หรือจะโสดจนสามสิบ... (เรื่องจริงหรือนี่) วันที่ 40
ในที่สุดก็วันศุกร์ บันไซ ไชโย โฮ่หิ้ว พรุ่งนี้วันเสาร์แล้ว
แต่ดันเป็นวันเสาร์ที่ต้องไปทำงาน ชิ อารมณ์เสีย....
วันนี้ก็เริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยความวุ่นวาย ก่ายกอง ระนองระยองยะลา
เพราะต้องรีบไปธนาคารแต่เช้าเพื่อเป็นเซ็นต์สัญญาเงินกู้ มาซื้อคอนโด
อ่านหนังสือสัญญาไปสามตลบ แบบงง ๆ ก่อนจะเซ็นต์ไปโดยละม่อม
โล่งอกและดีใจ
ในที่สุดหนึ่งในความวุ่นวายของชีวิตก็ได้ปิดฉากลง
จะได้มีบ้านเป็นของตัวเองสักที.... ไม่ใช่สิ จะได้มีศาลาคนเศร้าเป็นของตัวเองสักที.... เพราะเรื่องหัวใจไม่รุ่งเสียเลย
ถึงแม้นไม่อยากจะเอ่ยถึงเท่าไร แต่ยังไงผมคิดว่าผมควรต้องบอกท่านผู้ติดตามอ่านให้ทราบว่า....
ผมยอมแพ้แล้วครับ
ผมไม่สามารถสู้จีบน้องเลขาฯ ต่อไปได้แล้ว ความคาดหวังทำให้ผมเจ็บไม่ธรรมดา
และทำให้ผมไม่เคยเป็นตัวของตัวเองเลยแม้นสักวัน ตั้งแต่รู้เรื่องที่นายหล่อ หักเหลี่ยมโหด
ผมเลือกที่จะปล่อยวางแล้ว ตั้งแต่เมื่อตอนเย็นที่ได้คุยกับเธอ
"น้องเลขาฯ จะบ้านแล้วเหรอ" ผมทักเธอ ตอนที่เธอกำลังเก็บกระเป๋า เตรียมกลับบ้าน
"ค่ะ เดี๋ยวกลับแล้ว"
"ให้พี่เดินไปส่งไหม" ผมถามทั้งที่รู้คำตอบในใจ
"ไม่เป็นไรค่ะ อย่าเลย"
ทุกครั้งผมจะจบบทสนธนาตรงนี้ แต่วันนี้ วันนี้ที่ผมเลือกจะวางเดิมพันในฝั่งที่เสียเปรียบ
"น่านะ ให้พี่เดินไปส่งเถอะ" ภาพนายหล่อที่เดินไปส่งน้องเลขาฯ ลอยขึ้นมาหลอกหลอนในหัว
"ไม่เป็นไรพี่โจ อย่าเลย" เธอยังคงปฏิเสธ และผมยังคงหน้าด้าน หรือด้านที่หน้า
"ให้พี่ไปส่งเถอะ พี่ว่าง ๆ อยากเดินออกไปพอดี"
"ไม่เป็นไรค่ะ วันนี้มีคนเดินไปส่งแล้ว"
เพล็ง เสียงหน้าแตกดังขึ้นมา แต่ไม่รู้ว่าเป็นเสียงที่ดังนั้นมาจากหน้าอย่างเดียวหรือดังมาจากใจผมด้วย
".........." เงียบคือบทสนทนา
สุดท้ายเธอก็เดินกลับไปพร้อมกับเพื่อนอีกหนึ่งคน ทว่าก็เป็นเพียงแค่เพื่อนหญิงที่ออฟฟิศ
ผมไม่รู้หรอกว่า นายหล่อชวนเธอเดินกลับบ้านแบบใด แต่ผมตอนนี้รู้แล้วว่าการโดนปฏิเสธเป็นอย่างไร
เรื่องนี้เหมือนหนังฉายซ้ำ มันเคยมีเหตุการณ์คล้าย ๆ แบบนี้เกิดขึ้นกับผมเมื่อนานมาแล้ว แต่ทุกครั้งที่ฉายซ้ำก็รู้สึกได้อรรถรสทุกที
ผมปล่อยวางแล้ว
น่าแปลกที่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก
ปล. ท่านผู้อ่านก็อย่าโทษน้องเค้าเลยนะครับ จริงๆ น้องเค้าก็เป็นเด็กน่ารักนิสัยดี แต่เรื่องความรักนี้ มันต้องตรงไปตรงมากับความรู้สึกแบบนี้แหละ เธอทำถูกแล้ว