...........................................
(คำโปรยปกหลัง)
หากเปรียบความรักดั่งไวน์ ช่วงเวลาสั้นๆที่ได้จิบไวน์รสเลิศที่เป็นเนื้อคู่ คงไม่ต่างอะไรกับการพบคนที่ใช่ พลาดเพียงเสี้ยวนาที...ก็อาจพลาด เนื้อคู่ ไปตลอดชีวิต
หลังจากที่เด็กน้อยผมทองตาฟ้าประกาศออกโทรทัศน์หา มามมี คนใหม่ให้ แด๊ดดี้ จนกลายเป็นประเด็นร้อน...ธัญชมา...นักข่าวสาวจำต้องยอมทรยศอุดมการณ์เพื่อหาเลี้ยงปากท้องด้วยการแฝงตัวเข้าไปอยู่ในไร่องุ่นของ...แพทริก พิพัฐน์ เวลส์...คุณพ่อลูกหนึ่งดกรีไวน์เมกเกอร์ชื่อก้องโลก เพื่อสืบว่าภรรยาของเขาคือใคร
ท่ามกลางบรรยากาศรื่นรมย์กรุ่นกลิ่นไวน์ ความรักเริ่มส่งกลินอายอบอวลไปทั่วไร่ ความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อเจ้าของไร่หนุ่มสั่นคลอนหัวใจของธัญชมาไม่น้อยเลย ขณะที่ในสายตาของพิพัฐน์ หญิงสาวคือคนที่เข้ามาเติมเต็มชีวิตและเยียวยาแผลในวัยเด็กให้เขา
วันใดที่เขารู้ตัวตนที่แท้จริงของเธอ ชายหนุ่มจะทำใจปล่อยเธอไปได้หรือ เพราะหากการได้พบเนื้อคู่เปรียบดั่งการจิบไวน์เนื้อคู่ซึ่งมีเพียงหนึ่งเดียว เขาก็คิดว่าตอนนี้ เนื้อคู่ ของเขา...อยู่ตรงหน้านี่เอง
................................................................
ขอบอกว่าสำหรับนิยายเรื่องนี้อิช้านไม่ได้ตั้งใจจะซื้อ คำโปรยก็ไม่อ่าน คำแนะนำก็ไม่มี รีวิวก็ไม่เจอ แถมไม่ได้เข้าไปดูในเว็บที่เขาอัพออนไลน์ด้วย แต่สิ่งที่ทำให้อิช้านตัดสินใจได้ด้วยความคิดแบบชั่ววูบ เสี้ยววินาทีแห่งการตัดสินใจเลยคือ ไอ้ตราส้มๆเหลืองๆ บนหน้าหน้าปกนิยายนั่นล่ะเป็นเหตุ
อ่าาาาาาาาา มันเป็นตราที่ทำให้อิช้านรู้สึกไม่ผิดหวังจริงๆ อุกรี๊ดดดดดส์
ในนิยายพล็อตนางเอกปลอมตัวไปทำข่าวพระเอกผู้เก็บตัวและมีนิสัยรักความเป็นส่วนตัวนี่ อิช้านอ่านผ่านมาหลายเล่มอยู่เหมือนกัน เกือบจะเป็นนิยายสูตรสำเร็จในความรู้สึก แต่ว่าไม่ใช่ซะทีเดียว ถึงคุณพิพัฐน์ของอิช้านเป็นพระเอกในฝันสำหรับนิยายสูตรแนวนี้ก็เถอะ ทั้งมาดหล่อ มาดเท่ห์ ทุ่มเท ถูกทอดทิ้ง ชีวิตมีปมด้อย ขาดความรัก นิสัยเสียบ้าง และที่สำคัญ อ่าาาาาา...ดวงตาสีฟ้าชวนฝัน >____< มันแทบจะไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ เลยหากจะมีคนพูดว่ามันคือพล็อตนิยายสูตรสำเร็จของชายหนุ่มเจ้าของไร่ผู้แสนเย็นชา
แต่สำหรับอิช้านแล้วไม่ใช่เลย...มันไม่ใช่สูตรสำเร็จชนิดพิมพ์นิยมตามท้องตลาด เพราะคนเขียนเขาใส่ข้อมูลของไวน์เมกเกอร์มาชนิดจัดเต็มแต่ไม่สูญเสียอรรถรสในการอ่าน กลับยิ่งสะท้อนความทุ่มเทของพระเอกที่อยากจะให้ไวน์ของไร่ได้ยืนอยู่ในระดับโลก โดนมีตัวเองเป็นผู้เนรมิตมันขึ้นมาตามฉายา พ่อมดแห่งไวน์ ได้ชัดเจนยิ่งขึ้นด้วยซ้ำ
อ่านเรื่องนี้แล้วจริงๆแอบเกลียดพระเอกบางมุมเพราะเขาเป็นคนโมโหร้าย และเมื่อไหร่ที่โมโหสติของเขาก็ขาดผึง โดยไม่สนว่าคนตรงหน้าจะเป็นลูกชาย หรือว่าใครก็ตาม แต่อิช้านก็เข้าใจพระเอกในที่สุด เพราะคนเขียนเขาวางปมชีวิตได้แน่นและสมเหตุสมผล มันค่อนข้างทำให้รู้สึกถึงความปวดร้าวของเด็กที่ถูกทอดทิ้ง ถูกทำร้ายจิตใจเป็นอย่างดี
และที่ชอบก็คือนางเอกขาลุย อุดมการณ์กับปากท้องบางทีก็สวนทางกัน ซึ่ง ธัญชมา ก็เป็นแบบนั้นเมื่อเธอเลือกอุดมการณ์แล้วไม่รอด ก็ต้องยอมให้ตัวเองเป็นไปกลไกของการเอาตัวรอด การเป็นนักข่าวที่ทำให้เธอต้องแฝงตัวเข้าไปเป็นพี่เลี้ยง ซึ่งเรื่องนี้ขอบอกว่าไม่ได้เล่นง่ายๆนะคะ แบบที่ว่า ลูกชายพระเอกเปลี่ยนพี่เลี้ยงบ่อย แล้วนางเอกมาเจอประกาศเลยแฝงตัวอะไรเงี้ย อันนี้มุกเก่าค่ะ เพราะคนเขียนเรื่องนี้เขามามุกเหนือกว่า ขนาดให้คุณพระเอกต้องไปลงทุนขอร้องให้นางเอกมาเป็นพี่เลี้ยงให้ลูกชายเลยเหอะ
สิ่งที่ชอบเรื่องนี้คือปมของตัวละครอย่างพระเอกกับลูกชายที่บอกได้เลยว่าชอบการผูกปมแบบนี้ วัยเด็กพระเอกถูกพ่อทำร้ายจิตใจ เขาซึมซับสิ่งเหล่านี้มาอย่างไม่รู้ตัวและทำมันเหมือนกันที่ครั้งหนึ่งพ่อของเขาเคยทำ อย่างปมเรื่องแม่ของลูกชายเขาก็เหมือนกัน ชอบจุดที่นางเอกเอกเตือนสติพระเอกมากๆๆๆๆๆ จากการที่ลูกชายของพระเอกถามหาว่าแม่ของเขาคือใคร? แต่คนเป็นเป็นพ่อกลับไม่เคยปริปาก ไม่เคยพูดให้ได้ยิน นางเอกชี้ให้เห็นว่าการกระทำของพระเอกมันกลายเป็นสิ่งที่บ่มเพาะขึ้นในหัวใจของเด็กน้อยว่า เรื่องของแม่เป็นเรื่องใหญ่มาก เมื่อถูกเพื่อนๆล้อ หรือพูดถึงมันเลยยิ่งเหมือนการทับถมปัญหาให้พอกพูนโดยที่ไม่ได้หยุดเพียงแค่มันเป็นจุดสีดำเล็กๆในหัวใจเท่านั้น มาลามกลายเป็นบาดแผลใหญ่ๆที่ใครก็แตะต้องไม่ได้ ถ้าทำให้มันเป็นเรื่องเล็กไม่มีอะไรก็จะไม่มีใครต้องหวาดกลัว เป็นสิ่งที่นางเอกพยายามจะบอกให้พระเอกเข้าใจ
ส่วนอีกจุดที่ชอบมากๆ คงไม่พ้นตัวของนางเอก บุคลิก วิธีพูด มันไม่ได้แค่ให้พระเอกหลงรักหรอก อิช้านอ่านเองยังชอบเลย นางเอกความคิดห้าวและเด็ดขาด รู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาว บางครั้งก็เจ้าเล่ห์อย่างร้ายกาจ แต่ว่านางเอกเป็นคนมองโลกอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ไม่ได้ยึดติดความฝัน มีอุดมการณ์แต่ก็ต้องยอมผ่อนเพื่อปากท้อง และเมื่อรู้ว่ามันคือสิ่งที่ฝืนใจและทำร้ายคนอื่นเธอก็หยุด นางเอกไม่ใช่นางเอกสีขาว แต่มีความแกร่ง แถมยังแอบฮาเป็นระยะๆด้วยล่ะ
เอาเข้าจริงอิช้านยังไม่รู้ว่านางเอกหลงรักพระเอกตอนไหนด้วยนะเนี่ยจนป่านนี้ 555+ เหมือนค่อยๆหวั่นไหว ค่อยๆเรียนรู้และค่อยๆซึมซับกันไปมากกว่า แถมยังทำให้เห็นว่าเนี่ยนางเอกอ่าคือเนื้อคู่ของพระเอกแท้ๆ ยังไงก็ไปไหนไม่รอดหรอกไม่ว่าจะมีความเข้าใจผิดกี่ครั้งก็เถอะ ถึงขนาดที่ว่าพระเอกจำกลิ่นของนางเอกได้เลยนะขอบอกกกกก (พระเอกของเค้าไม่ได้โรคจิตนะ แค่มีพรสวรรค์เกี่ยวกับการดมกลิ่นเฉยๆ !!!!)
ถึงแม้ว่าสำนวนภาษาบางจุดจะมีสะดุด และไม่ค่อยเคลียร์ไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้นิยายเรื่องนี้แย่ลงไปแต่อย่างใด ยังมีความสนุกแบบเรียบๆ ชนิดที่อย่าได้หลวมตัวอ่านเชียวมันจะยาวววววววววววววววววววววว!!!
(ต่อด้านล่างค่ะ)
ช่วงบทแรกๆ อิช้านอ่านแล้วก็แอบมึนๆงงๆไปบ้างมันให้ความรู้สึกว่าไม่มีก็ได้อ่า แต่ปรับให้มันเป็นอย่างอื่นแทนอะไรเงี้ย ถึงมันจะดำเนินเรื่องไปตามไทม์ไลน์ปกติก็จริง แต่มันเรียบเกินไป คิดว่าถ้าแอบซ่อนปมเรื่องสร้อยสีฟ้าไว้น่าจะสนุกกว่านี้เข้าไปอีก มันเป็น First Impression ที่มีค่ามาก สมองลืมแต่หัวใจจำได้นี่ไม่น่าเฉลยให้คนอ่านรู้เลยจริงๆ เพราะอิช้านชอบลุ้น ฮ่าๆๆๆ พอไม่ต้องลุ้นมันก็เลยเหมือนกับเป็นการประกาศตัวว่า ยังไงพระเอกก็ไม่มีทางหลุดมือนางเอกไปได้อย่างแน่นอน
เอาล่ะมีถึงตรงนี้แล้ว อิช้านก็ต้องขอสรุปดีก่าว่านิยายเรื่องนี้อ่านแล้วไม่ผิดหวัง อ่านสนุก อ่านเพลิน น่ารักกำลังพอดีๆ เรียกว่าอ่านได้สบายๆ แอบบีบหัวใจเล็กๆตอนเฉลายความจริง ถึงอิช้านจะไม่ได้จิกหมอน กัดเล็บ เคี้ยวผ้าห่ม แต่ก็ยังชอบ และคิดว่าคงได้หยิบมาอ่านอีกบ่อยๆ ชอบตัวละคร ชอบบทสนทนา ชอบหลายๆอย่างเลยล่ะคร่าาาาาา