ท้าวความเดิม (ที่มาของการขอแต่งงาน):วันเกิดหมี7-12-50
ไปฉลองกัน2คนที่ร้านอาหารเวียดนาม ณ.เซ็ลทรัลบางนา กินใกล้เสร็จและ
กำลังรอของหวาน พี่เก็ต (แฟนเค้าเอง-ปัจจุบันสามี อิอิ บอกตำแหน่งกันความผิดพลาด)
เค้าก็หยิบกล่องของขวัญเล็กๆๆห่อกระดาษสีน้ำเงิน
ไอ้เราก็นึกในใจว่าต้องเป็นเครื่องประดับแน่นอน
เพราะกล่องเล็กๆๆคงต้องใส่ของมีค่า (ไม่ใช่ลูกอมมั้ง 55+ วันเกิดทั้งทีเนอะ)
เปิดออกมาตามคาด เป็นแหวนเพชรของพรีหมาทอง ปลื้มๆๆ แต่ที่ผิดคาดก็คือ
พี่เค้าบอกว่า - นั้นไม่ได้ของขวัญนะ
เราก็ตกใจ - รายหว้า!!
พี่เค้าก็รีบสวนขึ้นมาว่า - นั่นมันเป็นแหวนหมั้น
ระหว่างนั้น สาวเจ้า ก็ตกใจ ปนดีใจ น้ำตาหลพราก ฉันจะขายออกแล้วเหรอเนี่ย
(หลังจากที่คบกันมา5ปี)
พี่เค้าก็บอกว่าจะให้แม่มาคุยกับที่บ้านเรา แล้วก็แหวนนี่ขอจองตัวไว้ก่อน555+
ปล.กลับบ้านไปเล่าให้แม่ฟังที่บ้าน แม่ก็ปลื้มลูกสาวมีคนรับเลี้ยงต่อแล้ว ดีใจน้ำตาไหล
พอเราตกลงปลงใจกัน ทั้ง2บ้านก็มีการนัดคุย เรื่องสินสอดทองหมั้น
ฝ่ายหญิง ก็แล้วแต่จะเรียกแล้วแต่การตกลง
แต่แม่เราบอกว่า ไม่ได้เรียกร้องอะไร ให้เท่าไหร่ก็ได้แล้วแต่ตามสมควร
แม่บอกว่าแต่งลูกสาว ไม่ได้ขายลูกสาว เงินสินสอดที่ได้มาก็จะส่งคืนให้หมด
แต่ตามประเพณีแบบจีน เค้าต้องมีเรียกค่าขนม แม่เรียกไป8หมื่น
(เลข8เลขมงคลของคนจีน ถ้าเป็นฝรั่งก็คงอินฟินิตี้ ไม่มีที่สิ้นสุด
ปรกติเลขคู่คนจีนถือว่าเป็นเลขมงคล 2,4,8,12 เป็นต้น
นอกเรื่องไป กลับมาเรื่องเดิม ขนมนี้ฝ่ายหญิงต้องแจกให้ญาติและเพื่อนบ้าน เพื่อแสดงความยินดี
พร้อมการ์ดขนม ซึ่งก็จะใส่เงินกลับมาตามธรรมเนียม ฝ่ายหญิงเป็นคนเก็บ
ส่วนใหญ่ถ้าไม่ใช่ญาติ ก็จะไม่ได้ไปรับเชิญไปงานกินเลี้ยง
เพราะว่าบางบ้าน ฝ่ายหญิงถือว่าเป็นงานของฝ่ายชาย
ฝ่ายหญิงจะไม่กล้าเรียกโต๊ะวันงานเลี้ยงเยอะ
แม่เราเรียกโต๊ะ10ตัว โต๊ะที่จัดทั้งหมด40ตัว
นอกเรื่อง "ทำโปสการ์ดที่ต้องใส่ในขนมแจกเพื่อนบ้านฝ่ายหญิง" กดที่ลิงค์ได้เลยคะ
หลังจากคุยตกลงกันแล้ว ก็มีการขอวันเดือนปีเกิด และเวลาเกิด
ไปให้ซินแซดูวันมงคลสมรสที่เหมาะสมกับทั้งคู่ (บางบ้านก็เลือกเอาฤกษ์สะดวก)
ฝ่ายชาย แม่แฟนไปดูมา ซินแซบอกว่า ต้องแต่งปีคู่
แล้วต้องแต่งหน้าฝน เพราะเป็นธาตุไม้หน้าหนาวแห้งเหี่ยว ต้องการน้ำ55+ ว่ากันไป
ก็เลยรอไปอีก2ปี ถึงได้แต่ง ได้วันมาเป็นวันที่ 14-6-52 ไอ้เราก็ไม่ได้รีบร้อน
ช้าๆๆได้พร้าเล่มงาม เล่นตัวซะหน่อย รอได้รอไปพิสูตรหนทาง
ซึ่งตอนแรกได้วันมาก็จะหมั้น-แต่ง ตามพิธีช่วงเช้า และจัดเลี้ยงตอนย็นในวันเดียวกัน
แต่ที่นี้รอบ2ที่ไปดูฤกษ์เวลาหมั้น ซินแซบอกว่าให้หมั้นแต่ง กับ จัดเลี้ยง คนละวันเพราะดวงชงกับเจ้าบ่าว
สรุปมาลงเอยกันที่วันที่7-6-52 หมั้น-สวมแหวน-ยกน้ำชา-ส่งตัวเจ้าสาว
วันที่14-6-52 เป็นวันจัดเลี้ยง เพราะเป็นวันดี
แต่จากการที่ผ่านงานมา แนะนำให้จัดกันคนละวันดีแล้วคะ เพราะมันเหนื่อยมากๆเลย)
พอได้วันมาเรียบร้อยแล้วสิ่งที่แนะนำ คือ ให้รีบจองโรงแรม หรือ สภานที่จัดเลี้ยง
อันนี้แล้วแต่สะดวกเลยคะว่าจะจัดที่ไหน ดูแขกด้วยว่าสถานที่รองรับแขกได้ตามที่ต้องการมั้ย
แต่ที่แนะนำคือ ให้จัดที่ใกล้บ้าน เพราะเวลาลืมอะไรก็จะได้กลับไปเอาได้สะดวก (การจราจรกรุงเทพนี่สุดยอด)
หากไม่สะดวกไปดูสถานที่ก็ดูในเวปต่างๆๆที่มีคนรีวิวไว้ก็ได้คะ
ของหมี ตอนแรกว่าจะจัดสวนหลวง ร.9 แต่เป็นหน้าฝนกลัวฝนเท งานจะล่ม
แต่ที่สวนหลวงร.9 มีพื้นที่จัดในร่ม และ กลางแจ้ง ซึ่งในร่มจัดได้จำกัดจำนวนโตะซึ่งไม่พอกับแขกเราด้วย
ก็เลยไปจองโรงแรม จองล่วงหน้าเป็นปีเลยคะ เป็นการเตรียมตัวข้ามชาติ
โรงแรมคิงปาก อเวนิว (นามสมมุติ) ตรงข้มซีคอนสแควร์ สถานที่โอเค ใกล้บ้านเจ้าบ่าว
แถม เจ้าของก็รู้จักับญาติเจ้าบ่าวเลยไดส่วนลดพิเศษ พร้อมของแถมเล็กๆๆ
วันจองโรงแรมก็ให้คุยกับทางโรงแรมให้เรียบร้อยว่ามีเตรียมอะไรให้เรามั่ง เช่น ซุ้มหน้างาน
เค้ก เวที ตัวอักษรเวที น้ำแข็งกี่ก้อน สมุดเซ็นชื่อ กล่องรับซอง ห้องพักบ่าว-สาว ญาติ อื่นๆๆ
หากไม่ต้องการสิ่งใดที่เค้าให้ก็ลองถามว่าสามารถเปลี่ยนป็นอย่างอื่นแทนได้มั้ย
และที่สำคัญอย่าลืมขอชิมอาหารที่จะจัดเลี้ยงวันงานด้วย ทางโรงแรมจะนัดมาอีกทีคะ
ปล.ให้เอากล้อถ่ายรูปไปถ่ายสถานที่ด้วย เผื่ออยากจะเอาของไปประดับจะได้มีไอเดียว่าต้องจัดอย่างไร
ถ้าใครจัดพิธีหมั้นที่โรงแรมก็คุยเรื่องราคาแพ็คเก็ตไปเลย (ของหมีจัดที่บ้านคะ)
ตามธรรมเนียมค่าใช้จ่ายวันแต่งจะเป็นฝ่ายชายออก ส่วนวันหมั้นก็เป็นฝ่ายหญิงคะ (แต่ก็แล้วแต่การตกลงนะคะ)
ได้โรงแรมเสร็จ อย่างต่อไปก็ต้องเป็นชุดจ้าสาว - เจ้าบ่าว เพราะต้องใช้เวลาในการตัดเย็บควรเตรียมล่วงหน้าก่อน4-5เดือน
กดที่ ลิงค์ ชุดแต่งงาน ต่อได้เลยคะ
Free TextEditor