Light on Life






# Light on Life #




มีหลายๆ คนถามว่าฉันผ่านจุดนี้มาได้อย่างไร การสูญเสียคนที่เป็นที่รักไปแบบไม่มีทางพบเจอกันอีก ทนได้อย่างไร เข้าใจมันได้อย่างไง 

ก่อนอื่นฉันต้องขอบอกเพื่อนๆที่เข้ามาอ่าน Blog นี้ก่อนนะคะ ว่าฉันก็คนธรรมดาเจ็บได้และร้องไห้เป็น ฉันขอสารภาพว่า ฉันเพิ่งเข้าใจอย่างถ่องแท้...ถึงคำว่าพรุ่งนี้ไม่มีจริงก็ตอนที่แม่จากไปนี่แหละคะ (ไม่เจอกับตัวก็คงไม่มีทางได้รู้)...ฉันเหมือนคนหลงทางในความมืด หาแสงสว่างไม่เจอ

เมื่อเวลาพรากแม่ไป ทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยได้ทำมา ฉันรู้สึกว่าทำได้ไม่มากพอ...ฉันอยากมีวันพรุ่งนี้...อยู่กับแม่อีกสักวัน...

ฉันนึกถึงคำพูดของแม่ก่อนที่ท่านจะจากไป แม่โทรหาฉันและบอกว่า 


"*"

วันนี้ลูกรู้มั๊ยว่าแม่อยู่ไหน

ตอนนี้แม่อยู่ที่ทุ่งนาของเรา แม่มีความสุขมาก 

แม่กำลังมองฟ้า...วันนี้ฟ้าสวยมากลมเย็นๆ 

แม่อยากให้ลูกมาเห็นจัง

วันนี้แม่ไม่ห่วงอะไรแล้ว แม่ไม่เศร้า...ไม่ทุกข์...

แม่ไม่เจ็บและปวดใจกับสิ่งที่ผ่านมา 

ชีวิตของแม่ที่ผ่านมามันเกินคุ้มแล้วมีแต่กำไร

แม่สบายใจและเป็นสุข แม่จะปล่อยให้ทุกอย่างเป็น

ไปตามทางของมัน

แม่อยากให้ลูกเป็นแบบนี้เช่นกัน...แล้วพบกันลูก

รัก...แล้วพบกันนะคะแม่...

"*"

(นั่นคือคำสุดท้ายที่ฉันได้พูดกับแม่)


ดังนั้นฉันต้องขอบอกทุกคนว่า...ฉันไม่ได้ผ่านมันมาได้หรอกค่ะ...แต่ฉันแค่ยอมรับความเป็นจริงและปล่อยวาง 

คำตอบมันช่างง่ายดาย เพราะสายน้ำจะไม่อาจย้อนกลับมาและเวลาก็ไม่สามารถที่จะรีไซเคิลได้ ฉันกับแม่ผ่านเรื่องราวยากลำบากมาด้วยกัน

= - = - = - = - = - = - = - = - = - = - = - = - = - = - = - = 

แม่สอนฉันให้คิดเสมอว่าอดทนแล้วฉันจะทำได้ 

ต้องพยายามแล้วทุกอย่างมันจะเป็นจริง

= - = - = - = - = - = - = - = - = - = - = - = - = - = - = - =  

ความทุกข์ของแม่ที่ฉันเคยได้รับรู้ ตั้งแต่ฉันและน้องๆเกิดมามีมากมาย สามารถชดเชยได้หรือเปล่ากับความสุขที่แม่ได้รับในช่วงบั้นปลายในชีวิต 


ฉันมีคำถามว่ามันน้อยไปหรือเปล่า สำหรับชีวิตของแม่ คนที่จะตอบได้ดีที่สุดน่าจะเป็นน้องสาวของฉัน เพราะในวันที่แม่เสียคือวันที่น้องสาวของฉันกำลังจะไปรับรถ 

น้องบอกกับแม่ว่า..."จะให้แม่ได้นั่งเป็นคนแรก..ลูกจะขับให้แม่นั่งเอง"

แต่ก็เหมือนเวลาจะเล่นตลก...เมื่อวันที่น้องฉันว่างแต่เเม่กลับไม่มีเวลาเหลือให้พวกเราแล้ว ต่อให้น้องสาวของฉันอยากจะยื้อ อยากจะซื้อ อยากจะแลกกับทุกๆ สิ่ง ที่มีเพื่อให้แม่ฟื้นกลับคืนมา มันก็ไม่มีทางเป็นไปได้ (นี่คือสัจธรรมอีกข้อที่เราต้องยอมรับ)

ดังนั้นฉันจึงบอกน้องสาวไปว่า จงใช้เวลาที่มีและเหลืออยู่นี้ให้มันคุ้มค่า...นั่นคือสิ่งที่แม่พยายามจะบอกและสอนเราก่อนที่ท่านจะจากไป

เมื่อคนนำทางในชีวิตของเราหายไป เราต้องเป็นคนมานำทางเอง เพื่อไปยังจุดหมายปลายทางที่ถูกต้อง (อย่าทำให้คนที่จากไปต้องห่วงหาและอาลัยเราอีก...ให้ท่านไปสู่สุขคติ) นั่นคือสิ่งที่ฉันอยากจะบอกคนที่เข้ามาอ่าน Blog ของฉัน 


เมื่อสายน้ำไม่มีวันหวนกลับและเวลามันพรากทุกอย่างไปจากเรา สิ่งที่ผ่านล่วงพ้นไปแล้วก็ต้องให้ผ่านไป หากยึดติด จะยิ่งเป็นทุกข์ทวีคูณเท่านั้น...เพราะไม่ว่าเราจะนั่งเรือกลับไปกลับมาสักกี่ครั้งเราก็จะพบว่าสายน้ำที่ไหลไปแล้วข้างหน้าก็ไม่มีทางที่จะหวนกลับมาที่เดิม 

ปล่อยให้สายน้ำไหลออกสู่ทะเลต่อไปตามวัฏจักรของสายน้ำเช่นเดียวกับเวลาของชีวิตคนเรา


แม่ปล่อยพวกเราแล้ว ดังนั้นเราควรปล่อยแม่ไป เพื่อให้แม่ไปสู่ความสงบสุขแห่งแสงสุดท้ายของชีวิตท่าน การยึดติดและเหนี่ยวรั้งท่านไว้ไม่ได้เป็นการช่วยอะไร 

ฉันอยากจะบอกทุกคนที่เจอเหตุการณ์อย่างฉันว่าความเป็นจริงเราไม่ได้สูญเสียอะไร แท้จริงแล้วมีแต่ได้มาตลอด เป็นการได้มาซึ่งการเรียนรู้นั่นเอง


==================================================

การสูญเสีย การพลัดพราก 

การจากลา การเข้าใจ 

การยอมรับ (ความจริง)

และการปล่อยว่าง

==================================================


คำตอบของฉันมันมีแค่นี้จริงๆ คะ และเป็นคำตอบที่คุณเคยได้ยินมาตลอดเวลา นั่นคือต้องอยู่กับปัจจุบันและปัจจุบันเท่านั้น (คำตอบอยู่ตรงหน้าแล้ว...คุณเห็นและเข้าใจมันหรือเปล่า)

ปล...วันนี้(6/5/2560) ครบ 100 วัน ที่แม่จากไปฉันกับน้องๆ ยังคิดถึงแม่เหมือนเดิม...แต่ความคิดถึงที่ว่านั้นไม่ได้เจ็บปวดทรมาน...เพราะสิ่งที่ฉันคิดถึง คือความดีของแม่...ความรักของแม่ที่ให้ฉันตลอดมา...และฉันก็จะส่งต่อสิ่งนั้นให้กับคนที่เเม่รักต่อไป...ลูกมีคำตอบในการที่จะใช้ชีวิตและก้าวต่อไปแล้ว...ขอบคุณนะคะแม่...สำหรับแสงสว่างที่แม่ส่องนำทางให้ลูกตลอดมา...พักให้สบายนะคะ...เเล้วเราคงได้พบกัน...รักแม่สุดหัวใจ (จากพระจันทร์ในคืนเดือนมืด....ลูกของแม่)



by Sakormaree 

Smiley





Create Date : 11 เมษายน 2560
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2561 23:09:42 น.
Counter : 1339 Pageviews.

5 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณJinnyTent, คุณnewyorknurse

  
ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ
โดย: เรียวรุ้ง วันที่: 2 มิถุนายน 2560 เวลา:15:52:31 น.
  
วันที่คุณไปเยี่ยม เราอยู่บ้านป่าค่ะ
เน็ตที่นั่นไม่ค่อยเป็นใจ แต่ก็ได้เข้ามาอ่าน
คือต้องปิดเน็ตแล้วอ่านไม่เช่นนั้นมันจะกิน
fair use หมด พออ่านจบแล้วกลับเข้าเน็ตไม่ได้
กว่าจะกลับมากรุงเทพฯเลยลืมไปเลย ขออภัย
ให้หญิงชรานะคะ

ขอบคุณที่แวะไปอ่านงานที่บล็อกมานานแล้ว
เราก็เป็นเพื่อนกันมานานแล้วสินะคะ วันนี้ขอ
แอดไปด้วยค่ะ

เสียใจด้วยเรื่องความสูยเสียนี้นะคะ ต้องทำใจบ้าง
ไม่จำเป็นต้องพยายามลืม เพราะความทรงจำ
เกี่ยวกับท่านจะหล่อเลี้ยงใจเราตลอดไป โดย
เฉพาะยามทุกข์

ขอให้คุณทำใจได้และมีความสุขตามสภาพได้นะคะ


โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 2 มิถุนายน 2560 เวลา:19:48:21 น.
  
ขอบคุณมากๆนะคะ...ขอบคุณจากใจจริงทั้งคุณเรียวรุ้งและคุณคนบ้านป่าที่แวะเข้าอ่านและมาทักทาย...(มิตรภาพดีมีที่ Bloggang)

โดย: Sakormaree วันที่: 2 มิถุนายน 2560 เวลา:21:20:17 น.
  
สวัสดีค่ะ..

บ้านอ้อมแอ้ม เสียทั้งคุณพ่อและคุณแม่ห่างกัน 3 ปีคะ

ยังรำลึกถึงท่านอยู่บ่อยๆ

คิดถึงคำสอนของท่านคะ ท่านไม่ได้จากพวกเราไปไหนเลย

ยังอยู่ในใจพวกเราตลอดไป

เป็นกำลังใจให้นะคะ..สู้ๆๆๆคะ

โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 3 มิถุนายน 2560 เวลา:16:54:04 น.
  
ขอบคุณที่แวะไปทักทายกัน
ถ้าแมมขนแมว ปรึกษากันได้ค่ะ (ถ้ายังอยากเลี้ยงอยู่)^^

ขอแสดงความเสียใจเรื่องคุณแม่ด้วยนะคะ
เป็นกำลังใจให้นะ ชีวิตต้องดำเดินต่อไป
และท่านยังคงอยู่ในใจเรา เหมือนพี่อ้อมบอกค่ะ
โดย: JinnyTent วันที่: 26 มิถุนายน 2560 เวลา:10:33:30 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Kormaree.BlogGang.com

Sakormaree
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]

บทความทั้งหมด