พระแก้ว ไพฑูรย์ วัดหลวง จังหวัดอุบลราชธานี ใกล้จะสงกรานต์แล้ว วันนี้เลยนำเรื่องนี้มาให้ท่านได้ชมกัน พระแก้ว ไพฑูรย์องค์นี้ ![]() เป็นสมบัติของ วัดหลวง และของเจ้านายเมืองอุบลราชธานี มาแต่โบราณโดยแท้ พระแก้วไพฑูรย์ เป็นหนึ่งใน แก้ว อันเป็น รัตนชาติ คือ “เพชรดี มณีแดง เขื่องใสแสงมรกต เหลืองใสบุษราคัม ทองแก่กำโมเมนเอก สีหมอกเมฆนิลกาลมุกดาหารหมอกมัว แดงสลัวเพทาย สังวาลสายไพฑูรย์ “ หากยกองค์พระขึ้นส่องจะเห็นเป็นคล้ายสายฝนหยาดลงมาจากฟ้า อันเป็นนิมิตหมายแห่งความอุดมสมบูรณ์ ฝนตกตามฤดูกาลเป็นพระแก้วคู่บ้านคู่เมืองของ เมืองอุบลราชธานี ในกาลนี้ เราได้รับเมตตาจากท่าน พระครูวิลาสกิจจาทร เจ้าอาวาส วัดหลวง องค์ปัจจุบัน ![]() ซึ่งเราเรียกท่านว่า ปู่สอน เนื่องจากท่านชื่อ บัวสอน จึงขานนามท่านว่า ปู่สอน ท่านเมตตายกองค์พระแก้วไพฑูรย์ มาวางให้กราบ ที่อยู่เบื้องหน้านี้ เอง (องค์จริงสวยงามกว่าภาพถ่ายเยอะมาก) ![]() งดงามจนลืมที่จะเก็บภาพซ้ายขวาหน้าหลังกันเลยทีเดียว หากบุญพาวาสนาถึงคงต้องกลับไปขอเมตตาท่านเก็บให้ครบทุกองศา ขอกล่าวถึงประวัติกันบ้าง ในจังหวัดอุบลมีพระแก้วคู่บ้านคู่เมืองอยู่ 5 องค์ แต่กาลนี้ เราขอเอ่ยถึง 2 องค์ที่ได้รับข้อมูลการบอกเล่า คือ พระแก้วไพฑูรย์ และ พระแก้วบุษราคัม ![]() ประวัติ พระคู่บ้านคู่เมือง ใน วัดหลวง นั่นคือ พระแก้วไพฑูรย์ แห่งเมืองอุบลราชธานีศรีวนาลัยประเทศราชนี้ ซึ่งเป็นพระที่เกิดจากหินธรรมชาติ มีอายุนับหลายร้อยปี ตามคำบอกกล่าวสืบทอดกันมาจากวจีท่านเจ้าอาวาสสืบต่อรุ่นสู่รุ่น ของเจ้านายเมืองอุบลฯ ส่วนผู้ใดที่เป็นผู้แกะหินให้เป็นพระพุทธรูปนั้นมิเป็นที่ปรากฎ แต่เป็นพระพุทธรูปที่อยู่ในการปกครองของเจ้านายเมืองอุบลมานานแต่บรรพบุรุษ พระปทุมวรราชสุริยวงศ์ (เจ้าคำผง) ได้ถวายเป็นสมบัติของ วัดหลวง คู่กับ พระแก้วบุษราคัม ![]() พระปทุมวรราชสุริยวงศ์ (เจ้าคำผง) ![]() มีเหตุการณ์หนึ่ง เจ้านายทางกรุงเทพมหานครมาปกครองเมืองอุบล ในสมัยรัชกาลที่ 5 เจ้านายฝ่ายเมืองอุบลราชธานีเกรงว่าเจ้านายทางกรุงเทพ จะบังคับเอา พระแก้วทั้งสององค์ไปเป็นสมบัติของส่วนตัว จึงได้นำพระแก้วทั้งสององค์ออกไปซ่อนไว้ โดยไม่แพร่งพรายให้ผู้ใดได้รับรู้ ในกาลต่อมาเมื่อมีการสร้าง วัดศรีอุบลรัตนาราม (วัดศรีทอง) โดยเจ้าอุปฮาชโท บิดาของพระอุบลเดชประชารักษ์ (เสือ ณ อุบล) จึงได้ไปเชิญพระแก้วทั้งสองออกมาจากที่ซ่อน สำหรับพระแก้วบุษราคัมนั้น ได้ถวายแด่พระเดชพระคุณพระเทวธัมมี (ม้าว) ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสรูปแรกของวัดศรีทอง (วัดศรีอุบลรัตนารามในปัจจุบัน) อันเนื่องด้วยเป็นลัทธิวิหาริกของ "พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว" รัชกาลที่ 4 มาจากกรุงเทพ คงจะมีความเกรงใจไม่กล้าที่จะขอเอาพระแก้วทั้ง 2 องค์นี้ ไปจากเมือง อุบลราชธานี ส่วน พระแก้วไพฑูรย์นั้น ทายาท ของเจ้านายเมืองอุบลราชธานีเอาไปเก็บรักษาไว้ เพราะเป็นสมบัติอันล้ำค่าของบรรพบุรุษ ต่อมาภายหลังจึงได้นำมาถวาย พระครูวิลาสกิจจาทร เจ้าอาวาส วัดหลวง ให้เป็นสมบัติของ วัดหลวง ตามเดิม พระแก้วไพฑูรย์ จึงได้กลับมาประดิษฐานวัดหลวงตามเดิมดังที่เห็นอยู่ในขณะนี้ และในทุกๆปีช่วง วันสงกรานต์ จะมีการอัญเชิญองค์พระแก้วของแต่ละวัด มาให้พุทธศาสนิกชนได้สรงน้ำและกราบสักการะ รวมถึง องค์พระแก้วไพฑูรย์ นี้ก็เช่นกัน ![]() วัดหลวง อ.เมือง จังหวัดอุบลราชธานี ![]() ทางเข้า เข้าได้ 2 ทางหนึ่ง ติดถนนพรหมเทพ อีกทางหนึ่งติดริมฝั่งแม่น้ำมูล เรียกกันว่า ท่าตลาดใหญ่ หรือ ท่าวัดหลวงก็มิผิด
กราบ
โดย: แคท IP: 184.22.106.21 วันที่: 5 มีนาคม 2563 เวลา:16:37:59 น.
คนอุบลยังไม่ค่อยมีโอกาสได้เห็นองค์จริงเลยค่ะ คุณโชคดีมาก
พระแก้วสามองค์ที่วัดจะผลัดกันนำมาแสดงให้ประชาชนได้กราบไหว้หรือสรงน้ำในวันสำคัญต่างๆ คือ พระแก้วบุษราคัม (วันสงกรานต์) พระแก้วเพทาย(วัดป่าน้อยหรือวัดมณีวนาราม) พระแก้วไพฑูรย์ (วัดหลวง) รออ่านว่าอีกสององค์คือพระองค์ไหน ชื่ออะไร เสียดายที่ไม่ได้เล่าต่อไว้นะคะ โดย: เพรางาย
วันที่: 5 มีนาคม 2563 เวลา:20:29:58 น.สาธุด้วยค่ะ ขอบคุณสำหรับการแบ่งปัน
โดย: มด IP: 139.99.104.95 วันที่: 1 กรกฎาคม 2563 เวลา:1:32:55 น.
|
บทความทั้งหมด
|















ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [