แบบที่ 1 เรียกว่า Aggressive Approach หรือการเข้าซื้อแบบวัยสะรุ่น การเข้าซื้อแบบนี้จะเข้าซื้อทันทีเมื่อหุ้นมีการ Breakout (เรื่อง Breakout จะอธิบายอย่างละเอียดต่อไป) ส่วนจะเข้าซื้อเมื่อราคาสูงกว่าจุดเบรคมากน้อยแค่ไหน เป็นเรื่องของจังหวะ และการกำหนดของผู้ลงทุน แต่จุดเข้าซื้อ สูง หรือต่ำ จะมีผลต่อความเสี่ยงในแง่ของการคัทลอส ซึ่งผมจะอธิบายต่อไปในเรื่องการกำหนดจุดคัทลอส สำหรับผมจะซื้อเมื่อราคาสูงกว่าจุดเบรค 2 - 3 ช่อง โดยอาจจะมีทะยอยเข้าช่วง 2 ช่อง 1/5 , 3 ช่อง อีก 2/5 ส่วน

หุ้นที่เราจะใช้วิธีการเข้าวิธีนี้จะต้องเป็นหุ้นกระทิงจริง ๆ และคาดว่าเมื่อมันเบรคแล้วกว่ามันย่อตัวคงอีกไกล เป็นต้น คนที่เข้าประเภทนี้จะต้องเป็นคนตัดสินใจเร็ว นัางเล่นอยู่หน้าคอม ประเภททำงานประจำไม่ควรใช้ และที่สำคัญจิตใจต้องเหี้ยมหาญ ถึงจังหวะคัท ต้องคัท รีรอไม่ได้ คัทแล้วขึ้น ต้องซื้อคืน (เพราะถือว่าเราคาดผิด แต่ไม่ควรผิดบ่อยครั้ง) อาซิ้ม อาม่า หรือประเภทต้องโทรถามมาร์ หรือฟังคนรอบข้างห้ามใช้ 

แบบที่ 2 เรียกว่า Wait for Retracement แบบนี้เป็นที่นิยมกันมาก เพราะมีเวลาไตร่ตรองให้รอบคอบอีกครั้ง กล่าวคือหุ้นเมื่อมีการ Breakout แล้ว มันจะต้องมีการย่อตัวเพื่อซับแรงขาย และ/หรือ ขับพวกใจตุ๊ด ใจแมว รวมถึงพวกเล่นสั้น ๆ ให้ออกไปจากตัวนี้ก่อน เค้าเรียกกันว่า ทำ Correction ( จะอธิบายในตอนต่อ ๆ ไปอีก 555) คนพวกนี้จะรอให้หุ้นพักตัว และเมื่อหุ้นเกิดจุด Swing LOw หรือจุดวกกลับ เค้าจะเข้าซื้อในจังหวะนี้ทันที และก็เช่นกัน จะซื้อสูงกว่าจุดสิงโลวกี่ช่อง ก็แล้วแต่ถนัด เพราะจะมีผลต่อการคัทลอสอีกเช่นกัน วิธีแบบนี้ใช้ได้กับหุ้นขาขึ้นที่เบรคแล้วได้ทุกตัว ส่วนจะมีโอกาสได้ของหรือไม่ ไม่แน่ หรืออาจได้ในราคาที่สูงกว่าแบบที่ 1 ก็ได้ พวกประเภททำงานประจำ อาซิ้ม อาม่า ใช้วิธีนี้ได้หมด

แบบที่ 3 เรียกว่า Wait for Second Breakout แบบนี้จะได้หุ้นช้ากว่าทั้ง 2 แบบก่อนหน้าเพราะเป็นพวกถือคติ ช้าแต่ชัวร์ (แต่บางทีช้าแล้วคัทก่อนก็มี) คือเค้ารอเมื่อหุ้นเบรคแล้วย่อตัว เกิดสวิงโลวแล้วก็ยังไม่ซื้อ รอมันโน่นให้มันเบรคเอ๊าส์ซ้ำอีกทีแล้วเข้าซื้อ พวกประเภทมวยจังหวะมักจะใช้วิธีนี้

ทั้งหมดนี้ก็คือวิธีการ Entry หุ้น เข้าพอร์ต ส่วนลีลาในการหลอกล่อเข้าซื้อต้องไปหาประสบการณ์เอาอีกที เช่นวิธีการดู bid- Offer วิธีการวาง Order จะมีจังหวะอย่างไร (อีกเช่นกันจะอธิบายต่อไป) แต่ให้ข้อคิดว่า อย่าฝืน อย่ารั้นเมื่อจังหวะซื้อของเรามันผ่านไปแล้ว และเราเข้าไม่ทัน ไม่ต้องไปแก้แค้น ไม่ต้องไปกลัวตกรถ เลยจังหวะแล้วก็ยังฝืนซื้ออีก พวกนี้เจ๊งมามาก  ตอนนี้เมื่อเราซื้อหุ้นได้แล้ว เราก็ต้องมาหาจุดคัทกัน ซึ่งเป็นสิ่งแรกที่จะต้องทำเมื่อซื้อหุ้น โดยจะแยกว่าซื้อแบบไหน จุดคัทอยู่ตรงไหน

หลักโดยทั่วไปแล้วเค้าบอกว่าต้องคัททันทีที่หุ้นเราลงมาต่ำกว่าจุด Support หรือต่ำกว่านิดหน่อย แต่อย่าช้า เพราะใันจะเลยจังหวะคัท กลายเป็นเด็กดอย ทันที

ซื้อแบบที่ 1 จุด Support อยู่ที่ จุดเบรคเอ๊าส์ เช่น เบรคที่ 176.50 เราเข้าซื้อที่ 177.50 จุดคัทคือต่ำกว่า 176.50 อาจจะมียึกยักได้ไม่เกิน 2 ช่อง 

ซื้อแบบที่ 2 จุด Support อยู่ที่ จุด Swing Low เช่นหุ้นเบรค 176.50 แล้วเลยขึ้นไปถึง 181ก่อนย่อลงมาที่ต่ำสุดที่ 178 แล้ววกกลับ เราซื้อที่ 179 จุดคัทคือต่ำกว่า 178

ซื้อแบบที่ 3 หุ้นทำ Second Breakout ที่ 181 เราซื้อ 182 จุดคัทคือ ต่ำกว่า 181

จะเห็นได้ว่าจุดคัทลอสของแต่ละคน หรือคนเดียวกัน แต่ซื้อต่างกัน ก็จะมีจุดคัทลอสที่ต่างกัน ดังนั้น การจะมาร้องเรียกหาจุดคัทลอสจากคนอื่นมันจึงยาก 

วันนี้คงขอจบลงเพียงแค่นี้ก่อน เดี๋ยวสร้างแฟนเพจเสร็จจะมาบอกให้จร้า

เด็กลาดพร้าว 

8 ก.ค. 56