แซ่บเรื่องหนัง(1) : Sympathy For Mr Vengeance/ The Lover/ Spirited Away/ The Omen/ Scary Movie 4
**ซีรี่ส์หนังรอบนี้อาจยาวเข้าขั้นมหากาพย์
อย่าโทษเจ้าของบล๊อกที่ไม่มีเวลา เพราะว่าตลอดเทอมแรกของการเป็นนิสิต
มันไม่มีเวลา!!
เพราะฉะนั้นนี่คือรีวิวโคตรย้อนหลังของหนังที่ดูมาทั้งเทอม!!



Date :: (Can't remember)
Location :: DVD เถื่อน

Sympathy For Mr Vengeance หนังเกาหลีน้ำดีภาคแรกของไตรภาคแก้แค้นของ Park Chan-wook (สองภาคหลังคือ Old Boy กับ Sympathy For Lady Vengeance ที่ ลียองเอ เป็นนางเอก) เล่าเรื่องของหนุ่มใบ้หูหนวกคนหนึ่งที่พยายามหาเงินมารักษาพี่สาว จึงได้ลักพาตัวลูกสาวของนายทุนเงินหนาคนหนึ่งมาเพื่อเรียกค่าไถ่ หลังจากที่ถูกแก๊งค้าอวัยวะผ่าไตไปแล้วชักดาบ!

แต่ด้วยความที่เป็นหนังของ Park Chan-wook เรื่องราวคงไม่จบแค่นี้.. เพราะนอกจากจะโดนชักดาบจนต้องไปลักพาตัวเด็กแล้ว.. หลังจากนั้นไม่นานพี่สาวของพ่อใบ้ของเราก็ดันตรอมใจฆ่าตัวตาย แล้วเมื่อจะเอาลูกไปคืน ก็มีเหตุให้เด็กต้องจมน้ำตายเสียอีก ยอกย้อนยิ่งนัก!

ด้วยเหตุการณ์ทั้งหมดทั้งปวง เรื่องราวจึงเป็น Vengeance (การแก้แค้น) ไปในที่สุด...

เพราะความที่ได้ดู Old Boy ภาคสองของไตรภาคนี้มาก่อน (ภาคสาม "แดจังกึมทวงแค้น" ยังไม่ได้ดู เพราะยังคงมีหวังว่ามันน่าจะเข้าโรงลิโด้ เลยยังไม่ได้ไปซื้อดีวีดีเถื่อน) เลยรู้สึกว่าภาคนี้ดีกรีความแรงมันน้อยกว่า เลยชอบภาคสองมากกว่า
- สรุปว่าเจ้าของบล๊อกซาดิสต์

ไม่ได้ชอบเพราะแค่ซาดิสต์ แต่ว่าหนังเรื่องนี้บทดี (จะเอาตัวอย่างเหรอ..เหอๆๆ.. คือดูนานแล้วแอบจำไม่ได้อะ ขออภัย) นักแสดงก็ดี ทั้งพี่ใบ้(Shin Ha-kun จำไม่ได้แล้วว่าเล่นเรื่องไหนอีกมั่ง เหอๆๆ), แฟนพี่ใบ้(Bae Doo-na เรื่องนี้เซ็กซี่มาก ผลงานล่าสุด The Host) และ พ่อเด็ก(Song Gang-ho พระเอก The Host)

เต็ม 10 ให้ 7.5 ละกัน



Date :: (Can't remember)
Location :: DVD ลิขสิทธิ์

หนังเรื่องนี้ซื้อมาด้วยราคาไม่ถึงร้อย แถมยังหลุดรอดมรสุมเซนเซอร์งี่เง่ามาได้แบบหวุดหวิดที่สุด (สงสัยเพราะว่าหนังมันเก่าแล้ว วางแผงมานานก่อนที่คณะทำงานควายๆนี่จะเข้ามาทำงานเซนเซอร์ "ศิลปะ" แบบ "ไร้ศิลป์" ที่สุดในโลก) เพราะชื่อเสียงว่าเป็น "หนังโป๊คลาสสิก" ของโลกภาพยนตร์ ว่าไปนั่น! (เหตุผลอีกข้อก็คือมันขึ้นหราที่หน้าปกว่า Unrated Version 55555 หื่นขึ้นสมอง)

โลเกชั่นในเรื่องคือประเทศเวียดนามยุคประมาณรัชกาลที่ 6(ทศวรรษ 1920 ก็ประมาณ พ.ศ.2463) Jane March แสดงเป็นนักเรียนสาววัยรุ่นชาวฝรั่งเศสวัยยังไม่พ้น 17 ดีที่มีแม่เป็นครูสอนในโรงเรียนบ้านนอกของเวียดนาม ในขณะที่ตัวเองมาเฟลิร์ตหนุ่มจีนผู้ร่ำรวยที่รับบทโดย เหลียงเฉาเหว่ย (เล่นเป็นคนรวยที่รวยมากจนนั่งๆนอนๆกินได้ทุกวัน)

เนื้อเรื่องไม่มีอะไรเลย... ก็แค่ยัยเด็กนี่ไปยั่วไอ้หนุ่มจีน แล้วก็ได้กัน เกือบทั้งเรื่อง... (ตรงนี้แหละที่มันกลายเป็นหนังโป๊คลาสสิก เหอๆๆๆ... เห็นแทบทุกรูขุมขน.. นี่คือคำจำกัดความ) แล้วพ่อของไอ้จีนนี่ก็ไม่ยอมให้แต่งงานกับเด็กนี่ ก็เลยเป็นอันว่ารักไม่สมหวัง. เอวัง~

แค่นี้แหละ... ไม่รู้จะพูดอะไรแล้วเหมือนกัน เพราะซื้อมาก็ไม่ได้กะจะดูเรื่องซะทีเดียวอยู่แล้ว 5555

ให้ 6 เต็ม 10 ละกัน



Date : 24 พฤษภาคม 2549
Location : DVD ยืมเพื่อน

จริงๆ เจ้าของ DVD Spirited Away มีเรื่อง Howl's Moving Castle ด้วย.. แต่ว่ายังไม่ทันดูก็เอาไปคืนห้องสมุดซะก่อน อดยืมมาดูเลยให้ตายเหอะ - -*

**ดีวีดี Spirited Away อันที่เอามาดูนี้พิการเล็กน้อย เพราะว่าซับไทยห่วย วนไปวนมาทั้งเรื่อง ทำให้ต้องทนดูซับอังกฤษ (พออ่านแล้วแปลไม่ออกก็ไปฟังพากย์ไทยเอา เหอๆๆ) ไปตั้งแต่ยังไม่ทันถึงครึ่งเรื่องแรก

ชอบแก่นที่เรื่องนี้นำเสนอมากๆ คือเรื่อง "ตัวตน" หรือ "อัตลักษณ์" ของคนแต่ละคน โดยเมืองปีศาจในเรื่องนั้นพยายามทำให้ จิฮิโระ ละทิ้ง "ชื่อ" ของตัวเอง (โดยการบังคับให้ใช้ชื่อ Zen แทน ตอนที่ทำงานอยู่ในปราสาทปีศาจเพื่อแลกกับการคืนร่างของพ่อกับแม่) ซึ่งก็เปรียบได้กับการละทิ้งตัวตนของตัวเองเมื่อเข้าไปอยู่ในสังคมใหม่

บางครั้งคนเราก็ยอมทิ้งอัตลักษณ์ของตัวเองเมื่ออยู่ในสังคมใหม่ เช่นโรงเรียนใหม่ มหาวิทยาลัยใหม่ ที่ทำงานใหม่ ฯลฯ เพียงเพื่อให้เป็นที่ยอมรับของคนในนั้น หรือเพื่ออะไรบางอย่าง ทั้งที่จริงๆแล้วเราไม่จำเป็นต้องทำอะไรแบบนั้นเลย เพราะเมื่อเราทิ้งตัวตนของเราไปก็ใช่ว่าจะได้อะไรดีๆ.. เหมือนอย่างจิฮิโระในเรื่องที่ถ้านึกชื่อไม่ออก ก็ไม่มีวันหลุดออกมาจากโลกปีศาจได้

ถึงจะเป็นการ์ตูนสองมิติในโลกที่การ์ตูนสามมิติเกลื่อนเมือง แต่ Spirited Away ก็กลายเป็นการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องแรก และการ์ตูนสองมิติเรื่องแรกที่ได้รางวัลออสการ์ Animation ยอดเยี่ยม งานภาพสองมิติเรื่องนี้สวยโคตร พลิ้ว เป็นธรรมชาติ(สวยกว่าสามมิติยุคหลังๆบางเรื่องซะอีก) ถือว่าจุดประกายให้การ์ตูนสองมิติคืนชีพ แล้วก็ผลักดันให้วงการแอนิเมชั่นญี่ปุ่น (โดยเฉพาะของสตูดิโอ Ghibli) ขายได้ในวงกว้างกว่าเก่าด้วย (Howl's Moving Castle ก็เข้าชิงปีล่าสุดเหมือนกัน แต่แพ้ The Incredibles ไป) ด้วยเนื้อหาที่เปี่ยมจินตนาการไม่แพ้ฝั่งพิกซาร์ดิสนีย์

8.5 เต็ม 10



Date : 7 มิถุนายน 2549
Location : Grand EGV Siam Discovery

The Omen อาถรรพ์ 666 นี่เคยได้ยินชื่อมาซักพักใหญ่ๆแล้ว ว่าเป็นหนังสยองขวัญโคตรอภิมหาคลาสสิก ก็เลยกระตุ้นต่อมอยากดูสุดๆ..

เนื้อเรื่องก็คือ โลกซาตานพยายามจะครองโลกมนุษย์ ก็เลยส่งซาตานมาเกิดในโลกมนุษย์ โดยไปเกิดเป็นลูกชายของทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศอังกฤษ

เมื่ออายุเข้าปีที่หก เหตุการณ์ร้ายๆก็เริ่มเกิดขึ้นกับครอบครัวท่านทูต ตั้งแต่พี่เลี้ยงกระโดดลงมาจากหลังคาคฤหาสน์ต่อหน้าคนเป็นพันในงานวันเกิดเจ้าซาตานน้อย (หลังจากพ่อซาตานเดเมี่ยนจ้องหน้าหมาดำให้ไปจ้องหน้าพี่เลี้ยง) อุบัติเหตุที่เกิดกับแม่ของเดเมี่ยน และหลวงพ่อผู้น่าสงสัย ที่มาพร้อมกับคำเตือนให้ระวังภัยจากซาตานตนนี้

ถ้าจะนับความน่ากลัวแบบสยองขวัญก็ถือว่ามีอยู่บ้าง (ด้วยความที่ยังไม่เคยดูภาคเก่า เลยไม่รู้ว่าตกลงมันสยองกว่ามั้ย) แต่ส่วนใหญ่เล่นกับเสียงแล้วก็ความตกใจมากกว่า มีแค่ฉากฆ่าในโรงพยาบาลที่สั่นประสาทมากๆ (ฉีดอากาศเข้าไปในสายน้ำเกลือให้อากาศไหลเข้าเส้นเลือดตาย คิดได้ไง!)

ถ้านับแค่ความสยองก็ถือว่าพอดูได้ แต่พอมาดูที่เรื่องบท เรียกได้ว่าบทหนังเรื่องนี้ช่องโหว่เยอะมากๆ.. ตั้งแต่การคัดเลือกพี่เลี้ยงคนใหม่ของบ้านท่านทูต ที่นังแม่โง่ได้ใจมาก ด้วยการเลือกพี่เลี้ยงสาวสติเกือบแตก หน้าตาดูยังไงๆก็ "อีนี่ร้ายแน่" มาเป็นพี่เลี้ยงลูก (และฟูมฟักสัญชาตญาณซาตานให้ลูกตัวเอง) แถมยังเป็นคนที่ไม่มี resume การทำงานอีกต่างหาก

อีกอย่างที่โหว่ที่สุดในโลกก็เป็นตอนท้ายๆเรื่อง ที่ท่านทูตไปตะลอนๆแถวตะวันออกกลางกับนักข่าวที่บังเอิญถ่ายภาพซาตานได้ เพื่อพิสูจน์ว่าลูกตัวเองเป็นซาตาน คืออยากจะถามว่า "ทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศอังกฤษ มีเวลาว่างงานมากขนาดมาเดินเล่นตะวันออกกลางเป็นวันๆได้ด้วยเรอะ?"

แถมตอนจบยังงี่เง่าเกินจะบรรยาย... (ถ้ามันไม่มัวแต่สวดมนต์น้า ก็จะไม่มีภาคต่อตั้ง 5 ภาคแบบนี้น่ะเซ่ - -*

ปิดท้ายให้คะแนนความดีที่ ไอ้เด็กผีซาตานเดเมี่ยน หน้าตาจิตมาก...

ให้ 5.5 เต็ม 10



Date : 8 มิถุนายน 2549
Location : SF Cinema MBK

หนังล้อเลียนภาคสี่ของตระกูล Scary Movie (ที่ผิดคำพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากคำโปรยของภาคแรกที่บอกว่า No Sequel) ที่หวังจะแก้ตัวแทนภาค 2-3 ที่ออกมาห่วยเหลือกำลัง เพราะมัวแต่ไปเล่นมุขใต้สะดือ

เนื้อเรื่อง...
ภาคนี้มันไม่มีเนื้อเรื่องครับพ่อแม่พี่น้อง!!
มันมั่วมาก..

แต่จะเอาจริงๆมันก็ดีล่ะ เพราะความเป็นหนังตลกบางทีมันไม่ต้องมีเนื้อเรื่องซับซ้อนซ่อนเงื่อน (เหมือนภาค 1) ก็ได้ ยิ่งประกาศตัวว่าเป็นหนังล้อเลียน ก็ต้องมุ่งล้อเลียนหนังดังให้ถึงที่สุด โดยเป้าหมายหลักของหนังเรื่องนี้ได้แก่ War of the Worlds, The Grudge(จูออนภาคฮอลลีวู้ด), Saw และเรื่องอื่นๆเป็นเบี้ยใบ้รายทางเก็บเล็กผสมน้อยกันไป

ภาคนี้ฮากว่าภาคสามเยอะ ด้วยการที่ไม่ตัดตอนฮาสุดๆมาโปะไว้ในหนังตัวอย่างจนหมดเรื่องเหมือนภาคสาม อย่างน้อยก็ยังเหลือตอนฮาในหนังเอาไว้บ้าง และในส่วนนั้นก็มีตอนที่ฮาได้ใจอยู่เยอะพอสมควรล่ะ (ฮาได้ใจ = ฮาขี้แตกขี้แตน)

นอกจากมุขเจ็บตัว (พ่อ (Tom Ryan - ชื่อในเรื่องน่ะ) ฟาดงวงฟาดงาใส่ลูกสาว -- ล้อเลียนคู่ Tom Cruise กับ Dakota Fanning ใน War of the Worlds) กับมุขสกปรก (Anna Faris เผลอเอาเยี่ยวเช็ดตัวคนแก่ที่ต้องดูแล -- คนแก่คนนี้อาศัยอยู่ในบ้านสไตล์ญี่ปุ่นกลางเมืองนิวยอร์ก - -*) ก็ยังมีมุขที่ได้ใจสุดๆ อยู่หลายเหมือนกัน..

มุข ผีจูออนพูดภาษาญี่ปุ่น เป็นมุขที่ได้ใจที่สุดแล้ว (ตามลิ้งไปดูครับ สำหรับคนเน็ตเร็ว) ต้องตั้งใจฟังนิดนึงนะ https://www.youtube.com/watch?v=GU3-e8RbVE4

* เด็กผีจูออน เหมือนผีจูออนต้นฉบับมาก!

Anna Faris ที่เป็นนางเอก น่ารักขึ้นกว่าภาคหนึ่งภาคสองเยอะ (แถมยังไปเล่นน่ารักแบบเป็นตัวเป็นตนใน My Super Ex-Girlfriend ด้วย) เล่นเอ๋อได้เนียนมาก..

สรุปเอาง่ายๆ ก็เป็นหนังที่ดูเอาฮา คลายเครียดได้โคตรดี

เต็ม 10 ให้ 8

(ต่อตอน 2)



Create Date : 02 ตุลาคม 2549
Last Update : 4 ตุลาคม 2549 10:46:34 น.
Counter : 1838 Pageviews.

0 comments
: กะว่าก๋าแนะนำหนังสือ - ชัมบาลา : กะว่าก๋า
(11 ม.ค. 2568 05:42:07 น.)
เก็บตกการเดินออกกำลัง... tanjira
(9 ม.ค. 2568 14:11:34 น.)
รวมธรรม14 นาฬิกาสีชมพู
(12 ม.ค. 2568 07:41:17 น.)
#สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระคติธรรม เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ newyorknurse
(12 ม.ค. 2568 00:10:07 น.)
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Nanoguy.BlogGang.com

nanoguy
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด