เล่ม 1
เรื่องย่อหลังปกใครจะไปคิดว่าชีวิตธรรมดาของ หลินชิงเหอ จู่ ๆ ก็ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูกสามในยุคปฏิรูปการปกครองปี 60 ... เข้าไปเป็นตัวประกอบในนิยายที่เธออ่าน ซึ่งต้องเผชิญกับความยากลำบากของสถานการณ์ในช่วงเวลานั้น แต่สิ่งที่น่ากังวลมากกว่านั้นก็คือ บุตรชายทั้งสามของเธอดันเป็นตัวร้ายในอนาคตของนิยายเรื่องนี้น่ะสิ แถมสามีในมิตินี้ของเธอยังต้องพบกับจุดจบน่าอนาถอีกด้วย
คุยกันหลังอ่านก็เราคิดว่าเรื่องที่ใกล้เคียงกับเรื่องที่สุดที่เราเคยอ่านคือ
หลบหน่อยแม่จะเดิน แต่ถึงอย่างนั้นก็พูดไม่ได้ว่าใกล้ 55555 แบบแค่เป็นแนวย้อนเวลาไปช่วงยุค 60/70 เน้นการสร้างเนื้อสร้างตัวเหมือนกัน คิดว่าช่วงนี้แนวนี้กำลังฮิตใช่ไหมคะ แนวย้อนไปยุค 70 แล้วใช้ชีวิตอะไรทำนองนี้น่ะ แต่เรื่องนี้คือตัวนางเอกเตรียมตัวมาอย่างดี พอรู้ว่าตัวเองจะทะลุมิติก็เตรียมเสบียงอย่างหนัก (?) สกิลนี้โกงสุดขีดเลยนะจะว่าไป แล้วพอนางเอกทะลุมิติมาอยู่ในช่วงยุค 60 ที่ต้องประหยัดอดออม มีลูกชายสามคนให้เลี้ยง มีบ้านแม่สามีพอเป็นสีสัน ส่วนตัวสามีไปรบ ตามเนื้อหาในนิยายก็คือสามีจะบาดเจ็บกลับมาจนต้องลาออก ตัวนางเอกร่างเดิมเป็นคนเย่อหยิ่ง ตอนนี้นางเอกมาอยู่แทนก็ดูแลลูกอย่างดี ดูแลสามีอย่างดี สามีก็ดูเหมือนอยากสานสัมพันธ์กับนางเอก ส่วนนางเอกก็กำลังหาลู่ทางทำธุรกิจอยู่
เล่ม 1 ส่วนตัวเราก็คิดว่าอ่านได้เพลินๆค่ะ เป็นแนวชีวิตประจำวัน slice of life มีติดขัดเรื่องสำนวนแปลนิดหน่อยที่มันดูแข็งๆ บางช่วงดูเหมือน machine translate นิดหน่อย แหะ
ถ้าใครสนใจอ่านเล่ม 1 กด E-book ได้เลย link ด้านล่างนี้ฟรีค่ะ อ่านได้ทั้งเล่มเลยจ้า
เล่ม 2
เรื่องย่อหลังปกหลังทะลุมิติเข้ามาเป็นตัวประกอบแม่ลูกสามในนิยายยุค 60 ที่เธอเคยอ่านเรียบร้อย หลินชิงเหอก็ต้องรับมือในหลายๆ เรื่อง
ทั้งการจับผิดจากชาวบ้าน ปัญหาความสัมพันธ์อันน่าปวดหัวต่าง ๆ ที่เจ้าของร่างเดิมทิ้งไว้ให้เธอจัดการ ลูกชายทั้งสามที่นับวันจะร้ายกาจขึ้นเรื่อยๆ และสามีผู้ห่างหายไปนานที่จ้องจะกินเธออยู่ทุกขณะ
ด้วยความสามารถและมิติที่มีติดตัวอยู่ แม่ลูกสามอย่างเธอจะพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสอย่างไรดี?
คุยกันหลังอ่านก็เล่มนี้ยังคงคีพ theme slice of life เหมือนเดิมค่ะ เด็กๆทั้งสามคนค่อยๆโตขึ้นแล้ว เจ้าใหญ่เข้าโรงเรียนแล้ว ส่วนครอบครัวฝั่งสกุลโจวก็ขยายขนาดขึ้นอีก ถึงแม้จะแยกบ้านแล้วก็ตาม สะใภ้รองก็แตกพักกับสะใภ้สี่อย่างเป็นทางการ สะใภ้สี่ก็ขาดจากบ้านเดิมอย่างเป็นทางการด้วยเหมือนกัน นอกจากนั้นก็เป็นการใช้ชีวิตประจำวัน เก็บเกี่ยวตามฤดูกาล ทำอาหารอร่อยๆ แล้วก็หาทางทำธุรกิจที่ในที่สุดสามีก็อนุญาต เล่มนี้ความสัมพันธ์ของสามีภรรยายังคืบหน้าไปมากอีกด้วย แต่ถ้าถามเราก็ยังมีระยะห่างระหว่างกันอยู่นะ ที่คาดไม่ถึงก็คือจริงๆนางเอกไปทำหมันมาแล้ว อยากรู้เลยว่าร่างเดิมคิดยังไงถึงไปทำหมัน ในสมัยนั้นมันต้องเป็นเรื่องแปลกแน่ๆเลย หรือบางทีอาจจะคิดแค่ว่าลูกชายสามคนก็มั่นคงพอแล้วหรือเปล่านะ ส่วนเรื่องการแปลก็ยังคงเหมือนเล่ม 1 แหละค่ะ เราแอบคิดว่าค่อนข้างทื่อๆนะ
E-book เล่ม 2 ที่ด้านล่างค่ะ
เล่ม 3
เรื่องย่อหลังปกความสัมพันธ์ระหว่างหลินชิงเหอกับครอบครัวตระกูลโจวกำลังดำเนินไปในทิศทางที่ดีขึ้น ธุรกิจลับ ๆ ของเธอเองก็กำลังไปได้สวย แถมเธอยังริเริ่มที่จะศึกษาหาความรู้ด้วยตัวเองเพื่อรอสอบเข้ามหาวิทยาลัยในอีกเจ็ดปีข้างหน้า เพื่อความก้าวหน้าในชีวิตและลบล้างภาพลักษณ์หญิงผลาญเงินผู้ไม่รู้จักใช้ชีวิตของตัวประกอบคนนี้ให้จงได้ แต่ในขณะเดียวกันเธอก็ค้นพบความลับบางอย่างที่เจ้าของร่างเดิมไม่เคยบอกใครและด้านลับๆ อีกด้านหนึ่งในสังคมชนบทที่เธออาศัยอยู่...
คุยกันหลังอ่านเล่มนี้เราใช้เวลาอ่านค่อนข้างนานเลยล่ะค่ะ คือหลายวันเลยทีเดียว เพราะว่าช่วงนี้ป่วยๆน่ะค่ะ บวกกับเนื้อเรื่องในเล่มนี้ก็ยังคงตีม slice of life เหมือนเคย โฟกัสอยู่กับการทำกับข้าวในแต่ละวัน รู้สึกไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร่ แต่ในเล่มนี้นางเอกก็ได้เริ่มทำงานเป็นครูแล้วล่ะค่ะ พอนางเอกได้ทำงานเป็นครู คนในหมู่บ้านก็มองนางเอกดีขึ้นกันเยอะเลยล่ะ บวกกับเรื่องของมหาวิทยาลัยก็เริ่มใกล้เข้ามาแล้วด้วย เด็กๆก็เติบโตกันแล้ว
E-book ที่ด้านล่างค่ะ
เล่ม 4
เรื่องย่อหลังปกระหว่างอนาคตของตัวเองกับครอบครัว ควรจะเลือกอะไรดีนะ?
ด้วยผลจากความเพียรพยายามศึกษาหาความรู้ด้วยตัวเอง ในที่สุด"หลินชิงเหอ" ก็ได้เป็นคุณครูประจำโรงเรียนมัธยมต้น พลิกชะตาชีวิตจากหญิงสาวที่ทุกคนต่างอิดหนาระอาใจกลายเป็นคุณครูผู้ได้รับการยกย่องไปทั้งหมู่บ้านได้สำเร็จ
แต่เส้นทางชีวิตของเธอยังไม่จบเท่านี้ ยังมีอุปสรรคต่างๆ คอยทดสอบเธออยู่เรื่อยๆ และเป้าหมายยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในปี 1977
หลินชิงเหอจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ดังใจหวังหรือไม่? หากสอบได้แล้วเธอจะเลือกอะไร? ระหว่างอนาคตอันรุ่งโรจน์ กับครอบครัวที่เธอรัก?
คุยกันหลังอ่านเราใช้เวลาอ่านเล่ม 4 ค่อนข้างนานเลยล่ะค่ะ แถมระหว่างทางยังแวบไปอ่านยอดหญิงเทพสมุนไพรมาด้วย (ฮา) คือมันสโลว์ไลฟ์มากจนเรารู้สึกอึนๆน่ะ แต่ถึงจะพูดว่า slow pace ขนาดไหน แต่เล่มนี้นางเอกก็สามารถสอบมหาวิทยาลัยติดแล้วล่ะค่ะ เป็นอันดับหนึ่งเลยด้วย ส่วนเจ้าใหญ่ก็เป็นอันดับสองรองจากแม่นั่นเอง ความคิดของคนในหมู่บ้านที่มีต่อคุณครูหลินก็ถือว่าพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียวค่ะ ก็ในช่วงท้ายของเล่มนี้ นางเอกกับเจ้าใหญ่ก็เข้าไปอยู่ในมหาวิทยาลัยปังกิ่งแล้ว ส่วนพระเอกเดิมของนิยายก็โผล่มาแล้วค่ะ (เอาจริง เกือบลืมไปแล้วว่าจริงๆเป็นแค่การทะลุมิติมาอยู่ในนิยาย 5555)
E-book ค่ะ ;)
เล่ม 5
เรื่องย่อหลังปกในที่สุด "หลินชิงเหอ" ก็สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้สำเร็จพร้อมกับลูกชายคนโต ทั้งคู่ได้มาอยู่ในมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของประเทศที่เมืองหลวงอย่างปักกิ่ง แต่นั่นก็ต้องแลกกับการอยู่ไกลบ้านที่คุ้นเคยและสามีที่คุ้นหน้า
เธอจะมีวิธีพาครอบครัวที่รักมาอยู่เมืองหลวงได้อย่างไร และถ้าได้อยู่ในเมืองหลวงแล้ว ครอบครัวพ่อแม่และลูกชายสามคนนี้จะได้เผชิญกับอะไรบ้าง คำตอบอยู่ในหนังสือเล่มนี้แล้ว
คุยกันหลังอ่านก็เล่มนี้เราใช้เวลาอ่านค่อนข้างนานเลยค่ะ อาจจะเพราะแว่บไปอ่านเรื่องอื่นอยู่บ้างด้วยล่ะนะ ก็เล่มนี้จะเป็นชีวิตในเมืองหลวงเต็มที่แล้วค่ะ นางเอกพาสามีกับลูกสามคนมาที่เมืองหลวงได้ในที่สุด ส่วนโจวชิงไป๋ก็เปิดร้านขายเกี๊ยวตามที่นางเอกบอกแม้ว่ามันจะดูไม่มีเกียรตินักก็ตาม (ตรงนี้เราเพิ่งรู้เลยว่าจริงๆค่านิยมของจีนสมัยก่อนก็เหมือนไทยเหมือนกันนะ ที่ยังไงก็นิยมรับราชการหรือพนักงาบริษัทมากกว่าการค้าขาย) ก็ร้านเกี๊ยวของพระเอกเป็นไปได้ดีมากค่ะ นับว่าทำเงินมากกว่าการเป็นครูสอนภาษาอังกฤษที่มหาลัยปักกิ่งของนางเอกเสียอีก
เล่มนี้โจวข่ายยังได้คุณตาทูลหัวเป็นเฒ่าหวังอีกด้วย สองสามีภรรยาก็ยังเก็งกำไรกันไม่หยุดหย่อน นับว่าชีวิตของนางเอกพระเอกดีจริงๆค่ะ
เล่ม 6
เรื่องย่อหลังปกเมื่อยุคสมัยเปลี่ยนแปลงไป การไขว่คว้าโอกาสทางธุรกิจจึงเป็นเรื่องท้าทาย
หลินชิงเหอจบการศึกษาแล้วและได้ดำรงตำแหน่งเป็นอาจารย์วิชาภาษาอังกฤษในมหาวิทยาลัยปักกิ่ง เธอได้ใช้ตำแหน่งหน้าที่การงานของเธอย้ายครอบครัวเข้ามาอยู่ในเมืองหลวงและหาลู่ทางทำธุรกิจ อีกทั้งยังส่งเสริมให้คนอื่นๆ ได้เจริญก้าวหน้าตามไปด้วย แต่นั่นก็มาพร้อมกับภาระยุ่งยากใจในบางเรื่อง แถมลูกๆ ก็เริ่มโผบินออกจากอ้อมอกกันแล้ว
หลินชิงเหอจะทำธุรกิจอะไรบ้าง จะเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวของเธอ ตามติดชีวิตของคุณแม่ลูกสามนักบุกเบิกได้แล้วในเล่มนี้
คุยกันหลังอ่านก็เล่มนี้เราอ่านรวดเดียวเลยค่ะ 5555 นับว่าค่อนข้างเร็วสำหรับเรื่องนี้นะ ถึงแม้ว่าเนื้อเรื่องจะยังเป็นแนวชีวิตประจำวันอยู่แต่ก็เหมือนอ่านมาจนถึงตอนนี้แล้วก็อยากรู้เรื่องราวต่อไปของตัวละครเหมือนกันอะ ในเล่มนี้หลินชิงเหอพาพ่อแม่สามีเข้ามาในเมืองหลวงแล้วค่ะ น้องสาวสามีก็เข้ามาด้วยพร้อมกับหลานบางส่วน ร้านก็ขยายเป็นสามที่แล้ว ส่วนเจ้าใหญ่ก็ไปเข้าโรงเรียนทหาร ก็รู้สึกเหมือนที่เจ้าใหญ่พูดเลยว่าเวลาผ่านไปเร็ว 5555 ก็รู้สึกเหมือนเพิ่งอ่านตอนนี้เด็กๆทั้งสามยังเป็นเด็กน้อยอยู่เลยนี่คะ ตอนนี้เริ่มมีเรื่องผู้หญิงเข้ามาแล้วด้วย
ส่วนในบรรดาหลานๆก็มีคนที่เป็นแกะดำอยู่หนึ่งคน ก็รอดูในเล่มหน้าว่าจะเป็นยังไงต่อไปค่ะ
ปล.คุณแม่โจวควรจะคิดถึงหลินชิงเหอให้มากกว่านี้นะ 555555
เล่ม 7
เรื่องย่อหลังปกบางครั้งเราก็ไม่สามารถช่วยเหลือคนในตระกูลของเราได้ทั้งหมด เพราะแต่ละคนล้วนมีทางเป็นของตัวเอง
ขณะที่กิจการร้านค้าต่างๆ ในเมืองหลวงยังคงก้าวหน้าไปด้วยดี หลินชิงเหอและสมาชิกครอบครัวโจวแต่ละคนก็ต้องเผชิญกับบททดสอบครั้งใหญ่ ทั้งจากบุคคลภายนอกและบุคคลภายในครอบครัวของพวกเขา ใครบ้างที่จะผ่านบททดสอบไปได้ และแต่ละคนจะเลือกเส้นทางเดินของตัวเองอย่างไร โปรดติดตามได้ใน "ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม" เล่มนี้ [บทที่ 361-420]
คุยกันหลังอ่านเล่ม 7 นี่เราอ่านด้วยความเร็วแสงเลยล่ะค่ะ เพราะว่ารุ่นหลานนัวมากจริงๆ ทั้งสวี่เชิ่งเหมยที่แต่งงานกับคนกรุงได้สำเร็จ เอ้อร์นีที่มีหวังหยวนมาตามจีบ หู่จือที่ถูกสาวข้างบ้านหมายตา ก็คิดว่าในเล่มต่อๆไป เส้นทางของบรรดาหลานๆที่นางเอกพามาเมืองหลวงจะค่อยๆมีเส้นเรื่องของตัวเองแล้วล่ะค่ะ อย่างสวี่เชิ่งเหมยก็คงไม่ได้หยุดความร้ายกาจไว้เท่านี้แน่นอน
เราว่าค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าลูกสาวสกุลเวิงจะแต่งงานกับเจ้าใหญ่แน่ๆในอนาคต (จริงๆก็ดูจากปกเล่มถัดๆไปก็พอเดาได้อยู่)
เล่ม 8
เรื่องย่อหลังปกศึกจากคนนอกหรือจะสู้ศึกจากคนในครอบครัว
ในระหว่างที่หลินชิงเหอกำลังใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอยู่นั้น ตระกูลโจวก็กำลังเผชิญกับเรื่องราววุ่นวายครั้งใหญ่ เมื่อหลานสาวห่างๆ คนหนึ่งของตระกูลได้ทำเรื่องเสื่อมเสียชื่อเสียงและนำน้องชายอันธพาลของตนมายังเมืองหลวง แถมเรื่องราวก็ดูจะทวีความซับซ้อนมากขึ้นเมื่อมีหญิงสาวข้างบ้านคนหนึ่งมาเป็นตัวแปรเสริมอีกคน
คุยกันหลังอ่านเล่มนี้เราก็อ่านเร็วมากเหมือนกันค่ะ 5555 อาจจะถือได้ว่าเครื่องติดก็ได้มั้งคะ แบบว่านิยายดูเรื่อยๆนะ แบบชีวิตประจำวันสุดๆ แต่ก็มีความวางไม่ลงเหมือนกัน คือ invested กับครอบครัวโจวมากไม่ไหว 5555555
ตอนนี้หลานๆของหลินชิงเหอมีเรื่องราวเยอะแยะเลยค่ะ มีทั้งคนที่ไม่รักดีและคนที่รักดี คนที่รักดี หลินชิงเหอก็แทบจะขนจากบ้านเกิดมาที่ปักกิ่งหมดแล้ว เอาจริงๆแล้ว ตระกูลโจวเจริญรุ่งเรืองได้แบบนี้ก็เพราะว่าสะใภ้สี่คนเดียว แต่ถึงอย่างนั้นคุณแม่โจวก็ยังคงบ่นสะใภ้สี่เป็นระยะๆอยู่จริงๆเลยนะคะ
คู่หวังหยวนกับเอ้อร์นีน่ารักดีค่ะ หลินชิงเหอยังเอาซื่อนีกับซานนีมาเมืองหลวงด้วย ดูจากหลานๆแล้วน่าจะเหลือแค่ลิ่วนีคนเดียวที่ยังไม่ได้แต่งงานและอยู่ที่บ้านเกิดใช่มั้ยนะ ส่วนสวี่เชิงเหม่ยก็ดูเหมือนว่าจะยังไม่หยุดก่อเรื่องในเร็วๆนี้ค่ะ
เล่ม 9
เรื่องย่อหลังปก[บทที่ 481-540]
ชีวิตคนเราก็มีทั้งข่าวดีและข่าวร้ายสลับกันไป อยู่ที่จะจัดการกับตัวเองอย่างไร
ชีวิตของหลินชิงเหอในช่วงนี้ไม่มีอะไรต้องกังวลใจมากนัก คนที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับเธอก็แพ้ภัยตัวเอง หลานสาวผู้อยู่ในโอวาทก็ได้แต่งงานมีสามีที่ดี หลานชายที่ยังอยู่ด้วยกันก็ขยันขันแข็งกันทุกคน ส่วนครอบครัวของเธอเองก็เหมือนจะมีข่าวดีในไม่ช้า? แต่ไม่นานนักก็มีข่าวร้ายเรื่องหนึ่งเข้ามาก่อน
ข่าวร้ายนั้นจะเป็นเรื่องไหน? แล้วหลินชิงเหอจะรับมืออย่างไร? ค้นหาคำตอบได้ใน 'ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม' เล่มนี้
คุยกันหลังอ่านเล่มนี้รีวิวในเมบเรื่องภาษาคือค่อนข้างแย่เลยล่ะค่ะ ความเป็นจริงแล้วเราคิดว่าตั้งแต่แรกภาษาก็ไม่ได้ดีอะไรมากอยู่แล้วนะ ส่วนคำผิดก็สนพก็มาตามแก้ทีหลัง แต่ก็คิดว่าจริงๆมันก็เป็นของซื้อของขาย ก็น่าจะพรูฟก่อนลง ควรจะพรูฟก่อนลงตั้งแต่เป็นตอนๆเลยด้วยซ้ำ
ในส่วนของเนื้อเรื่องเล่มนี้ก็มีเรื่องราวเยอะเหมือนกันค่ะ เอ้อร์นีแต่งงานกับหวังหยวนแล้วท้องแล้วยังคลอดลูกแล้วด้วย ส่วนสวี่เชิ่งเหม่ยกับน้องชายสวี่เชิงเฉียงแล้วก็หญิงสาวสกุลจาง ก็วุ่นวายกันมาก เรียกได้ว่าทำให้โจวชิงไป๋ผิดหวังจนไม่ช่วยอะไรอีกแล้วล่ะ บรรดาหลานๆก็มีหลายคนที่เริ่มมีคู่กันแล้ว ก็ส่อแววว่าจะมีคู่ในเร็วๆนี้
ในท้ายเล่ม หลินชิงเหอกลับบ้านสกุลหลินเพราะแม่สกุลหลินเสียชีวิต แต่สกุลหลินก็ยังคงไม่น่าอยู่เหมือนเดิมค่ะ
เล่ม 10
เรื่องย่อหลังปก[บทที่ 541-600]
หลินชิงเหอมีลูก?!
ขณะที่กำลังใช้ชีวิตตามปกติสุขอยู่นั่นเอง จู่ๆ ก็มีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้น เมื่อหญิงวัยเข้าใกล้วัยกลางคนอย่างเธอกลับมีลูกได้ทั้งที่ทำหมันไปแล้ว สร้างความตื่นเต้นดีใจให้ผู้เป็นสามีอย่างโจวชิงไป๋ยิ่งนัก
แต่ดีใจได้ไม่นาน ทั้งคู่ก็ต้องเผชิญกับความจริงที่ว่าประเทศจีนในขณะนั้นกำลังบังคับใช้นโยบายลูกคนเดียว หากมีลูกเกินจำนวนก็ต้องเสียค่าปรับเป็นจำนวนมหาศาล ซึ่งถ้าจ่ายค่าปรับไม่ไหวก็ต้องยอมสละลูกในครรภ์ออก!
หลินชิงเหอกับโจวชิงไป๋จะหาทางรอดให้ลูกที่กำลังจะเกิดของพวกเขาอย่างไร? ติดตามได้ใน 'ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม' เล่มนี้
คุยกันหลังอ่านเล่มนี้ในที่สุดหลินชิงเหอกับโจวชิงไป๋ก็ได้ลูกสาวค่ะ เอาตามจริงเรื่องนี้เราค่อนข้างเป็นทีมหลินชิงเหอ คือคิดว่าอายุสี่สิบก็คือไม่น้อยแล้ว มีลูกถือว่าค่อนข้างอันตราย แล้วตัวหลินชิงเหอเองก็ไม่ได้กระตือรือร้นขนาดนั้นด้วย ส่วนตัวคือคิดว่า การมีลูกควรจะเป็นความต้องการของคนสองคนมากกว่านะ แต่ก็นั่นแหละค่ะ
เนื่องจากนโยบายลูกคนเดียวของจีนที่เริ่มในช่วงนี้ทำให้หลินชิงเหอต้องไปคลอดที่เซี่ยงไฮ้ ก็มีไปซื้อที่ดินที่นั่น แล้วก็ผูกญาติกับคนที่นั่นอีก แถมได้ลูกชายบุญธรรมมาหนึ่งคน เรียกว่ามีเส้นสายโยงใยทุกที่ที่ไปจริงๆค่ะ ฝ่ายซื่อนีก็คบกับเวิงกั๋วต้งแต่ยังไม่ได้ปักใจเต็มที่ เล่มนี้ส่วนมากก็จะเน้นไปที่การท้องของหลินชิงเหอค่ะ
เล่ม 11
เรื่องย่อหลังปก[บทที่ 601-660]
ทำอย่างไรก็ได้รับผลอย่างนั้น ทุกคนหลบหนีผลของการกระทำไม่พ้น
หลินชิงเหอกับโจวชิงไป๋ย้ายกลับมาอยู่ที่เรือนสี่ประสานในปักกิ่งพร้อมกับลูกสาวที่เพิ่งเกิดแล้ว ทั้งนี้ผลของการหลบไปดูแลครรภ์ที่เซี่ยงไฮ้ก็ทำให้พวกเขาได้เป็นญาติบุญธรรมกับครอบครัวหนึ่งด้วย นับว่าเป็นการเติมปีกให้พยัคฆ์โดยแท้จริง
ช่วงเวลาที่พวกเขากลับมาอยู่ที่ปักกิ่งก็มีเรื่องราวหลายอย่างเกิดขึ้น ทั้งเรื่องที่น่ายินดีและเรื่องที่ไม่น่ายินดี แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีเรื่องไหนมาหยุดยั้งสองสามีภรรยาที่กำลังจะเปิดกิจการและฟาร์มขนาดแปดหมื่นตารางเมตรแถวชานเมืองปักกิ่งได้เลย ซึ่งจะมีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้นบ้างนั้น เชิญติดตามได้ใน 'ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม เล่ม 11' เล่มนี้
คุยกันหลังอ่านเผลอแปปเดียวก็อ่านมาถึงเล่ม 11 ซะแล้วค่ะ นับว่านานมากจริงๆ เอาจริงๆเซอร์ไพรซ์ตัวเองเหมือนกันนะที่อ่านจนจบได้ ไม่ใช่ว่าปกติเราอ่านอะไรไม่จบหรอกนะคะ แต่เรื่องค่อนข้างจะเรื่อยๆมากๆเลยจริงๆ แต่ถึงจะบอกว่าเรื่อยๆก็อยากรู้เรื่องราวต่อไปเหมือนป้าข้างบ้านที่อยากรู้เรื่องของหลินชิงเหอนั่นแหละค่ะ
ก็เล่มนี้เรียกได้ว่าครอบครัวหลินชิงเหอประสบความสำเร็จมากๆ มีการซื้อที่ดินจำนวนมาก แล้วก็มีการเปิดร้านชาที่เจริญรุ่งเรืองสุดๆ แถมยังย้ายเข้าไปในเรือนสี่ประสานแล้วด้วย เรียกว่าเป็นคนรวยเลยล่ะ บรรดาลูกชายก็เริ่มมีแฟนกันแล้ว เหลือแค่คนน้องเท่านั้นที่ยังไม่มีค่ะ ส่วนเรื่องวุ่นวายของสองพี่น้องสกุลสวี่ก็ยังไม่จบแต่ตัวน้องชายหลังจากเข้าคุกมาแล้วก็ดีขึ้น เล่มนี้เน้นการเลี้ยงลูกสาวของโจวชิงไป๋ด้วย
![ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม เล่ม 12 [จบ]](https://cdn-local.mebmarket.com/meb/server1/178051/Thumbnail/book_detail_large.gif?3)
เล่ม 12
เรื่องย่อหลังปก[บทที่ 661-701]
สรรพสิ่งล้วนมีจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด ต่างกันตรงที่ว่าจะทำให้จุดสิ้นสุดนั้นสวยงามน่าจดจำหรือไม่...
วันเวลาผ่านไปดังสายน้ำไหล สมาชิกรุ่นที่ 2 ของตระกูลโจวต่างมีชีวิตเป็นของตัวเองกันทั้งสิ้น ส่วนหนึ่งมีชีวิตที่ดีเลิศ อีกส่วนหนึ่งยังต้องดิ้นรนกันต่อไป
เชิญพบกับบทสรุปของสมาชิกทั้งหมดในครอบครัวตระกูลโจว และชีวิตในช่วงบั้นปลายของหลินชิงเหอคุณแม่ผู้เก่งกาจกับโจวชิงไป๋สามีผู้ยืนหยัดเคียงข้างมาตลอดได้ใน 'ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม เล่ม 12' และขอขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่ติดตามมาด้วยกันจนจบนะคะ
คุยกันหลังอ่านเล่ม 12 เราอ่านค่อนข้างเร็ว อาจจะด้วยความรู้สึกที่ว่า เออ มันเป็นเล่มสุดท้ายแล้วนะ ก็ได้นะคะ เล่มนี้มีเนื้อหาค่อนข้างเยอะทีเดียว แม้ว่าจะมีจำนวนบทน้อยกว่าเล่มอื่น เนื้อเรื่องก็ดำเนินของรวดเร็ว เปิดมาด้วยโจวลิ่วนีที่ทะลุมิติมาเหมือนกัน 5555 ตรงนี้คาดไม่ถึงเลย แอบรู้สึกแปลกๆนิดหน่อย แต่โจวลิ่วนีทะลุมิติมาก็ยังเหมือนเดิม (ไม่เชิงทะลุมิติหรอก เป็นการย้อนเวลาจากเนื้อเรื่องเดิมมาเนื้อเรื่องของหลินชิงเหอน่ะ) แล้วก็บรรดาลูกๆแต่งงานกันหมดแล้ว ในลูกชายสามคนเราชอบคู่ของเจ้ารองที่สุด รู้สึกว่าน่ารัก ชอบผู้หญิงก๋ากั๋นแบบภรรยาเจ้ารอง ส่วนเจ้าสามหลินชิงเหอทำให้เขาห่างกับผู้หญิงแซ่จงได้สำเร็จ แล้วก็เล่าไปถึงรุ่นหลานเลยทีเดียวค่อนข้างน่ารักมากๆ
หนังสือเล่าไปจนถึงช่วงที่หลินชิงเหอกับโจวชิงไป๋เสียชีวิตเลยล่ะ ช่วงท้ายรู้สึกใจหายนิดหน่อย ยังไงดี ก็คืออ่านมาตั้งแต่เล่ม 1 ตั้งแต่ที่เจ้าสามยังนอนบนเตียงเตาร้องอ้อๆแอ้ๆ แต่ตอนนี้แต่งงานมีลูกแล้ว ก็รู้สึกว่าเอ้ย เราก็อยู่กับหลินชิงเหอมาทั้งชีวิตเลยเหมือนกันนะเนี่ย พอจบจริงๆก็รู้สึกใจหายขึ้นมานิดหน่อยน่ะค่ะ
รวมๆเรื่องนี้เราคิดว่าอ่านได้เรื่อยๆ สำหรับเราถ้าเทียบความเข้มข้นรู้สึกว่าหลบหน่อยแม่จะเดินสนุกกว่า โรแมนติกกว่าด้วย แต่เรื่องนี้ก็โอเคเลย เป็นแนวชีวิตประจำวันที่ทำให้เห็นชีวิตของคนในสมัยนั้นได้ดี รวมถึงค่านิยมหลายๆอย่างในตอนนั้นด้วย การพัฒนาอย่างก้าวกระโดดภายในช่วงเวลาห้าสิบหกสิบปีของประเทศจีน การก่อร่างสร้างตัวในยุคทองที่ง่ายดายกว่ายุคปัจจุบันมากแบบที่หลินชิงเหอพูดว่าชีวิตเดิมของเธอเป็นพนักงานออฟฟิศที่ทำยังไงก็ไม่มีทางรวย เมื่อย้อนกลับมาในตอนที่ทุกอย่างกำลังจะพัฒนาทำไมจะไม่ฉวยโอกาสเอาไว้ล่ะ
ก็คิดว่าถ้าอยากลองอ่านแนว slice of life ก็ลองดูค่ะ
ผู้ติดตามบล็อก : 13 คน [