ผมและคนข้างห้อง ตอนที่ 3 มาคุยกัน
หลายวันมานี้ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับวิเวียนมากขึ้น เพราะช่วงนี้ผมอยู่ติดบ้านประจำ ทำให้มีโอกาสอยู่กันสองต่อสองบ่อย ๆ แต่โชคดีที่ผมมีจิตใจที่เข้มแข็งทำให้ไม่ถูกด้านมืดเข้าครอบงำแบบอนาคิน (ล้อเล่นครับแต่จะว่าไป มนต์ดำนี้ช่างน่ากลัวจริงๆ นะ) หลังจากที่ได้พูดคุยกันบ่อยก็ทำให้รู้จักตัวเธอมากขึ้น
เธอมาจากปารีส เมืองแห่งแฟชั่น (ผมเคยได้ยินมาว่าคนฝรั่งเศสกินหอยทากแต่ไม่กินปลาหมึก) และเธอก็ทำงานอยู่ในบริษัท Fed-Ex ซึ่งด้วยว่าบริษัทที่เธอทำงานนี้เป็นบริษัทอเมริกัน เธอเลยต้องการภาษาอังกฤษอย่างมาก เพื่อโอกาสก้าวหน้าในสายงาน แต่ ณ ปัจจุบันภาษาอังกฤษเธอยังชวนปวดหัวมาก
เธอมักจะพูดภาษาอังกฤษด้วยสำเนียงฝรั่งเศส ซึ่งทำให้ผมงงเล็กน้อยถึงปานกลาง และที่ทำให้งงปานกลางถึงมากที่สุด ก็คือเธอชอบเอาศัพท์ภาษาฝรั่งเศสมาใช้โดยคิดว่าภาษาอังกฤษใช้เหมือนกัน ทำให้ผมมึนเป็นสองเท่า แต่ถึงอย่างไรเราก็ยังพอสื่อสารกันเข้าใจได้แม้นจะลำบากไปนิด แต่ก็ไม่ถึงกับต้องใช้ภาษากายเข้าช่วย (โชคดีไป)
จริง ๆ ผมเคยถามวิเวียนว่าคนอังกฤษในฝรั่งเศสเยอะไหม?ซึ่งผมคิดว่าน่าจะมีคนอังกฤษอยู่ไม่น้อยเหมือนกันเพราะประเทศไม่ได้ห่างไกลกันเลย เหมือนบ้านเรากับพม่า (ในอดีตก็รบกันบ่อยๆ เหมือนกัน) และคนอังกฤษที่เกษียรตัวจากการทำงานหลายคนชอบจะไปซื้อบ้านอยู่ที่ฝรั่งเศสด้วยเพราะค่าครองชีพและราคาบ้านถูกกว่า และวัฒนธรรมไม่ได้แตกต่างเท่าไร แต่ก็มีคนอังกฤษบางคนชอบเสี่ยงชีวิตและรักความตื่นเต้นก็จะมาอยู่เมืองไทยแทน
เธอก็ตอบว่าคนอังกฤษส่วนมากไม่ได้อยู่ในปารีสแต่อยู่นอมังดี (รู้จักแต่นมมันดี ดื่มแล้วแข็งแรง) ทำให้เธอไม่มีโอกาสใช้ภาษาอังกฤษเลย
ปล.เวลาพิมพ์ถึงวิเวียนทีไรผมกลับนึกถึง วิเวียน ฉูว แทนซะงั้น
นมมันดี ..ยี่ห้อนี้ไม่เคยได้ยินคะ
รึง่ามีขายแต่ที่โน้นๆๆ ..
อิ ..อิ ...
น่ารักจังเลย(คุณ )วิเวียน
มีตอนต่อไปไหมคะ ..