สำหรับโจทย์เดือนมิถุนายน เป็นโจทย์จากน้องบอล ทนายอ้วน นะคะ "เมนูเป็นเหตุ..." น้องบอลให้คำอธิบายโจทย์นี้ว่า เพราะเหตุที่ทำอาหารแต่ละเมนูมันมีที่มาที่ไปครับ อยากอ่านที่มาของเมนูนั้น ๆ อ่ะคราบ โจทย์นี้ของน้องบอลถูกใจคนขี้โม้อย่างเรามากกกกก ที่มาที่ไปของแกงหม้อนี้มาจาก 1....ชอบอาหารจากปลาดุก ยิ่งแกงใส่กะทิแบบไหนจะใส่อะไร สามารถเบิ้ลข้าวเบิ้ลขนมจีนได้ตลอด 2....ความที่ชอบแกงปลาดุก ไปเจอแกงปลาดุกใบยี่หร่าที่ตลาดแล้วอยากกิน ซื้อมาได้ปลาหั่นบางๆ อยู่ไม่กี่ชิ้น แกงอร่อยไม่หวานแต่ว่า....เผ็ดลิ้นห้อย กินไม่สะใจ แกงเองดีกว่าไหม แกงง่ายๆ สะบัดทัพพีไม่กี่ทีก็ได้กินแล้ว (โม้ได้อีกกก ) จะใส่ปลาหนาแค่ไหน จะใส่กี่ชิ้น จะเอาเผ็ดน้อยแบบลิ้นไม่ห้อยก็ย่อมได้ 3....ใบยี่หร่าปลูกไว้ในกระถางก็มี ก็จัดไปสิคะ * ใช้น้ำพริกแกงใต้สำเร็จรูป แถวบ้านมีเจ้าอร่อยอยู่หลายเจ้า ถึงจะเผ็ดหน่อย แต่ต้องมาเจือกับกะทิก็ช่วยลดเผ็ดลง ไม่ต้องเสียเวลามานั่งโขลกเอง * ทำแกงหม้อเล็กๆ ใช้กะทิขวดเล็กผสมน้ำ 1 เท่า เทใส่หม้อ * พอเดือดใส่น้ำพริกแกงกับกะปิลงไปผสมให้เข้ากัน สัดส่วนกะเอาตามที่ชอบ ปรุงรสน้ำปลา(ถ้ากะปิไม่เค็ม) ตัดรสด้วยน้ำตาลป๊ีปแค่เล็กน้อยพอให้กลมกล่อมไม่เค็มโดด ไม่ได้ใส่เอาแกงหวานเจี๊ยบแบบร้านข้าวแกงสมัยนี้นะคะ ยิ่งแกงใต้ด้วยนี่ออกหวานล่ะก็จบกัน ปล.ไม่เข้าใจว่าเดี๋ยวนี้แกงกะทิไมว่าของภาคไหนที่ขายกันส่วนใหญ่ทำออกหวานแทบจะทุกร้าน และดันขายดีกันอีก จนกลายเป็นว่าถ้าแกงกะทิต้องรสหวานนำซะงั้น (ถึงไม่กะทิก็หวาน) * แกงจะไม่ผัดให้น้ำพริกแกงแตกมันแบบแกงเผ็ดภาคกลาง * พอน้ำแกงเดือดก็เอาปลาดุกที่ล้างเมือกจนสะอาดใส่ลงไป ไม่ต้องคนนะคะเดี๋ยวจะคาว * พอแกงเดือดอีกรอบก็ใส่ใบยี่หร่าจะซอยหยาบหรือทั้งใบลงไป * ปิดเตา --> ตักใส่ชาม หรือจะตักราดข้าว ราดขนมจีนตามแต่ชอบ เป็นแกงที่ทำง่ายมาก
ทานกับข้าวหรือขนมจีน
น่าอร่อยมากค่ะพี่แห่มม