วังดอกหญ้า / ว.วินิจฉัยกุล จากเว็บสำนักพิมพ์ นวนิยายที่สะท้อนสังคมและวิถีชีวิตของผู้คนได้ราวกับภาพวาดอันวิจิตร ฉายความคิดของคนอย่างกระจ่างแจ่มแจ้ง พร้อมทั้งเสนอสาระสำคัญของชีวิตได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยฝีมือการประพันธ์ของ 'ว.วินิจฉัยกุล' นักเขียนเจ้าของรางวัลระดับชาติที่ทุกคนชื่นชม เมื่ออ่านจบแล้วเราจะตระหนักได้เลยว่า มิตรภาพ เป็นความงดงามของชีวิตที่ เงิน ไม่อาจบันดาลให้เกิดขึ้นได้ "เพื่อนดี" หวังว่า "วังดอกหญ้า" จะเป็น 'เพื่อนดี' ที่คอยให้กำลังใจท่านผู้อ่านในการฟันฝ่าปัญหาเศรษฐกิจที่ประสบกันในยุคนี้ได้สมความตั้งใจ จากเจ้าของบล็อก นิยายเรื่องนี้เป็นผลงานรุ่นเก่าของอาจารย์วินิตา วังดอกหญ้า ฉบับพิมพ์ครั้งแรก พิมพ์ในนามปากกาวัสสิกา ซึ่งเป็นอีกนามปากกาหนึ่งของอาจารย์ ว.วินิจฉัยกุล แต่เมื่อเพื่อนดีนำมาพิมพ์รวมเล่มอีกครั้ง ได้พิมพ์ในนามปากกา ว.วินิจฉัยกุล วังดอกหญ้าเป็นเรื่องราวของ 2 ครอบครัวที่มีความแตกต่างกันในการใช้ชีวิต ซึ่งทั้ง 2 ครอบครัวนี้เป็นเพื่อนบ้านในซอยเดียวกัน คือ ครอบครัวของเจ้าสัวโภคา เศรษฐีใหญ่ เจ้าของโรงแรมและธุรกิจอื่น ๆ ที่วันเวลา 24 ชั่วโมง คือ งานและเงิน กับอีกครอบครัวของอดีตนายอำเภอที่เกษียณแล้ว ที่อยู่อย่างเรียบง่าย ถึงจะจนเงินทองแต่ก็มีความสุขมากกว่ามหาเศรษฐี สะท้อนให้เห็นถึงการใช้ชีวิตแบบ เศรษฐกิจพอเพียง นับว่าอาจารย์เป็นผู้มองเห็นการณ์ไกล ยึดหลักของในหลวงท่านมาใช้ในการดำเนินชีวิตของตัวละคร ตั้งแต่คำนี้ยังไม่ถูกใช้กันเกร่ออย่างในปัจจุบัน ย่อหน้าต่อไปนี้อาจมีสปอยล์เนื้อเรื่อง ถ้าอยากอ่านให้ลากแถบได้เลยค่ะ ครอบครัวเจ้าสัวโภคา มีลูกชายคนเล็กคือ เอกรถ ซึ่งเป็นเพื่อนกับ ดวงเทียน หลานสาวของนายเหรียญ ตั้งแต่ตอนเด็ก แต่ก็ห่าง ๆ กันไป เรื่องเริ่มตรงที่เจ้าสัวอยากได้ที่ดินของเพื่อนบ้านมาต่อเป็นผืนเดียวกันกับที่ของตนเอง แต่เพื่อนบ้านยังไม่ยอมขายสักที ทนายของเจ้าสัวเลยส่ง ชาตรี เข้ามาเพื่อตีสนิทกับดวงเทียน เพื่อที่จะได้กล่อมให้ขายที่ดิน แต่สุดท้ายก็ทำไม่สำเร็จ เจ้าสัวทำงานมากจนล้มป่วย ในระหว่างที่ป่วย ต้องหยุดงานอยู่บ้าน เจ้าสัวโภคามีเวลาที่ได้พูดคุยกับเพื่อนบ้าน และเมื่อเห็นวิถีการใช้ชีวิตของเพื่อนบ้านที่แม้จะไม่มีเงินทองมากมาย แต่ชีวิตก็เป็นสุข เจ้าสัวจึงได้คิดว่าแม้จะสะสมเงินทองไว้มากมายเพียงใด เงินทองเหล่านั้นไม่สามารถช่วยได้เลย ถ้าไม่รู้จัก ความพอเพียง ไม่ว่าจะเป็นความพอเพียงในการทำงาน การพักผ่อน หรือการบริโภค ดังนั้นจึงเลิกคิดที่จะบีบขอซื้อที่ดิน แต่รอว่าเมื่อไรที่นายเหรียญเต็มใจขายให้ก็จะซื้อไว้อยู่เอง ไม่เอาไปแปลงเป็นตึกเพื่อทำธุรกิจแต่อย่างใด ในขณะที่ความสัมพันธ์ของเพื่อนเก่าอย่างเอกรถและดวงเทียนก็เริ่มงอกงามขึ้นแทน ชอบตรงตอนท้ายของเรื่องที่คุณตากับคุณยายคุยกันที่ว่า คุณยายบอกว่า เจ้าสัวอยากได้ที่ดินมากจนส่งลูกชายมาจีบหลานสาว แต่คุณตา มองว่า ถ้าลูกชายเจ้าสัวกับหลานสาวคุณตาแล้ว เจ้าสัวได้ที่ดินแค่หยิบมือ แต่หลานสาวคุณตาได้กิจการโรงแรม ได้ธุรกิจมากมาย อย่างนี้ใครเป็นฝ่ายได้กำไรล่ะ ฮาก๊ากเลยค่ะ ถึงแม้เนื้อเรื่องของนิยายเรื่องนี้จะเดาได้ แต่คุณค่าของแนวคิดที่สอดแทรกในเนื้อเรื่องนั้น เหมาะสมกับการอ่านของทุกคน สนุกได้โดยไม่จำเป็นต้องมี ตัวอิจฉา ออกมากรี๊ด ๆ ให้น่ารำคาญใจ ตัวละครในเรื่องมีทั้งดี และไม่ดี ซึ่งนอกจากนายชาตรีที่โผล่มาเป็นตัวร้ายแล้ว ก็ไม่มีตัวละครตัวใดที่ ดีที่สุด หรือ ร้ายเหลือแสน อย่าง ดวงเทียน ที่เรานับได้ว่าเป็นนางเอกนั้น เธอก็ไม่ใช่นางเอกผู้แสนดีนัก ในใจของดวงเทียนก็มีความใฝ่ฝันส่วนตัว ถึงจะดูเหมือนเป็นคนเรื่อย ๆ แต่ก็ไม่โง่ ดูคนเป็น ตัวละครอย่างครูใหญ่ จุลจันทร์ ที่อาจจะดูร้ายที่ไล่นางเอกออกจากงาน แต่ด้วยเหตุผลของปุถุชน เราก็เข้าใจได้ว่าทำไมเธอถึงทำอย่างนั้น หรือ จุลเจิม ที่เรามองว่าก็เป็นคนดีนะ แต่เป็นคนดีที่ไม่สามารถเข้ากับ ดวงเทียนได้ เพราะถึงแม้เขาจะชอบดวงเทียนมาก แต่เขาก็รับการใช้ชีวิตในแบบของบ้านนี้ไม่ได้ เลยต้องถอยออกไป บางอย่างในนิยายเรื่องนี้อาจจะดูเชย เพราะเขียนมากว่า 20 ปีแล้ว แต่แนวคิดในเรื่องไม่เชยเลยค่ะ ตอนแรกว่าจะอัพนิยายเด็ก แต่เปลี่ยนใจเลยเปลี่ยนเรื่องเป็นเรื่องนี้แทน เพราะ ผสมย. ชอบ ดีใจตอนนี้แมนยูเป็นจ่าฝูงแล้ว 6-0 อิอิ โอ เป็นจ่าฝูงแล้ว 6-0
โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 14 มกราคม 2551 เวลา:17:05:43 น.
กร๊ากกก รีบเข้ามาเมื่อเห็นชื่อเรื่อง
จำได้ว่าคราวก่อนบอกจะอัพเรื่องเด็ก ๆ พอเห็นชื่อเรื่องนี้..ก็อึ้ง เด็ก?? ชอบจำเรื่องนี้สลับกับเศรษฐีตีนเปล่าเรื่อยเลยค่ะ ไม่รู้เพราะอะไร โดย: ยาคูลท์ วันที่: 14 มกราคม 2551 เวลา:18:06:49 น.
แพนด้ามหาภัย -
the grinning cheshire cat -ฉลอง ยาคูลท์ - ผสมย. จำเนื้อเรื่องเศรษฐีใหม่ เศรษฐีตีนเปล่า วงศาคณาญาติ รวมเป็นเรื่องเดียวกัน สงสัยเป็นเพราะสมัยก่อนได้ดูภาพยนตร์ที่สร้างมาจาก 3 เรื่องนี้ ที่สันติสุข-จินตหราแสดงด้วยกัน เลยจำรวมกันเฉยเลยค่ะ BoOKend - ใช่แล้วค่ะ โดย: ผู้สาวเมืองยศ วันที่: 14 มกราคม 2551 เวลา:21:33:52 น.
เรื่องนี้ยืมห้องสมุดอ่านล่ะเจ๊ ชอบคุณตาคุณยายมาก น่ารักสุดๆเลย
แต่เจ๊คะ จำเศรษฐีตีนเปล่ารวมกับวงศาคณาญาติเนี่ยนะ มันเรื่องเดียวกันที่ไหนก๊านนนนน ป.ล. คุณยาคูลท์ยังไม่ได้สายสะพายเหรอคะ รอดูสายสะพายนะเนี่ย โดย: piccy วันที่: 15 มกราคม 2551 เวลา:13:48:02 น.
^
หมายถึงเนื้อเรื่องในภาพยนตร์จ้ะ ไม่ใช่หนังสือ มันมั่วกันไปหมด เศรษฐีใหม่รวมกับวงศาคณาญาติ แล้วหนังสือก็เอาเศรษฐีใหม่กับเศรษฐีตีนเปล่ารวมกัน โดย: ผู้สาวเมืองยศ วันที่: 15 มกราคม 2551 เวลา:14:12:46 น.
^
... ป.ล. อย่าลืมนักสืบขนมหนูนะ 2เล่มนะเจ๊ ป.ล.2 เหมือนจะเอาอะไรอีกเรื่อง แต่ดันลืมไปแล้ว โดย: piccy IP: 124.120.247.149 วันที่: 15 มกราคม 2551 เวลา:16:03:37 น.
จะรออ่านเรื่องเด็กๆ นะคะ
เราว่าแนวคิดหลายๆ อย่างของนิยายรุ่นครูน่ะ ค่อนข้างคลาสสิคและไม่ค่อยพ้นสมัยค่ะ อ่านเมื่อไหร่ก็ยังได้รู้คิดน่ะ โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 15 มกราคม 2551 เวลา:16:58:48 น.
ดีดี
โดย: ชายผู้ไร้รัก IP: 58.9.172.3 วันที่: 16 มกราคม 2551 เวลา:13:56:41 น.
คุณ piccy - ยังไม่มาน่ะดีแล้วค่ะ ยังไม่อยากโดนสนตะพาย
ตอนนี้กำลังงง ระหว่างเศรษฐีใหม่ เศรษฐีตีนเปล่าต่อ เรื่องไหนเป็นเรื่องไหนหว่า??? โดย: ยาคูลท์ วันที่: 16 มกราคม 2551 เวลา:21:59:53 น.
^
ไว้ ผสมย. อ่านเศรษฐีใหม่ กับ เศรษฐีตีนเปล่าอีกรอบ แล้วมารีวิวดีกว่า จะได้จำได้ โดย: ผู้สาวเมืองยศ วันที่: 16 มกราคม 2551 เวลา:22:08:52 น.
ฉันมันผู้ชายพเนจรชีวิตก็มีเเต่ร่อนเร่อย่ามาสนใจเลยผู้ชายเสเพลคนเกเรที่ร้ายเลว
โดย: คนไม่เอาถ่าน IP: 58.9.171.120 วันที่: 17 มกราคม 2551 เวลา:11:00:09 น.
สวัสดี
ครับคุณ ผู้สาวเมืองยศ เป็นคนเมืองยศสุนทร หรือเปล่าขอรับ อยากทราบ อิ อิ *************************** โดย: คนสาธารณะ วันที่: 17 มกราคม 2551 เวลา:14:19:25 น.
ไม่เคยอ่านอ่ะ (ยังไม่มีใครให้ยืม 555 ย้อเย่น คือในตู้หนังสือของพี่สะใภ้ไม่มีน่ะ)
มาลงชื่อเพราะชอบเจ้าเหมียวตัวเนี้ย โดย: canossa IP: 161.200.255.162 วันที่: 17 มกราคม 2551 เวลา:17:49:06 น.
มาอ่านจ้า
โดย: dee IP: 125.24.87.239 วันที่: 18 มกราคม 2551 เวลา:16:08:58 น.
บล็อกนี้ช่างสงบเรียบร้อยจริงๆ
โดย: thaliana IP: 128.36.60.46 วันที่: 19 มกราคม 2551 เวลา:0:05:51 น.
อยากทราบว่าเมืองยศเนี่ยมันจังหวัดอะไรครับ
โดย: หมาน้อยคอยรัก IP: 58.9.171.85 วันที่: 19 มกราคม 2551 เวลา:16:22:31 น.
มาช่วยตอบ # 19
เมืองยศ คือจังหวัดโสธร ค่ะ โดย: bbn IP: 125.24.137.75 วันที่: 20 มกราคม 2551 เวลา:12:32:21 น.
ชอบเล่มนี้เหมือนกันค่ะ
อ่านได้ไม่มีล้าสมัย สำหรับเรานะ แต่เด็กสมัยนี้อาจจะว่าคร่ำครึก็ได้ ยุคนี้มันวัตถุนิยม โดย: Guga IP: 203.150.26.130 วันที่: 21 มกราคม 2551 เวลา:11:41:49 น.
เจ๊ๆ ส่ง Tag ล่ะ
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=babypiggy&month=22-01-2008&group=1&gblog=42 โดย: piccy วันที่: 22 มกราคม 2551 เวลา:14:26:56 น.
โดย: หน่อยอิง วันที่: 22 มกราคม 2551 เวลา:22:01:37 น.
ชอบเรื่องนี้เหมือนกัน อ่านจบแล้วรู้สึกดีค่ะ ชีวิตพอเพียงจริงๆ อยากให้ทุกคนคิดได้แบบนี้จังเนอะ
โดย: หวัน (หวันยิหวา ) วันที่: 30 มกราคม 2551 เวลา:9:49:13 น.
ถึง คุณผู้สาวเมืองยศ
ตอนนี้กำลังทำวิทยานิพนธ์เรื่องนี้อยู่ค่ะ ผู้สาวเมืองยศวิเคราะห์ได้ตรงกับดิฉันว่าเป็นนวนิยายแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงที่ทันสมัยเสมอ แต่ติดอยู่ที่ว่า เรื่องนี้พิมพ์รวมเล่มครั้งแรกปีอะไร? ของสำนักพิมพ์อะไรคะ? (เรื่องนี้พิมพ์อยู่ในนิตยสารมาก่อนในนามปากกาวัสสิกาใช่ไหมคะ)พยายามหาเท่าไรก็ไม่เจอ ถ้าได้คำตอบด่วน จะขอบคุณมากค่ะ โปรดช่วยด้วยนะคะ โดย: Non IP: 203.113.33.9 วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:37:30 น.
ถึง ผู้สาวเมืองยศ
เรื่องที่รบกวนให้ช่วยบอกคำตอบเกี่ยวกับปีที่พิมพ์รวมเล่มวังดอกหญ้าครั้งแรก (พิมพ์รวมเล่มครั้งแรกนะคะ ไม่ใช่ปีที่พิมพ์ในนิตยสารครั้งแรก) ให้ช่วยส่งคำตอบมาที่mailดิฉันจะสะดวกกว่านะคะ icebergnon@yahoo.com หรือ icebergnon@hotmail.com ขอบคุณมากอีกครั้งค่ะ ถ้ามีเวลาจะแวะมาคุยอีกนะคะ โดย: Non IP: 203.113.33.9 วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:58:45 น.
เป็นนิยายของอาจารย์ ว.วินิจฉัยกุล ที่ชอบมากๆอีกเรื่องหนึ่ง
(แต่แอบอยากให้มีฉากกุ๊กกิ๊กเยอะค่ะ 555) โดย: nidnui IP: 58.137.54.133 วันที่: 27 กรกฎาคม 2551 เวลา:9:47:33 น.
|
บทความทั้งหมด
|