Review : Philosophy Renewed Hope in a Jar หนึ่งเดือนกับการลองครบทั้งไลน์ปลื้มอะไรไปชมกัน
Philosophy แบรนด์ดังจากอเมริกา
ที่เราคุ้นเคยกันดีกับครีมอาบน้ำหลากสีหลากกลิ่นที่หอมเว่อร์
แต่อีกหนึ่งอย่างที่เด็ดและโด่งดังไปทั่วโลกก็คงไม่พ้นสกินแคร์ที่ชื่อติดหู
อย่าง Hope in a Jar ซึ่งมีขายมาเป็นสิบปี
แต่ล่าสุดเค้าได้มีการปรับสูตรยกทั้งไลน์และได้ปรับชื่อเป็น
Renewed Hope in a Jar
ซึ่งเค้าได้เทสแบบครบไลน์แล้วรู้สึกว่าเหยมันดี
เลยยกมารีวิวให้ชมกันแต่จะขอเน้นที่ตัวไนท์ครีม
ซึ่งออกมาล่าสุดและเค้าชอบที่สุดนะฮะ Smiley



Philosophy
Renewed Hope in a Jar


หลายคนสงสัยว่าไลน์นี้เค้าเน้นคุณสมบัติอะไร
คือปกติเราจะเห็นสกินแคร์เป็นแบบไลน์ไวท์เทนนิ่ง ลดเลือนริ้วรอยไรงี้
แต่อันนี้ชื่อเค้าไม่เจาะจงมาแต่จริงๆแล้ว
เป็นคุณสมบัติแบบที่ทุกคนต้องการเลยนะ นั่นก็คือ

เรียบเนียน (Texture)
: ด้วย
AHAs 3 แบบ ที่ทำงานในชั้นผิวที่ต่างกัน

เปล่งปลั่ง (Radiance) : ด้วย Micro-Optics ที่ช่วยกระจายแสง
สารสกัดจากพืชและจากดอก Prickly Pear ช่วยให้ผิวดูสดใส

ชุ่มชื่น (Hydration) : Hyaluronic Acid 3 แบบ
และสารสกัด
Blue Agave Extract

สรุปรวมๆแล้วก็คือผิวที่มีสุขภาพดีนั่นเอง
ซึ่งเราจะพบว่าเมื่ออายุเพิ่มขึ้นจะเห็นว่าผิวมันจะดูไม่เฟรชเท่าตอนวัยรุ่นเนอะ
นอนน้อยนิดหน่อยผิวจะดูล้าแบบเห็นได้ชัด ไลน์นี้ก็จะมาช่วยเติมความเฟรชให้ผิว
ทำให้ตื่นเช้ามาแล้วพบว่าผิวยังดูสดใสเหมือนตอนเป็นวัยสะรุ่น
ดังนั้นไลน์นี้จึงตอบโจทย์สำหรับทุกเพศทุกวัยสามารถเริ่มใช้ได้ตั้งแต่ผิวยังไม่มีปัญหาจ้า

อ้ออีกหนึ่งอย่างที่ปรับไปจากสูตรเก่าเลยก็คือ "กลิ่น"
จากเดิมไลน์นี้จะเป็นกลิ่นลาเวนเดอร์
แต่สูตรใหม่ Renewed จะเป็นกลิ่นหอมดอกไม้เบาๆค่ะ



Philosophy
Renewed Hope in a Jar
Revitalizing Creamy Foam Cleanser

ขนาด 150 มล. ราคา 970 บาท

โฟมล้างหน้าสูตรอ่อนโยน ช่วยให้ผิวสะอาดหมดจด
พร้อมให้ความชุ่มชื่นผิวจึงดูอิ่มเอิบและช่วยฟื้นฟูผิวอย่างต่อเนื่อง


---------------------------------------------------------------------------

เนื้อ กลิ่น และความรู้สึกเมื่อทดลองใช้


เกริ่นก่อนเลยว่าเป็นคลีนเซอร์ที่อินสุดๆในช่วงนี้ใช้ทุกวัน
เนื้อคลีนเซอร์สีขาวเหลือบๆมุก ใช้ทีละไม่ต้องเยอะประมาณเม็ดถั่วแดง
ที่เค้าชอบคือตีฟองง่ายมากไม่ต้องใช้พวกถุงตาข่ายช่วยเลย
ในภาพนี่คือขยี้กับน้ำบนมือนี่แหละแป๊บเดียวจะได้ฟองละเอียดฟูๆนุ่มๆ
กลิ่นดอกไม้เบาๆให้ความรู้สึกผ่อนคลายดีซึ่งจะเป็นกลิ่นนี้ทั้งไลน์

หลังล้างหน้าให้ฟิลที่ดีงามสุดๆคือล้างได้เกลี้ยงจริงจัง
อย่างวันที่แต่งหน้าจัดใช้พวกรีมูฟเวอร์หรือคลีนซิ่งออย
โฟมตัวนี้เอาอยู่ล้างความมันออกได้หมดโดยที่ไม่ทำให้รู้สึกแห้งตึงเลย
นี่แหละคลีนเซอร์ในอุดมคติของเจ้ ต้องเกลี้ยงแต่ห้ามทำให้ผิวแห้ง Smiley
เป็นอีกหนึ่งไอเท็มที่หมดแล้วซื้อต่อแน่นอน หลอดใหญ่บึ้มใช้ทีละนิดคุ้มๆๆๆ



Philosophy
Renewed Hope in a Jar
hydrating & refining lotion


ขนาด 240 มล. ราคา 1,150 บาท

โลชั่นเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับการบำรุงในขั้นตอนต่อไป
และช่วยกระชับรูขุมขน

---------------------------------------------------------------------------

เนื้อ กลิ่น และความรู้สึกเมื่อทดลองใช้

สำหรับตัวนี้ใช้เป็นขั้นตอนแรกหลังการล้างหน้า
โดยหยดใส่สำลีให้ชุ่มแล้วเช็ดทั่วใบหน้า

เนื้อโลชั่นจะเป็นสีขาวแบบน้ำนมมีความข้นพอควร
เวลาหยดใส่สำลีต้องบีบๆสำลีนิดนึงโลชั่นถึงซึมลงไปได้
กลิ่นดอกไม้ออกแนวผ่อนคลาย กลิ่นค่อนข้างชัด
เมื่อเช็ดไปบนผิวแม้ตอนแรกจะรู้สึกว่าเนื้อมีความข้น
แต่ซึมผิวไม่ยากเมื่อซึมแล้วไม่เหนอะหนะ
ให้ฟิลเหมือนมีฟิลม์บางๆเคลือบผิว ผิวจะรู้สึกเรียบลื่นขึ้น

ส่วนตัวเค้าจะมีใช้ขั้นตอนเอสเซนส์อื่นๆด้วยซึ่งเนื้อจะเหลวกว่า
จึงลงพวกเอสเซนส์ก่อนแล้วค่อยตามด้วยโลชั่นตัวนี้จ้า

***โลชั่นตัวนี้สามารถใช้เป็นมาส์กคู่กับเม็ดมาส์กได้ด้วย
โดยหยดใส่เม็ดมาส์กให้ชุ่มแล้วมาส์กทิ้งไว้สัก 15-20 นาที
หลังมาส์กผิวจะฉ่ำและนุ่มขึ้นชัดเจนเลย เพราะเนื้อเค้าค่อนข้างข้น
เค้าเองจะชอบเอามาใช้เป็นมาส์กหน้ามากกว่าใช้เป็นโลชั่น
เพราะปกติใช้เสต็ปเตรียมผิวหลายตัวแล้วอ่าน้า




Philosophy
Renewed Hope in a Jar Eye


ขนาด 15 มล. ราคา 1,690 บาท

อายครีมช่วยบำรุงให้รอบดวงตาที่อ่อนล้าดูสดใสขึ้น
ลดเส้นริ้วรอยบางๆให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น

ลดรอยคล้ำและถุงใต้ตาด้วยสารสกัดจากสาหร่างสีแดง&สีน้ำตาล
และสารสกัดจาก
พืชแอฟริกันที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด

***ไม่มีส่วนผสมของน้ำมันและน้ำหอม


---------------------------------------------------------------------------

เนื้อ กลิ่น และความรู้สึกเมื่อทดลองใช้


อายครีมไม่มีน้ำหอม เนื้อครีมเป็นแบบเนื้อวิปซึ่งดีงามมากกกก
บอกเลยว่าจุดเด่นของไลน์นี้คือครีมทุกอย่างเท็กซ์เจอร์เลอเลิศ
เนื้อจะคล้ายๆวิปครีมคือมีความฟูนุ่มเกลี่ยง่ายลูบละฟิน
เนื้ออายครีมจะค่อนข้างข้นแต่ไม่เหนอะหนะ
ทาแล้วรู้สึกได้เลยว่ารอบดวงตาชุ่มขึ้นซึ่งจะทำให้แต่งหน้าง่าย
ซึ่งสังเกตผลง่ายเลยคือระหว่างวันเมคอัพใต้ตาจะไม่แคร็ก

เค้าใช้ต่อเนื่องมาเดือนนึงส่วนตัวไม่มีปัญหาหมองคล้ำอยู่แล้ว
ใช้แล้วชอบตรงเนื้อวิปที่ทาแล้วชุ่มชื่นดีงามใต้ตาจะดูไม่แห้ง

ขั้นตอนอายครีมส่วนใหญ่จะทาหลังมอยส์เจอร์กันเนอะ
แต่เค้าชอบทาก่อนขั้นตอนอื่นเพราะรู้สึกผิวใต้ตามันบางและแห้งง่ายกว่า
เลยอยากโบกเข้าไปก่อนจุดอื่น ยิ่งตอนก่อนนอนจะเน้นโบกหนาๆจ้า



Philosophy
Renewed Hope in a Jar
Refreshing & Refining Moisturizer

ขนาด 60 มล. ราคา 1,690 บาท

มอยเจอร์ไรเซอร์สำหรับผิวแห้งโดยเฉพาะ
เน้นให้ความชุ่มชื่นทันทีและชุ่มชื่นได้ยาวนานตลอดวัน
ช่วยปกป้องผิวจากความแห้งตึงและลดอาการระคายเคืองผิว
ด้วยสารสกัดจากคาร์โมมายด์ที่ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ
สารสกัดจากผลไม้เอเชีย (Evodia Rutaecarpa)
ส่งเสริมการไหลเวียนของโลหิตทำให้ผิวแลดูเปล่งปลั่ง
และดอกต้นกระบองเพชร (Prickly Pear Flower)
ที่เสริมสร้างกระบวนการผลัดเซลล์ผิวช่วยให้ผิวเรียบเนียน

***มอยส์เจอร์เค้าจะมีทั้งหมด 3 สูตร
คือสูตรนี้สำหรับผิวแห้ง , สูตร oil-free gel cream สำหรับผิวมัน
และสูตรสำหรับกลางวันโดยเฉพาะมีค่า SPF25

จริงๆมอยส์เจอร์ตัวนี้ใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
แต่เค้าใช้เฉพาะกลางวันเพราะกลางคืนจะมีไนท์ครีมต่างหางจ้า


---------------------------------------------------------------------------

เนื้อ กลิ่น และความรู้สึกเมื่อทดลองใช้


แม้จะเป็นมอยส์เจอร์สำหรับผิวแห้งแต่เนื้อบางเบาสบายผิวเลย
เทียบกับอายครีมเนื้อจะข้นน้อยกว่าแต่เป็นเนื้อวิปเหมือนกัน
คือมีความนุ่มฟูและลื่นเกลี่ยได้ง่ายซึมผิวไว

หลังทาจะมีความหนึบผิวเหลือเล็กน้อยซึ่งอันนี้สำหรับผิวแห้งเค้าชอบนะ
เพราะมันรู้สึกชุ่มดีและชุ่มได้นานกว่าเนื้อที่ทาแล้วแห้งสนิทหายวาบ
ผิวหลังทาชุ่มและนุ่มขึ้นทันตา อันนี้เคยไปสาธิตขั้นตอนใช้ในเวิร์คชอป
ทุกคนในเวิร์คชอปกรี้ดกับเท็กซ์เจอร์ครีมตัวนี้มาก
ถ้ามีโอกาสอยากให้ไปลองปาดที่เคาท์เตอร์กันดูน้า

เค้าเริ่มใช้มอยส์เจอร์ตัวนี้ก่อนตัวอื่นแล้วชอบเลยเริ่มใช้ตัวอื่นตาม
เลยได้เทสตัวนี้มาสองเดือน ซึ่งเค้าพกไปทริปยุโรปด้วย
ช่วงที่ผ่านมานี่เดินทางบ่อยเว่อร์ปกติผิวจะล้าๆหรือแห้งลง
แต่โบกมอยส์เจอร์ตัวนี้แล้วรอดนะผิวไม่แหกไม่แห้งลอก
ผิวหน้าไม่มีปัญหาแต่งหน้าติดตลอดทริป สรุปผ่าน!



Philosophy
Renewed Hope in a Jar
Overnight Recharging and Refining Moisturizer 

ขนาด 60 มล. ราคา 2,190 บาท

ผลิตภัณฑ์ล่าสุดในไลน์นี้เพิ่งออกมาได้ไม่นาน
เป็นไนท์ครีมที่ช่วยฟื้นฟู และส่งเสริมการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิว
ที่เป็นไปตามวงจรธรรมชาติในตอนกลางคืน ต่อต้านการขาดน้ำในผิว
ความหมองคล้ำ ไม่เนียนเรียบ รวมถึงช่วยลดเลือนริ้วรอย และกระชับรูขุมขน


กลิ่นเค้าดมแล้วรู้สึกจะต่างกับตัวอื่นในไลน์เล็กน้อย
ในไนท์ครีมตัวนี้เป็นกลิ่นจาก
ดอกฟรีเซีย (freesia) กล้วยไม้ (orchid)
แอปเปิ้ลป่า (wild apple) และมะนาว (lemon)

ช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลายนอนหลับสบาย



มีส่วนผสมของ hyaluronate ที่ให้ความชุ่มชื่น
สารสกัดจากพืช Miramaze™ ที่ช่วยฟื้นฟูให้ผิวชุ่มชื้นยาวนาน 24 ชั่วโมง
alpha-hydroxy (AHA) 3 ชนิด คือ glycolic, citric และ mandelic
ที่ช่วยปรับสภาพผิว เพื่อลดเลือนริ้วรอยและรูขุมขน
สารสกัดจากพืชตระกูลเบอรี่ evodia rutaecarpa ที่มีต้นกำเนิดจากทวีปเอเชีย
ที่ส่งเสริมการไหลเวียนของโลหิตทำให้ผิวแลดูเปล่งปลั่งดูสุขภาพดี



ครีมกระปุกทุกรุ่นจะเป็นพลาสติกหนาสองชั้น ทึบแสง
มีฝาปิดสองชั้น เค้าเคยทำตกไม่แตกนะดรอปเทสแบบไม่ตั้งใจ แหะๆ
ครีมกระปุกแบบนี้เสี่ยงที่จะปนเปื้อนได้ง่ายเวลาตักใช้
ถ้าทำแบบขวดหัวปั๊มมาจะดีงามมาก



ลักษณะเนื้อและกลิ่น

ปาดเทียบให้ดูกับเนื้อวิปสามแบบเนื้ออายครีมกับมอยส์เจอร์จะสีขาว
แต่โอเวอร์ไนท์ดูจากในกระปุกจะออกสีครีมแต่ปาดแล้วสีไม่ต่างกัน

เรียงตามความข้นจากมากไปน้อยจะเป็น
Overnight > Eye > Moisturizing
เนื้ออายจะเหมือนวิปมากสุดมีความหยุ่นฟูส่วนมอยส์เจอร์จะฟิลคล้ายเจล
ส่วนโอเวอร์ไนท์จะเป็นข้นสุดเป็นวิปที่คล้ายบาล์ม
แต่ในความข้นก็ยังคงคุณสมบัติแบบวิปคือเกลี่ยง่ายเนื้อลื่นผิว

กลิ่นจะมีความเป็นซิตรัสผสมอยู่ เค้าว่ากลิ่นสดชื่นดีชอบกลิ่นแนวๆนี้



หลังทาจะเป็นฟิลม์บางๆเคลือบผิว ผิวจะนุ่มๆเด้งๆแต่ไม่ได้เหนอะหนะ
ปกติเค้าใช้เนื้อข้นกว่านี้เลยรู้สึกว่าตัวนี้สบายผิวดีไม่หนักหน้า
ตื่นมาซึมผิวหมดลูบละลื่นไปเลย แต่จับผิวแล้วยังเหลือความนุ่มอยู่
สำหรับผิวแห้งใช้ก็ถือว่าเก็บความชุ่มชื่นได้ดีจริง คอนเฟิร์มฮร่ะ!



สรุปสำหรับโอเวอร์ไนท์น้องใหม่ในไลน์นี้
ได้มาลองหลังสุดแต่รักสุดตรงเท็กซ์เจอร์ที่ข้นแต่เบา
ให้ผิวชุ่มและนุ่มได้จริง นอนดึก(มาก)ตื่นมาแล้วผิวหน้าดูไม่ล้า
ยกให้เป็นหนึ่งในไนท์ครีมที่เค้าเลิฟไปเลย



ถือหมดไม่ไหวเอาตัวที่เลิฟมาถ่ายละกัน555
สรุปรวมสำหรับความรู้สึกที่ลองใช้
Philosophy Renewed Hope in a Jar
มาครบเดือน(บางตัวเกินเดือน)

ผลลัพธ์ที่ได้สำหรับเค้านะเห็นชัดคือความอิ่มฟูของผิว
ผิวมันดูเฟิร์มๆแน่นๆซึ่งผิวที่ชุ่มชื่นดีนี่แหละทำให้รูขุมขนดูเล็กลง


อ้อสิ่งหนึ่งที่ตอนแรกเค้าแอบกังวลกับไลน์นี้คือมี AHA ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว
คือปกติผิวเค้าแห้งจะไม่ค่อยกล้าใช้เพราะรู้สึกจะทำให้ผิวแห้งลง
แต่พอเทสเนื้อครีมแล้วลองใช้มาสักพักผิวปกติดีไม่ระคายเคืองแต่อย่างใด
ผลที่ได้คือช่วยให้เท็กซ์เจอร์ผิวเรียบเนียนขึ้นลูบแล้วดูสมูทขึ้น
แต่การใช้สกินแคร์ในกลุ่มที่มี AHA แม้จะมีความเข้มข้นต่ำ
ก็ยังแนะนำว่าควรทากันแดดและเลี่ยงแดดได้ก็จะดี
ซึ่งในความจริงแล้วเราก็ควรทาทุกวันอยู่แล้วเนอะดูแดดบ้านเราสิคะคุณขา

เอาว่าจัดเป็นไลน์ที่ช่วย Maintain ผิวให้ดูมีสุขภาพดีไปเรื่อย
ซึ่งเราสามารถใช้มิกซ์กับสกินแคร์อื่นๆที่เรามีอยู่ได้
เค้าเองก็มิกซ์สลับกับพวกเอสเซนส์/เซรั่มเอาตามปัญหาผิวแต่ละช่วง

แต่ใช้กลุ่มนี้เป็นตัวหลักในการให้ความชุ่มชื่นผิวจ้า

***สกินแคร์ทุกตัวในไลน์นี้มี AHA และน้ำหอม (ยกเว้นอายครีม)
ใครผิวบอบบางระคายเคืองง่ายแนะนำให้ป้ายเทสหลังใบหู
ทิ้งไว้ซัก 24-48 ชั่วโมงก่อนแล้วสังเกตอาการดู
เพราะอาการแพ้เป็นเรื่องส่วนบุคคลเค้าตอบให้ไม่ได้จริงๆว่าจะแพ้หรือไม่อ่านะ


------------------------------------------------------------------------------------

สุดท้ายขอฝากไว้ว่าการทามอยส์เจอร์สำคัญมากถึงมากที่สุด
ไม่ได้แปลว่าต้องผิวแห้งเท่านั้นถึงจะต้องใช้
เพราะความชุ่มชื่นกับความมันไม่เกี่ยวกัน
หลายคนพยายามแก้ปัญหาผิวอย่างด้วยด้วยการใช้พวกเซรั่มเข้มข้น
แต่ละเลยการใช้มอยส์เจอร์เพราะรู้สึกว่ามันจะเหนอะจะเยิ้ม

พวกเซรั่มช่วยบำรุงได้ลึกจริงแต่เนื้อจะบางเบา
ไม่ได้เน้นในการเติมความชุ่มชื่น หรือช่วยกักเก็บความชุ่มชื่นไว้เท่าไหร่
เพราะอันนั้นเป็นหน้าที่ของมอยส์เจอร์เลย ดังนั้นถ้าอยากบำรุงผิวให้ครบจริง
ขั้นสุดท้ายมอยส์เจอร์อย่าลืมเด็ดขาด จะทำให้เห็นความเปลี่ยนแปลงของผิวได้ชัดเลย
ยิ่งใครมีปัญหารูขุมขนนะต้องลองพอผิวชุ่มดีรูขุมขนที่เคยเบิกบานจะแคบลงฮะ

ใครอยากลองไปเทสกันได้ที่เคาท์เตอร์ Philosophy ทุกสาขาตามนี้จ้า
พารากอน (ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์) ชั้น M, เอ็มโพเรียม ชั้น M,
เซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น1, เซโฟร่า สยามเซ็นเตอร์ ชั้น 1,
เซโฟร่า เซ็นทรัลเอ็มบาสซี่ ชั้น 2, เซโฟร่า เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 2,
เซโฟร่า เอ็มควาเทียร์ ชั้น G และ เซโฟร่า เมกาบางนา ชั้น 1


-----------------------------------------------------------------------------

Disclaimer : Sponsored Content by Philosophy
Information : https://www.facebook.com/philosophyThailand




Create Date : 16 กันยายน 2558
Last Update : 16 กันยายน 2558 1:46:00 น.
Counter : 16331 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mhunoiii.BlogGang.com

SaRaY
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 535 คน [?]

บทความทั้งหมด