หรือจะโสดจนสามสิบ... (เรื่องจริงหรือนี่) วันที่ 147
วันจันทร์ วันแรกของการทำงานที่แสนจะขี้เกียจตัวเป็นกลม สงสัยพลังจักรวาลยังไม่ไหลผ่าน ยังไม่สามารถระเบิดพลังคอสโมได้
แต่แม้นจะง่วงยังไง งานก็ยังตามมาหลอกหลอน เฮี้ยนแต่เช้าเลยทีเดียว โดนเพื่อนบอกว่า report ที่ผมทำมีจุดผิด
และมันก็ผิดจริงๆ ล่ะนะ แต่พอมีคนเจอที่ผิด เราเลยหาเจอบ้าง ยิ่งค้นหาเรายิ่งค้นพบ ยังกะเกมจับผิดภาพ ครึ่งเช้าเลยนั่งแก้งานอย่างทรมาณกระบาลแท้
พอช่วงบ่ายความง่วงก็ยังไม่สร่าง แต่ยังพอผนึกกำลังภายในทำงานต่อไปจนเย็นได้
พอตอนเย็นเลยได้มีเวลาไปนั่งคุยกับพี่เพื่อนร่วมงานคนหนึ่ง
อยากรู้ว่าเค้าคิดอยากจะทำอะไรต่อไปกับชีวิต ถ้าออกจากบริษัทแห่งนี้ไป
เค้าก็เลยพร่ามพรรณาว่าอยากสำนึกรักบ้านเกิด กลับไปปลูกรีสอร์ตที่จังหวัดกระบี่
ผู้ชายที่มีความฝัน มันก็ดูเหท์ไปอีกแบบ ว่าแล้วผมก็พรั่งพรูความฝันให้เค้าฟังเช่นกัน ว่าอยากเป็นนักเขียนบท นักประพันธ์
ผมคิดไว้ว่า ถ้าหลังจากจบ Series ''หรือจะโสดจนสามสิบ'' ผมจะเริ่มแต่งบทประพันธ์อย่างเป็นจริงเป็นจังแน่นอน
ปล ว่าแต่มันจะจบตรงไหนเนี่ย
1) มีแฟนก่อน 30 (โลกเป็นสีชมพู ดูสิดูหมู่ปลา กุ้งหอยนานา อยู่ในท้องทะเล)
2) โสดจน 30 (โลกเป็นสีเทา อยู่คนเดียวโดดโดด ไม่โลภ ไม่หลง เรื่อย ๆ เปื่อย ๆ ) อิอิ
เราว่าเอาออกแนวเกาหลีหน่อยดีไหม...แบบภาพสวย น้ำตาซึม หรือจะออกแนว Romantic Comedy ดี แอบตลกอารมณ์ จบทีความจริงใจสุดสุด ของนายจะโสดที่ไม่โสดอีกต่อไป....
ทำเป็นสิ แต่ไม่ได้ใส่บางอย่างในน้ำเงี้ยวของเรานะ เพราะหาไม่ได้ แต่น้ำเงี้ยวเข้มข้นเพราะน้ำพริกของแม่ กระดูกหมูที่เคี้ยวน้ำซุปออกมาหวานน้ำต้มกระดูก เติมกระดูกหมูอ่อนให้เคี้ยวกรุบกรับ ใส่หมูสับละเอียด เป็นก้อนเล็กเล็ก กับบะช่อเล็กเล็ก หม่ำไปพร้อมน้ำเงี้ยวข้น มะเขือเทศเละกำลังดีชุ่มน้ำเงี้ยว กระเทียมเจียว พริกคั่ว ขนมเส้น ผักเคียง....อยากกินละสิ เอาไว้คราวหน้าโจอยากทานส่งเสียงมา ถ้าว่างจะทำแล้วชวนมาทาน ดีไหม เป็นเหมือนสมาคมชาวเหนือเลย