ตะรุเตากับเราสองคน ตอนที่ 3
วันที่ 11 ดำน้ำที่ราวี


กินข้าวเช้า รับข้าวกล่องที่สั่งไว้ ก็ได้เวลาไปดำน้ำ เย้ คิดถึงทะเลจังเลย รู้สึกอย่างกับว่าไม่ได้ไปดำน้ำมาเป็นปี (ต้นปี หล่อนเพิ่งไปลันตามานะยะ )

จุดแรกที่ปล่อยให้ลงก็ได้เรื่องเลย น่าจะเป็นร่องน้ำจาบัง ซึ่งน้ำแรงมาก เราก็ลืมตัวนึกว่าตัวเองยังสาว ๆ อยู่ ลงไปก็ได้เรื่อง ให้คนเรือไปลากกลับเรือ ที่สำคัญ หน้ากากที่เช่ามา ลืมเอามาลองก่อนออกมาดำน้ำ พอลงน้ำไปจึงรู้ว่า หน้ากากของเรามันล็อกไม่อยู่ คอยแต่จะลื่นหลุด ต้องขยับให้เข้าที่ตลอด ส่วนของเพื่อนตัวเป่าลมหายใจก็น้ำเข้าตลอด เป็นการดำน้ำที่ต้องจำไว้เลย แล้วต้องเตือนตัวเองว่าอย่าลืมเช็คอุปกรณ์ให้เรียบร้อยก่อนออก (ไปเที่ยวดำน้ำมาเป็นสิบรอบ มีครั้งนี้แหละที่ไม่ได้เช็ค ก็เจอดีเลย)

ปณิธานจากการเที่ยวครั้งนี้ของเราสองคนคือ กลับกรุงเทพฯ จะต้องไปหาซื้อสนอร์เกิลเป็นของตัวเอง

แต่พอออกจากร่องน้ำจาบัง ไปดำน้ำอีกจุด ก็ลงเหมือนเดิม มาทั้งทีต้องไปดำน้ำสิ แต่ก็ลงไม่ได้นาน หน้ากาก แค้นนนนน



จุดที่แวะอีกที่คือ เกาะหินงาม ที่มีคำสาปแช่งไว้ว่าใครที่เอาหินไปจากเกาะจะต้องมีอันเป็นไป และถ้าใครสามารถต่อหิน 12 ก้อนโดยไม่ล้ม คำอธิษฐานจะสัมฤทธิ์ผล


มาดูความพยายามของนักท่องเที่ยวกัน






ดำน้ำเสร็จก็ไปกินข้าวเที่ยงเกาะราวีกัน
เกาะราวีมีหาดทรายสวยมาก เหมาะกับการเล่นน้ำ และเดินทำโรแมนติก ถ้ามากับแฟน (นักอยากเขียนนิยาย สามารถเอาไปเป็นฉากในนิยายได้เลยนะตะเอง)







นักท่องเที่ยวชาวไทยดำน้ำไปกันเป็นกลุ่ม




นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติแช่น้ำคุยกัน




ส่วนคู่นี้ทำให้เราตาร้อนมั่ก ๆ เดี๋ยวควงคู่เดินเล่น ถ่ายรูป เล่นน้ำ เดี๋ยวกอด เดี๋ยวหอม




เสร็จจากดำน้ำ ก็กลับมาสลบเหมือด (สลบอยู่คนเดียว คุณเพื่อนเธอไม่เป็นไรเลย) ตกเย็นก็ปลุกเรา ลากเราเดินไป บอกว่าจะไปกินข้าวที่ร้านของกรมประมงที่อยู่แถว ๆ อ่าวพัทยา ปวดแขนไม่อยากไปเลย รู้สึกสังหรณ์ใจยังไงไม่รู้ แต่ไปก็ไป
เดินลัดเลาะไปตามทางเดิม ผ่านโรงเรียน เป็นโรงเรียนที่น่าเรียนมาก ตั้งอยู่ติดทะเล เปิดประตูห้องเรียนออกมาก็เป็นหาดทราย เป็นทะเล








ถึงเป็นวันหยุดก็ยังมีเด็ก ๆ มาเล่นกันที่สนามของโรงเรียน



เราเดินต่อไปเพราะเพื่อนอยากไปกินที่ร้านของกรมประมงมาก ทั้งที่ไม่รู้เหมือนกันว่าร้านมันอยู่ตรงไหนของเกาะ
แต่พอเดินไป แล้วถามคนแถวนั้น เลยรู้ว่าร้านอยู่ไกลมาก รู้สึกจะอีกด้านเลย ก็เลยถอยดีกว่า เราถามเพื่อนว่าจะกินร้านแถวนั้นเลยไหม แต่ก็ไม่เอา ร้านนั้นไม่น่านั่ง ร้านนี้น่าจะโอเค แต่คนขายหายไปไหนหว่า มัวแต่เลือกร้าน ลืมดูฟ้าดูฝน เลยเสร็จเลย ฝนตกลงมาแรงมาก ลมพัดกระเจิง (เพิ่งมารู้ว่าโดนหางพายุที่เข้าฟิลิปปินส์ก็ตอนถึงกรุงเทพฯ แล้ว) ต้องไปหลบฝนอยู่ตรงชายคากระท่อมของชาวเลแถวนั้น
เป็นที่มา ที่นำมาบอกเพื่อน ๆ น้อง ๆ ว่า เสียดายที่มองหน้าคนที่ไปติดฝนอยู่ด้วยกัน มันเป็นเพื่อนสาวของเดี้ยนเองนี่หว่า ถ้าเป็นหนุ่ม ๆ หน่อยล่ะ จะดึงเข้ากระท่อมแถวนั้น ปล้ำซะเลย
ติดฝน ติดเกาะ กระท่อมกลางป่า (ที่ไหนยะ กลางหมู่บ้านเฟร้ยยยย) นี่มันพล็อตหนังไทยชัด ๆ


จบทริปนี้ แบบบ้า ๆ บอ ๆ หน่อยนะ แถมทำชุดว่ายน้ำหายอีกตะหาก คงปลิวหายตอนตากที่หน้าห้อง แล้วคิดว่าตัวเองเก็บมาแล้ว เซ็งเลย เจอกันทริปหน้าจ้า





Create Date : 30 ธันวาคม 2549
Last Update : 30 ธันวาคม 2549 17:41:08 น.
Counter : 461 Pageviews.

3 comments
อุ้มสีมาทำบุญ ๙ วัด ในวันขึ้นปีใหม่ที่จ.อุบลราชธานี อุ้มสี
(3 ม.ค. 2567 19:10:02 น.)
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๗ มาช้ายังดีกว่าไม่มา
(2 ม.ค. 2567 07:30:30 น.)
ไม่ลอดช่องโหว่ ปัญญา Dh
(2 ม.ค. 2567 13:44:30 น.)
No. 1259 สาระเกือบมี (ตอนทำงานที่ใหม่ ถูกลองดี) ไวน์กับสายน้ำ
(1 ม.ค. 2567 05:58:05 น.)
  


... แวะมาเยี่ยมเยียน

และขอบอกว่า ...




ส วั ส ดี ปี 2 5 5 0 . . . น ะ ค ะ

ข อ ให้ มี ค ว า ม สุ ข ม า ก ๆ น ะ ค ะ

โดย: iNt_GaL วันที่: 30 ธันวาคม 2549 เวลา:18:11:04 น.
  







สวัสดีปีใหม่ค่ะ ขอให้คุณจขบและครอบครัวมีแต่ความสุข
โรคภัยไม่มี
มีโชคมีลาภมีเงินมีทอง
รวยๆ เฮงๆ ตลอดปีและก้อตลอดไปค่ะ

โดย: icebridy วันที่: 30 ธันวาคม 2549 เวลา:21:52:14 น.
  
แวะมาส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ค่า ขอให้โชคดี มีแตความสุข ไม่เจ็บไม่ไข้ตลอดปีจ้า




โดย: haiku วันที่: 31 ธันวาคม 2549 เวลา:5:46:31 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mybook.BlogGang.com

ผู้สาวเมืองยศ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]