Review : BIOTHERM Life Plankton Mask เอสเซนส์อินมาส์กผสมไลฟ์แพลงตอนเข้มข้น5%บูทผิวให้สดใสในข้ามคืน!


ปีที่ผ่านมาถ้าพูดถึงน้ำตบแพลงตอนไม่มีใครไม่รู้จักแน่นอน
กับ BIOTHERM Life Plankton
TM Essence
เป็นเอสเซนส์น้ำตบที่ใช้เป็นเสต็ปแรกหลังล้างหน้า
ที่เค้าเคลมมาแรงมากว่าช่วยลดอายุผิวลงได้ 3 ปี ใน 8 วัน!!!
8 วันไหมอันนี้เค้าก็ไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ๆคือเค้าใช้ต่อเนื่องมา 4-5 ขวดละ
เกิดการเสพย์ติดแพลงตอน555 ไม่ลองเองไม่รู้ผิวมันอิ่มฟูมากกก

กระแสเดิมยังแรงไม่ตกเปิดต้นปีมานี้ไบโอเธิร์มก็ยิงไอเท็มเด็ดมาต่อเลย
สาวกแพลงตอนมีกรี้ดนั่นก็คือเค้าทำเป็นมาส์กออกมาแล้วนะฮร้า
ชื่อตรงตัวเลย
BIOTHERM Life PlanktonTM Mask
ที่อัดแน่นด้วย Life Plankton สูงสุด 5% เท่ากับตัวเอสเซนส์
แต่มาในรูปแบบของเอสเซนส์อินมาส์กเข้มข้น
สำหรับใช้เป็นสลีปปิ้งมาส์กช่วยบูทผิวตลอดคืน
จะแหล่มจะเริ่ดอย่างไรไปชมรายละเอียดในรีวิวกันเลยจ้า



BIOTHERM Life PlanktonTM Mask
ไบโอเธิร์ม ไลฟ์ แพลงตอน มาส์ก


------------------------------------------------------------------

เอสเซนส์อินมาส์กสำหรับทาข้ามคืน
ช่วยปกป้อง ฟื้นฟู และปลอบประโลมผิวที่ระคายเคือง
ด้วยส่วนผสมของไลฟ์แพลงตอนจากน้ำพุร้อน
ที่อุดมด้วยสารอาหารจำเป็นสำหรับผิวถึง 35 ชนิด
ให้ผิวกลับมามีสุขภาพดีมีชีวิตชีวาอีกครั้ง

ขนาด 75 ml ราคา 2,100 บาท

หาซื้อได้ที่เคาท์เตอร์ BIOTHERM ตามห้างทุกสาขา
สามารถเช็คที่ตั้งแต่ละสาขาได้ที่ >>>Click<<< จ้า



Life Plankton Mask Applicator

ราคา 300 บาท

สำหรับมาส์กตัวนี้ทางแบรนด์ทำแอพลิเคเตอร์ออกมาคู่กัน
เป็นไม้พายสำหรับเกลี่ยมาส์กให้กระจายบนผิวได้สะดวกและทั่วถึงขึ้น
ปลายแอพพลิเคเตอร์เป็น ซิลิโคนเนื้อนิ่ม (Soft Silicone)
เวลาปาดไปบนผิวจะไม่ขูดขีดผิวให้เกิดการระคายเคือง
และปลายเป็นแบบโค้งมนเลยเข้ากับรูปหน้าได้ดี
ที่สำคัญคือทำความสะอาดง่ายไม่ติดค้างเหมือนขนแปรง
ลดความเสี่ยงเรื่องการสะสมของเชื้อโรคสาเหตุการเกิดสิวและผิวแพ้ง่ายด้วย



ส่วนผสมจุดขายจะเป็นอะไรไปไม่ได้
นั่นก็คือ 
Life PlanktonTM 5%
ใครยังไม่รู้จักขอมาเล่าให้ฟังกันก่อนเนอะ

ไลฟ์แพลงตอนเป็น สารสกัดแพลงตอนที่ได้จากแหล่งน้ำพุร้อน
ใจกลาง เทือกเขาพีเรนีส (Pyreness) ประเทศฝรั่งเศส

ซึ่งเป็นส่วนผสมหลักในผลิตภัณฑ์แทบทุกตัวของไบโอเธิร์ม

ตำนานของแพลงตอนนี้มีมานานกว่าสามพันปีที่แล้ว
เกิดเนื่องมาจากหลายๆประเทศโดยเฉพาะในแถบยุโรป
เค้าจะรักษาบาดแผลและโรคผิวหนังกันด้วยการแช่น้ำพุร้อน
ตั้งแต่สมัยทหารโรมันนู่นเวลามีแผลจากการไปรบในสงคราม
ก็จะมาแช่บ่อน้ำพุร้อนเพื่อรักษาบาดแผลกันจนเรียกว่าเป็น "บ่อแห่งความสุข"
ตอนนั้นก็ยังไม่รู้ว่าในน้ำพุร้อนมันมีดีอย่างไรรู้แต่ว่าแช่แล้วอาการดีขึ้น



ต่อมาใน ค.ศ.1952 ฌานีน มาริซซาน นักชีววิทยาชาวฝรั่งเศส
ได้ทุ่มเททำการวิจัยจนรู้ว่าอ๋อในน้ำพุร้อน
ที่มีคุณสมบัตสามารถรักษาฟื้นฟูผิวหนังเราได้
นอกจากแร่ธาตุต่างๆในน้ำพุร้อนแล้วก็ยังมี 
Life PlanktonTM นี่เอง
ซึ่งความพิเศษคือเจ้าไลฟ์แพลงตอนนี้เป็นสิ่งมีชีวิตที่สตรองมาก
สามารถอาศัยอยู่ได้ในสภาวะอุณหภูมิสูง
ออกซิเจนน้อย แสงแดดก็ส่องไม่ค่อยจะถึง

แถมในตัวมันเองยังมีแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์มากมาย
รวม 35 ชนิด
(กรดอะมิโน 15 ชนิด , แร่ธาตุ 10 ชนิด , วิตามิน 6 ชนิด และสารอาหารอื่นๆ 4 ชนิด)
โดยมีหลายการวิจัยรองรับได้ว่า สามารถช่วยลดอาการระคายเคือง
ลดอาการอักเสบ  ลดอาการไหม้จากรังสี UV
ช่วยให้ผิวฟื้นตัวได้ไว
เรียกได้ว่าทำงานครบวงจรคือช่วยฟื้นฟูให้เกิดเซลล์ผิวใหม่
มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องผิว
กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอีลาสตินให้ผิวกระชับ
และช่วยปลอบประโลมผิวในระดับเซลล์ให้ผิวกลับมาแข็งแรง

ประโยชน์ดีงามขนาดนี้แต่ความยุ่งยากในการนำมาใช้
คือการเพาะและสกัดให้บริสุทธิ์และได้ปริมาณความเข้มข้นที่เพียงพอ
แต่ในปี 1994 ไบโอเธิร์มก็สามารถทำได้โดยใช้เทคโนโลยีการหมักแบบชีวภาพ
ที่ชื่อว่า FermogenesisTM ที่สามารถย่นระยะเวลา
วงจรการผลิตแพลงตอนจาก 6 เดือนให้เหลือเพียง 6 ชั่วโมง
โดยยังรักษาสารอาหารที่จำเป็นต่อผิว 35 ชนิดได้ครบถ้วน
แถมยังได้ความเข้มข้นสูงกว่าแพลงตอนธรรมชาติถึง 400,000 เท่า
ทำให้ได้ไลฟ์แพลงตอนที่เข้มข้นและบริสุทธิ์ที่สุด

ซึ่งใน
Life PlanktonTM Essence และ Mask
ก็เป็นผลิตภัณฑ์สองชิ้นที่มีส่วนผสมของไลฟ์แพลงตอนถึง 5%
จัดว่าเข้มข้นที่สุดในบรรดาผลิตภัณฑ์ทุกวันของไบโอเธิร์ม



รายละเอียดส่วนผสมอื่นๆ

ส่วนผสมหลักเป็นสารในกลุ่มให้ความชุ่มชื่นพวก Glycerin , Glycol
ไลฟ์แพลงตอนในส่วนผสมจะใช้ชื่อว่า Vitreoscilla Ferment
และยังมี Adenosine ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยลดการอักเสบ
รวมถึงช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนจึงให้ผลในการลดเลือนริ้วรอย

ในส่วนผสมจะมี Alcohol Denat. ซึ่งคาดว่าหลายคนเห็นคงแอบกังวล
เลยอยากมาเล่าเพิ่มนิดนึงว่าแอลกอฮอล์ในสกินแคร์นั้นใส่มาเพื่อทำละลาย
เนื่องจากคุณสมบัติที่ระเหยไวจึงทำให้เท็กซ์เจอร์ของเนื้อครีมบางเบาสบายผิว
โดยปกติแล้วแอลกอฮอล์ไม่ได้ทำให้ผิวแพ้ง่ายหรือผิวบางแต่อย่างใด
ข้อเสียหลักอย่างเดียวของแอลกอฮอล์คือเมื่อตัวมันเองระเหยง่าย
จึงดึงน้ำในผิวให้ระเหยไปด้วยส่งผลให้เมื่อใช้ต่อเนื่อง
โดยขาดการบำรุงผิวให้ดีผิวจึงแห้งลง
เมื่อผิวแห้งลงจึงทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

แต่.....ถ้าสกินแคร์นั้นๆมีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื่นเพียงพอ
หรือใช้ควบคู่กับสกินแคร์ที่ให้ความชุ่มชื่นแอลกอฮอล์ก็ไม่มีผลใดๆ

อันนี้เค้าได้สอบถามกับแบรนด์เพิ่มเติมได้ความมาว่า
แอลกอฮอล์ที่เค้าใส่มานั้นสกัดจากการหมักของน้ำตาลธรรมชาติ
ที่ได้ผ่านการทดสอบกับกลุ่มคนที่มีผิวแพ้ง่ายและไม่พบอาการข้างเคียง
ส่วนตัวเค้าผิวแห้งสามารถใช้ตัวนี้เดี่ยวๆได้ไม่ได้ทำให้ผิวแห้งลงแต่อย่างใดฮะ

เพราะเอาจริงๆคุณสมบัติของมาส์กตัวนี้คือให้ความชุ่มชื่นและลดการระคายเคืองอ่านะ

***มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ น้ำหอม แต่ไม่มีพาราเบน
เอาว่าถ้าใครผิวแพ้ง่ายมากๆเทสก่อนทาจริงทั่วหน้าก็ได้เพื่อความสบายใจ
โดยการป้ายที่หลังใบหูซึ่งเป็นจุดที่ผิวบอบบางใกล้เคียงใบหน้า
แล้วทิ้งไว้ 24-48 ชั่วโมง ถ้าไม่มีอาหารอะไรก็สามารถใช้ทั่วหน้าได้จ้า



ลักษณะเนื้อและกลิ่น

เนื้อเอสเซนส์อินมาส์กเป็นเนื้อแบบเจลสีขาวขุ่น
ถ้าซูมดูดีๆจะเป็นว่ามาส์กเนื้อนวลๆมีประกายระยิบระยับผสมอยู่
อันนี้เค้าคาดว่าเป็นส่วนผสมของ Mica ที่ช่วยกระจายแสงนะ
กลิ่นเหมือนตัวเอสเซนส์เป๊ะ ใครใช้น้ำตบอยู่จะชินกลิ่นเลย
แม้เค้าจะเขียนว่าใส่น้ำหอมแต่เค้าว่ากลิ่นน้ำหอมน้อยมาก
กลิ่นหลักๆจะเป็นกลิ่นของแพลงตอนมากกว่า
ใช้แรกๆอาจจะไม่ชินกลิ่นจะออกแนวตุๆทะเลๆเล็กน้อย
แต่ใช้ๆไปเค้าก็ชอบกลิ่นนะให้ฟิลเฟรชเบาๆเหมือนไปทะเลดี Smiley



สำหรับขั้นตอนการใช้สามารถใช้มาส์กทาเดี่ยวๆเป็นสลีปปิ้งมาส์กได้เลย
แต่เพื่อความสะใจเค้าชอบใช้ตัวเอสเซนส์ตบๆผิวเป็นเสต็ปแรกก่อน
ส่วนตัวรู้สึกว่าขั้นตอนการใช้เอสเซนส์ช่วยเตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุงได้มากขึ้น
และส่วนผสมของเอสเซนส์ตัวนี้ก็มีแพลงตอนเข้มข้นเหมือนกัน
ก็น่าจะเสริมประสิทธิภาพกันให้ดีงามยิ่งๆขึ้นไป ฮี่ๆ



ประมาณที่ใช้


อันนี้ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่ของใบหน้าแต่ละคนด้วยเนอะ
แต่กะประมาณคร่าวๆได้ง่ายๆด้วยการใช้แอพพลิเคเตอร์
ตักขึ้นมาเพียงหนึ่งตัก เอาแค่พอติดเต็มปลายแผ่นซิลิโคนอย่างในภาพก็พอ
ขนาดที่เห็นนี่ทาได้ทั่วทั้งหน้าทั้งคอแบบชุ่มๆเลยฮะ



วิธีการทามาส์ก


ใช้แอพพลิเคเตอร์เกลี่ยบางๆทั่วหน้าให้หนาพอๆกัน
โดยจะทาจากกึ่งกลางออกสู่กรอบหน้า
เริ่มจากหน้าผาก แก้ม คางปาดขึ้นไปใบหู จมูกลากลง
ส่วนคอเพื่อการยกกระชับให้ปาดจากล่างขึ้นบน
มาส์กตัวนี้ใช้ทาแล้วเข้านอนได้เลยไม่ต้องล้างออกเน่อ



ผิวหลังทามาส์กจะฉ่ำๆหนึบๆเล็กน้อย
ขึ้นอยู่ว่าทามากน้อยแค่ไหน
สำหรับสลีปปิ้งมาสก์ไม่ต้องกลัวหน้ามัน
เพราะไงเราก็นอนแอร์ทาให้ชุมไว้ดีกว่าฮะ



ผลลัพธ์หลังทาข้ามคืน

คืนที่เทสเค้าทาตั้งกะสี่ทุ่มเข้านอนตอนตีสามครึ่ง
ปกติถ้านอนดึก(เช้า)ขนาดนี้ถ้าบำรุงไม่ดีบอกเลยว่าแหก
หน้าแห้งอยู่แล้วจะแห้งขั้นเทพ แต่นี่คือผลของการใช้มาส์ก
แทบไม่ต้องอธิบายตามภาพเลยเนอะผิวดูอิ่มฟูมากกกกก
รูขุมขนปิดตัวมิดชิดดีงามแม้จะพักผ่อนน้อยมากก็ตาม

ตื่นมาตัวมาส์กซึมผิวหมดแล้วไม่เหลือความเหนอะความหนึบ
แต่บางส่วนอาจจะอยู่กับหมอนเพราะชอบนอนตะแคงแหะๆ
แม้จะซึมหมดแต่จับผิวแล้วจะรู้สึกนุ่มๆลื่นๆ
ฟิลแบบมีฟิลม์บางๆเคลือบผิวรู้สึกว่าผิวชุ่มชื่นดีงาม
ตอนล้างหน้าตอนเช้าเวลาถูโฟมจะลื่นๆผิวเล็กน้อย
แต่ไม่ต้องถูรุนแรงแค่ล้างเบาๆก็ออกหมด
หลังล้างแล้วจับได้เลยผิวหน้านุ่มๆเด้งๆโอ๊ยชอบ



หน้าเค้าไม่ค่อยมีริ้วรอยกลัวจะเห็นผลไม่ชัด
เลยลองเทสตรงข้างฝ่ามือที่มีริ้วชัดๆให้ชมกัน
จะเห็นว่าก่อนมาส์กร่องผิวชัดเจนมาก
หลังเค้าทามาส์กทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมงแล้วเช็ดออก
จะเห็นเลยว่าร่องผิวดูตื้นขึ้นทันตา ผิวดูเฟรชขึ้นชัดเจนเนอะ



ความถี่ในการใช้

แนะนำให้ใช้สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
โดยจะเห็นผลชัดเจนเมื่อใช้ต่อเนื่อง 4 สัปดาห์
แนะนำว่าเอาไว้ใช้วันที่ผิวล้าๆวันทีพักผ่อนน้อย
หรือว่าวันสำคัญที่อีกวันจะต้องแต่งหน้าไรงี้จะคุ้มมาก



เดือนที่แล้วเค้าเดินทางไปต่างประเทศขอบอกว่าใช้ตอนนั่งเครื่องคือเริ่ดดดด!!!
การนั่งเครื่องบินผิวเราจะขาดความชุ่มชื่นได้มาก ยิ่งไฟล์ยาวผิวจะยิ่งล้า
เทคนิคเค้าคือแต่งหน้าไปปกตินี่แหละเพราะรูปในพาสปอร์ตดันแต่งหน้าไง
ถ้าไม่แต่งเดี๋ยวตม.จำไม่ได้ไม่ให้ผ่าน555 แต่ระหว่างนั่งเครื่องจะคลีนผิวออกโดยเว้นคิ้วกะตาไว้
แล้วพก
BIOTHERM Life PlanktonTM Mask โดยตักแบ่งใส่กระปุกเล็กไป
จากนั้นโบกเข้าไปเลยจ้าเอาให้ชุ่ม พอใกล้ถึงปลายทางก็เช็ดออก
แล้วทาครีมบำรุงกับกันแดดปกติตบท้ายด้วยการลงเมคอัพเฉพาะผิวเป็นอันเสร็จพิธี
แค่นี้ลงเครื่องผิวก็เด้ง เมคอัพก็นิ้งได้แล้ว ชีวิตดี๊ดี
คือเมื่อก่อนใช้แบบชีทมาส์กระหว่างนั่งเครื่องแอร์ช็อคอยู่บ่อยๆ
พอมาให้มาส์กแบบนี้แทนเค้าว่าสะดวกกว่าจริงๆ ใครต้องเดินทางแนะนำให้ลองกันดูฮะ Smiley



สรุปความรู้สึกหลังทดลองใช้ต่อเนื่อง 1 เดือน

เค้าใช้อาทิตย์ละประมาณ 2 ครั้ง และเอาไปลองเมืองนอกที่อากาศหนาวด้วย
คอนเฟิร์มให้เลยในส่วนของความชุ่มชื่นว่าตอนโจทย์ได้จริง
จุดเด่นคือตื่นมาผิวหน้าดูอิ่มฟูผิวจะดูแน่นขึ้น เท็กซ์เจอร์ผิวเรียบขึ้น
และวันที่มาส์กเวลาแต่งหน้าสังเกตได้เลยว่าเมคอัพจะติดหน้าดีไม่แห้งไม่แคร็ก
สำหรับสลีปปิ้งมาส์กแบบนี้ใช้ได้กับทุกสภาพผิวนะฮะ
ไม่ต้องกังวลเลยว่าจะทำให้หน้ามันเพราะเราทาตอนกลางคืน
ซึ่งกลับกันด้วยยิ่งบำรุงให้ผิวชุ่มดีความมันผิวก็จะลดลง
ดังนั้นใครหน้ามันตอนกลางคืนนี่หล่ะเวลาทองโบกได้โบกเลยหนักๆ
ตื่นมาผิวจะได้ชุ่มชื่นระหว่างวันหน้าก็จะไม่ค่อยม้นจ้า

เอาว่ายกให้เป็นมาส์กตัวแรกที่ลองในปีนี้แล้วรู้สึกว้าวไปเลยละกัน
ไม่รู้จะอธิบายอะไรมากเอาว่าถ้าใครอินน้ำตบแพลงตอนอยู่แล้ว
ก็น่าจะฟินกับมาส์กตัวนี้ไม่ต่างกันฮะ มันควรค่าไปลองเห๊อะเจ้ปลื้ม Smiley

ข้อดีตามที่เล่าข้อเสียก็คือมีส่วนผสมของน้ำหอมหล่ะ
แต่อย่างที่บอกกลิ่นน้ำหอมน้อยมากกลิ่นแพลงตอนยังแรงเสียกว่า
ถ้าไม่ใส่น้ำหอมมากลิ่นน่าจะรุนแรงกว่านี้ แหะๆ
แม้คุณสมบัติเด่นๆของมาส์กตัวนี้คือช่วยลดอาการระคายเคืองของผิว
และผ่านการทดลองในผู้มีผิวแพ้ง่ายมาแล้วว่าอ่อนโยน
แต่ในเรื่องของอาการแพ้อันนี้เค้าตอบให้ไม่ได้จริงๆ
มันเป็นเรื่องเฉพาะบุคคลจริงๆดังนั้นก็ต้องลองเทสกันเองเน้อ

------------------------------------------------------------------------------

Disclaimer : Sponsored Content by BIOTHERM
***All opinions are my own
Information : https://www.facebook.com/biothermthailand





Create Date : 10 มกราคม 2559
Last Update : 19 มกราคม 2559 16:52:54 น.
Counter : 15230 Pageviews.

2 comments
  
น่าลองมากๆ คงต้องลงทุนซื้อมาลองซะหน่อยแล้ว
ปล.ชอบเมคอัพใสๆลุคนี้มากเลย หรือเป็นเพราะผมสีเข้มขึ้นก็ไม่รู้ พี่ว่าน่ารักมากเลยอ่ะ
โดย: หนีแม่มาอาร์ซีเอ วันที่: 22 มกราคม 2559 เวลา:0:03:20 น.
  
พี่ทรายน่ารักมาากเลย หนูตามดูพี่ตลอดเลย
โดย: น้ำฝน IP: 171.7.153.30 วันที่: 22 มกราคม 2559 เวลา:18:10:31 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mhunoiii.BlogGang.com

SaRaY
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 535 คน [?]

บทความทั้งหมด