หรือจะโสดจนสามสิบ... (เรื่องจริงหรือนี่) วันที่ 27
ในที่สุดก็วันศุกร์แล้ว พรุ่งนี้ก็วันเสาร์ วันที่ชาวมนุษย์เงินเดือนจะมีปริมาณความสุขเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 50% ของความรู้สึกมวลรวม
เช้าวันนี้ก็ตื่นเช้า เลยไม่ต้องวิ่งหัวตั้งไปรูดบัตรเหมือนอย่างเคย ๆ
พอถึงออฟฟิศก็ขึ้นไปประจำนั่งที่อย่างมีมาด ทว่าวินาทีนั้นเอง สายตาผมก็เหลือบไปเป็นดอกกุหลาบหนึ่งดอกวางอยู่บนโต๊ะน้องเลขาฯ
ผมถึงกลับตื่นตะลึงพรึงเพริด กล่าวในใจอย่างพรั่งพรูไปว่า
''อะ...มารหัวใจตนใดหมายจะทำคะแนนจากน้องเลขาฯ คนสวย''
รึจะเป็นนายหล่อ เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด
ผมรีบรวบสติสตางค์ และคิดแผนการตลาดตอบโต้
"แบบนี้เราจะแก้เกมยังไงดี จะไปซื้อดอกไม้ช่อใหญ่กว่ามาเกทับ หรือว่าจะซื้อซุปไก่สกัดแบบในโฆษณา"
ฉับพลันหันไปหาน้องสาวเพื่อนร่วมงาน ผู้เป็นที่ปรึกษาด้าน หัวใจศาสตร์ และกระซิบถามน้องเมษาไปว่า
"เมษา ใครเอาดอกไม้มาให้น้องเลขาฯ อะ"
ไม่ทันที่เมษาจะตอบอะไรผม ผมก็เหลือบไปเห็นเธอถือดอกไม้แบบเดียวกันกับที่น้องเลขาฯ ได้รับ
โอ้!!! เจ้าของดอกไม้มันร้ายกาจมาก แอบมาทำคะแนนน้องสาวเราอีก
ทว่า น้องเมษาตอบกลับมาว่า
"พี่จะบ้ารึเปล่า เค้าได้กันหมดทุกคนในออฟฟิศนั้นแหละ"
อ้าว!!! ผมเหลือบมองไปรอบตัว เออ จริงแหะ สาว ๆ ทุกคนได้ดอกไม้กันท้วนหน้า และเมษาก็เฉลยให้ฟังว่า เป็นดอกไม้ที่หัวหน้าชาวญี่ปุ่นแจกจ่ายให้กับหญิงสาวทุกคนจ้า
โธ่เอ๊ย นี้เราเป็นเอามากเลยนะเนี่ย เพ้อกันไปใหญ่โต
เหมือนคำกล่าวในนิยายจีนที่ว่า
"ผู้ใดมีความรัก มักไม่เป็นตัวของตัวเอง"