หรือจะโสดจนสามสิบ... (เรื่องจริงหรือนี่) วันที่ 85
วันนี้ก็เป็นวันแรกของเทศกาลสาดน้ำหรือสงกรานต์
แต่ด้วยความที่ผมแอบเปล่าเปลี่ยวอยู่คนเดียว เลยไม่ได้ไปเล่นน้ำกับใคร และยังไม่อยากเปียกแม้นในวันมามาก (คือวันที่สาดน้ำกันมาก)
แต่จะทำยังไงไม่ให้เปียกล่ะ ในเมื่อรอบ ๆ คอนโดจะเต็มไปด้วยกลุ่มกองกำลังติดอาวุธฉีดน้ำ
เทคนิคป้องกันตัวเปียกของผมก็คือ การสับขาหลอกเดินเปลี่ยนเลนเป็นฟันปลา
เช่นม๊อบฉีดน้ำอยู่ฝั่งขวา ก็ข้ามถนนไปฝั่งซ้าย พอเจอฝั่งซ้ายก็ย้ายข้ามมาฝั่งขวา
(เรียกว่าปกติเดินไป 7-11 แปดนาที มาวันนี้คงไม่ต่ำกว่าสิบนาทีกว่าจะถึงจุดหมาย)
แต่ถ้าบางเขตดันเจอพวกเด็ก ๆ ตั้งแผงสาดน้ำอยู่สองฝั่งคู่กันเป็นป้อมปราการน้ำล่ะ
แบบนี้ก็ช่วยไม่ได้ ทำได้แค่ทำหน้าเครียดให้ดูเครียดที่สุดในชีวิต แล้วเดินซอยเท้าถี่ ๆ เหมือนบอกว่า ''พี่จะไปถ่ายหนัก ยังไม่รับส่วนบุญ'' พร้อมทั้งยืนมือออกมาแบบปางห้ามญาติ
ซึ่งก็พอจะได้ผล ผมผ่านไปได้อย่างสะดวกโยธิน แบบตัวแห้ง ๆ
(จะเปียกก็เหงื่อตัวเองนี้แหละ ก็เล่นต้องเดินซิกแซกไปมา ท่ามกลางแดดแรงกล้า ของวันที่ตะวันเด้งซะกลางหัว)
จะว่าไปแล้วก็คิดถึงสมัยเด็กที่เชียงใหม่เหมือนกันนนะครับ
นั่งท้ายรถกะบะไปกับหมู่ญาติ โดยมีโอ่งมังกรบรรจุน้ำตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางรถ พร้อมกับขันสีเจ็บหลาย ๆ ใบ
รถผ่านไปเจอใครก็สาดน้ำไปอย่างเมามันส์ ยิ่งตอนขับผ่านไปเจอรถกะบะแบบเดียวกัน ก็ได้สาดน้ำสวนกันอย่างสะใจ (แต่ต้องจับขันให้มั่น ไม่ใช่เหวี่ยงซะไปทั้งน้ำทั้งขัน นะจ๊ะ)
บางครั้งก็เจออาวุธหนัก บางคนเล่นเอาน้ำแข็งใส่ไปในน้ำ โดนทีก็ขนลุกชันด้วยความเย็น แต่บางทีดันมีน้ำแข็งบินมากับน้ำด้วย (เจ็บเลยทีเนี่ย - ทุกคนอย่างเอาเป็นเยี่ยงอย่างนะครับ)
ว่าแล้วก็คิดถึงสมัยเด็กที่เล่นน้ำอย่างสนุกไม่กลัวดำ มันช่างเป็นความทรงจำที่ดีจริง ๆ