เรื่องงานเรื่องเที่ยวเรื่องเดียวกัน : ลุยดงข้าวโพดที่ลพบุรี

ห่างหายไปนานกับการอัพบล็อกค่ะ ด้วยภารกิจรัดพุง(อวบๆ)บวกความขี้เกียจของเราเอง ตอนนี้พอว่างแล้วก็เลยมาคุยกันต่อค่ะระหว่างรอนับวันไปงานหนังสือด้วย เย๊ๆๆ

งานที่เราทำเกี่ยวข้องกับการเกษตรประเทศไทยค่ะ วันๆก็เห็นแต่ไร่นาป่าดง ตากแดดหน้าดำไล่จับเกษตรกรมาเชือด เอ๊ย สัมภาษณ์ ก็ได้ความสนุกสนานในชีวิตไปอีกแบบค่ะ

รูปคราวนี้เป็นตอนที่เราไปสำรวจข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ลพบุรีค่ะ อันข้าวโพดเลี้ยงสัตว์นั้นก็คือข้าวโพดสำหรับใช้เลี้ยงสัตว์นั่นเอง (ตรงตัวเนอะ ฮี่ๆๆๆ) คือข้าวโพดที่คนกินไม่ได้ค่ะ มันเหนียววววว ยิ่งต้มยิ่งเหนียวประหนึ่งยางรถยนต์ ตอนอ่อนๆพอกล้อมแกล้มเป็นข้าวโพดฝักอ่อนกินได้ค่ะ แต่พอเมล็ดแก่แล้วหมดสิทธิค่ะ ซื้อข้าวโพดต้มปากซอยกินเวิร์คกว่าเยอะ

ประเทศไทยส่งออกเนื้อสัตว์เป็นจำนวนมากติดอับดับต้นๆของโลกค่ะ โดยเฉพาะเนื้อไก่ และหมู อาหารหลักอย่างหนึ่งของสัตว์พวกนี้คือข้าวโพดนี่แหละค่ะ ปกติแล้วทุกปีเราผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปริมาณมหาศาลเพื่อเป็นวัตถุดิบเลี้ยงสัตว์ได้อย่างพอเพียงพอดี บางปีถ้าฝนฟ้าดีๆ เราจึงจะมีข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เหลือพอส่งขายประเทศเพื่อนบ้านได้บ้างค่ะ บางปีถ้าฝนฟ้าไม่เป็นใจ ก็จะนำเข้าบ้าง แต่ก็เล็กน้อยค่ะ

งานหนึ่งของเรา คือไปดูจิ๊ ว่าข้าวโพดเหล่านี้สุขสบายดีหรือไม่ ปีนี้จะพอใช้หรือเปล่า ซึ่งข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มีปลูกกันทั่วไปค่ะ แหล่งปลูกใหญ่ในภาคกลางคือลพบุรี สระบุรีนี่แหละค่ะ

ปกติแล้ว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มักจะปลูกเข้าแถวแบบนี้ค่ะ เอ้าเข้าแถวกันตรงๆหน่อยจ้า เรียงตามลำดับหล่อ เอ๊ย ไหล่


พอฝักแก่ ก็จะปล่อยให้แห้งคาต้นแบบนี้ แล้วค่อยจ้างคนมาเก็บฝักด้วยมือค่ะ


ดูหน้าตาฝักข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้ชัดๆ สีสวยมั่กๆ แต่กินไม่ได้นะค้า


ดอกหญ้าริมทางค่ะ พยายามถ่ายแบบชัดตื้น แต่ได้แค่นี้ค่ะ กลายเป็น(ไม่)ชัดตื้นแทน แฮ่ๆๆๆ


ดูดงข้าวโพดกันอีกทีค่ะ เราต้องลุยเข้าไปในนั้นแหละ แค่เห็นก็คันแกร็กๆๆๆ แย๊ว


ใกล้ๆกันเป็นไร่แตงร้านระบบน้ำหยดค่ะ แอบถ่ายมาด้วย


ทำงานเหนื่อยเสร็จ เราพักยก ไปทานข้าวเย็นกันดีกว่าค่ะ ร้านโพธิ์เงิน (โปรดอย่าถามทางไป เพราะมินตรานั่งหลับตลอดทาง เอิ๊กกกกกก)
หิวมือสั่น รูปออกมาเป็นฉะนี้แล


สภาพทั่วไปในร้านค่ะ เค้าใช้ไม้ท่อนๆเป็นโครงหลังคา เราว่าดูดีค่ะ แต่ติดตรงโต๊ะเก้าอี้นี่จิ มันไม่เข้ากันน้า เฮียน้า


ดูเมนูกันก่อน อาหารที่นี่ไม่แพงเลยค่ะ อย่างละ 30-40 พวกต้มๆเป็นหม้อไฟ หม้อละ 60 ! โอ้ ใช้ได้เลย


อาวุธพร้อม! ข้าวสวยพร้อม! เราจะลุยยยยยยยยยย


จานแรกมาแล้วค่ะ ไข่เจียวปู 555 อาหารสิ้นคิด แต่หมดก่อนทุกที จานนี้ปูน้อยไปหน่อย แต่ก็นะ ราคาแค่นี้เนอะ


ตามมาติดๆ กะเพราไข่ปัสสาวะอาชา รสเข้มข้น อร่อยค่ะ


ผัดเผ็ดหมูป่าค่ะ จานนี้เราไม่ได้ชิม แต่คนข้างๆบอกว่า ใช้ได้ค่ะ


อาหารโปรดเราและจานแนะนำค่ะ แกงส้มกุ้งใหญ่(ชะ)อมไข่ กุ้งไม่ค่อยใหญ่แฮะ แต่พอไหวๆ ถ่ายรูปออกมาดูใหญ่พอสมควร ตัวจริงเค้าไม่ค่อยใหญ่มากนักค่ะ


จานนี้ก็โปรดค่ะ ปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียมกรอบๆ โอ้ ส่งมาด่วนๆๆๆ


สุดท้ายที่จานนี้ค่ะ ชอบอีกแหละ ยำปลาดุกฟูค่ะ ฟูฟ่องมาเชียว


งานนี้ไปกันยี่สิบคน กับข้าวประมาณ 17 จาน (มีปลาตัวใหญ่เบิ้มมั่กๆ ทอดทั้งตัวด้วยค่ะ แต่มินตราถ่ายรูปไม่ทัน หันไปอีกที แหว่งไปเยอะแล้ว พรรคพวกหิวหน้ามืด ถ้ามัวถ่ายต่อ คงโดนแย่งกินหมดแน่) พร้อมน้ำดื่ม น้ำแข็ง (เหล้าหิ้วไปเอง) หมดไป 1600 กว่าๆ โอ้ เยี่ยม

วันรุ่งขึ้น ทำงานเสร็จแล้ว เราไปแวะเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์กันค่ะ ไม่ได้ถ่ายรูปมุมประชาชนที่เป็นลิงสองตัวมา เอามุมนี้ไปก่อนนะค้า


อาคารปฏิบัติการค่ะ ดูน่าทำงานแถวนี้จัง


ตอนไปน้ำน้อยมากๆค่ะ น่าใจหาย แต่ตอนนี้น้ำคงเยอะขึ้นแล้ว


น้ำน้อยจริงๆค่ะ


ภาพน้ำในเขื่อนอีกสักภาพ ตอนเราไปเย็นมากแล้วค่ะ ตะวันลับฟ้าไป เหลือแต่ก้อนเมฆสะท้อนเงาในน้ำ (ท้องฟ้าอีกตามเคย ก็ของชอบค่ะ ไปไหนต้องถ่ายท้องฟ้า)


มีใครอยากนั่งตรงม้านั่งตัวนี้เป็นเพื่อนมินตรามั้ยคะ?


ไม่มีเหรอคะ? งั้นเรานั่งมองสันเขื่อนเหงาๆคนเดียวก็ได้ ฮืออออ


ทางเดินในบริเวณเขื่อนค่ะ เหงาจัง ไม่มีคนเลย


เก็บดอกลั่นทมหอมๆแถวนั้นมาฝากด้วยค่ะ


สุดท้ายแล้ว ขอลาลพบุรีกันด้วยภาพนี้ค่ะ ท้องฟ้ากับข้าวฟ่าง
(อ้าว? เรามาทำข้าวโพดนี่นา?)

Create Date : 18 ตุลาคม 2550 Last Update : 18 ตุลาคม 2550 12:23:44 น. Counter : 2158 Pageviews.		9 comments
Share Tweet