สวัสดีทุกคนที่กำลังเข้ามาเยี่ยมชมบล็อกเราอยู่ในขณะนี้นะคะ อะแฮ่ม .. เราก็ไม่ได้ว่าจะเชี่ยวชาญอะไรมากนักหรอกนะ แต่ทราบมาว่าหลายท่านตอนนี้ กำลังสนใจในเรื่องของวงการการเทรดเงินกันอยู่ ซึ่งปัจจุบันนี้ ก็เป็นที่แพร่หลายกว่าในสมัยก่อนมาก เลยทำให้คนหันมาเก็งกำไร หรือหากำไรจากการเทรดเงินกันเยอะกว่าเมื่อก่อนมากเลยทีเดียว แต่เอ.. มันก็ยากตอนเริ่มเข้าวงการนี่ล่ะ เพราะศัพท์อะไรต่อมิอะไรมันชวนเข้าใจยากซะจริงๆ 

ดังนั้นวันนี้ เราจะมาไขข้อข้องใจกันค่ะ ว่าศัพท์ไหน ใช้เรียกแทนอะไร แล้วมันมีความหมายว่าอย่างไรบ้าง

⦁ Bull market or Bull zone : ตลาดกระทิง หรือ โซนกระทิง

ในบางครั้งเราจะพบเจอกับคำว่า Bulls market หรือ Bulls zone นั่นเอง ซึ่งบางคนก็ไม่รู้จะเรียกชื่อที่ว่านี้ว่าอะไร แล้วมันหมายถึงอะไร ทีนี้หายห่วงเลยค่ะ เพราะ “Bull” ตัวนี้หมายถึง “กระทิง” นั่นเอง ซึ่งความหมายของการใช้คำว่า กระทิง มาเป็นตัวแทนในตลาดการเงินนั้นก็หมายความว่า ตลาดกำลังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น ซึ่งจะดีกว่าถ้าผู้เทรด จะถือสินทรัพย์มากกว่าถือเงินสดค่ะ

⦁ Bear market or Bear zone : ตลาดหมี หรือ โซนหมี

ส่วนคำว่า “ตลาดหมี” หรือ “โซนหมี” หลายๆ คนก็ยังคงงงอีกเหมือนกัน ว่าเอ๊ะ นอกจากฉันจะมาเจอกับ กระทิงแล้ว ฉันยังต้องมาเจอ หมี อีกเหรอ? แต่ใช่แล้วค่ะ ทุกท่านฟังไม่ผิด มีกระทิงแล้วก็ต้องมีหมีอยู่ด้วย ในวงการการเทรด สองอย่างนี้จะมาคู่กันเสมอ ดังนั้นทุกท่านจะหนี หมีกับกระทิง ไม่พ้นนะคะ

อย่างที่ได้บอกไปแล้วในข้อแรกว่า ตลาดกระทิง มีความหมายว่า แนวโน้มขาขึ้น ซึ่งตลาดหมี ก็ไปอื่นไปไม่ได้นอกจากแปลว่า ตลาดกำลังอยู่ในแนวโน้มขาลง นั่นเองค่ะ ซึ่งจะเป็นการดีกว่า ถ้าหากผู้เทรดเปลี่ยนจากการถือสินทรัพย์ ไปถือเงินสด

⦁ Downtrend : แนวโน้มขาลง

ในบางคราวเราจะเห็นบางบทความมีการใช้คำนี้แทนเหมือนกัน ดังนั้นรู้ไว้ก็ไม่เสียหลายนะคะ เพราะ Downtrend หรือ แนวโน้มขาลงนี้ ก็มีความหมายเหมือนกันกับ ตลาดหมีนั่นเอง

⦁ Uptrend : แนวโน้มขาขึ้น 

แน่นอนว่าคำนี้ก็มีความหมายเหมือนกันกับ ตลาดกระทิง นั่นเองค่ะ คือแนวโน้มของตลาดไปในทางขึ้น ดังนั้นควรรีบช้อนซื้อไว้ก่อน เพื่อรอเก็งกำไรนั่นเอง