4.สะบายดี...หัวใจ # ชอนตะวัน



เขาและเธอต่างแบกเป้เดี่ยวเที่ยวเมืองหลวงพระบาง



‘สะบายดี’ คำนี้ พี่น้องชาวลาวเพิ้นเอิ้นใช้ แปลเป็นไทยว่า ‘สวัสดี’


แต่การแบกเป้เดี่ยวเที่ยวประเทศลาว โดยเข้าทางอำเภอเชียงของ(จังหวัดเชียงราย)

ไปตามแม่น้ำโขง พักที่เมืองปากแบ่ง สู่เมืองหลวงพระบาง,เมืองวังเวียง ในครั้งนี้

หัวใจของเขาและเธอ ต่างเหนื่อยล้า รักที่ไม่สมหวัง เป็นทุกข์

เหตุ..เพราะต่างไม่เคยแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมา

เมื่อบุพเพฯมันพาให้บังเอิญแล้ว จึงฉวยเสแสร้งทำตามใจเคยปรารถนาสักครั้ง

หวังรักษาแผลใจ..แต่ทำไม นานวัน ยิ่งผูกสายสัมพันธ์ล้ำลึก..
จากทุกข์ใจแบบ สะบาย ๆ กลายเป็นทุกข์ใหญ่หลวง..
ทุกข์เกิดที่ใด ก็ดับที่นั่น...ด้วยเราเป็นเนื้อคู่กัน อย่างไร..ก็ต้อง
สะบายดี..หัวใจ


คำนำนักเขียน


เมื่อปลายปี 2548 ผมได้มีโอกาสเดินทางแบบแบกเป้เดี่ยวเที่ยว ‘หลวงพระบาง’ เมืองมรดกโลกที่ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างมานาน..การเดินทางครั้งนั้นนอกจากอยากรู้ว่าตัวเองมีศักยภาพต่อการชีวิตอยู่แบบติส ๆ แค่ไหนแล้ว จุดประสงค์อีกอย่างก็คือต้องการเก็บข้อมูล สำหรับสัมมาอาชีพ ‘จัดทัวร์’ การเดินทางในครั้งนั้นบรรลุเป้าหมายเป็นอย่างดี เพราะคนหลวงพระบาง เมืองหลวงพระบาง เมืองวังเวียง และเวียงจันทร์น่าพาคนเข้าไปเยือนเพื่อให้เห็นถึงความน่ารักความถ้อยทีถ้อยอาศัยกันจริง ๆฯลฯ..การเดินทางครั้งนั้น มีแต่ความประทับใจ ความอิ่มใจที่ตัวเองได้กล้าที่จะก้าวเดินทางตามลำพังฯ

สำหรับงานเขียน..ฉากสวยงามหวานฉ่ำนั้นมีอยู่ในหัวสมอง แต่หาตัวละครโลดแล่นไม่ได้ จนกระทั่งได้มีโอกาสเดินทางเป็นครั้งที่สองกับการรับผิดชอบกรุ๊ปทัวร์ ต้องขอบคุณน้องพิมรตา ที่กรุณาเล่าถึงความยอกย้อนกับเหตุการณ์ในหัวใจ แถมยังเสี่ยงนั่งซ้อนท้าย ‘รถจักร’ ที่ผมเป็นคนปั่นแบบเหนื่อยแฮก ๆ แล้วเล่านั้นเล่านี่ จนทำให้ภาพของ ‘ณมิตรา’ เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา ..กลับมาครั้งนั้น ...จึงค่อย ๆ พาสองชีวิตในจิตนาการให้โลดแล่น หยอกเย้า ต่อล้อ คลอเคลีย..จนได้กลับไปครั้งที่สามเพื่อให้งานมีมิติที่มากขึ้น จึงเริ่มลงเก็บรายละเอียดเล็กน้อยที่ไม่เคยถามหรือจดสิ่งที่ได้เห็นลงสมุด..จนกระทั่งกลับไปครั้งที่สี่และครั้งต่อ ๆ มา ในเมืองมรดกโลกที่น่าอยู่ให้นาน ๆ ไม่ว่าจะเดินทางไปทางไหน ผมเห็น ณมิตรา และ เทียนปูชา เดินสวนทางกับผมอยู่เรื่อย ๆ

นวนิยายเล่มนี้ อาจไม่ได้มีข้อมูลเชิงลึกแบบถือไปแล้ว พาท่านแปกเป้เที่ยวหลวงพระบางได้ แต่ถ้าอยากไปจริง ๆ ก็ขอแนะนำ หนังสือ ของ ‘คุณศรัณย์ บุญประเสริฐ คู่มือนำเที่ยวหลวงพระบาง’ แล้วกัน แต่ถ้าไปได้แล้ว ตามเส้นทาง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ปากแบ่ง หลวงพระบาง เมืองวังเวียง เวียงจันทร์..หากท่านเห็น ‘เงา’ ของ ณมิตรา เทียนปูชา จินตนา และปัฐมโชติ แล้วเผลอยิ้มหรือหัวเราะออกมา ผมก็คือว่า ท่านแอบหลงรักตัวละครของผมเองนะ...
..สุดท้ายอีกครั้ง นอกจากขอ ‘ขอบใจ’ ซึ่งแปลว่า ‘ขอบคุณ’ หนังสือที่ให้ข้อมูลครบถ้วนของคุณศรัณย์ บุญประเสริฐ ขอบคุณพี่ ๆ เพื่อน ๆ ในเว็บแทร็คกิ้งไทย ที่ทำให้ผมกล้าเดินทางตามลำพังในต่างแดน(ดูดีซะ)....ขอบใจ ‘คาซาม่าบุ๊ค’ อีกครั้ง ที่เห็นความน่ารัก แบบน่าชังของคนสองคน และแล้วก็ต้องขอบใจนักอ่านที่ให้โอกาสกับความ ‘สะบายดี’ ที่จะเกิดขึ้นในหัวใจตนเอง...

ชอนตะวัน
บ้านปากน้ำโพ 23/ธ.ค./50

จากบ้านคุณแป๋ว
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=prachunyim&month=10-04-2008&group=1&gblog=13


จากบ้านคุณเมฆชรา
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=itsarawut&month=03-2008&date=05&group=1&gblog=32


จากเว็บบ้านกิ่งฉัตร
//www.baankingchat.com/board/viewtopic.php?f=3&t=359





Create Date : 18 มีนาคม 2551
Last Update : 4 สิงหาคม 2554 18:58:41 น.
Counter : 3265 Pageviews.

30 comments
  
ซื้อแล้วแต่ยังไม่มีเวลาอ่านเลย
โดย: กระปุกกลิ้ง วันที่: 18 มีนาคม 2551 เวลา:15:17:46 น.
  
เช่ามาอ่านแล้วค่ะ ....ชอบเรื่องนี้นะ

ยอมรับว่า หยิบมาอ่าน เพราะเป็นฉากหลวงพระบาง
(ที่เราพลาดโอกาสไปเที่ยวเมื่อปีที่แล้ว)

อ่านแล้ว ...ชอบวิธีนำเสนอของคุณนะ
ชอบสำนวนด้วย

อืมม์ องค์การบริหารส่วนหัวใจ เรายังอ่านผ่านๆ ตา
แต่เรื่องนี้ อ่านทุกตัวอักษรเลยล่ะ

ยินดีที่เจอพบเจ้าของผลงานที่นี่ นะ
โดย: นัทธ์ วันที่: 18 มีนาคม 2551 เวลา:22:05:42 น.
  
คุณกระปุกกลิ้ง คุณนัทธ์

ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะครับ
อย่างไร คุณกระปุกกลิ้งก็ต้องสละเวลาแล้วลงชิมรสผลงานชิ้นนี้ดูครับ..

เรื่องนี้ถ้าจะกังวลตอนที่เขียนก็คือกลวิธีการเล่าเรื่องที่ให้ตัวละครสลับกัน ซึ่งไม่มั่นใจว่าจะทำให้คนอ่านเชื่อคนเขียนได้ไหมว่า นี่คือเรื่องจริงที่ยิ่งกว่านิยาย..

ขอบคุณครับคุณนัทธ์สำหรับกำลังใจทั้งสองเรื่องเลย..

เรื่องหน้าที่จะได้การตีพิมพ์กับ คาซาม่าบุ๊ค ก็คือ ไม่ต้องรักเท่าฟ้าครับ..

..
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
โดย: เฟื่องนคร-ชอนตะวัน (F_nakhon ) วันที่: 19 มีนาคม 2551 เวลา:9:21:53 น.
  
แวะมาทักทายค่ะ หนังสือน่าสนใจจัง กลับไทยเดี๋ยวจะซื้อมาอ่านเพราะว่ากะว่าจะไปเที่ยวหลวงพระบางนะค่ะ
โดย: rambujan วันที่: 20 มีนาคม 2551 เวลา:17:46:52 น.
  
อ้อ...เจอคนแต่งอยู่นี่เอง อิอิ ผมชอบสะบายดีหัวใจนะครับ อ่านสนุก น่ารักดีจัง ... เขียนอีก เขียนอีก คราวนี้ขอเป็นพม่า หรือ บาหลีนะ ..
โดย: เมฆชรา วันที่: 20 มีนาคม 2551 เวลา:22:20:55 น.
  
ขอบคุณครับ คุณเมฆชรา ที่บล็อกของคุณเป็นกำลังใจผมได้มากทีเดียวครับ

สำหรับประเทศถัดไปที่อยู่ในโปรแกรมว่าจะเขียนในลักษณะนี้ ก็มี

เรื่อง แสงดาว ไอดิน อินเดีย ครับ เป็นเรื่อง ของสองพระนางที่ไปกับกรุ๊ปทัวร์ สี่สังเวชนียสถาน ในอินเดียครับ คงคลอดประมาณต้นปีหน้ากระมังครับ

สำหรับอีกเรื่อง ก็มี ต้าเจียห่าว..หัวใจ.. เป็นเรื่องในมาเก๊า อ่องกง

และ
ตันหยงบุหงา เรื่องใน ปีนัง มาเลเซีย ครับ

สำหรับในพม่าคงต้องไปยืนก่อนถึงจะเขียนได้ครับ แต่อยากเขียนเรื่องคนพม่าในบ้านเราจังเลย บางครั้งก็เห็นใจเขานะ ทำงานหนักลำบาก แล้วก็คิดว่า จะมีไหมนะที่คนไทย มีใจให้คนพม่า..
มีหรือเปล่านี้..

ขอบคุณครับ..
โดย: เฟื่องนคร-ชอนตะวัน IP: 124.157.165.86 วันที่: 21 มีนาคม 2551 เวลา:11:18:13 น.
  
ขอบคุณครับ rambujun ถ้าอ่านสะบายดี..หัวใจ ต้องเข้าลาวทางเชียงของนะครับ

ทางเข้าลาวมีหลายทาง
1.บินตรง หลวงพระบาง ทั้งการบินลาวจากเชียงใหม่ และจากสุวรรณภมิบ้านเรา มีบางกอกแอร์เวย์ เป็นต้น

2. ทางรถ หนองคาย -เวียงจันทร์ เส้นนี้คนนิยมครับ ประมาณ 3 วันก็ไปหลวงพระบาง-เมืองวังเวียง-เวียงจันทร์ ได้ครับ

3. เส้น อ.เชียงของ - จังหวัดเชียงราย ล่องแม่น้ำโขง สู่หลวงพระบาง สะบายดีหัวใจ ใช้เส้นทางเส้นนี้ครับ คงต้องใช้เวลาประมาณ 4-5 วันครับ อ่านสะบายดีก็สามารถเดินทางได้ครับ แต่จะให้ดี เข้าเว็บแทร็กกิ้งไทย ก็จะได้ข้อมูลเพิ่มเติม แต่ถ้าอ่านนิยายด้วยก็จะมีอารมณ์ที่เรารู้จักใครบางคนที่ใช้เส้นทางนี้ก่อเป็นตำนานรัก..(เส้นทางนี้นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศนิยมเพราะว่าจะเชื่อมต่อ ปาย เชียงใหม่ แล้วไปหลวงพระบาง ฮานอย โฮจิมิน กัมพูชา กรุงเทพฯ)


4. เส้นทางที่ 4 คือ ด่านห้วยโก๋นจังหวัดน่านครับ แต่ไม่ใช่ด่านสากล เข้าทางนั้นแล้วก็ต้องออกทางนั้นครับ เส้นทางนี้ใกล้กว่าเชียงของ แต่ไม่ค่อยสะดวกครับ นั่งรถไปต่อเรือ วันเดียวถึงครับ

กลับมาเมืองไทย คงได้อุดหนุนผมนะครับ...
โดย: เฟื่องนคร-ชอนตะวัน IP: 124.157.165.86 วันที่: 21 มีนาคม 2551 เวลา:11:23:35 น.
  
ชอนตะวันนี่หมายถึงอะไรครับ

ชอนไชเข้าไปในดวงตะวันหรือเปล่า อิอิอิ
โดย: ตุ๊กตาไล่ฝนจากดวงตา วันที่: 21 มีนาคม 2551 เวลา:11:34:31 น.
  
ชอนตะวัน
บอกความหมายไว้หน้า แจกันดอกหญ้า ครับ

แต่อธิบายใหม่ก็ได้นะ

ตะวันชอนตา หรือพระอาทิตย์ชอนไปในดวงตา แล้วเราก็ต้องหลับตา แต่เราก็ยังหันหน้าเข้าหาดวงตะวัน มันยังไงนะ

เปิดหน้า แจกันดอกหญ้าแล้วกันครับ

ยินดีที่ได้รู้จักัครับ
โดย: F_nakhon วันที่: 21 มีนาคม 2551 เวลา:13:04:47 น.
  
สวัสดีค่ะ คุณชอนตะวัน

ซื้อสะบายดีหัวใจมาแล้วยังอ่านไม่จบเลย(ตามคำชักชวณของหนูแอม แม่ยกตัวจริง) ชอบสำนวนเหมือนเล่าเรื่องค่ะ ถ้าทางจะได้เสียเงินกับเล่มต่อๆไปอีกอ่ะค่ะ รู้สึกจะเป็นแจกันดอกหญ้ามังคะ

คงได้พบกันงานสัปดาห์หนังสือนะคะ



โดย: tarinee IP: 199.40.204.246 วันที่: 27 มีนาคม 2551 เวลา:9:12:53 น.
  
ขอบคุณครับคุณ tarinee อ่านให้จบนะครับ ถ้าไม่สนุก ก็เงียบไว้(ฮา) ถ้าสนุกก็มาช่วยเชียร์ต่อ ประโยชน์นักเขียนจริง

ก็ถือเป็นกำลังใจครับ ..
ทำงานแล้วทำให้นักอ่านยิ้มกับตัวละครเราได้ครับ...

วันที่ 29 จะไป sit on floor กับหมู่คณะ
โดย: F_nakhon วันที่: 28 มีนาคม 2551 เวลา:9:08:17 น.
  
ตรง zeven eleven นะ หนูแอมแม่ยกก็ไม่อยุ่แล้วจะรู้ได้ไงว่าใครเป็นละเนี่ย
โดย: tainee IP: 199.40.204.246 วันที่: 28 มีนาคม 2551 เวลา:16:46:48 น.
  
รับปากไว้ว่าจะเขียนถึงสะบายดีหัวใจ หากว่าอ่านจบ
วันนี้ได้ฤกษ์ดีเป็นศรีแก่วัน เนาะคุณเฟื่อง
เรามาตามคำสัญญา พร้อมคำวิจารณ์สะบายดีหัวใจ ตามคำขอของผู้เขียน
ขอบอกว่าเขียนตามความรู้สึกหลังอ่านจบ ไม่ได้เขียนเพราะเราเป็นเพื่อนกัน
พอใจหรือไม่ก็ต้องขอโทษไว้ ณ ที่นี้ด้วย


สะบายดีหัวใจ
คำนี้สะดุดหูสะดุดตา ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นเจ้าของเรื่องนำลงในเว็บให้อ่าน
และเมื่อมีโอกาสได้อ่านจนจบ ทำให้รู้สึกสบายดีกับหัวใจอย่างที่ผู้เขียนตั้งใจนำเสนอ

เทียนปูชา เป็นชายหนุ่มที่วิ่งตามหารักอยู่หลายปี เขาทำหัวใจหล่นหายที่หลวงพระบางโดยไม่รู้ตัว
เขาไม่เชื่อว่า เวลาเจ็ดแปดวันในหลวงพระบาง กับณมิตราหญิงสาวท่าทางขี้เมาและเหลวไหล
จะเกิดเป็นความรักขึ้นมาได้ แม้เมื่อเขามีอะไรกับเธอ เขาก็ยังเชื่อว่ามันเกิดขึ้นมาจากความเผลอไผล
ซึ่งจุดนี้เป็นจุดสำคัญ ผู้เขียนทำให้เราเชื่อได้ว่า
เวลาเจ็ดแปดวันในหลวงพระบางที่เขาทั้งสองอยู่ร่วมกันนั้น มันคือรักแท้ที่คนทั้งคู่ต้องตามหาทั้งชีวิต

ในเรื่องยังเล่าถึงการต่อสู้ชีวิตของณมิตรา หญิงสาวที่มีความหลังกับหลวงพระบางอย่างเจ็บปวด
ตลอดสองปีกับอีกหนึ่งชีวิต ในฐานะคุณแม่ลูกหนึ่ง ผู้ไม่รู้แม้กระทั่งชื่อของสามีผู้เป็นพ่อของลูก
ณมิตราต่อสู้อย่างเข้มแข็งเพียงลำพังจากการดูถูกของคนรอบข้าง
แต่นั่นยังไม่เจ็บปวดเท่ากับการที่เธอต้องฝ่าฟันอุปสรรค เพื่อเอาชนะความโกรธเกรี้ยวของผู้เป็นพ่อ
เมื่อลูกสาวท้องไม่มีพ่อกลับมาบ้าน และยืนยันที่จะเลี้ยงลูกเพียงลำพัง

คุณชอนตะวันนำคนอ่านเข้าสู่หลวงพระบางได้อย่างลื่นไหล
เวลาเจ็ดแปดวันที่เทียนปูชาอยู่กับ ณมิตรามีความหมายและความสุขอย่างไร
เขาก็พาคนอ่านเข้าไปรับรู้กับความสุขของคนทั้งสองได้อย่างน่าชื่นชม
จนนึกอยากตามรอยความรักของคนทั้งคู่ว่ามันมีความเป็นมาอย่างไร
และเอาใจช่วย ให้เขาทั้งคู่ตามหารักแท้ให้กลันคืนมาสู่พวกเขาอีกครั้ง

สำหรับเรื่อง"สะบายดีหัวใจ"
คุณชอนตะวันใช้กลวิธีเล่าเรื่องด้วยการให้ตัวเอกฝ่ายชายและหญิง
เล่าความรู้สึกของแต่ละคนในฉากเดียวกัน
นับเป็นการทำงานที่ยากแต่เขาก็ทำได้อย่างน่าชื่นชม
พาคนอ่านลื่นไหลไปกับเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนถึงฉากสุดท้ายได้อย่างลงตัว

อ่านเถอะ ท่านจะหลงใหลไปกับความรักของทั้งสองในหลวงพระบาง
เมื่อจบแล้ว ท่านอาจนึกอยากไปหลวงพระบาง อยากเจอใครสักคนระหว่างทาง
ก็ภาวนาให้เจอรักแท้อย่างณมิตรา และเทียนปูชา
ผู้ไม่เคยลืมความรักที่เกิดขึ้นแม้เพียงเศษเสี้ยวสักวินาทีของหัวใจ!




โดย: คุณลี แห่งไร่ฝัน IP: 125.25.246.156 วันที่: 4 เมษายน 2551 เวลา:15:47:27 น.
  
ชอบค่ะ ชอบมากๆ เลย
ดีใจที่ได้เจอนักเขียน แหมๆๆ ดีใจจริงๆ นะเนี่ยะ

ผลงานเรื่องอื่นๆ ก็น่าสนใจค่ะ
แค่ชื่อเรื่องก็น่าอ่านแล้ว
โดย: นู๋แป๋ว (nupaew ) วันที่: 12 เมษายน 2551 เวลา:9:32:06 น.
  
ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมนะคะ

อยากไปเที่ยวหลวงพระบางจังค่ะ
โดย: แมวเอิง วันที่: 27 เมษายน 2551 เวลา:0:01:52 น.
  
แวะมาทักทายและขอบคุณน่ะครับ

หนังสือน่าอ่านจังครับ
โดย: \\ton\\ วันที่: 28 เมษายน 2551 เวลา:18:06:03 น.
  
ครั้งแรกที่ได้เห็นชื่อหนังสือ....แปลกใจจัง

ชื่อเพราะดี ความหมายก็น่ารักดี....

เห็นแล้วอดซื้อไม่ได้เลยทีเดียว

แต่ตอนนี้ก็ยังดองอยู่ที่กองหนังสืออ่ะดิ

ไม่มีเวลาอ่าน....แต่มีเวลามาตามหานักเขียน

อยากจะมาชมค่ะ ว่า "ชอบ" นิยายเรื่องนี้จัง

แค่คำโปรยก็น่าอ่านแล้ว ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้อ่านนะเนี่ย

หวังว่านิยายที่มีคิวอีกหลาย ๆ เรื่อง

จะได้อ่านเร็ว ๆ นี้

ปล. ขออนุญาตแอดไว้นะคะ
โดย: นายหญิง (NaiYing ) วันที่: 6 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:10:05 น.
  
ชอบหน้าปกและชื่อเรื่องได้ใจไปเต็ม ๆ เลยค่ะคุณเฟื่อง

เพิ่งมีโอกาสไปเดินหาซื้อได้หนังสือมาเมื่อวาน
และจะยอมลัดคิวอ่านก่อนหนังสือเล่มอื่น ๆ ด้วย
เพราะจากการที่เข้าไปอ่านที่กระทู้ บ้านกิ่งฉัตร
แล้วตกใจค่ะ .......
ทำไมถึงยาวเหยียดขนาดนั้น
แสดงความของคุณดีจริง ฮ่า
โดย: พุธธันวา IP: 203.156.86.135 วันที่: 11 พฤษภาคม 2551 เวลา:10:12:42 น.
  
สวัสดีครับคุณพุธธันวา สรุปว่า อ่านแล้วเป็นไงครับ ดีจริงหรืออย่างไร..
ปล.เหมือนเขียนไม่จบแต่ความรู้สึกบางอย่างของคุณยังค้างอยู่ ยังอยากได้ยินคำสปอยนะครับ..

ยินดีที่ได้รู้จัก ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับ..

คุณนายหญิงอ่านจบหรือยังเอ่ย..
ขอบคุณสำหรับกำลังใจเช่นกันครับ..
โดย: F_nakhon วันที่: 11 พฤษภาคม 2551 เวลา:11:21:01 น.
  
สวัสดีค่ะ
เพิ่งอ่านสะบายดีหัวใจจบค่ะ
จริงด้วยอ่านจบแล้วอยากไป
เที่ยวหลวงพระบางบ้าง
แล้วเดี๋ยวจะไปหา นายหมูตุ๋น แถวโน้น อิอิ

โดย: สาวชาวเล IP: 202.91.19.206 วันที่: 18 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:43:16 น.
  
อ่านจบแล้ว แบบว่าใช้เวลานานพอดูบวกกับไม่ค่อยมีเวลาว่าง และอ่านแบบละเมียดละไมมากค่ะ (ปาเข้าไปเกือบเดือน)

หลงรักนายเทียนบูชาเลยล่ะ ไม่รู้ว่าจะหลงเหลือผู้ชายนิสัยดี ๆ แบบนี้สักอีกกี่คนในโลก
ที่ชอบมาคือตอนที่ พระเอกของเรา หันหลังกินข้าวกุนชียงโดยไม่บ่นสั่งคำ ทั้ง ๆ ที่ ตัวเองอยากกินก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นใจจะขาด
น่ารักดีค่ะชอบ
อีกอย่างพออ่านจบแล้ว
เราก็คิดว่าจะชวนแฟนไปเที่ยวประเทศลาวสักหน่อย
เดินตามรอยนายหมูตุ๋นกับยัยกุนเชียงแหละ
โดย: พุธธันวา IP: 203.156.86.4 วันที่: 8 มิถุนายน 2551 เวลา:10:28:25 น.
  
ต้องยอมรับว่าตอนหยิบหนังสือเรื่องนี้มาเพราะ

หนังเรื่องสบายดีหลวงพระบางออก แล้วกำลังอยากไปพอดี

แต่พอได้อ่านถึงกับวางไม่ลง

ขอบคุณนะคะสำหรับงานเขียนดีๆ

จะติดตามผลงานต่อไปค่ะ
โดย: รักนายหมูตุ๋นด้วยคนค่ะ IP: 203.155.225.173 วันที่: 14 มิถุนายน 2551 เวลา:14:30:56 น.
  
พี่เฟื่อง


จบแล้ว

กรี๊ดไปแล้วนะ

แล้วจะตามตัวอีกทีคร่า


คิดถึง
โดย: หนูลิ ละมุนใจ IP: 125.25.191.226 วันที่: 18 มิถุนายน 2551 เวลา:21:21:54 น.
  
สวัสดีค่ะ เข้ามาทักทายค่ะ
ได้อ่านเรื่องนี้แล้วชอบจัง
เขียนได้กุ๊กกิ๊กมากเลย
ถ้ามีโอกาสคงต้องไปเที่ยวหลวงพระบางมั่งแล้วค่ะ
โดย: ดอกคูณริมฝั่งโขง วันที่: 22 มิถุนายน 2551 เวลา:13:41:12 น.
  
อ่านเรื่องนี้แล้วชอบจัง ชอบมากๆ อ่านแล้วเหมือนมีอยู่ในเหตุการณ์จริงไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันจนเอื้อมไม่ถึง
หลังจากนั้นก็สืบเสาะค้นหาผลงานที่คุณแต่งเรื่องอื่นๆมาอ่าน
ปัจจุบันมีผลงานของคุณไว้ในครอบครองเกือบทุกเรื่องขาดเรื่องเดียวคือชิงชัง เพราะหาซื้อไม่ได้
จะติดตามผลงานต่อไปและเป็นกำลังใจสร้างผลงานดีๆอย่างนี้ออกมาเรื่อยๆนะคะ
โดย: แจ้ IP: 125.25.121.184 วันที่: 7 กรกฎาคม 2551 เวลา:13:33:28 น.
  
อ่านเรื่องนี้แล้วชอบจัง ชอบมากๆ อ่านแล้วเหมือนมีอยู่ในเหตุการณ์จริงไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันจนเอื้อมไม่ถึง
หลังจากนั้นก็สืบเสาะค้นหาผลงานที่คุณแต่งเรื่องอื่นๆมาอ่าน
ปัจจุบันมีผลงานของคุณไว้ในครอบครองเกือบทุกเรื่องขาดเรื่องเดียวคือชิงชัง เพราะหาซื้อไม่ได้
จะติดตามผลงานต่อไปและเป็นกำลังใจสร้างผลงานดีๆอย่างนี้ออกมาเรื่อยๆนะคะ
โดย: แจ้ IP: 125.25.121.184 วันที่: 7 กรกฎาคม 2551 เวลา:13:35:00 น.
  


ขอบคุณสำหรับกำลังใจจากทุก ๆ คนนะครับ..ขอบคุณมาก ๆ น้ำตาไหลพรากเลยผม..ซึ้ง..จริง ๆ
โดย: F_nakhon วันที่: 8 กรกฎาคม 2551 เวลา:14:59:57 น.
  
ต้องน้อมรับไว้ค่ะคุณเฟื่อง เรื่องที่ว่าเป็นพื้นที่ของคนสวย อิอิ ไม่เคยมีใครชม นอกจากจะต้องชมตัวเองแล้ว มีเพื่อนมาคอยชมด้วย เป็นสุขๆเจ้าค่ะ

ขอบคุณม๊ากมากสำหรับสำหรับกำลังใจจ้า ยังไงถ้าเดินชนในงานหนังสือ คุณเฟื่องเสียเปรียบแน่ๆ เพราะถ้าเราเป็นคิระ เราจำหน้าตะเองได้นะ

ใครๆก็หลงรักสะบายดีหัวใจกันทั้งนั้น ขอยกมือเป็นหนึ่งในนั้นด้วยค่ะ
โดย: โต๊ะกลม ณ บ้านไร่ วันที่: 31 กรกฎาคม 2551 เวลา:16:58:15 น.
  
ว้าวววว เจอบล๊อกนักเขียนพอดีเลย

แซลลี่ซื้อติดมือไปอ่านก่อนขึ้นรถทัวร์เลยค่ะ

สนุกมาก มีข้อมูลให้ตามรอยไปด้วยนะนี่

แต่แซลลี่ ย้อนศรอ้ะนะ ไปรถ กลับเรือ เอิ๊กส์ ...ทวนกระแสน้ำซะงั้น
โดย: แซลลี่ (lazypiggy ) วันที่: 15 กันยายน 2551 เวลา:19:17:13 น.
  
อ่านแล้วค่ะ ชอบมากๆเลย อยากไปวังเวียงจังค่ะ ^^
โดย: nha IP: 161.200.255.162 วันที่: 12 ธันวาคม 2551 เวลา:11:40:40 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Julamanee.BlogGang.com

F_nakhon
Location :
นครสวรรค์  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]

บทความทั้งหมด