ข้าวเกรียบปากหม้อญวนไส้หมู



ทำน้ำจิ้มกันก่อนนะคะ

น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
เกลือป่น 1 ช้อนชา
น้ำปลาดี 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำสะอาด 1 1/2 ถ้วยตวง
พริกขี้หนูแดง ปริมาณตามชอบค่ะ แล้วแต่ความทนทานของปาก
น้ำมะนาว จุ๋มแบ่งใส่เป็นถ้วย ๆ ไปค่ะ ไม่ได้ผสมหมดในหม้อครั้งเดียวค่ะ



น้ำตาลทราย เกลือป่น น้ำปลา และน้ำเทใส่หม้อใบเล็ก ๆ ค่ะ




ตั้งไฟกลางไปทางอ่อน คน ๆ ให้น้ำตาลและเกลือละลาย เดือดดีแล้วลดลงเหลือไฟอ่อน




เคี่ยวไฟอ่อนไปเรื่อย ๆ จนน้ำจิ้มข้นประมาณนมข้นหวานค่ะ




น้ำจิ้มข้นเหมือนนมข้นแล้วปิดเตา พักให้คลายร้อนไว้ก่อนนะคะ ได้มาหน้าตาแบบนี้ค่ะ



ผัดไส้กันนะคะ

หมูบด 3.5 ขีด (ให้ลูกน้องไปซื้อของให้ค่ะ เค้าได้แพ็คนี้มาก็เลยใช้ให้หมดไปเลยคะ)
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยดำป่น 2 ช้อนชา
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
ต้นหอมหั่นซอย 4 ต้น (ในตู้เย็นมีอยู่เท่านี้)
หัวหอมแดงซอยเจียวน้ำมัน 8 หัว
น้ำมันพืช



เอาหมูสับเทใส่กะละมังหรือชามใบใหญ่ ๆ ไว้ค่ะ เติมพริกไทยดำป่น ซอสปรุงรส ซีอิ๊วขาว เกลือป่น





เคล้า ๆ ให้เข้ากัน พักทิ้งไว้อย่างต่ำ 10 นาทีค่ะ




ระหว่างรอหมูหมักได้ที่ ต้นหอมตัดโคนตัดท้าย ล้างให้สะอาด ซอยไว้แบบนี้ค่ะ




หัวหอมแดง ปอกเปลือก ล้างให้สะอาด ซอยบาง ๆ ตามยาวค่ะ




ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพอเจียวหอม น้ำมันอุ่นเอาหอมแดงที่ซอยไว้ลงไปเจียวค่ะ ใช้ไฟกลางไปทางอ่อน ไฟแรงจะไหม้หมดนะคะ เจียวพอเริ่มเหลือง ปิดไฟ ตักขึ้นใส่กระชอนหรือรองบนกระดาษซับน้ำมันไว้ค่ะ





ของจุ๋มรองบนกระดาษซับน้ำมันนะ




เอากระทะที่เจียวหอมไว้เมื่อกี้ตั้งไฟใหม่คะ เทน้ำมันออกบ้างเก็บใส่ถ้วยไว้ก่อน เพื่อไว้ทาตัวข้าวเกรียบกันติดกัน เหลือน้ำมันไว้ในกระทะประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันร้อนเอาหมูสับหมักที่ผสมไว้ลงไปผัดค่ะ

ตามสูตรนี้เค้าใส่เครื่องปรุงแค่นี้นะคะ จุ๋มลองทำตามสูตรดูก่อน แต่ถ้าใครอยากใส่เห็ดหูหนูสับหรืออื่น ๆ เพิ่มตามชอบใจ แต่ละร้านที่จุ๋มเคยกินก็ต่าง ๆ กันไปนิด ๆ หน่อย ๆ ค่ะ





เอาหมูลงไปผัดค่ะ พอหมูสุกชิม ๆ ดูว่าเค็มพอหรือเปล่า ตอนแรกที่หมักถ้าไม่แน่ใจก็ใส่แค่ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1/4 ช้อนชาก่อนก็ได้ค่ะ มาปรุงเพิ่มในกระทะได้ ถ้าใส่เกินไปตอนหมักเลย มาผัดแล้วเค็มเกินจะแก้ยากมาก ๆ จ้า

รสชาติจะเค็มเข้มข้น เผื่อตัวแป้งแล้วจะพอดีค่ะ ใครจะตัดรสหวานด้วยน้ำตาลก็ตามชอบใจคะ แต่จุ๋มไม่ได้ใส่หรอกค่ะ





ผัดให้แห้งนะคะ ไม่ต้องเติมน้ำอะไรลงไปทั้งสิ้นจ้า ถ้าแฉะแล้วเดี๋ยวตอนห่อจะลำบากค่ะ ผัดแห้งแล้วปิดเตา โรยต้นหอมที่ซอยไว้ค่ะ





ตักใส่ชามไว้ค่ะ เอาช้อนกาแฟใส่ไว้คันนึง



ได้ไส้แล้ว คราวนี้มาเตรียมแป้งกันนะคะ

แป้งมัน 1/2 ถ้วยตวง
แป้งข้าวจ้าว 1/4 ถ้วยตวง
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา***** จุ๋มลดจากสูตรนะ ใส่เป็นช้อนโต๊ะเหมือนไปจมน้ำทะเลเลยง่ะ
น้ำสะอาด 1/2-1 ถ้วยตวง จุ๋มใช้ 3/4 ถ้วยตวงค่ะ



ร่อนแป้งตามสูตรแล้วตวงใส่กะละมังไว้ เติมเกลือป่นค่ะ




ค่อย ๆ เติมน้ำลงไปค่ะ จุ๋มเติมไป 1/2 ก่อน




ในภาพนี้จุ๋มใส่น้ำไป 1/2 ถ้วยก่อน จุ๋มไปเติมอีก 1/4 ถ้วย หลังจากที่จุ๋มลองละเลงแป้งไปแล้วนะคะ ยังไงใส่น้ำน้อยไว้ก่อน แล้วจำไว้ว่าใส่ไปเท่าไร พอลองแป้งเพื่อทดสอบเนื้อแป้งว่าถูกใจหรือเปล่า ถ้ามันแข็งไปเติมน้ำเพิ่มได้ค่ะ แต่ถ้าใส่น้ำไปเยอะตอนแรก ลองแป้งแล้วถ้ามันนิ่มไป เติมแป้งลำบากกว่าเติมน้ำค่ะในความคิดจุ๋มนะ




ได้แป้งแล้วพักไว้ก่อนนะ คราวนี้ไปเตรียมหม้อกันค่ะ ในความเป็นจริง จะเตรียมหม้อก่อนแล้วระหว่างรอน้ำเดือดจะมาเตรียมแป้งก็ได้ แต่ทีนี้จุ๋มมาโพสต์เลยอยากให้เป็นขั้นตอนไปอ่ะ

อุปกรณ์สำคัญต่าง ๆ ในการแคะข้าวเกรียบนะคะ อย่างแรกเลย หม้อนึ่งลาวทรงสูง ที่เราเห็นตามร้านขายลาบ ส้มตำ น้ำตก ใช้กันอ่ะคะ

ซื้อตามร้านขายเครื่องใช้ในครัวหรือตามตลาดนัดก็ได้ เท่าที่จุ๋มถามคนขายเค้าบอกมี 2 ขนาดค่ะ เล็กกับใหญ่ เป็นอลูมิเนียมนะคะ 79 กับ 89 บาท ราว ๆ นี้ค่ะ

ถ้าเป็นคนขายข้าวเกรียบปากหม้อมืออาชีพส่วนมากไม่ใช้หม้อแบบนี้หรอกค่ะ เค้าจะจ้างร้านพวกทำอลูมิเนียมทำหม้อให้ค่ะ หรือไม่ก็มีขายสำเร็จเลย จะเป็นหม้อคล้าย ๆ หม้อก๋วยเตี๋ยว แต่ปากหม้อจะเป็นวงกลม ๆ ประมาณ 2-3 วง แล้วมีช่องให้ไอน้ำออก ประมาณนั้นอ่ะจ้า


ไม้พาย จะเป็นพายไม้ พายพลาสติก ก็ตามสะดวกนะคะ ถ้าให้จุ๋มแนะนำเลือกพายที่ไม่หนาจะดีกว่าคะ แคะข้าวเกรียบได้สะดวกและง่ายกว่า แต่ของจุ๋มมีสารพัดแบบ ได้มาจากแม่ค่ะ แม่ชอบสะสม

ทัพพีที่ใช้ละเลงแป้งควรเป็นลักษณะแบบในรูปนะคะ ทัพพีที่มีหน้าสัมผัสกว้างอ่ะ ไม่ใช่ทัพพีแบบกระบวยนะคะ



เอาพายใส่ชามหรือกะละมังหรือกล่อง เอาน้ำใส่ไว้ด้วยนะคะ เพราะตอนแคะแต่ละอันเสร็จเราต้องเอาพายแช่ไว้อ่ะคะ เผื่อมีคราบแป้งติด มันจะได้หลุดไปอยู่ในน้ำ ไม่ติดพายอ่ะคะ




ผ้าขาวบาง 1 ผืน
เชือกสำหรับมัดผ้าขาวบางขึงบนปากหม้อ
ช้อนกาแฟหรือช้อนเล็ก ๆ 1 คัน

เวลาเลือกซื้อผ้าขาวบางนะคะ มันจะมีแบบหนากะแบบบาง ถ้าใช้แบบบางต้องทบ 2 ชั้นค่ะ เพราะถ้าใช้ชั้นเดียว ตามันจะห่าง แป้งจะลอดตกลงไปในหม้อหมดค่ะ อดกินพอดีค่ะ หรือถ้ามีเศษผ้าพวกผ้าโทเรก็ใช้ได้ค่ะ ก็เอามาทาบกับปากหม้อ แล้วตัดให้เกิน ๆ ไว้เผื่อตอนรวบอ่ะคะ ซักเอาน้ำยาที่เค้าอาบผ้าไว้ออก แล้วตากให้แห้งค่ะ

เชือกมัดปากหม้อจุ๋มใช้ผ้าก๊อซที่เค้าไว้พันแผลคะ ที่จุ๋มซื้อมามันจะบรรจุอยู่ในห่อ เลือกขนาดกว้าง 2 นิ้ว ห่อนึง 7 บาทมังคะ ตัดได้ 2 เส้นอ่ะคะ หรือถ้าหาแบบจุ๋มไม่ได้ก็เอาผ้าก๊อซม้วน ๆ อ่ะคะ

ช้อนเราจะไว้ช่วยขันเชนาะตอนรวบปากหม้อแล้ว ผ้าจะได้ตึง ๆ นะคะ



เริ่มต้นทำแบบนี้ค่ะ

ก่อนอื่น แนะนำว่าให้ตวงน้ำลงไปในหม้อก่อนค่ะ ว่า 3/4 หม้อใส่น้ำประมาณเท่าไร แล้วเทน้ำออกค่ะ
เอาหม้อวางบนโต๊ะ เอาผ้าขาวบางลงไปคลุมค่ะ ของจุ๋มผ้าขาวบางมันบางคะเลยทบ 2 ชั้น



เอาเชือกหรือผ้าที่เตรียมไว้มัดปากหม้อโอบรอบส่วนคอดของหม้อ เรียกว่าคอหม้อหรือเปล่าก็ไม่รู้ อันนี้จุ๋มคิดเองอ่ะ 55555




ผูกไขว้กันค่ะ ไขว้แค่ครั้งเดียวพอ ไม่ต้องทำปมค่ะ



เอาช้อนทาบลงไปตรงที่เราไขว้เชือกกันไว้ค่ะ แล้วมัดเชือกให้ช้อนคาระหว่างรอยไขว้ทั้งสองค่ะ ทำปมค่ะ



ภาพชัด ๆ ก็แบบนี้นะคะ

แล้วก็ทำการขันเชนาะคะ คือหมุนช้อนถ้าจะไปตามเข็มนาฬิกาก็หมุนไปทางตามเข็มอย่างเดียว ถ้าจะทวนเข็มก็ทวนเข็มนาฬิกาอย่างเดียวนะคะ แล้วอีกมือก็ดึงชายผ้าให้ตึงที่สุดค่ะ



แล้วก็ทำปมอีกทีนึง เก็บชายผ้าให้เรียบร้อย อย่าให้รุ่ยร่าย เดี๋ยวโดนไฟไหม้ค่ะ
ทดสอบว่าผ้าตึงหรือไม่ตึงให้เอาเหรียญ 10 บาท วางลงบนผ้าค่ะ ถ้าผ้าไม่ยุบตัวก็ใช้ได้ค่ะ



เจาะรูนิดหน่อยใกล้ ๆ ปากหม้อให้ไอน้ำออกมาได้ค่ะ
แล้วเอาน้ำใส่ไปในหม้อผ่านตรงรูที่เจาะไว้ค่ะ ใช้กาต้มน้ำกรอกลงไปก็ได้ค่ะ แต่พอดีจุ๋มรองจากเครื่องกรองน้ำ



ยกหม้อขึ้นตั้งเตา ไฟแรงค่ะเพื่อให้น้ำเดือด หาฝาหม้อทรงสูงปิดค่ะ ฝาหม้อแบน ๆ ราบ ๆ ใช้ไม่ได้นะจ้า




ระหว่างรอน้ำเดือดเตรียมถาดหรือจานทาน้ำมันที่เหลือจากเจียวหอมเมื่อกี้ค่ะ



พอน้ำเดือดจัด ลองเปิดฝาหม้อดูนะคะ ลองเอาแป้งไปละเลงเพื่อทดลองดูว่าแป้งแข็งหรือนิ่มไปหรือเปล่า ก่อนจะตักแป้งมาละเลงทุกครั้งให้เอาทัพพีคนก้นกะละมังด้วยค่ะ เพราะแป้งตั้งทิ้งไว้จะนอนก้น

แรก ๆ แป้งอาจจะยังไม่ติดผ้า เป็นเรื่องธรรมดาค่ะ ต้อง 3-4 แผ่น ผ้าถึงจะติดแป้งค่ะ

เปิดฝาหม้อ ตักแป้งประมาณเกือบทัพพีละเลงลงบนผ้าให้ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4 นิ้ว ถ้าจะให้ดีควรละเลงให้เนื้อแป้งเสมอ ๆ กัน แต่ทำใหม่ ๆ ไม่คล่องลำบากพอควรนะคะ ต้องรีบละเลงให้เร็วที่สุด ไม่ง้านแป้งจะแห้ง ละเลงเสร็จแล้วปิดฝาหม้อประมาณ 1 นาที แล้วเปิดขึ้นมา แป้งจะสุก แป้งจะยกตัวขึ้นค่ะ มองเห็นเป็นลูก ๆ แต่แป๊บเดียวมันจะยุบลง เน้นว่าไฟต้องแรงหรือกลางไปทางแรง เพราะถ้าไฟอ่อนแป้งสุกยากค่ะ

ตอนแรกที่ทดสอบแป้ง แล้วแป้งยังใช้ไม่ได้ ให้ขูดแป้งที่สุกแล้วคาอยู่บนผ้าออกให้หมด ใช้ไม้พายอะคะ เพราะถ้าขูดแป้งเดิมออกไม่หมด ละเลงแป้งใหม่ไปก็จะไม่ค่อยติด หรือติดแต่ไม่สม่ำเสมอ

ทดสอบแป้งแล้วถ้าแข็งไปก็เติมน้ำเพิ่มแล้วทดสอบใหม่จนกว่าจะพอใจนะคะ แล้วก็มาเริ่มแคะข้าวเกรียบได้เลย

ก็ละเลงแป้งลงไป ปิดฝา จับเวลารอแป้งสุก เปิดฝา ก็จะประมาณนี้ค่ะ

จุ๋มไม่สามารถละเลงแป้งไปถ่ายรูปไปได้นะคะ ทำไม่ได้จริง ๆ เลยได้ภาพตอนที่แป้งสุกแล้วมาเลยอ่ะ



ตักไส้ใส่ไปคะ มากไปก็ทะลัก น้อยไปก็ไม่น่ากิน ก็พิจารณาดูเอานะคะ ทำแล้วจะรู้อ่า
ตอนห่อเนี่ย ห่อได้หลายแบบนะคะ ถ้าจะห่อแบบสี่เหลี่ยมธรรมดาแบบที่จุ๋มทำวันนี้ก็ใส่ไส้ไปตรงกลางแป้งค่ะ




ใช้ไม้พายสอดเข้าไปใต้แป้ง จะด้านใดก่อนก็ได้ค่ะ



ปิดทับไส้ลงไปค่ะ ก็ทำทีละด้านจนครบทั้ง 4 ด้าน แล้วตักตัวข้าวเกรียบขึ้นจากผ้าค่ะ
จุ๋มถ่ายรูปมาให้ดูด้านเดียวนะคะ เพราะด้านอื่น ๆ ก็ทำเหมือนกันค่ะ ไอน้ำมันแรงค่ะ กลัวเลนส์กล้องพังอ่า



แคะมาแล้วก็ไปวางบนถาดหรือจานที่เราเตรียมไว้เมื่อกี้ก่อนค่ะ

ถ้าไม่หอแบบสี่เหลี่ยม จะห่อแบบม้วนก็ได้ค่ะ โดยละเลงแป้งแบบเดียวกัน แต่ใส่ไส้ค่อนไปทางริมใดริมหนึ่ง พับแป้งให้เป็นครึ่งวงกลมตามแนวตั้ง แล้วใช้ไม้พายตวัด มันก็จะได้รูปทรงเป็นกลม ๆ หรือก้นหอยอ่ะ แต่แบบนั้นถ้าไม่ชำนาญจะยากกว่า ยังไงก็ลอง ๆ ทำกันดูนะจ้า



แล้วก็ไปจัดใส่จานคะ โรยหอมเจียว พอดีจุ๋มมีหมูยอเลยเอามาตกแต่งด้วย กินได้ด้วย
ผักเครื่องเคียงก็ตามชอบใจค่ะ โหระพา ผักชีฝรั่ง ผักกาดหอม ผักแพว ผักติ้ว สะระแหน่ ฯลฯ ตามชอบใจค่ะ



น้ำจิ้มที่ทำไว้ ตักใส่ถ้วย บีบมะนาวไปคน ๆ ให้เข้ากัน ชิมให้ได้ 3 รส ใส่พริกขี้หนูเม็ดใหญ่สีแดงโขลก แล้วแต่ชอบเผ็ดมากเผ็ดน้อยค่ะ

แต่ส่วนมากที่จุ๋มไปกินตามร้าน น้ำจิ้มเค้าส่วนมากจะเป็นน้ำจิ้มบ๊วย แล้วใส่หัวไชเท้าใส่ที่ซาวเกลือแล้วล้างออก แครอทใส ถั่วคั่วป่น จะเป็นน้ำจิ้มแบบนั้นเสียส่วนมาก แล้วก็กินกับอาหารเวียดนามแทบทุกชนิด เหมือนน้ำจิ้มสารพัดประโยชน์เลยอ่ะ

แต่ตำราเล่มนี้มีหลายน้ำจิ้มมาก ๆ จะไม่ออกหวานอย่างเดียว วันนี้จุ๋มทำตามตำรานะคะ เค้าบอกว่าข้าวเกรียบปากหม้อให้ทานกับน้ำจิ้มแบบที่จุ๋มทำนี่ เดี๋ยววันหลังจุ๋มจะทำน้ำจิ้มสูตรอื่นบ้างแล้วจะมาบอกค่ะ




คนละคำสองคำเนอะ




คำนี้แบบมีหมูยอล่ะ



Create Date : 16 พฤศจิกายน 2548
Last Update : 20 มกราคม 2549 8:12:09 น.
Counter : 11834 Pageviews.

30 comments
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๗ มาช้ายังดีกว่าไม่มา
(2 ม.ค. 2567 07:30:30 น.)
สวัสดีปีใหม่ Rain_sk
(1 ม.ค. 2567 21:38:33 น.)
BUDDY คู่หู คู่ฮา multiple
(3 ม.ค. 2567 04:49:04 น.)
สวัสดีปีใหม่ Rain_sk
(1 ม.ค. 2567 21:38:33 น.)
  
โห น่าทานจังเลยค่ะ
โดย: โย่งโก๊ะ IP: 58.8.108.31 วันที่: 18 พฤศจิกายน 2548 เวลา:2:08:08 น.
  
สวัสดีคุณแตมป์คะ มาเยี่ยมบ่อยเลย ขอบคุณนะคะ คุณแตมป์ไม่มี blog เหรอคะ
โดย: แม่สลิ่ม วันที่: 23 พฤศจิกายน 2548 เวลา:4:11:44 น.
  
วุ้ย... ของโปรดแหม่มเลยอ่ะ เคยคิดจาทำเองเหมือนกัน แต่ไม่รู้จาไปหาหม้อจากที่ไหนมาขึงผ้า เลยต้องยอมเสียตังค์ไปกินที่ร้านทู้กที...
โดย: mamchan (mamchan ) วันที่: 28 พฤศจิกายน 2548 เวลา:16:19:14 น.
  
ขยันทำดีจัง เข้ามาอ่านได้ความรู้เยอะเลย แต่ว่าถ้าจะให้ทำทานเองคงยาก ไว้กลับไปเมืองไทยแล้วค่อยซื้อทานเอา ง่ายดี หุ หุ
โดย: นัทตี้ IP: 83.180.68.6 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:4:46:10 น.
  
ขอถามว่า ใส่น้ำลงไปในหม้อก่อนจะขึงผ้า
ได้หรือเปล่าค่ะ? แบบว่า งงนิดหน่อยน่ะคะ
เพราะเห็นบอกว่า ตวงน้ำใส่แล้วก้อเทออก
พอขึงผ้าเสร็จแล้วก้อใส่น้ำกลับเข้าไปใหม่
โดย: มะเหมี่ยว IP: 69.236.111.54 วันที่: 8 มีนาคม 2549 เวลา:13:16:40 น.
  
ก็หัวล้าน ผมน้อยอะ
ถ้าไปสกล หรือ อุดร จะต้องกินพวกเนี้ยทุกครั้ง ปีนึงไปหนหรือสองหนเอง กินทีแม่ค้างง กินไปได้เป็นร้อยบาท ก็ของมันชอบนิ
ถ้าอุดร ก็ตลาดเทศบาล 2 ถ้าไปสกล ก็ตลาด ต. และ ศรีคูนเมือง หรือไม่ก็แถวชายเมืองบ้านญาติกัน ต้องใส่ไข่นะ
ส่วนข้าวเปียกนี่ ก็ตอนเช้า กลางวันเลือกเอาไปทีหายอยาก แล้วกล้บมาปราจีน ก็ฝากเพื่อนหรือน้องที่อยู่อุบลซื้อแป้ง+เส้นมาให้ ทำกินเองก็อร่อยไปอีกแบบ
โดย: เขาว่าหนูแอบเหงา IP: 203.152.23.151 วันที่: 31 มีนาคม 2549 เวลา:15:42:17 น.
  
ขื่นชมคนสอน สอนได้ดีและเข้าใจดีมาก
ขอบคุณที่เสียเวลามาบรรยายจะลองทำ
คิดว่าน่าจะทำได้สอนดีมากๆเลย แต่เวลา
เราทำไม่เขื่อว่าจะมีฝีมือนะแต่ต้องทำ
โดย: ผ่านมา IP: 67.189.28.212 วันที่: 7 กรกฎาคม 2549 เวลา:5:22:36 น.
  


หิวเลยอะค่ะ
โดย: มานี IP: 202.250.232.254 วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:12:03:02 น.
  
น่ากินจังเลยค่ะ นั่งดูกับลูกสาวตัวน้อย อยากทำแต่คงยากชื่นชมกับคุณจุ๋มไปก่อนแล้วกันนะคะ
โดย: maebenz IP: 125.25.6.16 วันที่: 7 พฤษภาคม 2550 เวลา:10:28:23 น.
  
ขอบคุณที่ให้ความรู้สำหรับคนหาเช้ากินค่ำค่ะ
โดย: พัชนีย์ IP: 125.27.216.234 วันที่: 12 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:15:09 น.
  
แล้วที่เขาใส่ไข่ด้วยน่ะเขาทำอย่างไรบอกด้วยสิ
โดย: sorn934 IP: 222.123.74.234 วันที่: 31 สิงหาคม 2550 เวลา:21:44:20 น.
  
ชื่นชมจากใจจริง ที่คุณจุ๋มเจ้าของสูตรทุ่มเท
และใส่ใจเน้นทั้งเนื้อ และแสดงภาพปฎิบัติจริง
ทำให้ทราบถึงวัตถุดิบที่มีอยู่ในครัวไม่มากก้อน้อยเลยล่ะ
ไม่ต้องอ่านไปและต้องคอยนึกภาพไป
รู้สึกว่าอ่านแล้วมีกำลังใจอยากลองทำให้คนที่รู้ใจทานแล้วล่ะ
ขอบคุณค่ะ
ปล.ถ้ามีโอกาสช่วยแนะนำเมนูอร่อย ๆ แบบนี้อีกนะคะ
โดย: ผู้อยากรู้ IP: 203.113.80.15 วันที่: 12 ตุลาคม 2550 เวลา:2:43:24 น.
  
น่าทานจังเลยค่ะ
เห็นแล้วน้ำลายสอเลย
ต้องไปหาซื้อทานแล้วหละ
ถ้าทำเองคงยากค่ะอิอิ
โดย: sorn IP: 58.181.165.157 วันที่: 3 พฤษภาคม 2551 เวลา:10:10:59 น.
  
ขอบคุณนะค่ะ มี ไรดีดี บอกต่อกัน น่ารักจังค่ะ
โดย: ทานตะวัน IP: 118.174.133.171 วันที่: 3 พฤษภาคม 2551 เวลา:10:26:52 น.
  
ขอสูตรหน่อยค่ะ
โดย: นกน้อย แสนสวย IP: 202.90.6.36 วันที่: 21 พฤษภาคม 2551 เวลา:18:44:30 น.
  
เห็นคุณจุ๋มบอกโดยละเอียดแบบนี้แล้วดีใจมาก

เมื่อหลายเดือนก่อน เคยทำ ที่เวปอื่นบอกแค่ว่า เอาทุกอย่างผสมกัน คนๆๆๆๆ เอาไปละเลงบนหม้อ

เราก็เลยทำไม่สำเร็จ มันไม่เป็นแผ่น หรือผ้าบางไปก็ไม่รู้ แล้วก็เลยท้อเลยคะ ไม่ทำแล้ว ทิ่งหมด ดูเหมือนง่ายแต่ทำแล้วยาก

พอเห็นคุณจุ๋มทำได้ แล้วก็ ละเอียดขนาดนี้ ก็จะลองทำดูใหม่ ขอบคุณนะคะ อุตส่า ถ่ายรูปไป ทำไป ลำบากแย่
โดย: เมี่ยง IP: 124.120.68.163 วันที่: 8 มกราคม 2552 เวลา:22:09:35 น.
  
คุณจุ๋มน่ารักมากคะ เข้ามาเยี่ยมชมหลายครั้งแล้วขอบคุณสำหรับน้ำใจงาม ๆ นะคะ ขอให้มีความสุขมาก ๆ ในเทศกาลปีใหม่คะ
โดย: บุ๋มบิ๋ม IP: 116.68.150.68 วันที่: 16 มกราคม 2552 เวลา:10:20:11 น.
  
ขอบคุณมากมาย

น่าทานมากๆ

ขอสูตรไปทำให้คุณพ่อทานหน่อยนะจ๊ะ
โดย: kaekai IP: 61.19.205.252 วันที่: 16 มกราคม 2552 เวลา:10:50:46 น.
  
กำลังหาสูตรน้ำจิ้มที่ทานกับขนมจีนทรงเครื่องของเวียตนามค่า

ใช้ของคุณจุ๋มได้เลย เดี๋ยวเติมถั่วลิสงคั่วไปก็เป็นอันเสร็จ
โดย: จุกแสบเหลือง วันที่: 27 มกราคม 2552 เวลา:13:23:20 น.
  
น่าทานมากเลยครับ คุณแม่สลิ่ม อิอิ งั่บๆ
โดย: หมูกรอบ วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:7:56:21 น.
  
อร่อยมาก หลานชอบ สูตรเด็ด แก้ไขนิดหน่อยตรงส่วนผสมแป้ง เพราะถ้าทำตามสูตร แป้งออกมาจะเหนียวหนืดมาก ต้องผสมแป้งข้าวจ้าวเพิ่มอีก ประมาณ 1/2 ของ 1/4 cup OK เลยค่ะ
โดย: OK นะคะ IP: 114.128.181.124 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:19:48:57 น.
  
อร่อยมาก หลานชอบ สูตรเด็ด แก้ไขนิดหน่อยตรงส่วนผสมแป้ง เพราะถ้าทำตามสูตร แป้งออกมาจะเหนียวหนืดมาก ต้องผสมแป้งข้าวจ้าวเพิ่มอีก ประมาณ 1/2 ของ 1/4 cup OK เลยค่ะ
โดย: OK นะคะ IP: 114.128.181.124 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:19:51:35 น.
  
ขอบคุณค่ะ..คุณหลานอยากทำจนงอนแล้ว..มีขู่ว่าถ้าไม่ชวนทำจะไม่อยู่ด้วยในซัมเมอร์นี้...เด็กเดี๋ยวนี้ขู่เก่งแฮะ..คุณน้าใจดีก้อเลยต้องมาหาสูตรจนได้ ขอบคุณจริงๆ (ดูมาหลายเวบ ๆนี้ แจ๋วสุดค่ะ)
โดย: สรวีย์ IP: 118.172.71.6 วันที่: 17 มีนาคม 2552 เวลา:17:14:58 น.
  
อยากกินอ่ะ หิวมากเลย
โดย: แนท IP: 124.157.212.190 วันที่: 14 เมษายน 2552 เวลา:17:05:37 น.
  
น่าอร่อยนะคะ ขอบคุณสำหรับสูตรค่ะ
โดย: Madamwu IP: 118.172.62.204 วันที่: 4 พฤษภาคม 2552 เวลา:14:48:49 น.
  
ทำไมแป้งมันถึงหนาจังล่ะคะแป้งแบบบางใสเห็นข้างใน
มีสูตรไหมค่ะ ขอบคุณค่ะ
โดย: เดือน IP: 125.26.229.230 วันที่: 15 มิถุนายน 2552 เวลา:14:14:53 น.
  
เคยไปกินที่ตลาดกลางคืนของเมืองนครพนม อร่อยมากๆ
โดย: ppp IP: 124.122.218.221 วันที่: 24 ตุลาคม 2552 เวลา:15:28:39 น.
  
ถ้าไม่รบกวนขอสูตรทำยำใหญ่โบราญหน่อยค่ะ อยากทำมาก ไม่ทราบเขาใส่กระทิหรือนมสดค่ะ เคยทานแต่เดาไม่ออก เคยทานนานแล้วค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ เขาบอกว่าคนที่นี่ใจดี
โดย: นีรนุช เหลืองอร่าม IP: 203.172.120.227 วันที่: 2 มีนาคม 2553 เวลา:14:07:58 น.
  
ขอเอาสูตรไปลองทำดูนะค่ะ คุณจุ๋มขอบคุณค่ะ
โดย: phentwin วันที่: 22 พฤศจิกายน 2553 เวลา:16:56:19 น.
  
ของแบบนี้ถ้าจะให้อร่อย นะครับ ต้องไปกินที่ อ.ศรีเชียงใหม่ หรือ อ.ท่าบ่อ อร่อยมากๆ แถวนั้นคน ญวนเยอะ ครับ และยังมีอาหาร ญวนอีกเยอะครับ แถวนั้น
โดย: คนท่าบ่อ IP: 58.11.130.153 วันที่: 27 ธันวาคม 2554 เวลา:11:41:06 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Monnira.BlogGang.com

แม่สลิ่ม
Location :
นนทบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 980 คน [?]