นใจคนอื่น (รวมถึงเห็นอกเห็นใจตัวเองเป็นด้วย)

.

หมออยากจะฝากพ่อแม่ผู้ปกครองที่ได้อ่านบทความนี้เห็นความสำคัญของการปลูกฝังความเห็นอกเห็นใจในเด็กๆ ที่เรากำลังดูแลอยู่

ง่ายที่สุดคือเริ่มต้นที่ผู้ใหญ่ทำเป็นตัวอย่างในเรื่องนี้ คิดว่าเด็กๆ เรียนรู้ได้ดีจากการกระทำที่พบเห็น การกระทำให้ดูทำให้เกิดการเรียนรู้ได้ดีกว่าคำพูดที่พร่ำสอน

พ่อแม่ที่มีความใกล้ชิดเอาใจใส่ลูก มีความเห็นอกเห็นใจคนอื่น ลูกๆ ก็มักจะเป็นเช่นนั้นตามไปด้วย

.

ขอบคุณ คุณโอปอล สำหรับการเป็นแรงบันดาลใจในการเขียนบทความในวันนี้ค่ะ

 



 
Education Blog
 
newyorknurse



Create Date : 17 พฤศจิกายน 2567
Last Update : 19 พฤศจิกายน 2567 14:42:42 น.
Counter : 258 Pageviews.

3 comments
สมุฎฐานธาตุลมตามคัมภีร์เวชศึกษา unitan
(4 ก.พ. 2568 07:33:02 น.)
ตรุษจีน 2568 จ่าย-ไหว้-เที่ยววันไหน ไหว้ยังไง สิ่งที่ห้ามทำ newyorknurse
(26 ม.ค. 2568 19:25:25 น.)
"อะไรดี" ก็ว่า"ดี": น้ำหอมแบรนด์ไทยในดวงใจ "VMM" และ "แต้มบุญ" peaceplay
(26 ม.ค. 2568 11:07:06 น.)
โลกของ Bloggang XVIII - ท้าทายตัวเอง toor36
(23 ม.ค. 2568 21:00:10 น.)

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณ**mp5**, คุณปัญญา Dh, คุณกะริโตะคุง, คุณnonnoiGiwGiw, คุณกะว่าก๋า, คุณดอยสะเก็ด

  
แวะมาเยี่ยมและส่งกำลังใจครับ
โดย: **mp5** วันที่: 19 พฤศจิกายน 2567 เวลา:14:50:04 น.
  
ขอบคุณที่แวะไปส่งกำลังใจนะค้าา
โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 19 พฤศจิกายน 2567 เวลา:17:02:38 น.
  
อรุณสวัสดิ์ครับพี่น้อย

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 พฤศจิกายน 2567 เวลา:4:46:50 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Newyorknurse.BlogGang.com

newyorknurse
Location :
ราชบุรี .. New York ...   United States

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 165 คน [?]