Review : รีวิวจัดเต็มกับกองทัพเบสเมคอัพแบรนด์ THREE [ไพร์เมอร์/รองพื้น/คอนฯ/แป้งฝุ่น/แป้งผสมรองพื้น]
"งานผิว" คำนี้ได้ยินบ่อยมว๊ากกก
เรียกได้ว่าเป็นเทรนด์แต่งหน้าที่จะอินได้ตลอดไม่มีเอาท์
กับลุคผิวที่ดูบางเบาแต่สวยเป๊ะแบบเป็นธรรมชาติ
เอาว่าเป็นผิวแบบที่สาวๆไฝ่ฝันและหนุ่มๆเซย์เยส Smiley

บล็อคนี้เลยมีรีวิวเบสเมคอัพที่หลายคนยกให้เป็น"งานผิว" มาฝากกัน
ขอบอกว่ารีวิวให้ทั้งไลน์แบบจัดเต็ม พร้อมแล้วไปชมกันเล้ยยยย....



THREE 
BASE MAKEUP

[Primer / Foundation / Concealer/ 
Loose Powder / Powder Foundation]

-------------------------------------------------------------------------------------

 THREE แบรนด์ดังจากญี่ปุ่นที่เข้ามาขายในบ้านเราร่วมสองปีกว่าแล้ว
ขอบอกว่าในญี่ปุ่นเค้าวางโพซิชั่นเป็น Hi-End หรือ Luxury Brand เลยนะ
แต่เป็นแบรนด์หรูที่ราคาสามารถจับต้องได้ไม่แพงเว่อร์วัง (พันกลางๆถึงสองพัน)
ซึ่งสิ่งที่ทำให้แบรนด์นี้ดังมากคือความที่เป็นแบรนด์ออแกนิกส์
พวกสกินแคร์เค้าเริ่ดมากหลายตัว ใช้สารสกัดจากธรรมชาติเป็นหลัก
จึงอ่อนโยนต่อผิว ทำให้คนที่มีผิวระคายเคืองหรือแพ้ง่ายมีทางเลือกมากขึ้น

พอมาเป็นกลุ่มเมคอัพเค้าก็ยังคงคอนเซ็ปต์เดียวกับสกินแคร์
คือเน้นส่วนผสมที่ได้จากธรรมชาติจัดเต็มถึง 80% 
มีสารบำรุงผสมมามากมายจุดขายเค้าก็จะมีพวกออยธรรมชาติ
อย่าง Incainchi Oil , Argen Oil , Tea Seed Oil
ที่เน้นให้ความชุ่มชื่น ต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอการเกิดริ้วรอย
ทำให้เป็นเมคอัพที่ทำให้เราได้รับการบำรุงผิวไปด้วย
ถือว่าเป็นจุดขายที่ต่างจากเมคอัพแบรนด์อื่นๆเลยเนอะ
แต่ได้ยินว่ามาออยอย่าเพิ่งกลัวไปขอบอกว่าเค้าเน้นเนื้อที่บางเบา
ทาแล้วต้องรู้สึกสบายผิวเท็กเจอร์จะไม่ทำให้รู้สึกหนักหน้า
ปูคุณสมบัติมาซะเคลิ้มขนาดนี้ไปชมกันดีกว่าว่าแต่ละตัวใช้แล้วเป็นอย่างไร
เรียงตามเสต็ป...ไพร์เมอร์ รองพื้น คอนซีลเลอร์ แป้งฝุ่น และแป้งผสมรองพื้นนะจ๊ะ



THREE ULTIMATE PROTECTIVE 
PRISTINE PRIMER SPF32/PA+++

------------------------------------------------------------------

ขนาด 30 ml. ราคา 1,600 บาท

ไพรเมอร์เนื้ออิมัลชั่นช่วยพรางรูขุมขนให้เรียบเนียน
และช่วยให้สีผิวดูสม่ำเสมอมากขึ้น

มีให้เลือก 2 สูตร
GLOW : เหมาะกับผิวแห้ง ช่วยให้ผิวดูชุ่มชื่นเปล่งปลั่ง
TRANSLUCENT : เหมาะกับทุกสภาพผิว ช่วยให้ผิวเรียบเนียนลงรองพื้นง่ายขึ้น

***สูตรที่เค้านำมารีวิวให้ชมกันคือสูตร Glow เพราะเค้าผิวแห้งฮะ



รายละเอียดส่วนผสมของไพรเมอร์สูตร Glow

มีส่วนผสมของ Botanical Oil แปดชนิด คือ 
Incainchi Oil , Argan Oil , Evening Primrose Oil , Sesame Oil ,
Tea Seed Oil , Jojobar Oil , Rosehip Oil และ Shea Butter



ลักษณะเนื้อ

ไพร์เมอร์สีเนื้อกดออกมาตอนแรกแอบตกใจนึกว่ารองพื้น
ดูตาเปล่าเหมือนจะเนื้อข้นพิกเมนต์ทึบๆ แต่พอเกลี่ยคนละเรื่องเลย
เนื้อจะเป็นแบบอิมัลชั่นค่อนข้างเหลวมีความลื่นเกลี่ยง่ายเว่อร์
เค้าว่าเวลาเกลี่ยแล้วมันจะแตกตัวเป็นเนื้อใสๆคล้ายๆน้ำ
พิกเมนต์ที่เหมือนจะทึบตอนแรกจะกระจายตัวแทบจะโปร่งแสงเลย
เป็นสูตร Glow แต่ว่าไม่มีพวกชิมเมอร์ผสมในเนื้อแต่อย่างใด
ความโกลว์ที่ได้เกิดจากความฉ่ำของเนื้อไพร์เมอร์จ้า



ไพร์เมอร์จะใช้เป็นขั้นตอนแรกหลังการแต่งหน้า
หลังจากทาสกินแคร์และกันแดดเรียบร้อยแล้ว
เนื้อไพร์เมอร์รุ่นนี้บางเบาจริงอะไรจริง
เนื้อลื่นเกลี่ยง่ายสามารถใช้มือทาได้เลย
ไม่ต้องอาศัยสกิลในการทาใดๆ เนื้อซึมไว
เหลือความหนึบบนผิวเล็กน้อยแต่ไม่เหนอะหนะ



ผลลัพธ์ที่ได้

สำหรับเค้าที่ผิวแห้งเทียบผลก่อนและหลังทาด้วยตาเปล่าต่างกันเพียงเล็กน้อย
ผิวจะดูฉ่ำแบบดูชุ่มชื่นขึ้น ไม่ใช่ฉ่ำวาวแบบพวกไพร์เมอร์ที่ผสมชิมเมอร์
สีผิวดูไบร์ทและสม่ำเสมอขึ้นเล็กน้อยสังเกตได้จากรอยกระที่ดูนวลขึ้นไม่ชัดเท่าตอนแรก

เอาว่าสำหรับสูตรโกลว์เค้าว่าเป็นการปรับสภาพความชุ่มชื่นผิวมากกว่า
ไม่ได้เน้นเรื่องการปรับโทนสีหรือช่วยเรื่องการปกปิดหรือพรางอะไร
ซึ่งอาจจะขัดใจหลายคนที่อยากเห็นผลลัพธ์ทางตาชัดๆ
แต่ขอบอกว่าการเตรียมผิวด้วยการเติมความชุ่มชื่นแบบนี้ช่วยเรื่องการติดทนมากนะเออ
ถ้าใครที่ผิวแห้งจะรู้ดีเลยว่าเมื่อไหร่ที่ผิวขาดความชุ่มชื่นจะแต่งหน้าไม่ติด!
แค่แต่งก็ไม่ติดแล้วไม่ต้องคาดหวังเรื่องติดทนระหว่างวันเลย

แต่หลังจากใช้ไพร์เมอร์สูตรนี้จะสังเกตได้ว่าเมื่อทารองพื้นตาม
รองพื้นจะเกลี่ยง่ายขึ้น และระหว่างวันจะไม่เกิดอาการแห้งแคร็ก
ซึ่งส่วนตัวเค้าว่าเหมือนจะช่วยให้รองพื้นติดทนขึ้นในระดับนึงหล่ะ
อ้อแล้วสำหรับคนผิวค่อนข้างแห้งน่าจะรู้สึกเหมือนกันว่าเวลาลงไพรเมอร์
ผิวจะเซ็ตตัวดูฉ่ำได้ไวขึ้นกว่าใช้รองพื้นเดี่ยวๆฮะ
ส่วนตัวใช้คู่กะรองพื้นไม่มีผลเรื่องเป็นคราบระหว่างวันเน่อ

--------------------------------------------------------------------------------

ระดับความพอใจ 8/10

ให้คะแนนกับเท็กซ์เจอร์ที่สบายผิวใช้ง่าย
ให้ฟิลเหมือนทาบำรุงผิวอีกขั้นก่อนลงรองพื้น
ถ้ากันแดดที่ใช้เนื้อค่อนข้างแห้งหรือแอลกอฮอล์เยอะ
หรือเป็นวันที่ขี้เกียจทารองพื้นอยากใช้แค่ไพร์เมอร์
แล้วตามด้วยแป้งผสมรองพื้นเค้าว่าเอามาจับคู่กับไพร์เมอร์ตัวนี้จะเวิร์คเลย
ช่วยเติมความชุ่มชื่นได้ดี ทำให้แป้งเซ็ตตัวได้ไวขึ้น

แอบหักคะแนนตรงที่ใช้เดี่ยวๆไม่ค่อยเห็นความต่างในเชิงมองด้วยตาเปล่า
ต้องเอาไว้ใช้คู่กับรองพื้นหรือแป้งผสมรองพื้นถึงจะรู้สึก
และถ้าบำรุงผิวมาชุ่มชื่นดีส่วนตัวใช้กับไม่ใช้ให้ความรู้สึกต่างกันไม่มากจ้า

สูตรนี้เหมาะเน้นๆสำหรับคนผิวแห้งหรือผิวธรรมดาที่อยากฉ่ำ
แต่ถ้าผิวมันไม่แนะนำคาดว่าระหว่างวันเยิ้มแน่เลย



THREE FLAWLESS ETHEREAL 
FLUID FOUNDATION SPF36/PA+++

------------------------------------------------------------------

ขนาด 30 ml. ราคา 1,950 บาท

รองพื้นสูตรลิควิดเนื้อบางเบาให้ผิวดูกระจ่างใส
อำพรางจุดบกพร่อง ให้สีผิวสม่ำเสมออย่างเป็นธรรมชาติ
เสมือนกับเป็นผิวจริง ส่วนผสมจากธรรมชาติถึง 80.4%

มีให้เลือกทั้งหมด 7 เฉดสี
 101 / 102  / 202 / 203 / 204 / 205 / 206

***สีที่เค้านำมารีวิวให้ชมกันคือเบอร์102 สำหรับผิวขาวเหลืองจ้า



รายละเอียดส่วนผสมรองพื้น

มีส่วนผสมของ Botanical Oil แปดชนิด คือ 
Incainchi Oil , Argan Oil , Evening Primrose Oil , Sesame Oil ,
Tea Seed Oil , Jojobar Oil , Rosehip Oil และ Shea Butter

ส่วนประกอบของอณูผงแป้ง 2 ชนิด ได้แก่ 
SOFT FROST POWDER และ TRANSLUCENT POWDER 
ที่ช่วยเพิ่มการสะท้อนแสงทำให้ผิวดูเปล่งประกายจากภายใน
อำพรางสีผิวหมองคล้ำและรูขุมขนให้ผิวดูเนียนใส



ลักษณะเนื้อ

รองพื้นสูตรลิขวิดที่เนื้อเป็นแบบอิมัลชั่น
เนื้อเหลวและลื่นผิวเกลี่ยง่ายสุดพลัง เนื้อบางเบา
เกลี่ยแล้วจะกลมกลืนไปกับผิวจริงคล้ายการทาสกินแคร์เลยอ้ะ
ส่วนตัวเค้าว่าเนื้อกลางๆไม่มันและไม่แห้ง



วิธีการใช้ในแบบของเค้า

Smiley ใช้มือ เกลี่ยบางๆให้ทั่วใบหน้า อุณหภูมิผิวที่ปลายนิ้ว
จะช่วยให้รองพื้นเบลนกลืนเข้ากับผิวได้เริ่ดมาก
ขอบอกว่าไม่ต้องใช้ฝีมือและสกิลใดๆในการทาปาดไปมั่วๆก็เนียนได้
วันไหนด่วนๆแอบบอกเทคนิคว่าเค้ากดใส่ฝ่ามือแล้ววอร์มสองมือเข้าด้วยกัน
แล้วปาดทาบนหน้าแบบทาสกินแคร์เลยไม่เชื่อก็ต้องเชื่อมันรอดค่ะคุณ!

Smiley ถ้าผิวไม่มีปัญหาไม่ต้องการการปกปิดใดๆ
อยากได้ลุคบางแบบขีดสุดแนะนำให้ลองใช้กับแปรง ดู
ปาดแบบลากเบาๆไปบนผิวจากกลางหน้าออกกรอบหน้า
ไม่แนะนำให้ทาวนไปวนมานะฮะปาดทางเดียวเนียนสวยกว่า
และลดความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการอุดตันด้วย

Smiley จุดที่ต้องการการปกปิดเพิ่มเติมเค้าจะใช้ฟองน้ำ ช่วย
ด้วยการแตะรองพื้นแล้วแท็บย้ำเบาๆในจุดที่ต้องการปกปิด
อย่างพวกรอยกระ รอยคล้ำใต้ตา รองพื้นจะปิดได้มากขึ้น
เสร็จแล้วใช้ฟองน้ำด้านสะอาดแท็บย้ำเบาๆทั่วหน้า
เพื่อซับรองพื้นส่วนเกินออกผิวที่ได้จะดูเนียนแต่ไม่หนาจ้า



ผลลัพธ์ที่ได้

เค้าใช้มือเกลี่ยทั่วหน้าแล้วตามด้วยฟองน้ำแท็บเพิ่ม
ตรงรอยกระที่โหนกแก้มและใต้ตาเล็กน้อย
ผลลัพธ์.....คือกรี้ดมากกกก งานผิวขั้นสุดสวยเนียนแบบไม่โบ๊ะ

ระดับการปกปิดปานกลาง ช่วยพรางให้ดูนัวขึ้นแต่ปิดไม่มิดนะจ๊ะ
สังเกตได้จากรอยกระข้างแก้ม แต่ส่วนตัวเค้าชอบนะ
คือมองซูมๆก็เห็นจางๆแต่มองระยะปกติก็แทบไม่เห็นละเน่อ

ความฉ่ำผิวคือกำลังสวยไม่ได้ฉ่ำเกินไปและไม่ได้แมทท์
ความเงาผิวพอๆกะตอนทาสกินแคร์เสร็จผิวแห้งเลิฟเลย ณ จุดนี้
สำหรับคนผิวมันจากที่ถามๆและอ่านรีวิวคนอื่นมา
ฟีดแบ็คส่วนใหญ่จะบอกว่าไม่ได้คุมมันแต่ไม่ได้ทำให้มันเพิ่มจ้า



ระดับความพอใจ 9.5/10

เค้าผิวแห้งใช้ไพรเมอร์สูตร Glow คู่กะรองพื้นแล้วดีงามมมม
มันเนียน ผ่อง เด้ง สีไม่ดรอป ทนยาวยันค่ะ 
จุดเด่นที่เค้าปลื้มสุดคือไม่ต้องใช้ทักษะใดๆในการทา
แต่ให้ลุคที่ดูดี๊ดีเหมือนตั้งใจทา555 เอาว่าวันไหนด่วนๆตัวนี้จบ

ขอยกให้เป็นรองพื้นงานผิวชั้นยอดที่ควรค่าแก่การทดลอง
แอบหักคะแนนไปนิดนึงตรงเรื่องการปกปิด
ถ้าต้องออกงานอยากได้ความกริบต้องใช้คอนซีลเลอร์ช่วยจ้า



THREE ADVANCED
SMOOTHING CONCEALER

------------------------------------------------------------------

ราคาแท่ง 1,500 บาท

คอนซีลเลอร์ในรูปแบบปากกา
เนื้อบางเบาแต่ให้การปกปิดได้ดีเยี่ยม
และสามารถใช้ทัชอัพเพิ่มระหว่างวันได้ด้วย
มีส่วนผสมจากธรรมชาติถึง 80%



มีให้เลือกทั้งหมด 5 เฉดสี

YE (Yellow) : สำหรับรอยสีน้ำตาลและรอยแดงใต้ตา
รอยแดงบริเวณแก้มและข้างจมูก
OR (Orange) : สำหรับรอยสีน้ำเงินและรอยดำบริเวณใต้ตา

------------------------------------------------------------

01 / 02 / 03 : เฉดสีเบสิคโทนสีเนื้อ
โดยเลือกใช้ตามโทนสีรองพื้น สามารถใช้ได้ทั่วหน้า
และเหมาะกับการใช้ทัชอัพเติมหน้าระหว่างวัน



ส่วนตัวเค้าใช้สีเนื้อเบอร์ 01 เวลาปาดออกจากแท่งจะดูขาวกว่าผิวเล็กน้อย
แต่เวลาเกลี่ยแล้วสีจะค่อยๆกลมกลืนไปกับผิวทำให้ดูไบร์ทขึ้นนิดหน่อย
คือลองเบอร์ 02 แล้วมันเข้มกว่าผิวทาใต้ตาแล้วหน้าดูไม่ค่อยผ่องเลยชอบ 01 มากว่าจ้า
การทาจะเน้นลงบริเวณกระที่โหนกแก้มและใต้ตา
โดยแต้มจากแท่งแล้วเอานิ้วตบๆเบาๆลงแค่บางๆไม่ต้องการให้ปิดเกินไป
ถ้าอยากให้ปกปิดได้กริบมากขึ้นอาจเลือกสีพอดีหรือเข้มกว่าผิวเล็กน้อยจ้า

เนื้อคอนซีลเลอร์จัดว่าบางเบามากกก
ปาดแล้วตกใจบางกว่าเนื้อรองพื้นอีกคิดดู
แต่มันอเมซิ่งตรงที่มันให้การปกปิดที่ค่อนข้างดีเลย
ไม่ถึงกะมิด 100% แต่ก็ดูเนียนขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
โดนใจตรงเกลี่ยง่ายที่สุดในบรรดาคอนซีลเลอร์ที่เคยลองมาทั้งหมด
เค้าไม่ค่อนทาคอนเพราะมันจะดูหนาแต่ลองตัวนี้แล้วเลิฟ
พกเป็นหนึ่งในไอเท็ม Must Have! ในกระเป๋าเมคอัพเลยนะขอบอก



ส่วนแบบสีเค้าใช้ประจำคือสี YE โทนเหลือง
โดยหลักๆจะใช้เป็นไฮไลท์ให้หน้าดูมีมิติมากขึ้น
ปาดไปตรงจุดที่อยากให้ดูโดดเด้งขึ้นมา
อย่างหน้าผาก สันจมูก เหนือริมฝีปาก คาง
และป้ายตรงร่องใต้ตาอีกเล็กน้อยให้ตาดูสดใสขึ้น

จากนั้นจะใช้นิ้วหรือฟองน้ำเกลี่ยก็ได้เอาตามที่ถนัด
ส่วนตัวเค้าว่าฟองน้ำก็เวิร์คนะช่วยซับคอนส่วนเกินออกได้ดี

------------------------------------------------------------------

ระดับความพอใจ 9.5/10

ยกให้เป็นคอนซีลเลอร์แห่งปีที่เค้าหยิบมาใช้บ่อยสุด
อย่างที่บอกว่าปกติไม่ทาเลยเพราะขี้เกียจทาและไม่ชอบให้ดูหนา
แต่ตัวนี้ตอบโจทย์ได้หมดคือปิดแต่ไม่หนาทามั่วๆก็รอด(อีกแล้ว!)
ระหว่างวันไม่เลือนไม่ตกร่องที่สำคัญคือขนาดใต้ตาแห้งๆยังไม่แคร็กจัดว่าดีงามมม

จุดขายอีกอย่างที่เค้าบอกว่าทัชอัพเพิ่มได้ระหว่างวันอันนี้อาจจะถูกใจหลายคน
แต่ส่วนตัวเค้ามิเคยพกไปเติมเน่อ เป็นคนแต่งหน้ารอบเดียวจบไม่เติมหน้าระหว่างวัน
แต่เคยได้ลองทัชอัพในงานวันเปิดตัว เมคอัพอาร์ทติสเติมทับเมคอัพเดิมให้
ผลลัพธ์คือดีนะปาดทับแล้วเกลี่ยได้เลยโดยใช้นิ้วแท็บเบาๆไม่ทำให้เป็นคราบจ้า

ขอหักคะแนนไปเล็กน้อยเรื่องระดับการปกปิด
ใครชอบความกริบแบบมิดหมดอาจจะขัดใจเล็กน้อย
แต่อยากให้ลองแต่งหน้าแบบปกปิดให้น้อยลงดู
พอชินแล้วจะรู้ว่าปิดไม่ต้องมิดมันสวยกว่านะฮร้า



หลังจากลงผิวมา 3 Step แล้ว
ขอพักให้ชมผิวเทียบ BEFORE & AFTER กันก่อน
ชัดเจนเนอะนวลเนียนสวยงามดูไม่โบ๊ะ
ไพร์เมอร์ รองพื้น คอนซีลเลอร์ แต่ละตัวอาจปกปิดได้ไม่สุด
แต่พอรวมกันแล้วถือว่าปิดค่อนข้างมาก 80-90% เลยนะ

ถ้าใครผิวแห้งแบบเค้าจริงๆจบที่สามเสต็ปนี้จะเพอร์เฟ็คสุด
ผิวมีความฉ่ำเบาๆดูเหมือนผิวจริงไม่รู้สึกหนาหรือหนักหน้าด้วย
แต่ด้วยอากาศบ้านเราที่ร้อนใกล้จะสุกช่วงนี้ถ้ากลัวเยิ้ม
เชิญรับชมสเต็ปต่อไปกับขั้นตอนการลงแป้งจ้า



THREE ULTIMATE DIAPHANOUS 
LOOSE POWDER

------------------------------------------------------------------

ขนาด 17 g ราคา 1,950 บาท

แป้งฝุ่นเนื้อนุ่ม เนียนละเอียด โปร่งเบา
เพิ่มความกระจ่างใสเปล่งปลั่งแก่ผิวอย่างเป็นธรรมชาติ 
ทำให้ผิวดูมีสุขภาพดี

มีให้เลือก 2 สูตร
GLOW : มีส่วนผสมจากธรรมชาติ 80.5% ให้ผิวดูชุ่มฉ่ำ เปล่งประกาย
TRANSLUCENT : มีส่วนผสมจากธรรมชาติ 81.6%
ให้ผิวเนียนเรียบ กระจ่างใส รขุมขนดูเล็กลง

โดยแต่ละสูตรจะมีเฉดสีให้เลือก 2 เฉด คือ

เบอร์ 01 เหมาะกับคนที่ใช้รองพื้นเบอร์ 101, 102,  202, 203
เบอร์ 02 เหมาะกับคนที่ใช้รองพื้นเบอร์  204, 205, 206

***สูตรที่เค้านำมารีวิวให้ชมกันคือสูตร Glow เบอร์ 01 จ้า



ประกอบด้วย Botanical Oil  8  ชนิด เหมือนในไพร์เมอร์หรือรองพื้น
จึงช่วยบำรุงผิวทำให้ผิวดูเปล่งประกาย กระจ่างใส

และส่วนประกอบของอณูผงแป้ง 2 ชนิด ได้แก่ 
SOFT FROST POWDER และ TRANSLUCENT POWDER 
ช่วยให้ผิวเปล่งประกายราวกับผิวถูกคลุมไว้ด้วยม่านสะท้อนแสง 



พราวด์ทูพรีเซนท์กับตาข่ายกันแป้งของ THREE ที่สุด!
ปกติที่เราเจอจะเป็นฝาพลาสติกเจาะรูแบบกระจายๆ
ทำให้เวลาเทแป้งออกมามันจะกระจายตัวไม่ค่อยดี
เค้าเลยแทบไม่เคยใช้พัฟที่ให้มาทาหน้าเพราะแป้งมันจะกองเป็นจุดๆ
ต้องหาแป้งมาปัดๆเพื่อให้เนื้อแป้งไม่เกาะตัวเป็นก้อน
แต่พอเป็นตาข่ายแบบนี้ปัญหานั่นก็หมดไป เย้!

จริงๆก็เคยใช้ที่กั้นตาข่ายแบบนี้แล้วหล่ะ
แต่แบรนด์นั้นขายตลับแยกต่างหากแค่ตลับก็เป็นพันแร้น
อันนี้มาพร้อมแป้งและมีพัฟขนนุ่มนิ่มมาให้ด้วยคุ้มราคาเจ้ชอบ



ลักษณะเนื้อ

แป้งฝุ่นเนื้อละเอียด บางเบา ทาแล้วซึมกลืนเข้าไปในผิว
ไม่มีผลทำให้รองพื้นเปลี่ยนสี สูตรที่เค้ารีวิวคือ Glow สี 01
เป็นแป้งโกลว์แบบที่มีชิมเมอร์ผสมอยู่เล็กน้อย
ย้ำว่าน้อยแบบไม่สังเกตดีๆนี่มองแทบไม่ออก
ดังนั้นความโกลว์ที่ได้จะมาจากเนื้อแป้งที่ให้ความฉ่ำด้วยส่วนผสมที่เน้นการบำรุงผิว
มากกว่าความวิ้งของชิมเมอร์ ซึ่งข้อดีคือให้ลุคผิวที่เป็นธรรมชาติไม่วิ้งเว่อร์จ้า



ผลลัพธ์ที่ได้

วิธีการใช้แป้งตัวนี้เค้าใช้พัฟทาโลด
โดยจะแตะแป้งทีละน้อยแล้วลงเน้นเฉพาะตรงกรอบหน้า
พวกตามแนวโคนผมเพื่อไม่ให้เหนอะหนะเวลาเส้นผมโดนหน้า
และลงในบริเวณทีโซนที่จะมีความมันระหว่างวัน
แต่บริเวณแก้มแทบจะเว้นไว้เลย
หรือบางทีก็ใช้พัฟเปล่าๆที่มีแป้งติดเล็กน้อยซับเบาๆ

เนื้อแป้งแม้จะเป็นสูตร Glow แต่ส่วนตัวเค้าว่ามันให้ลุคผิวค่อนข้างแมทท์อยู่นะ
ค่อนข้างคุมมันเลย เทียบกับผิวแห้งของเค้าคือทาแล้วต้องใช้เวลาเซ็ตตัว
หลังทาหน้าอาจจะดูแห้งลงนิด ไม่ฉ่ำสวยเท่าตอนหลังทารองพื้น
แต่ข้อดีคืออย่างวันที่ต้องออกไปเผชิญสภาพอากาศภายนอก
เมคอัพมันจะทนขึ้น ตามพวกทีโซนจะไม่เยิ้ม ผิวจะดูเป๊ะระหว่างวันจ้า

--------------------------------------------------------------------------------

ระดับความพอใจ 9/10

สรุปแป้งเนื้อละเอียดดีมากทาแล้วละลายไปกับรองพื้น
ไม่ทำให้รองพื้นเปลี่ยนสี ทาแล้วสบายไม่หนักหน้า
เป็นแป้งที่หยิบใช้บ่อยสุดเพราะทาง่ายใช้พัฟที่ให้มาปาดหน้าได้เลย

ตาข่ายกั้นแป้งก็กรองปริมาณแป้งได้กำลังดีไม่มากไม่น้อยไป
ทำให้ลงบนหน้าแล้วดูเยอะเกิน แต่ด้วยความที่ผิวแห้งเค้าขอหักตรงความแมทท์
ลุคผิวหลังทามันไม่ฉ่ำสวยเท่าตอนทารองพื้น แต่ระหว่างวันมันช่วยเซ็ตเมคอัพให้ทนขึ้น
ก็ต้องแลกเอาอ่าเนอะว่าจะเอาคุณสมบัติไหน แต่ด้วยอากาศร้อนตับแล่บแบบนี้
ของเลือกคุณสมบัติที่ช่วยให้เมคอัพติดทนขึ้นดีกว่า แหะๆ เอาว่าตอนนี้ใช้ทุกวันอ่านะ




THREE RENEWING
POWDER FOUNDATION SPF24/PA++

------------------------------------------------------------------

รีฟิลล์ขนาด 12 g ราคา 1,750 บาท

เคสต้องซื้อแยกต่างหากอันละ 500 บาท

แป้งผสมรองพื้นที่มอบผิวเนียนใส 
ปกปิดแบบเป็นธรรมชาติ ไม่ตกร่องและไม่เป็นคราบระหว่างวัน

มีให้เลือกทั้งหมด 7 เฉดสี (เหมือนรองพื้น)
 101 / 102  / 202 / 203 / 204 / 205 / 206

***สีที่เค้านำมารีวิวให้ชมกันคือเบอร์102 สำหรับผิวขาวเหลืองจ้า


ความเก๋เว่อร์ของแป้งรุ่นนี้คือมีสองสีในตลับเดียว
แต่มันมิใช่สองสีแบบที่เราเคยเจอว่าใช้เป็นสีปกติกับไฮไลท์เฉดดิ้งไรงี้นะ
มันเป็นสองสีที่ทำมาสำหรับให้ใช้ตอนเช้า AM และเติมระหว่างวัน PM
ดูตาเปล่าเหมือนจะคนละสีแต่จริงๆแล้วเป็นสีเดียวกัน
แค่ใส่ปริมาณพิกเมนต์ที่ต่างกันเพื่อใช้คนละช่วงเวลา

ด้านสีเข้มสำหรับ AM : สำหรับไว้แต่งหน้าตอนเช้า
เน้นคุณสมบัติติดทนนานบนผิว ปรับสีผิวให้เรียบเนียนสม่ำเสมอ
เพราะพิกเมนต์สีจะแน่นทำให้ได้การปกปิดที่ดี

ด้านสีอ่อนสำหรับ PM : สำหรับใช้เติมหน้าระหว่างวัน
เพื่อช่วยอำพรางรูขุมขน ปรับสีผิวให้กระจ่างใส และลดความมันเงา
โดยเค้าใส่พิกเมนต์สีมาน้อยกว่าเพื่อให้เวลาเติมหน้าแล้วดูไม่หนา
เติมแล้วหน้าจะดูผ่องเด้งและดูเฟรชมากขึ้น


นอกจากแป้งสองฝั่งแล้วฟองน้ำที่ใช้ก็แบ่งเป็นสองฝั่ง เช่นกัน
พัฟฝั่งฟองน้ำเนื้อแน่นรูปบนเอาไว้ใช้คู่กับแป้งเนื้อเข้มสูตร AM
เพราะพัฟด้านนี้จะจิกเนื้อแป้งได้มาก ทาแล้วให้การปกปิดดี
ส่วนอีกด้านจะเป็นพัฟขนนุ่มๆแบบกำมะหยี่เอาไว้ใช้กับด้านสีอ่อน PM
เหมาะกับการเติมระหว่างวันเพราะเกลี่ยง่ายให้ลุคที่บางเบากว่าจ้า



ประกอบด้วย Botanical Oil  8  ชนิด เหมือนในไพร์เมอร์/รองพื้น/แป้งฝุ่น
จึงช่วยบำรุงผิว ปกป้องผิวจากความแห้งกร้าน

และมีส่วนผสมพิเศษในแต่ละสีคือ 
ในด้านสีเข้ม AM จะมี สารสกัดจากใบคาเมลเลีย ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
และในด้านสีอ่อน PM จะมี 3D Powder , Renewing Radiance Powder
สารสกัดจากราสเบอร์รี่ ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ



ผลลัพธ์ที่ได้

เนื้อแป้งจัดว่าบางเบามากเมื่อเทียบกับความเป็นแป้งรองพื้น
ภาพเปรียบเทียบนี้เค้าเทสแบบเช็ดคลีนสิ่งที่ลงก่อนหน้าออกหมด
แล้วปาดแป้งเพียวๆเลยเพื่อจะได้เทียบการปกปิดชัดๆ
ผลคือให้การปกปิดน้อย-ปานกลาง เน้นความเป็นธรรมชาติ(สุดๆ)
พวกรอยแดงข้างจมูกช่วยให้จางลงแต่ก็ยังเห็นความแดงเรื่อๆ
รอยกระยังคงเห็นอยู่แต่โดยรวมจะนัวขึ้น

เนื้อแป้งตอนปาดก็นุ่มลื่นละเอียดดี ไม่รู้สึกว่าแห้ง
แต่ลุคผิวที่ได้สำหรับผิวแห้งแบบเค้าคือค่อนข้างแมทท์มากเลย
อาจจะเพราะเค้าเช็ดทุกอย่างออกแล้วลงแป้งเดี่ยวๆด้วย
คาดว่าถ้าใช้คู่ไพร์เมอร์น่าจะดีกว่านี้
น้ำมันผิวที่มีมันน้อยเกิ๊นทำให้แป้งเซ็ตตัวช้า
มันจะดูเป็นแป้งลอยๆบนผิวถ้ารอให้เซ็ตตัวเองต้องใช้เวลาหน่อย
ส่วนตัวเค้าว่าผิวมันน่าจะชอบเนื้อแบบนี้มากกว่าฮะ



ใครชอบความเนี้ยบและผิวไม่ได้แห้งมาก
หลังลงสี่เสต็ปด้านบนแล้วจะตามแป้งตัวนี้ก็สามารถทำได้
หรือจะใช้แป้งตัวนี้ไว้ทัชอัพเพิ่มระหว่างวันก็โอเค
โดยแนะนำให้ลงด้าน PM สีอ่อนที่เนื้อบางเบากว่า
และใช้พัฟฝั่งขนกำมะหยี่ปาดแค่เบาๆจ้า

--------------------------------------------------------------------------------

ระดับความพอใจ 7.5/10

คะแนนแอบน้อยกว่าตัวอื่นหน่อย
ใช่ว่าแป้งเค้าไม่ดีนะ แต่แค่มันไม่ค่อยเหมาะกับผิวเค้าแค่นั้นเอง
ใครตามหาแป้งที่เนื้อบางเบา อยากให้ดูผ่องเด้ง ให้ลุคธรรมชาติไม่เน้นปกปิด
ลองตัวน่าจะฟินอยู่ ยิ่งผิวมันใช้แล้วน่าจะดูเนียนสวยเลยหล่ะ
ตลับเดียวทาได้ทั้งตอนเช้าและเติมระหว่างวันได้ด้วยมันเริ่ดตรงนี้



เทคนิคสุดท้ายหลังแต่งหน้าเสร็จเค้าจะพ่นสเปรย์น้ำแร่
แล้วรอให้น้ำแร่แห้งไปเองไม่ต้องซับออก
เป็นการช่วยเติมความชุ่มชื่น เบสเมคอัพจะเซ็ตตัวเข้ากับผิวเร็วขึ้น



เรียบร้อยแล้วรีวิวร่ายยาวเป็นมหากาพย์555
ชมภาพกันไปเพลินๆ ภาพทั้งหมดแค่ปรับแสงให้ใกล้เคียงกัน
ไม่มีการรีทัชผิวแต่อย่างใดเพื่อให้เห็นคุณภาพของเบสเมคอัพจ้า







แอบใช้แป้งด้าน PM ซับตรงที่มีเหงื่อใช้ได้เลยไม่ขึ้นคราบ





หวังว่ารีวิวนี้จะถูกใจกันนะค้าแล้วเจอกันบล็อคหน้าค่า Smiley

-----------------------------------------------------------------------------

Disclaimer : Sponsored Content by THREE




Create Date : 11 มิถุนายน 2558
Last Update : 16 มิถุนายน 2558 0:51:17 น.
Counter : 67200 Pageviews.

6 comments
  
พี่ทรายใช้ลิปของอะไรคะ สีสวยธรรมชาติมากเลย
โดย: million IP: 180.183.67.87 วันที่: 14 มิถุนายน 2558 เวลา:5:45:29 น.
  
อยากทราบสี ยี่ห้อของ eye shadow ค่ะ ขอบคุณค่ะ
โดย: drugcafe IP: 118.175.217.231 วันที่: 30 มิถุนายน 2558 เวลา:12:03:17 น.
  
อายแชโดว Too Faced Chocolate Bar แต่ลิปจำไม่ได้จริงๆขอโทษค่า
โดย: SaRaY วันที่: 2 กรกฎาคม 2558 เวลา:11:37:52 น.
  
gookerdoughboy777
https://gookerdoughboy777.blogspot.com

Spot on with this write-up, I seriously believe that this
web site needs much more attention. I'll probably be back again to
read through more, thanks for the information!
โดย: Latisha IP: 139.99.104.93 วันที่: 3 มกราคม 2564 เวลา:20:38:25 น.
  
gookerdoughboy777
https://gookerdoughboy777.blogspot.com

Everyone loves what you guys tend to be up too. Such clever
work and reporting! Keep up the good works guys I've included you guys
to my own blogroll.
โดย: Tahlia IP: 139.99.104.93 วันที่: 8 มกราคม 2564 เวลา:9:09:37 น.
  
If you want to grow your experience only keep visiting this web page and be updated with the most up-to-date news update posted
here. donate for ukraine
โดย: Kiera IP: 141.8.11.75 วันที่: 9 มิถุนายน 2565 เวลา:5:15:11 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mhunoiii.BlogGang.com

SaRaY
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 535 คน [?]

บทความทั้งหมด