- ธุลีปริศนา (His Dark Materials) - วรรณกรรมเยาวชนที่ว่าด้วยการฆ่าพระเจ้า
 ธุลีปริศนา (His Dark Materials)



เรื่องนี้เป็นไตรภาคแต่งโดย Philip Pullman ได้รับรางวัลการันตีคุณภาพมากมายก่ายกอง บวกกับชื่อเสียงหนังสือที่ค่อนข้างดังทำให้เราอยากอ่านมานานแล้ว อีกอย่างก็ไม่ได้อ่านแนวแฟนตาซีวรรณกรรมแปลแบบนี้มานาน คิดถึงบรรยากาศเก่าๆตอนเริ่มอ่านแฮร์รี่ พอตเตอร์ เราคลั่งไคล้วรรณกรรมแปลมากๆตอนอยู่ประถม อ่านทุกอย่างที่หาได้ในช่วงนั้น อย่าง แจคเกอลีน วิลสัน , อี เนสบิต , โรอัล ดาห์ล ... แต่วรรณกรรมประเภท Young Adult เราไม่ได้อ่านนะ ตอนนั้นจำได้ว่าอ่าน พ่อมดแห่งเอิร์ทซีแล้วรู้สึกกลัว 555

เราคิดว่า วรรณกรรมไตรภาคชุดนี้ของพูลแมนก็เป็นวรรณกรรม Young Adult เช่นกัน และมีการตายของตัวละครคล้ายแฮร์รี่ พอตเตอร์ ภาคเจ็ด อะไรประมาณนั้น คือตัวละครสำคัญก็ตายได้ ตัวเอกที่เป็นเด็กอายุสิบกว่าๆก็ฆ่าคนมาแล้วหลายคนอะไรทำนองนี้



วรรณกรรมเรื่องนี้เคยขึ้นสู่จอภาพยนตร์ครั้งหนึ่งแต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร จนทำเอา New Line Cinema พับเก็บโครงการนี้ไปเลย ...จริงๆก็เป็นที่น่าเสียดาย เพราะถ้าออกมาเราก็คงดู ตอนนั้นที่ Golden Compass เข้าโรง เราก็ดูนะ เป็นหนังเฉยๆมาก ตอนนั้นนาร์เนียกำลังเปรี้ยงด้วย เลยถูกมองว่าเป็นนาร์เนียสองอะไรประมาณนี้ มีผู้หญิงสวยๆคล้ายๆแม่มดขาว มีหิมะ มีหมี

แถมเรื่องนี้ยังดูวิพากย์วิจารณ์อย่างหนักในประเด็นของศาสนา และเราก็เห็นว่า มันก็หนักจริงๆ 555 หนังสือไม่ปิดบังแนวคิดของตนเอง พูดถึงการทำผิดของอดัมและอีฟ การทำลายพระเจ้า การกลับมาแก้แค้นของทูตสววรค์ที่ถูกขับออกจากสวรรค์
เราคิดตลอดว่าหนังสือเป็นสื่อที่น่ากลัว โดยเฉพาะเมื่อมาในรูปแบบนิยาย ลึกๆแล้วเราพร้อมจะเชื่อทุกสิ่งทุกอย่างที่คนเขียนบอก แนวคิด วิธีการคิด วัฒนธรรม ถ้าเราไม่เชื่อคนเขียน เราก็จะอ่านหนังสือไม่สนุก แล้วหนังสือก็ยังเป็นสื่อที่มีที่ว่างที่แต่งเติมได้ตามจินตนาการของตนเอง ผสมความเชื่อของตัวเองลงไปในจินตนาการที่ว่า

มาพูดถึงตัวหนังสือกันบ้าง ตอนแรกคิดอยู่ว่าจะทำรีวิวแยกหรือทำรีวิวรวมดี 5555 เป็นคนชอบฝอย พูดเยอะตลอดเวลา



ภาคแรก : มหันตภัยขั้วโลกเหนือ (Northern Lights) ,1995
(ชื่ออเมริกันของนิยายคือ Gloden Compass ซึ่งเราว่าเข้านะ เพราะทั้งสามภาคจะเป็นชื่อวัตถุหมดเลย)
เป็นภาคที่สนุกที่สุดของไตรภาคนี้ (เค้าว่ากันว่างั้นอ่ะนะ) ภาคนี้มีความเป็นวรรณกรรมเยาวชนมากที่สุด เป็นการผจญถัยของเด็กหญิงไลราในโลกคู่ขนานกับเราที่ทุกคนมีภูติประจำตัว เราชอบไอเดียนี้มากๆ มันแบบกริ้ดอ่ะ เหมือนภูติเป็นส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณเรา แล้วก็มีสิ่งต่างๆที่น่าสนใจอีกมากมาย แม่มด หมีสวมเกราะ การเดินทางข้ามโลก
ตัวละครที่เราชอบมากที่สุดในภาคนี้ และอาจจะเป็นตัวละครที่เราชอบมากที่สุดในไตรภาค ก็คือ ยอริค เบิร์นนิสัน เจ้าชายหมีผู้ถูกขับไล่ เป็นตัวละครที่มีเสน่ห์ และชวนให้คนดูรัก ยอริค โหดร้าย ป่าเถื่อนรุนแรง แต่ก็ใจดี แล้วก็่อ่อนโยนน่ารักเหลือเกิน ...ภาคนี้เป็นภาคที่เรายังคงงงๆอยู่ว่า เกิดอะไรขึ้น และใครอยู่ฝ่ายไหน ตกลงใครดีใครเลวกันแน่ ไม่รู้จะเชียร์ใครแล้วเนี่ย แต่ก็น่าตื่นเต้นและน่าติดตาม จนเราต้องออกไปตามหาเล่มสองทันทีที่อ่านจบ
อ้อ อีกคนที่เราก็คือ จอห์น ฟา ผู้ยิ่งใหญ่ดังขุนเขา , ฟาเดอร์โครัม ชายผู้ซึ่งมอบหัวใจให้กับราชินีแม่มด และก็ได้รับความรักนั้นกลับมา แต่กลับรู้สึกละอายใจในความชราและเป็นมนุษย์ของตัวเอง



ภาคสอง : มีดนิรมิต (Subtle Knife) ,1997
ภาคนี้มีตัวละครสำคัญเพิ่มมาอีกหนึ่งตัวก็คือ วิล ซึ่งเราชอบมาก เป็นเด็กผู้ชายที่เป็นนักสู้ วิ่งสู้ฟัดตลอดเรื่อง กล้าตัดสินใจ แล้วก็ยังมีตัวละครจากภาคก่อนๆที่ภาคนี้เพิ่มความสำคัญขึ้นอีกเยอะอย่าง เซราฟินา เพคคาลา , ลอร์ดแอสเรียล , ลี สกอร์บี้ นักบอลลูน , กรัมแมนนักสำรวจ (ไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นเหมือนเรามั้ย แต่เราว่าเรื่องของกรัมแมนเดาง่ายไปหน่อย แม้จะจบอย่างคาดไม่ถึงก็ตาม) และภาคนี้ก็เป็นภาคที่บอกเราว่า เรื่องนี้เจ็บจริงตายจริงนะจ้ะ
ถ้าไอเทมของภาคที่แล้วคือ อลิธิอามิเตอร์กับไลรา ภาคนี้ก็คือมีดนิรมิตกับวิล ทำให้ภาคนี้เต็มไปด้วยการข้ามโลกไปๆมาๆ เราว่าภาคนี้ก็ยังคงความตื่นเต้นอยู่นะ แต่มันไม่เหมือนกับภาคแรกที่เริ่มจาก ชีวิตประจำวันของไลรา เข้าสู่ก่อนผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ แต่ภาคนี้วิลเจอกับปัญหาใหญ่ยักษ์ตั้งแต่แรก ทำให้ความตื่นเต้นมาตั้งแต่ตอนแรก พอถึงไคลแมกซ์อาจจะเกิดอาการหาไคลแมกซ์ไม่เจอ ...แบบว่ารู้สึก anticlimax เบาๆ



ภาคสาม : สู่เส้นทางมรณะ (The Amber Spyglass) ,2000
ภาคนี้เป็นภาคที่ตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา และเราก็ชอบมากๆ พอกับภาคแรก ตอนภาคแรกเรารักยอริก ภาคสองเรารักวิล ภาคสามเรารักวิลมากๆ 555 มากจริงๆ ภาคนี้เป็นภาคที่ศาสนาอย่างเต็มตัวมากๆ ชนิดที่คนอ่านต่อให้ไม่ได้นับถือศาสนาคริสต์ก็น่าจะรู้สึก เพราะหนังสือเล่มนี้ พูดถึงการฆ่าพระเจ้า เราเรียนในโรงเรียนคริสต์มาตลอด ทั้งสวดมนต์ ทั้งเรียน และอ่านคัมภีร์ เรื่องนี้กัดศาสนาคริสต์ได้เปิดเผยจริงๆ
สิ่งที่หยุดยั้งความหายนะในโลกได้ก็คือ ความรัก นั่นเอง เหมือนที่อดัมกับอีฟได้รักกัน ความรักของวิลและไลรา แม้จะไม่ใช่ว่าคาดเดาไม่ได้ เราเพียงแต่ไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นจุดสำคัญของเรื่องด้วย แต่ก็ทำให้เราชอบมากๆ โรแมนติกมากๆ ประทับใจ ไม่แพ้นิยายโรแมนติกเล่มไหนๆเลยทีเดียว แม้ว่าตัวเอกจะเป็นเด็กอายุสิบสอง แต่เราก็คิดว่าตัวเราในอายุสิบสองก็เคยพบพานอะไรโรแมนติกๆเหมือนกัน 555 ...เราหวังลึกๆว่า สุดท้ายในอนาคตอีกไม่รู้สักกี่ปีข้างหน้า ขอให้ไลราและวิลได้ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข  
การรักกันของไลราและวิล เหมือนการนำมาเล่าใหม่ของอดัมและอีฟ "This so called original sin is anything but it's the thing that makes us fully human"
ภาคนี้เป็นภาคที่มีการเซนเซอร์ออกไปด้วยในฉากที่ แมรี่เล่าให้ฟังถึงความรักของเธอ ให้แก่ไลราและวิล ในช่วงที่ไลราบรรยายว่าเธอเข้าใจความรู้สึกนี้ดี ว่าเป็นอย่างไง อะไรทำนองนี้ รายละเอียดถูกเซ็นเซอร์ออกในเวอร์ชั่นอเมริกัน และในเวอร์ชั่นภาษาไทยเช่นเดียวกันค่ะ

ยังมีหนังสือเล่มอื่นๆของ Phillip Pullman ที่เกี่ยวข้องกับซีรีย์ชุดนี้อยู่อีกค่ะ
Lyra's Oxford เป็นสองปีให้หลังของหลังจากเหตุการณ์ใน The Amber Spyglass
Once Upon a Time in the North เป็นเหตุการณ์ก่อนหน้าซีรีย์ค่ะ โดยมีตัวเอกคือ ลี สกอร์บี้นักบอลลูนนั่นเอง
และยังมีหนังสืออีกสองเล่มที่กำลังจะพิมพ์ในอนาคตก็คือ The Book of Dust เกี่ยวกับไลรา และฝุ่นธุลี อีกเล่มคือ เรื่องของวิลนั่นเองค่ะ
นี่อาจจะเป็นสาเหตุที่ว่า หลายๆอย่างในหนังสือถูกทิ้งไว้ให้เป็นปริศนาต่อไป

Facts 101 :
- Galliversepians คนตัวจิ๋วผู้กล้าหาญมีแรงบันดาลใจมาจากคนตัวจิ๋วในการเดินทางของกัลลิเวอร์
- Palmerain Professor หรือศาสตราจารย์พาลเมอเรียน เป็นตัวละครที่ใส่มาเป็นมุก ซึ่งคนเขียนเหมือนตัวเอง P.P มาจาก Phillip Pullman พาลเมอเรียนเป็นศาสตราจารย์ที่ชอบขโมยผลงานคนอื่น จากที่ไลราได้ยินมาจากนักโทษในคุกแห่งสวาลบาร์ดจำกันได้มั้ยคะ Phillip Pullman จะบอกว่าก็คล้ายๆกับตัวเองที่หยิบโน่นนี่มาจากเรื่องอื่นๆเช่น กัลลิเวอร์, Lost paradise เป็นต้น
- Pullman เป็น Atheists ที่เปิดเผยมุมมองของเขามากที่สุดคนหนึ่งในอังกฤษ  และยังเคยส่งจดหมายเปิดคัดค้าน Pope Benedict XVI ด้วย จดหมายนี้ถูกดีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ The Guardian
- Chatholic Herald กล่าวว่าหนังสือชุดนี้เป็นเหมือนฝันร้าย ควรจะถูกเผาทิ้งซะ!
- หนังคงไม่มีแล้ว แม้ว่าเรายังสงสัยและตัวผู้กำกับเองก็สงสัยเช่นกันว่า ภาคสองและสามจะสร้างได้ยังไง ถ้าตัดประเด็นศาสนาออกไป

His Dark Materials VS Chronicles of Narnia
Phillip Pullman คนเขียนนั้นเกลียดหนังสือชุดนาร์เนียเอามากๆ บอกว่าหนังสือชุดนี้ทั้ง ดูถูกผู้หญิงและเหยียดชนชาติ (เราเข้าใจว่าชนชาติที่ว่าคือคาโลเมนนะ เปรียบเทียบกับมุสลิมอะไรอย่างนี้) ไม่ใช่แค่ฟิลลิป พูลแมนเพียงคนเดียวที่พูดเรื่องนี้ นักวิจารณ์หลายๆคนก็พูดเรื่องนี้เช่นกัน (เราคิดถึงนาร์เนียเหมือนกัน ตอนอ่าน สองเรื่องนี้ตรงกันข้ามสุดๆ His Dark Materials บอกว่าพระเจ้านั้นไม่มีจริง เป็นเพียงทูตสวรรค์ที่ทำตัวเหมือนพระเจ้า ทุกสิ่งเกิดขึ้นมาเอง แต่ในนาร์เนียมี Aslan เป็นตัวแทนของ Jesus แม้บางครั้งอัสลานจะไม่มาช่วยเหลือ แต่ลูซี่ก็เชื่อในอัสลานเสมอ และจะพูดว่าเขาต้องมีเหตุผลของเขา ) หนังสือชุดนี้ของพูลแมนก็ถูกมองว่าเป็นการโต้ตอบต่อหนังสือชุดนาร์เนียของ C.S Lewis ที่พูลแมนมองว่าเป็น Religious Propaganda
อีกอย่างหนึ่งที่เราอยากจะเปรียบเทียบระหว่างสองเรื่องนี้คือ ไลรา และ ซูซาน สองคนนี้เติบโตเป็นผู้หญิงเช่นเดียวกัน แต่ให้ผลคนละแบบ ซูซานนั้นไม่สนใจที่จะกลับมายังโลกนาร์เนียอีก ในขณะที่การเติบโตของไลราช่วยให้ฝุ่นธุลีหยุดการเคลื่อนไหวที่แปลกประหลาดได้
J.K. Rowling เองถึงแม้จะเธอจะเป็นแฟนนาร์เนียตั้งแต่เด็กแต่ก็ให้ความเห็นแก่ซูซานว่า "There comes a point where Susan, who was the older girl, is lost to Narnia because she becomes interested in lipstick. She's become irreligious basically because she found sex. I have a problem with that"
การเจริญเติบโตของสองเรื่องนี้ก็แตกต่างกันอย่างมาก การเติบโตของเด็กๆของนาร์เนีย จะทำให้พวกเขาไม่สามารถกลับมายังนาร์เนียได้อีก แต่การเจริญเติบโตของเด็กๆในธุลีปริศนานี้ จะทำให้ภูติของตนเองนั้นคงรูป ทำให้เราได้รู้ว่าเราเป็นคนอย่างไร ไลราเองก็เคยคิดว่าไม่อยากโต แต่พอถึงเวลาเธอก็คิดว่ามันโอเค
His Dark Materials ยังเปิดตัวด้วยฉากเด็กหญิงในตู้เสื้อผ้าอีกด้วย 555



Create Date : 10 พฤษภาคม 2557
Last Update : 8 กรกฎาคม 2557 17:36:27 น.
Counter : 8495 Pageviews.

9 comments
  
ชุดนี้สนุกมากนะคะ
เสียดายที่หนังแป๊ก !

อยากดู ภาค ต่อๆ มา มาก

ยิ่งเล่ม 2-3 นะ เนื้อหาเข้มข้นมากเลย

เสียดาย ๆๆ
โดย: Prophet.doll Oui+ (Pdจิงกุเบล ) วันที่: 10 พฤษภาคม 2557 เวลา:12:37:42 น.
  
มีทั้ง 2 เรื่อง ทั้ง Narnia และเรื่องนี้ ยังไม่ได้เปิดอ่านเลยโดยเฉพาะเรื่องนี้ ตอนแรกๆอยากอ่านมาก จนดองนานเกินไปแล้ว ความอยากอ่านลดน้อยถอยลง...ขอบคุณครับไปรื้อกรุดีกว่า
โดย: leehua (สมาชิกหมายเลข 755059 ) วันที่: 10 พฤษภาคม 2557 เวลา:15:27:24 น.
  
เสียดายที่หนังไม่ทำต่อเหมือนกันค่ะ
โดย: kunaom วันที่: 11 พฤษภาคม 2557 เวลา:11:20:07 น.
  
ชุดนี้เคยเล็ง ๆ ไว้ค่ะ แต่ไม่ได้หามาอ่าน

หวานเย็นได้ดูภาพยนตร์ด้วยนะคะ ชอบค่ะ...ชอบ เสียดายที่ถูกพับโครงการไปเสียก่อนเลยไม่มีภาคต่อ
โดย: หวานเย็นผสมโซดา วันที่: 12 พฤษภาคม 2557 เวลา:21:11:02 น.
  
เราชอบชุดนี้มากเลยค่ะ วิลน่ารักสุดๆ ก่อนหนังฉายนี่นับวันรอเลย พอดูจบ เสียใจ แคสติ้งเทพขนาดนั้น ทำไมแป้กซะได้

ชอบอ่านที่คุณวิเคราะห์เทียบกับนาร์เนียนะคะ สนุกดี นาร์เนีย 3 เล่มแรก เป็นหนังสือในดวงใจค่ะ แต่ตอนที่อ่านทั้งชุดนี้และนาร์เนียไม่ได้มองอะไรลึกซึ้งเลย แบบว่าคิดน้อย เรื่องซูซาน ก็เข้าใจว่าเธอกลับมาไม่ได้ เพราะทิ้งความเป็นเด็กไปแล้ว (ไปนึกถึงตอนจบของหนังเรื่อง Labyrinth น่ะค่ะ)
โดย: Froggie วันที่: 14 พฤษภาคม 2557 เวลา:7:32:38 น.
  
คุณ froggie
เราชอบนาร์เนียเล่มอาชากับเด็กชายมากที่สุดค่ะ ทั้งที่เกี่ยวกับสี่กษัตริย์น้อยสุดเลย 55 แต่ก็รักอาระวิสมากๆ คิดว่าเป็นเล่มเดียวที่แอบโรแมนติกน่ะค่ะ

ใครที่เคยดูหนังแต่ไม่ได้อ่านหนังสือลองไปหาอ่านดูนะคะ หนังสือสนุกกว่าหนังเยอะเลยล่ะค่ะ :)
โดย: marina_rain วันที่: 14 พฤษภาคม 2557 เวลา:17:09:43 น.
  
อาชากับเด็กชายก็ชอบค่ะ แต่น้อยกว่าสามเล่มแรกหน่อย อ่านสมัยโน้นยังไม่ได้คิดถึงเรื่องความรัก ถ้าได้กลับไปทวนอีกที อาจจะชอบมากขึ้นก็ได้ ^^ คุ้นๆว่ามีตัวละครนึงบอกว่าไม่อยากเป็นหรอกกษัตริย์ เป็นเจ้าชายสบายกว่าเป็นไหนๆ ประทับใจ
โดย: Froggie วันที่: 14 พฤษภาคม 2557 เวลา:17:43:55 น.
  
เสียดายที่หนังไม่มีภาคต่อ อยากดูให้จบทุกภาคเลย จะได้มาตามอ่านหนังสือทีหลัง
โดย: ปีศาจความฝัน วันที่: 14 พฤษภาคม 2557 เวลา:18:58:03 น.
  
ตามมาอ่านเพราะได้ดูซีรี่ส์ His Dark Materialsใน HBOมาค่ะ ขอบคุณที่เขียนถึงเรื่องนี้นะคะ
โดย: 4 IP: 49.237.20.68 วันที่: 28 ตุลาคม 2564 เวลา:23:46:03 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Marinarain.BlogGang.com

marina_rain
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 13 คน [?]

บทความทั้งหมด