จดหมายถึงใครบางคน...ฉบับที่ 2 สวัสดีครับ ไม่รู้ว่าชีวิตของคุณตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง สำหรับผม...ก็มีความสุขตามอัตภาพ ไม่ได้ร่ำรวยจากการงานเสียเท่าไหร่...เผลอๆ จะมีขัดสนบ้างพอให้ชีวิตมีรสกลมกล่อม แต่ก็โชคดีหน่อยที่ผมได้ทำสิ่งที่ผมอยากทำจริงๆ หวังว่าชีวิตคุณคงมีความสุขเป็นส่วนใหญ่เช่นกัน จริงๆ แล้วผมเคยเขียนจดหมายทำนองนี้มาแล้วครั้งนึง ซึ่งผมก็เขียนถึง "ใครบางคน" เหมือนที่ผมจั่วหัวในคราวนี้ หากแต่ "ใครบางคน" ในคราวนั้นไม่ใช่คุณเท่านั่นเอง และหากบังเอิญคุณได้อ่านจดหมายฉบับนี้ ผมคงต้องขออนุญาตคุณที่จะนำจดหมายฉบับนี้เผยแพร่ในหมู่คนอ่านกลุ่มเล็กๆ ที่ผมมีความสัมพันธ์ทางตัวอักษรบนโลกเสมือนสี่เหลี่ยมใบนี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมก็ได้ดัดแปลงและกลบเกลื่อน "สาร" บางอย่างพอไม่ให้คนเดาได้ว่า "คุณ" เป็นใคร แต่หากข้อความในนี้ทำให้คุณรู้สึกไม่ดี ผมก็ต้องขอโทษด้วยจริงๆ เอาล่ะ เกริ่นนำจดหมายกันมาเสียนาน คงต้องเริ่มเรื่องที่ทำให้ผมเขียนจดหมายหาคุณเสียที ผมรู้จักคุณตั้งแต่ผมเข้าเรียนมหาวิทยาลัย เรารู้จักกันในฐานะคนเคยผ่านตา ซึ่งมันก็เป็นรูปแบบความสัมพันธ์แบบคนเมืองใหญ่ ที่ไม่อนุญาตให้เราได้รู้จักกันแบบสนิทชิดเชื้อมากนัก แต่เมื่อห้วงเวลาการเรียนมหาวิทยาลัยแบบปกติผ่านไปได้ครึ่งทาง ผมกับคุณก็ได้รู้จักกันมากขึ้น จนผมเริ่มชอบคุณมากกว่าความเป็นเพื่อนเข้าเสียแล้ว แต่ถึงกระนั้น ผมก็ไม่ได้บอกคุณ จนแม้กระทั่งวันรับปริญญา ผมพบคุณครั้งหลังสุดพร้อมๆ กับน้ำตาที่ปริ่มๆ ในตา... ไม่ใช่เพราะผมเสียใจที่จะไม่ได้เจอคุณหรอกครับ (ไม่น้ำเน่าขนาดนั้นหรอก...สาบาน) หากแต่เสียใจที่ตัวเองดันเรียนไม่จบพร้อมๆ เพื่อนทุกคน รวมถึงโดนพ่อ-แม่ด่าเสียแหลกเละจากการเรียนไม่จบต่างหาก หลังจากวันนั้น...ผมก็ไม่ได้ติดต่อ หรือรู้ข่าวสารเกี่ยวกับคุณอีกเลย จนถึงวันนี้ ความชอบแบบที่ผมเคยรู้สึกกับคุณเมื่อครั้งกระโน้น...มันหายไปแล้วแหละ พร้อมๆ กับการที่ชีวิตได้พบปะพูดคุยกับคนมากหน้าหลายตาขึ้นตามอายุที่เปลี่ยนไป ประกอบกับตอนนี้ผมชักจะเหม็นเบื่อความรักเสียเต็มประดา นัยว่าผมคงได้เป็นสมาชิกชาวสมาคมคนโสดแบบไม่จำกัดระยะเวลาในกาลอันใกล้นี้ :-) ที่พอจะมีเหลืออยู่บ้าง ก็คงเป็นแค่ความระลึกถึงแบบเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมานานเสียมากกว่า แต่ยังไงก็ตาม ก็ขอบอกคุณเสียเลย ว่าผมเคยแอบชอบคุณในตอนนั้น ไม่ว่าคุณจะเคยเอะใจในตอนนั้นหรือเปล่า ถ้าคุณรู้สึกความรู้สึกของผมเมื่อคราวนั้นอยู่แล้ว กรุณาอย่าบอกผมว่ารู้ เพราะหน้าผมก็มีริ้วรอยเยอะอยู่แล้ว อย่าให้หน้าผมมีรอย (ร้าว) เพิ่มอีกเลย ;-) คุณอาจจะงงว่าอยู่ดีๆ ทำไมผมมาบอกคุณตอนนี้...ที่ผมทำแบบนี้ก็เพราะว่าผมเริ่มเกิดความรู้สึกถึงความโคลงเคลงของชีวิตมนุษย์ ที่ไม่รู้ว่าวันต่อๆ ไปของชีวิตจะเป็นอย่างไร จะมีใครจากไป จะมีใครมาให้เรารู้จักกันอีก ผมคิดถึงการลาจากหลายๆ ครั้งที่เกิดขึ้นกับคนรอบข้าง มีบางครั้งที่การลาจากนั้นได้พกพาบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ถูกสะสางไปด้วย บ้างก็เป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ บ้างก็ใหญ่จนมีความเสียใจเป็นผลผลิตของมัน ผมจึงคิดว่า ถ้ามีโอกาสที่จะทำสิ่งต่างๆ ที่เคยติดค้างคั่งคาให้มันลุล่วงไปเสีย โดยที่มันไม่ใช่เรื่องเลวร้าย คงจะเป็นเรื่องดี คงเหมือนกับตอนที่ผมยังเรียนอยู่ คุณก็คงรู้ว่าผมเป็นนักหมักการบ้านมืออาชีพ ที่มักจะเอางานรวบยอดไปส่งมันตอนปลายเทอมอยู่เรื่อยๆ พอเอางานไปส่ง ก็ต้องคอยลุ้นด้วยใจระทึกว่าอาจารย์เขาจะรับงานเราไหม แถมถ้ามีบางชิ้นที่เราลืมส่ง เราก็ต้องมาคอยพะวงกับคะแนนสอบที่จะตามมาทีหลังอีก เอาเป็นว่าเจ้าสิ่งนี้ก็เป็นการบ้านอีกชิ้นหนึ่งที่ผมต้องทำส่ง แม้ว่าปัจจุบันผลของมันจะไม่ใช่สิ่งสำคัญแล้วก็เถอะ แต่การทำหน้าที่นักเรียนที่ดี ก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายนี่นา... (หมายเหตุ : "จดหมายถึงใครบางคน" ตอนแรกอยู่ในหนังสือทำมือ "ร่างรอยทาง" ของผมเมื่อปีที่แล้ว) ไม่ได้อ่าน ไม่ได้เห็น ไดอารี่ของพี่มานาน
ยอมรับว่าคิดถึงและชอบเมื่อได้อ่าน สบายดีีรึป่าวคะ ถามตามประสาคนอยู่ชายคาเดียวกัน หลายครั้งที่เดินผ่าน หลายครั้งที่มองเห็น แต่ไม่กล้าคุยด้วย เอาเป็นว่าขอให้มีความสุขทั้งร่างกาย และจิตใจนะคะ :D โดย: hahaiiba IP: 61.90.50.244 วันที่: 30 มีนาคม 2548 เวลา:1:39:52 น.
|
อยากจะเขียนถึงใครบางคน
มั่งจัง..